The Rise of Otaku – ตอนที่ 63

ตอนที่ 63

บทที่ 63 ชีวิตประจำวันของผับ

สิ่งแรกที่เจ้าเดียนเดียนทำเมื่อกลับถึงบ้านคือถอดชุดเกราะและอาบน้ำ นี่อาจเป็นสิ่งที่น่ารำคาญที่สุดสำหรับโจวหยูเลยก็ว่าได้ เพราะตามปกติแล้วเขาเองก็ไม่ใช้คนที่ชอบอาบน้ำบ่อยๆ อย่างไรก็ตามหากเขาไม่ได้ให้เจ้าเดียนเดียนอาบน้ำละก็ มันจะไม่ยอมห่างจากเขาและพยายามที่จะก่อกวนเขาตลอดเวลา ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากที่จะต้องพามันไปอาบน้ำเสมอ

นั้นจึงทำให้ทุกคนต่างก็เรียกเจ้าเดียนเดียนว่าไก่ที่ชอบอาบน้ำ

แต่วันนี้ต่างออกไป งานอย่างพาเจ้าเดียนเดียนไปอาบน้ำนั้นได้ถูกยึดไปโดยมู่เซี่ยว เธอให้เหตุผลว่าต้องการแสดงความขอบคุณมันสำหรับที่ช่วยเธอเอาไว้ นอกจากนี้เธอยังต้องการดูว่าไก่อาบน้ำเป็นยังไง การพาเจ้าเดียนเดียนไปอาบน้ำนั้นปกติก็ไม่ใช้สิ่งที่โจวหยูต้องการทำอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงยอมรับข้อเสนอของมู่เซี่ยวอย่างมีความสุขทันที

หลังจากถอดชุดเกราะแล้วเจ้าเดียเดียนก็ถูกนำตัวไปที่แม่น้ำข้างบ้านทันที เมื่อมันมาถึงมันก็เริ่มกระพือปีกและนั้นทำให้น้ำสาดไปทั่วร่างกายของมู่เซี่ยว อย่างไรก็ตามความสนใจของเธอเกี่ยวกับการอาบน้ำของเจ้าเดียนเดียนกลับไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เธอยังคงเทน้ำไปทั่วร่างกายของมันเพื่อล้างฝุ่นที่ติดตามขน ครูคนอื่นๆเองก็ได้จ้องมองการกระทำนี้ของเจ้าเดียนเดียนด้วยความสงสัยเช่นกัน มีพวกเขาบางคนถึงกับนำโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อถ่ายภาพเลยก็มี

มันเป็นสัตว์ที่แปลกจริงๆ แม้แต่สิ่งของจากบ้านของมันเองก็แปลกเป็นอย่างมาก

หลังจากการอาบน้ำนี้จบลง เกราะของมันก็ต้องถูกล้างเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าเจ้าเดียนเดียนนั้นยึดมั่นในหลักปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และมันยังมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องความสะอาดเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันนี้มันเพิ่งต่อสู้กับสุนัขป่ามา ดังนั้นมันจึงต้องทำความสะอาดเกราะอย่างเหมาะสม

หลังจากทำความสะอาดเกราะแล้วก็ต้องนำมันไปทำให้แห้งได้โดยการแขวนมันไว้ในสนามหนึ่งคืน

หลังจากการอาบน้ำของเจ้าเดียนเดียนจบไปแล้ว มู่เซี่ยวก็ยังคงถือมันเอาไว้ตลอดเวลา ดูเหมือนว่าเธอจะเริ่มคิดที่จะเลี้ยงมันเป็นสัตว์เลี้ยงจริงๆ ในขณะเดียวกันเจ้าเดียนเดียนที่อยู่ในอ้อมแขนของผู้หญิงก็ได้แสดงอาการพออกพอใจออกมาเป็นอย่างมากอีกด้วย และเป็นเวลาเดียวกันที่การฉายอนิเมชั่นกลางแจ้งก็เริ่มขึ้น

จนถึงตอนนี้ครูฝึกสอนเหล่านั้นในที่สุดก็จำจุดประสงค์หลักของพวกเขาที่มาที่หมู่บ้านในวันนี้ได้ นั้นก็คือการมาดูหนังนั้นเอง พวกเขาเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้วเพราะเรื่องที่เจ้าเดียนเดียนทำก่อนหน้านี้

ก่อนหน้านี้พวกเขาต่างก็มีข้อสังสัยมากมายเกี่ยวกับคุณภาพของอนิเมชั่นที่อีกฝ่ายนำมาฉาย แต่เมื่อเริ่มต้นฉายจริงคำถามเหล่านี้จะถูกลืมไปทันที ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีความเข้าใจมากนักเกี่ยวกับคุณภาพของอนิเมชั่นที่ผลิตในประเทศ แต่พวกเขาก็สามารถบอกได้ว่าอนิเมชั่นที่พวกเขากำลังดูอยู่ตอนนี้นั้นอยู่ระดับไหนเมื่อเทียบกับอนิเมชั่นในประเทศ

‘แน่นอนว่ามันถือว่าดีกว่าเป็นอย่างมาก’

นี่เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้แบบมาตรฐานปกติ ตัวเอกเป็นวัยรุ่นที่ชอบศิลปะการต่อสู้ แต่ไม่สามารถเข้าสังคมกับผู้อื่นได้ดีนัก วันหนึ่งเขาได้พบกับกลุ่มคนที่ใช้ศิลปะการต่อสู้ไปในทางที่ผิดในมุมหนึ่งของเมือง คนเหล่านี้ต่างก็ยึดถือว่าศิลปะการต่อสู้เป็นทุกสิ่ง ผู้ชนะเท่านั้นที่สามารถครอบครองได้ทุกอย่าง

วัยรุ่นคนนี้ที่เห็นแบบนั้นก็ได้ทำการปลอมตัวโดยการสวมหน้ากากและเริ่มที่จะต่อสู้กับคนกลุ่มนี้ ก่อนที่เขาจะถ่ายวิดีโอการลงโทษและอัพโหลดไปยังอินเทอร์เน็ต สิ่งที่เขาทำทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคม ไม่ว่าจะเป็นคุณธรรมดั้งเดิมยืนยันถึงจิตวิญญาณของระบบกฎหมายสมัยใหม่ หรือไม่นั้นได้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงสำหรับการอภิปราย แต่วัยรุ่นคนนั้นที่กลายเป็นบุคคลสาธารณะกลับมีความสุขกับมันมาก

อย่างไรก็ตามราคาของการกระทำในครั้งนี้ก็จำเป็นที่จะต้องจ่ายเช่นกัน

หนึ่งในเพื่อนของวัยรุ่นคนนั้นได้ถูกเปิดเผยตัวตนของเขาโดยบังเอิญได้ถูกลักพาตัวไป คนเลวจึงบังคับให้เขาปรากฏ ในตอนสุดท้ายของภาพยนตร์เป็นฉากต่อสู้กันในโกดังขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยกล้องมากมาย เห็นได้ชัดว่าคนร้ายพวกนั้นต้องการถ่ายทอดสดบทลงโทษของวัยรุ่นคนนี้ออกไป

หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดวัยรุ่นก็เริ่มที่จะหมดแรง เมื่อความชั่วร้ายกำลังจะเอาชนะความยุติธรรมได้นั้นเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำลังพิเศษกลุ่มหนึ่งก็ได้ลงมาจากหลังคาและจับกุมคนร้ายเหล่านั้นทั้งหมด

การจบแบบนี้ไม่คาดฝันนี้ทำให้คนดูต่างก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก โดปกติแล้วตำรวจในภาพยนตร์นั้นจะทำหน้าที่เป็นหน่วยทำความสะอาดพื้นที่เท่านั้น เพราะไม่อย่างนั้นบทของตัวหนังอาจจะผิดเพี้ยนไปได้และการแสดงความกล้าหาญของตัวเอกอาจจะหายไป?

เมื่อฉากที่วัยรุ่นคนหนึ่งได้พุ่งเข้าหากลุ่มคนเลวจำนวนมาก ครูฝึกสอนยังคงคิดว่าพวกเขาจะเห็นฉากการต่อสู้ครั้งใหญ่ในตอนท้ายเสียอีก อย่างไรก็ตามไม่มีใครคาดหวังว่าจุดจบจะเป็นแบบนี้

ในตอนท้ายและหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ตัวเอกได้รับการดลใจให้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเขาสาบานว่าจะพาคนเลวไปสู่ความยุติธรรมอย่างมีศักดิ์ศรี นั้นจึงทำให้ตัวพล็อตเรื่องของอนิเมชั่นนี้เต็มไปด้วยพลังงานด้านบวก มีความเป็นไปได้สูงที่จะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ในด้านดีๆจากพวกวิจารณ์มืออาชีพ

ถึงแม้ว่าครูฝึกสอนเหล่านั้นจะไม่เข้าใจว่าทำไมฮีโร่ต้องได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เห็นได้ชัดว่าคุณภาพของภาพยนตร์นั้นทำให้พวกเขาต่างก็ประหลาดใจ โดยเฉพาะฉากต่อสู้การครั้งใหญ่ในตอนจบนั้น ต้องบอกว่าตัดต่อนั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก ความงามของความเร็วและพลังของศิลปะการต่อสู้นั้นได้ถูกแสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม

หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็รู้ว่าพี่ชายหยูคนนี้จะทำอนิเมชั่นใหม่ๆออกมาทุกสัปดาห์และอนิเมชั่นทุกเรื่องที่อีกฝ่ายทำออกมานั้นก็มีคุณภาพเท่ากับเรื่องนี้อีกด้วย เมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งที่พวกเด็กๆพูดมาแบบนั้นมันก็ทำให้พวกเขายิ่งไม่เข้าใจในตัวตนของอีกฝ่ายมากขึ้น ดูเหมือนว่าทุกอย่างที่เกี่ยวกับโจวหยูนั้นต่างก็เต็มไปด้วยความลึกลับ

……………………

ผับของแจ็คเองก็ได้เปิดทำการอย่างเต็มตัวในที่สุด หลังจากที่เขาตั้งแต่ทีน่าสาวเป็นส่วนหนึ่งของผับ แม้ว่าหลังจากนั้นจะมีกลุ่มนักผจญภัยมือใหม่สองหรือสามคนเข้ามาบ้าง แต่นี้ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ไม่เลวเลยที่เดียว เพราการมีอยู่ของคุกใต้ดินนี้เองที่ทำให้เหล่านักผจญภัยเริ่มปรากฏในหมู่บ้านมินิลู่หัวมากขึ้น และนักผจญภัยเหล่านั้นก็ได้กลายเป็นลูกค้าหลักของผับของแจ็คในที่สุด

อย่างไรก็ตามมันเป็นเพียงแค่คุกระดับ 1 เท่านั้น มันจึงไม่ใช้อะไรที่ต้องให้ความสนใจมากนัก ทางแจ็คเองก็เคยพูดเอาไว้ว่าถ้ำแห่งความมืดระดับหนึ่งนี้เป็นเพียงงานอดิเรกชิ้นเล็กๆเท่านั้น เราไม่ควรจะหวังอะไรมากนัก เห็นได้ชัดว่าคำพูดนี้ของแจ็คนั้นถูกต้อง

เพราะกลุ่มนักผจญภัยที่มายังที่แห่งนี้เป็นเพียงมือใหม่เท่านั้น พวกเขาเหล่านั้นถึงกับไม่สามารถชำระค่าข้อมูลของถ้ำได้ด้วยซ้ำ และพวกเครื่องดื่มที่พวกเขาสั่งเองก็เป็นของที่ถูกที่สุดอีกด้วย มันช่างเป็นอะไรที่แจ็คนั้นไม่ชอบเป็นอย่างมาก

ดังนั้นจึงไม่แปลกที่การบริการลูกค้าของแจ็คจะแย่ตามไปด้วย

แต่ก็ถือว่ามีโชคดีอยู่บ้างที่ในผับแห่งนี้มีพนักงานต้อนรับที่น่ารัก เธอมักจะค่อยให้กำลังใจเหล่านักผจญภัยมือใหม่เพื่อสร้างความมั่นใจ ด้วยเหตุนี้ชื่อ – “เทพธิดาแห่งผับ” จึงเริ่มแพร่กระจายในหมู่นักผจญภัยทำให้เธอกลายเป็นบุคคลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่บ้าน

ในตอนแรกโจวหยูเองก็สงสัยมากว่านักผจญภัยเหล่านี้จะเข้าไปเครียคุกใต้ดินได้ยังไง ดังนั้นเขาจึงเฝ้าดูพวกเขาโดยเฉพาะสองสามครั้ง อย่างไรก็ตามมือใหม่เหล่านั้นแย่เป็นอย่างมาก แจ็คสามารถเครียพสกมันได้อย่างง่ายดายด้วยใช้เพียงเจ้าเดียนเดียนเท่านั้น แต่กลับพวกนกผจญภัยมือใหม่เหล่านี้จำเป็นที่จะต้องรวบรวมจำนวนคนให้มากพอจึงจะเข้าไป

ในส่วนที่นักผจญภัยหลายคนที่ต้องการเคลียร์ดันเจี้ยนคนเดียวจำเป็นต้องมีเจ้าเดียนเดียนเข้าไปด้วย และเมื่ไหร่ก็ตามที่เขาถึงถูกนำตัวกลับมาโดยเจ้าเดียนเดียน นั้นก็หมายความว่าเขาได้ทำการเคลียร์ดันเจี้ยล้มเหลว

อย่างไรก็ตามไม่มีโรงพยาบาลในหมู่บ้านมินิลู่หัวแห่งนี้ ดังนั้นคนเหล่านั้นสามารถนอนพักฟื้นเงียบๆในผับได้เท่านั้น

แต่ในบางครั้งก็จะมีหนึ่งหรือสองทีมที่ประสบความสำเร็จในการเคลียร์ดันเจี้ยน สมาชิกในทีมทุกคนจะโอบกอดกันและกันด้วยน้ำตาขณะที่หัวเราะและเต้นในผับ โจวหยูก็มีความสุขมากสำหรับพวกเขาเช่นกัน

วันนี้เองก็มีทีมที่สามารถเคลียร์ดันเจี้ยนได้สำเร็จและการเก็บเกี่ยวของพวกเขาเองก็ค่อนข้างดี หัวหน้าทีมมีความสุขมากดังนั้นเขาจึงให้ทิปทีน่าด้วย – “เมล็ดพันธุ์แห่งอุปกรณ์ลึกลับ”

“ ทีน่า! เราไม่สามารถใช้เมล็ดพันธุ์นี้ได้ แต่เจ้านายของเธอสามารถปลูกมันได้และเธอไม่ต้องกังวล ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ประเภทใดเราก็จะไม่เอามันกลับคืนมา แต่ถ้าเกิดว่ามันเจ้านายของเธอได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้จริงๆ ฉันก็แค่หวังว่าเจ้าของผับจะปฏิบัติต่อคุณดีกว่า “

ใบหน้าที่หน้าบึ้งของแจ็คโด่งดังพอๆกับรอยยิ้มของเทพธิดาทีน่า อย่างไรก็ตามไม่มีใครสามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้ เคยมีนักผจญภัยเจ้าอารมณ์หลายคนที่ต้องการสร้างปัญหาในผับแห่งนี้ แต่ต่อมาแจ็คก็สามารถเอาชนะพวกเขาได้อย่างง่ายดายและโยนพวกเขาออกจากผับ จนกระทั่งทุกคนก็รู้ว่าเจ้าของผับไม่ใช่คนที่พวกเขาจะยุ่งได้

แม้ว่าพวกเขาจะไม่กล้าต่อสู้กับเขา แต่มันก็ไม่ใช้ปัญหาที่จะสาปแช่งเขาอย่างลับๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหญิงสาวที่น่ารักคนนี้ได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นคนรับแล้ว! แน่นอนว่าสิ่งนี้ยิ่งทำให้การสาปแช่งอย่างลับๆของพวกเขาได้รับความนิยมขึ้นมาทันที

“คุณอย่าพูดแบบนั้นเลย! ลุงแจ็คเป็นคนที่ใจดีมาก มันก็แค่เขาไม่ค่อยชินกับการเข้าสังคมก็เท่านั้นเอง “

รอยยิ้มของทีน่าไม่ใช้สิ่งที่นักผจญภัยสามารถต้านทานได้ แม้ว่านักผจญภัยเหล่านั้นจะคุ้นเคยกับการฆ่าพวกเขาก็ยังรู้สึกดีเมื่เห็นรอยยิ้มที่บริสุทธิ์นี้

‘เมล็ดพันธุ์แห่งอุปกรณ์ลึกลับเหรอ? มันหมายความว่ามันจะเติบโตขึ้นมาเป็นอุปกรณ์หลังจากปลูกใช้ไหม?’

ในขณะเดียวกันโจวหยูก็กำลังสังเกตเจ้าเมล็ดแปลกๆนี้อยู่ในมือ

The Rise of Otaku

The Rise of Otaku

เรื่องย่อย

โจวหยูเป็นโอตาคุที่รักสันโดษ ซึ่งเขานั้นเป็นคนที่ไม่ชอบออกจากบ้านของตัวเอง

แต่เขาก็ถูกบังคับให้ออกจากบ้านโดยเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในวันหนึ่ง…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท