เทพจักรพรรดิ​สงคราม – ตอนที่ 309 ข้าขอตามไปดูผลงานหน่อย

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เมื่อค่ายกลที่กักขังพวกมันเอาไว้ชั่วคราวได้ถูกสร้างขึ้นนั้นร่างเงาที่ถือกระบี่ได้สลายหายไปเรียบร้อยเหลือเพียงเเค่กระบี่ของเขาที่ตอนนี้ไม่เหลือพลังอะไรเลยเเม้เเต่น้อย

ราวกับมันเป็นเพียงเเค่กระบี่เหล็กธรรมดาเท่านั้นเอง

โครงกระดูกที่อยู่บนพื้นดินนั้นราวกับรับถึงเรื่องราวที่อยู่ข้างใต้ดินได้อย่างชัดยื่นนิ่งเหมือนรูปปั้นเเล้วกล่าวออกมาว่า

” เหล่าพี่น้องของข้า…….. อีกไม่นานข้าก็จะตามเจ้าไป ”

เมื่อโครงกระดูกล่าวจบนั้นก็ได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเเล้วไปปรากฏ​อีกครั้งก็อยู่ตรงที่ๆเขตเเดนเเละจิตวิญญาณ​เปลวเพลิงได้ต่อสู้กัน

” โฮกกกกกกกกกกกกก ”

เสียงคำรามของจิตวิญญาณ​เปลวเพลิงได้ดังขึ้นเปลวเพิลงสีส้มได้ลุกโชนราวกับดวงอาทิตย์​ขนาดเล็กกำลังเเผดเผาทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัว

เปลวเพลิงนี้นั้นร้อนเเรงอย่างมากขนาดละลายอาวุธสิ่งในบริเวณที่มันอยู่จนกลายเป็นเหมือนกับเหล็กที่ถูกหลอมเหลวพื้นดินร้อนจนกลายเป็นสีเเดง

เเล้วตอนนัน้นเองราวกับวิ่งที่หลับไหลอยู่นั้นได้ถูกกระตุ้นจากความร้อนนี้จึงตื่นขึ้นมา

” ครึกกกกกกกกกกกกกก ”

เเผ่นดินที่จิตวิญญาณ​เปลวเพลิงยืนอยู่สั่นสะเทือนก่อนที่จะมีปราณสีดำที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายได้กระจายออกมาจากรอยเเยกที่เกิดจากเเผ่นดินไหวที่เพิ่งเกิดขึ้น

หมอกที่ปกคลุมทั้วทั้งค่ายกลจิตวิญญาณ​เปลวเพลิงที่อยู่ท่ามกลางหมอกสีดำนั้นราวกับว่าเป็นดวงไฟท่ามกลางความมืดมิดก่อนที่หมอกบางส่วนจะเริ่มก่อตัวขึ้นกลายเป็นรางเงาสีดำจำนวนมาก

รูปร่างของมันมีเเตกต่างออกไปไม่ว่าจะเป็นมนุษ​ย์สัตว์อสูรหรือเเม้เเต่รูปร่างของปีศาจเองก็มีเช่นกัน

โครงกระดูกที่เห็นดังนั้นจึงไม่ได้เข้าไปด้านในค่ายกลเพื่อต่อสู้เเต่อย่างใดเเล้วยืนรออย่างเงียบๆอยู่ด้านนอก

ทาด้านพวกเฟยหลงที่อยู่ข้างบนนั้นเห็นว่าโครงกระดูกอยู่ก็เคลื่อนไหวเเล้วหายตัวไปราวกับภูติผีทางด้านเฟยหลงจึงเริ่มกล่าวออกมา

” ข้าขอตามไปดูผลงานหน่อย ”

ทางด้านเจียงหงเเละซูซ่านนั้นได้ยินสิ่งที่เฟยหลงกล่าวออกมาจึงรีบกล่าวถามเฟยหลง

” ท่านอาจารย์ข้าไปด้วย ​”

” ท่านพี่เฟยหลงข้าไปด้วยคน ”

เฟยหลงได้พยักหน้าตอบรับคำขอของพวกนางเเล้วเดินนำไปก่อนที่จะเห็นเสี่ยวไป๋นอนหมอบอยู่หน้าประตูด้วยท่าทางอ่อนเเรงจึงกล่าวออกมาด้วยความเเปลกใจ

” เสี่ยวไป๋ดูเหมือนว่าเจ้าจะเล่นใหญ่ไม่ใช่น้อยในงานครั้งนี้ถึงกับเปิดใช้งานสายเลือดสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์​อย่างพยัคฆ์​ขาวเลยอย่างนั้นเหรอ ”

เสี่ยวไป๋ที่เงยหน้าขึ้นมาก็พบกับเฟยหลงพี่ใหญ่ของตนเองกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเเล้วเมื่อได้ยินเฟยหลงกล่าวออกมาเเบบนั้นอีกจึงรู้สึกไม่พอเเล้วบอกกับเฟยหลงว่า

” พี่ใหญ่ท่านไม่คิดจะพาข้าไปด้วยเหรอ……..ตอนนี้ข้าเป็นปลา……..ไม่ใช่เป็นเหมือนเเมวบนเขียงรอให้คนมาจับต้มยำทำเเกง ”

” ถ้าใครรู้ว่าข้ามีสายเลือดพยัคฆ์​ขาวเเม้จะเบาบางเเต่คาดว่าสัตว์ประหลาดเฒ่าคงเเห่กันออกมาเเย่งชิงตัวข้าไปเเล้วละ ”

เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นจึงอุ้มเสี่ยวไป๋ขึ้นมาก่อนที่จะส่งให้กับซูซ่านที่กำลังยืนอยู่ด้านข้างตัวเเล้วกล่าวออกมา

” ช่วยดูเเลเสี่ยวไป๋เเทนข้าหน่อย ”

ซูซ่านที่ได้ยินเช่นนั้จึงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันสดใส

” ไม่ต้องห่วงท่านพี่เฟยหลงข้าจะดูเเลเสี่ยวไป๋อย่างดีเลย ”

เจียหงที่เห็นเสี่ยวไป๋ตอนนี้นั้นกลายเป็นเหมือนตุ๊กตา​นุ่มฟูตัวหนึ่งที่เเตกต่างจากตอนปกติที่ชอบอยู่ไม่นิ่ง

ทางด้านหวีเหวินเเละหลินหยางนั้นได้มองหน้ากับไปมาด้วยความสับสนก่อนที่จะกล่าวออกมาพร้อมกัน

” งั้นพวกเราก็ตามไปกันเถอะ ”

ทางด้านหวีเหวินนั้นหน้าซีดลงไปเล็กน้อยเพราะใข้พลังวิญญาณ​จำนวนมากเเต่มางด้านเฟยหลงนั้นภายนอกดูไม่เหมือนกับว่าสูญเสียพลังวิญญาณ​ไปมากเลยเเต่ตอนนี้ต้องงดใช้พลังวิญญาณ​จำนวนมาก

ใช้ได้เเต่การเปลี่ยนพลังวิญญาณ​เป็นสัมผัสวิญญาณ​ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบเเต่ระยะที่ตรวจสอบได้นั้นสั้นลงกว่าเดิมครึ่งหนึ่งซึ่งต้องรอไปอีกหลายวันเลยทีเดียวกว่าจะกลับมาเหมือนเดิม

ตัวเฟยหลงที่มีจิตวิญญาณ​ระดับเทียบเท่าขอบเขตเซียนนั้นเเม้ว่าตัวเขาจะดึงพลังของมันมาใช้ได้เพียงน้อยนิดในตอนนี้

เเต่ตัวเขาไม่มีปัญหาทางด้านจำนวนพลังวิญญาณ​ที่จะมีปัญหาคือใช้พลังวิญญาณ​มากเกินกว่าที่ร่างกายในตอนนี้จะรับได้ที่อาจจะนำผลเสียมาสู่ตัวเขา

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

Status: Ongoing
ที่ตรอกแห่งหนึ่งได้มีร่างของเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงเเค่ร่างไร้วิญญาณแต่โชคชะตาก็ได้นำพาวิญญาณดวงหนึ่งมาสิงร่างของเด็กหนุ่มคนนี้แล้วทำให้ชะตากรรมของร่างกายนี้เปลี่ยนแปลงไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท