บทที่ 75 กองทัพนก
วังฟาสต์ยังคงแสดงอาการหมดกำลังใจ เขาได้เพิกเฉยต่อเจ้าของร้านค้ายังสิ้นเชิง เขาทำเพียงแค่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเศร้าโศกเท่านั้น แต่ทัศนคติแบบนี้ก็ไม่ได้ทำให้เจ้าของร้านเกิดความไม่พอใจแต่อย่างใด ซึ่งนี้แสดงให้เห็นว่าวังฟาสต์นั้นมีสถานะทางสังคมไม่ธรรมดา
แต่ดูเหมือนว่าจะมีคนบางคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย นั้นก็คือบูบู เขาไม่สนใจสิ่งรอบข้างตั้งแต่เมื่อเขาได้เห็นอาหารตรงหน้า อาจจะเพราะเขาและเจ้าเซอร์แบล็กได้บินมาตลอดทั้งคืน มันจึงทำให้เมื่อพวกเขาเห็นอาหารตรงหน้าก็ไม่สามารถรักษามารยาทได้
“ เฮ้! พี่เจ้าของร้าน! พี่ชายน่าจะมาทางนี้ได้แล้ว แน่นอนว่าข้าคนนี้เองก็เป็นคนที่ร่ำรวยเช่นกัน”
น่าแปลกที่เจ้าของร้านไม่ได้แสดงท่าทางจะไปทางบูบูแต่อย่างใด ดูเหมือนว่าเขาไม่ต้องการรู้จักกับอีกฝ่าย แต่ไม่ใช้กับวังฟาสต์ที่อยู่ข้างๆ เพราะเขาได้สังเกตเห็นว่าชายที่มาจากโลกแห่งความจริงนั้นแปลกเป็นอย่างมาก ซึ่งมันได้เตะความสนใจของเขาเข้าอย่างจัง
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายให้ความสนใจตนเองแล้ว บูบูบก็ได้ยิ้มออกมาพร้อมกับรีบนั่งลงบนม้านั่งและเริ่มใช้มือทั้งสองจับอาหาร ในขณะที่มันกำลังกินอยู่มันก็พูดว่า “พี่ชายชื่อว่าวังฟาสต์ใช้ไหม? มั่นใจได้เลยว่าเจ้านายของข้าได้บอกให้ข้ามาช่วยพี่ชาย และพี่ชายมั่นใจได้เลยว่าพวกเรานั้นจะช่วยคุณเติมเต็มความปรารถนาของคุณและค้นหาสัตว์วิญญาณ แน่นอนว่าถ้าภารกิจนี้สำเร็จแล้วพี่ชายต้องกลับไปกับพวกเรา “
เมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูดแบบนี้ วังฟาสต์เองก็รีบพูดขึ้นว่า “ฉันต้องขอบคุณในความหวังดีของพวกคุณ แต่ฉัน วังฟาสต์ คนนี้คุ้นเคยกับชีวิตอิสระเสียแล้ว แต่ฉันก็ต้องขอบคุณสำหรับความตั้งใจที่ดีของพวกคุณ “
ผู้มีความสามารถนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้เชิญมา เห็นได้ชัดว่าวังฟาสต์นั้นไม่เต็มใจที่จะเข้าร่วมกับพวกเขาโดยตรง ที่เป็นแบบนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากความผิดของบูบูที่รีบพูดเกินไป พวกเขาไม่ใช่พวกอันธพาล เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอยู่ที่นี่เพื่อเชิญชวนให้อีกฝ่ายมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านมินิลู่หัวด้วยดี และเขายังได้เตรียมใช้ทักษะของนักพูดที่แข็งแกร่งที่สุดอีกด้วย แน่นอนว่าด้วยเอฟเฟคของทักษะมันมีความเป็นไปได้มากที่อีกฝ่ายจะตอบตกลงเข้าร่วมกับพวกเขา
แต่ก่อนหน้านั้นเขาควรพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยอีกฝ่ายหาสัตว์ร้ายตัวนั้น
มันยังคงมีความแตกต่างใหญ่ระหว่างศิลปินธรรมดากับศิลปินชั้นแนวหน้า แม้ว่าคำเชิญครั้งแรกจะถูกปฏิเสธ แต่ภารกิจของสัตว์ร้ายยังไงก็ต้องดำเนินต่อไป เมื่ออัศวินนกได้เข้าร่วมในครั้งนี้ ความเป็นไปได้ในการค้นหาสัตว์ร้ายตัวนั้นก็เพิ่มสูงขึ้นมาก ดังนั้นวังฟาสต์จึงไม่ได้ปฏิเสธความช่วยเหลือนี้
จากนั้นวังฟาสต์ก็ได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขาถึงกับเปลี่ยนไปนั่งโต๊ะของโจวหยูและพวกเขาทั้งสามคนเริ่มพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับการค้นหาสัตว์ร้ายนั้นอย่างจริงจัง
มันเลยปรากฏภาพที่ชายคนหนึ่ง นกพิราบสวมชุดเกาะแปลกๆ กำลังพูดคุยด้วยเสียงต่ำในร้านอาหารตะวันตกอย่างระมัดระวัง
ทางด้านพนักงานเสิร์ฟเองก็เกิดความสับสนเช่นกับ ‘มันเกิดอะไรขึ้น? ลูกค้าคนนั้นกำลังคุยกับสัตว์อยู่ใช่ไหม? หรือว่าชายคนนั้นไม่เต็มกันนะ? ‘
โชคดีที่ลูกค้าคนนี้ไม่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอื่นๆ ซึ่งนั้นทำให้เขาถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก
มันเป็นเรื่องยากมากที่จะทำนายว่าเจ้าสัตว์ร้ายวิญญาณ – หลิงหลงซิน นั้นจะปรากฏขึ้นที่ไหน ก่อนหน้านี้วังฟาสต์ได้ใช้เวลาหลายปีในการค้นหาและในที่สุดเขาก็ได้รับข้อมูลบางอย่างที่บอกว่าเจ้าสัตว์ร้ายหลิงหลงซินนั้นจะปรากฏในเมืองนี้ในอนาคตอันใกล้ แต่มันก็น่าเสียดายที่หลังจากผ่านไปหลายวันแล้วเขาก็ยังไม่ได้อะไรเลย นั่นคือเหตุผลที่เขามาที่ร้านนี้เพื่อดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อปัดเป่าความทุกข์ของตัวเอง
โจวหยูที่ได้ฟังแบบนั้นก็ตกตะลึงเช่นกัน หากไม่มีเงื่อนงำมากพอมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะหามันได้ในเมืองใหญ่ขนาดนี้ เขายังได้เปิดแถบภารกิจขึ้นมาตรวจสอบอีกครั้งเผื่อว่ามันจะมีคำใบอื่นเพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เป็นอย่างที่เขาหวังเอาไว้
ในเวลาเดียวกันเจ้าบูบูก็ได้เงยหน้าขึ้นพร้อมกับแสดงสีหน้าที่ว่า ‘ปล่อยให้ฉันจัดการ’ “ฮ่าฮ่าฮ่า! เจ้านายรู้ไหมว่าอาชีพของข้าคนนี้คืออะไร? ใช้แล้วข้านั้นเป็นอัศวินนภา ตราบใดที่ข้าออกคำสั่งเพียงคำสั้นๆ ก็จะมีสมุนนกนับพันที่จะรอฟังคำสั่งข้า ดังนั้นการหาเจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้ถือว่าเป็นเรื่องง่ายๆ! “
น่าแปลกที่พูดครั้งนี้ของบูบูนั้นกลับได้รับความสนใจจากโจวหยูและวังฟาสต์เป็นอย่างมาก แน่นอนว่าบูบูบ ไม่ได้จะช่วยพวกเขาทันที แต่อีกฝ่ายกลับให้โจวหยูสัญญากับเขาก่อนว่าหลังจากกลับไปที่หมู่บ้านแล้ว เขาจะต้องช่วยตัวเองสร้างกองทหารอัศวินนภาขึ้นมา และตัวเขาให้เป็นหัวหน้าของกองทหารกระรอกอีกด้วย
หลังจากการตกลงในครั้งนี้บรรลุแล้ว ในจัตุรัสในสวนสาธารณะที่ซึ่งมีคนเดินไปมาจำนวนมาก มีทั้งเด็ก วัยรุ่น และคนแก่ ที่กำลังเดินไปมา โจวหยูได้นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในลักษณะที่น่าเบื่อและกำลังดูเจ้าบูบูวาดอะไรบางอย่างบนพื้นพร้อมกับเริ่มเต้นรำตามท่าทางแปลกๆ
โจวหยูไม่เคยคิดเลยว่าการเรียกสนุมของมันจะต้องมีอะไรแบบนี้ด้วย
“เอาละ! เจ้านายมาที่นี่แล้วถือเจ้าเซอร์แบล็คเอาไว้บนมือด้วย!”
ตามคำแนะนำของบูบู โจวหยูก็ได้นำเจ้าเซอร์แบล็กเข้าไปยืนอยู่ในวงกลมแปลกๆนั้น อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดแสงที่แสบตาขึ้นแล้วมันก็ไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นอีก แต่จะพูดแบบนั้นก็ไม่ได้เพราะในตอนนี้เจ้าเซอร์แบล็กนั้นกำลังทำให้เกิดเสียงคูลโค … เมื่อโจวหยูคิดว่าต่อไปอีกไม่นานอาจจะเกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้น และกำลังเตรียมที่จะเดินออกจากวงกลมแปลกๆนี้ มันก็ได้เกิดเมฆสีดำปกคลุมอยู่เหนือหัวเขา
‘ตอนนี้มีนกมากมายบนท้องฟ้า!’
ในตอนนี้มันได้มีนกทุกชนิดรวมถึงนกทุกตัวในเมืองรวมตัวกันอยู่ที่นี่ก่อตัวเป็นเมฆครึ้ม และนี้ไม่ใช้เหตุการณ์ที่สามารถเห็นได้เฉพาะในโลกของ ACG เท่านั้น แต่มันยังสามารถเห็นได้ในโลกแห่งความเป็นจริงเช่นกัน ไม่ว่าสายตาของโลก ACG หรือดวงตาแห่งความจริง ก็จะมองเห็นได้อย่างชัดเจน และนั้นทำให้ผู้คนในสวนสาธารณะทั้งหมดก็สังเกตเห็นปรากฏการณ์ประหลาดนี้และเริ่มถ่ายวิดีโอด้วยโทรศัพท์ของพวกเขา
ในคลิปวิดีโอนั้นได้ปรากฏภาพชายหนุ่มที่แปลกประหลาดกำลังถือนกพิราบสีดำแปลกๆ และยังมีกลุ่มนกอยู่เต็มท้องฟ้า ประมาณสามหรือสี่นาทีต่อมาชายคนนั้นก็ได้โบกมือของเขาไปมาและนั้นทำให้นกพิราบสีดำและนกทุกตัวต่างก็กระจัดกระจายไปราวกับว่าพวกมันเพิ่งได้รับคำสั่งบางอย่าง
“อะไรกัน? ดูเหมือนชายคนนั้นสามารถสั่งนกได้”
“ไม่มีทางน่า? นั้นมันมีนกป่าจำนวนมากรวมอยู่ด้วย พวกมันไม่น่าจะฟังคำสั่งของมนุษย์ได้”
“ มันลึกลับเกินไปแล้ว! เขาดูเหมือนพ่อมดเลย?”
ได้มีความคิดเห็นหลายประเภทเริ่มปรากฏในสวนสาธารณะ โจวหยูเองก็ตระหนักว่าในตอนนี้เขาได้กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่วิ่งไปเขายังคงบ่นกับเจ้าบูบูว่าทำไมมันถึงไม่พูดถึงเรื่องพวกนี้กับเขาก่อนหน้านี้ว่ามันจะนกในโลกแห่งความเป็นจริงปรากฏขึ้นมา เพราะหากเขารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้เขาจะได้เลือกสถานที่เงียบไม่มีคนในการทำมัน
“เจ้านาย! … มันไม่ใช้ว่าจะสามารถวาดวงกลมเวทย์มนตร์ได้ทุกหรอกนะ! ที่ข้าเลือกที่จะวาดในสวนสาธารณะนี้ก็เพราะสถานที่แห่งนี้มันเป็นที่ที่เหมาะ”
บูบูได้อธิบายเกี่ยวกับสถานการณ์นี้อย่างละเอียด แม้ว่ามันจะสามารถควบคุมนกพวกนี้ได้ แต่มันก็เป็นการควบคุมได้เพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น หากไม่ใช้เพราะวงกลมเวทมนตร์นี้ที่เพิ่มเอฟเฟกต์พวกนี้ขึ้นอีก มันเป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมนกจำนวนมากได้เช่นนี้ เมื่อได้ฟังแบบนี้โจวหยูก็เข้าใจเรื่องทั้งหมด อย่างไรก็ตามเขาไม่ใช้คนจากเมืองนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลาว่าจะมีใครจะจำเขาได้
หลังจากออกจากสวนสาธารณะแล้ว เขาก็พบว่ามีโรงแรมเล็กๆอยู่ไม่ไกล ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะหยุดพักอยู่และรอข่าว
มันหายากมากสำหรับเขาที่จะออกจากหมู่บ้านลู่หัว อย่างไรก็ตามเขาไม่เพียงแต่ไม่ได้ไปช็อปปิ้ง แต่เขายังไม่ได้ไปเที่ยวชมสถานที่ดังๆด้วยซ้ำ เขาเพิ่งอยู่ในห้องพักของโรงแรม นอนดูทีวี ในตอนเย็นเขายังเห็นข่าวในช่องข่าวของสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเกี่ยวกับบุคคลลึกลับในสวนสาธารณะอีกด้วย
ข่าวยังได้มีการฉายคลิปวิดีโอเช่นกันแต่มันก็ไม่ได้ชัดเจนมากนัก
‘พระเจ้า! ไม่คิดว่าข่าวมันจะแพร่ไปเร็วแบบนี้’
ดังนั้นในตอนนี้โจวหยูต้องการหาสัตว์ร้ายและรีบออกจากเมืองนี้โดยเร็วที่สุด