ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม – ตอนที่ 171 สุดยอดนักวิทยาศาสตร์ศาสตราจารย์หยาง

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม

อันหลินกับซูเฉี่ยนอวิ๋นเดินเคียงคู่กันมาถึงวังชิงมู่

วังชิงมู่ใหญ่โตโอ่อ่ายิ่งนัก ไม่ได้มีเพียงตำหนักกว้างใหญ่เท่านั้น แต่ยังมีขุนเขาที่มีทิวทัศน์ดุจภาพเขียน ทะเลสาบใสแจ๋วปานหินหยก รวมถึงทุ่งดอกไม้ที่มีบุปผชาตินับหมื่นพัน

อดพูดไม่ได้ว่า ทัศนียภาพภายในพระราชวังแห่งนี้งดงามมากเหลือเกิน

ทั้งคู่เที่ยวเล่นอย่างถึงอกถึงใจ ราบรื่นไร้อุปสรรคตลอดทาง

นอกจากจะมีสายตาประหลาดของเหล่าชาวประชาที่คอยเมียงมองอันหลินแล้ว ไม่มีเรื่องอื่นใดเกิดขึ้น

“ข้างหน้าก็คือห้องวิจัยหมายเลขหกของวังเรา อยากไปดูไหม” ซูเฉี่ยนอวิ๋นชี้บ้านซึ่งก่อจากหินหยกที่ตั้งอยู่เบื้องหน้าแล้วพูดขึ้นมา

“ห้องวิจัยหรือ เกี่ยวข้องกับการวิจัยเทคโนโลยีและการบำเพ็ญเพียรไหม” อันหลินถามด้วยนัยน์ตาที่เป็นประกาย

“อืม ใช่แล้ว มันเป็นสถานที่วิจัยของศาตราจารย์หยาง นักวิทยาศาสตร์แห่งราชวงศ์เรา ภายในมีของน่าสนใจมากมายเชียวล่ะ” ซูเฉี่ยนอวิ๋นกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ระหว่างที่พูด ลักยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าขาวเป็นยองใยของนาง แลดูน่ารักจับใจยิ่งนัก

“ไป เราไปดูกันเถอะ!” อันหลินได้ยินดังนั้นก็เกิดความสนใจขึ้นมาทันที

เขามีความสงสัยและความอยากรู้อยากลองกับเรื่องที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีกับการบำเพ็ญเพียรเป็นอย่างมาก

เมื่อผลักประตูเหล็กบานนั้นออก สิ่งที่ปรากฏสู่สายตาคือเครื่องจักรกลแปลกใหม่นานาชนิด และมีศาสตราวุธจานเจ็ดดาวทั้งหลายแหล่แขวนอย่างล้นหลาม

“โอ้โฮ…ของมีค่าเต็มไปหมดเลย!” อันหลินมองวัตถุที่เต็มไปด้วยเนื้อสัมผัสของโลหะเหล่านี้ จนประกายในดวงตาแทบจะหลุดออกมาแล้ว

“ฮ่าๆ คำว่า ‘ของมีค่า’ ใช้ได้เหมาะสมนัก ข้าชอบ!” ชายวัยกลางคนสวมแว่น ใบหน้ามีตอหนวด ผมเผ้ารุงรังคนหนึ่งเดินมา เอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม

อันหลินมองชายวัยกลางคนคนนี้อึ้งๆ เป็นครั้งแรกที่เขาเคยเห็นคนใส่แว่นในแดนจิ่วโจว

อ้อ…ไม่สิ เซียนพสุธาเยว่อิ่งก็เคยใส่เหมือนกัน แต่นางใช้เป็นเครื่องประดับเฉยๆ

“เขานี่แหละศาสตราจารย์หยาง นักวิทยาศาสตร์แห่งราชวงศ์ชิงมู่เรา” ซูเฉี่ยนอวิ๋นแนะนำยิ้มๆ

อันหลินพยักหน้าอย่างนอบน้อม “สวัสดีขอรับ ข้าชื่ออันหลิน เป็นเพื่อนของซูเฉี่ยนอวิ๋น”

ศาตราจารย์หยางดันเลนส์แว่น แว่นสะท้อนแสงแห่งปัญญา ใบหน้าเผยรอยยิ้มมีเลศนัย “องค์หญิงอวิ๋นเล่อ เหมือนว่าเจ้าพาชายอื่นเดินเล่นเป็นครั้งแรกสินะ สนิทสนมกันไม่เบาเลย”

“อันหลินเป็นเพื่อนของข้า ข้า…ข้ากำลังทำหน้าที่ของเจ้าบ้านให้ดีที่สุด!” ซูเฉี่ยนอวิ๋นเป็นหญิงที่หน้าบาง ถูกหยอกเย้าเพียงเล็กน้อย ใบหน้างดงามก็เริ่มแดงก่ำขึ้นมา

ศาสตราจารย์หยางโบกมือส่งๆ “เรื่องนี้ข้าก็คร้านสนใจ อย่างไรเสียเทพธิดาฉางเอ๋อไม่โกรธก็พอ จริงสิ พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่”

“อืม ข้าพาสหายอันหลินมาเยี่ยมชมสิ่งประดิษฐ์ทางเทคโนโลยีการบำเพ็ญเพียรอันก้าวล้ำน่ะ” เมื่อเปลี่ยนหัวข้อแล้ว ซูเฉี่ยนอวิ๋นก็สงบสติอารมณ์ลงเล็กน้อย จึงเอ่ยปากตอบ

ศาสตราจารย์หยางลูบคาง “เช่นนี้เองหรือ ของบางอย่างแตะสุ่มสี่สุ่มห้าอันตรายมาก ข้าแนะนำและสาธิตให้พวกเจ้าดูเองก็แล้วกัน”

ซูเฉี่ยนอวิ๋นได้ฟังก็ดีใจ “เช่นนี้ก็ดีแล้ว รบกวนศาสตราจารย์หยางด้วยนะ!”

จากนั้นศาสตราจารย์หยางก็พาอันหลินและซูเฉี่ยนอวิ๋นไปชมสิ่งประดิษฐ์จักรกลต่างๆ

มีทั้งประเภทยานบิน เช่นปีกกระดูกเหล็กที่ทำให้มนุษย์โบยบินบนท้องนภาได้ เหมาะแก่การพกพาก็คือบูทเมฆาเคลื่อนและจานลอยฟ้าเป็นต้น

สิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ แม้จะไม่ได้คล่องตัวเหมือนการเหาะเหินด้วยการขี่อาวุธของนักพรตหล่อเลี้ยงวิญญาณ แต่เหนือกว่าตรงที่ทำให้นักพรตระดับกายแห่งมรรค เหาะเหินได้ด้วยพลังปราณของตัวเอง

มันเป็นพระคุณอย่างใหญ่หลวงสำหรับนักพรตกายแห่งมรรคที่ปรารถนาจะโบยบิน

เพียงแต่ว่าของเหล่านี้มีราคาสูงลิ่ว ตอนนี้จึงมีแค่หน่วยรบพิเศษเท่านั้นที่ใช้ได้

ต่อมาก็คือศาสตราวุธในชีวิตประจำวันทั้งหลาย เช่นลูกประคำที่สามารถปรับระดับความชื้นและอุณหภูมิได้อัตโนมัติ สามารถทำให้ปุยเมฆสีขาวที่สกปรกบริสุทธิ์ได้…

จากนั้นก็เป็นอาวุธรูปแบบใหม่ที่ผสานระหว่างการบำเพ็ญเพียรและเทคโนโลยีชิ้นแล้วชิ้นเล่า

อาวุธธรรมดาทั่วไป เช่นระเบิดรูปร่างคล้ายปืน ซึ่งสามารถบีบอัดและระดมพลังปราณของนักพรตสุดท้ายปล่อยพลังเจาะทะลวงสูงออกมา

อาวุธชั้นสูงบางส่วนก็เช่นอาวุธที่รวบรวมสายฟ้าสวรรค์อย่างกระบี่เมฆอสนี ปืนสุญญากาศดำที่เป็นศาสตราวุธ สามารถกักเก็บพลังลมได้ ค่ายกลสังหารตาข่ายแสงที่ชักนำแสงให้ผสานเป็นหนึ่งกับค่ายกล…

อดพูดไม่ได้ว่า หากสามารถผลิตสิ่งของเหล่านี้ได้เป็นจำนวนมาก ต้องเพิ่มความสามารถของนักพรตได้หลายระดับชั้นเป็นแน่

อันหลินเดินมาถึงสุดขอบห้องวิจัย ที่นั่นมีวัตถุใหญ่โตมโหฬารตั้งอยู่

มีท่อระโยงระยางเต็มไปหมด บนชิ้นส่วนประณีตมีอักขระสีฟ้ากะพริบแปลบปลาบ กลิ่นอายเย็นเยือกแผ่ซ่านออกมาช้าๆ ปากกระบอกขนาดใหญ่ดำสนิทชี้ขึ้นฟ้า ราวกับจะถล่มผืนฟ้าอย่างนั้น

“นี่คืออะไรหรือ” อันหลินชี้สิ่งประดิษฐ์จักรกลมหึมาแล้วถามอย่างประหลาดใจ

ศาสตราจารย์หยางยิ้มอย่างมีเลศนัย “นี่เป็นความลับของราชวงศ์ ขอไม่แนะนำก็แล้วกัน”

อันหลินพยักหน้า เดินตามหลังศาสตราจารย์หยางต่อไป

“ลำดับต่อไปข้าจะขอแนะนำกับเจ้าอย่างเป็นทางการ สิ่งประดิษฐ์ใหม่ของข้า ข้าเรียกมันว่ายอดมนุษย์เหล็ก!”

ศาสตราจารย์หยางมายืนตรงหน้าตู้เหล็กสีดำสนิท เมื่อเปิดตู้เหล็กออก แสงสีขาวก็สาดส่องโดยพลัน

อันหลินเบิกตากว้าง เห็นหุ่นเหล็กรูปร่างมนุษย์ปรากฏตรงหน้าเขา พูดให้ถูกก็คือ เป็นกันดั้มที่มีขนาดเท่ากับมนุษย์!

แสงของโลหะ กระบอกปืนที่เย็นเยียบ คมดาบอันคมกริบ รวมถึงแอ่งพลังงานที่อยู่ตรงศูนย์กลาง นอกจากเจ้าเครื่องนี้จะน่าเกลียดไปบ้างแล้ว ทุกอย่างช่างเหมือนกันราวกับแกะ…

“ยอดมนุษย์เหล็กที่ข้าประดิษฐ์นั้น เหล็กหุ้มมีเกราะป้องกันสูงยิ่งนัก ต่อให้เป็นนักพรตระดับแปลงจิต ก็ทำลายเหล็กหุ้มของมันไม่ได้ ทั้งปืนใหญ่พลาสมา ปืนพลังปราณ ปืนปัญจธาตุมีครบครัน มีกระบี่โลหะผสมด้วย…เรียกได้ว่า หากสามารถผลิตเจ้าเครื่องนี้ได้ ราชวงศ์ของเราจะเป็นอันดับหนึ่งในเก้าราชวงศ์!” ศาสตราจารย์หยางดันแว่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความภูมิใจและมั่นอกมั่นใจ

ซูเฉี่ยนอวิ๋นยิ้มบางๆ อยู่อีกมุม นางเคยเห็นยอดมนุษย์เหล็กตัวนี้แล้ว มีอานุภาพรุนแรงมากอย่างแท้จริง

ทั้งในราชวงศ์ ไปจนถึงสำนักเซียนชั้นต้นแห่งแคว้นจื่อซิง หุ่นเหล็กตัวนี้ไม่ถือเป็นความลับอะไรแล้ว

ในทางกลับกัน ราชวงศ์ชิงมู่เจตนาเปิดเผยความลับประการนี้ เพื่อเป็นการสร้างภัยคุกคามความมั่นคง อย่างไรเสียต่อให้สำนักเซียนที่เหลือรู้ว่ามีของสิ่งนี้อยู่ ก็ประดิษฐ์ไม่ได้อยู่ดี

“เป็นอย่างไรบ้างสหายอันหลิน ของสิ่งนี้ข้าไม่ได้จะคุยโวนะ บนโลกใบนี้ต้องไม่มีสิ่งประดิษฐ์หุ่นจักรกลใดทัดเทียบมันได้! ยอดมนุษย์เหล็กตัวนี้นี่แหละเป็นคำนิยามของความสมบูรณ์แบบและโรแมนติก!” ศาสตราจารย์หยางมองอันหลิน รอคอยที่จะได้เห็นความตะลึงและชื่นชมจากใบหน้าของเขา

แต่น่าเสียดาย อันหลินทำให้ศาสตราจารย์หยางผิดหวังเสียแล้ว เขากลับจ้องหุ่นเหล็กตัวนี้ด้วยสีหน้าพิลึกชอบกล

ขณะที่ศาสตราจารย์หยางกำลังไม่สบอารมณ์นั้น อันหลินก็เอ่ยขึ้นมาอีกครั้งว่า “คือว่า…ข้าก็มีสิ่งประดิษฐ์หุ่นจักรกลแบบนี้เหมือนกัน ท่านอยากดูหรือไม่”

“เจ้าว่าอะไรนะ เจ้าก็มีเหมือนกันหรือ” สีหน้าของศาสตราจารย์หยางเปลี่ยนไป

จากนั้น เขาคิดว่าสิ่งที่อันหลินเตรียมจะนำออกมา คงจะเป็นเพียงหุ่นชั้นต่ำที่ห่อหุ้มด้วยเหล็ก จึงขำเบาๆ “เช่นนั้นเจ้าก็เอาออกมาให้ข้าดูหน่อยเถอะ บางทีข้าอาจจะช่วยปรับปรุงแก้ไขให้เจ้าได้”

อันหลินพยักหน้า จากนั้นก็หยิบกันดั้มรูปร่างมนุษย์ที่เขาขโมยมาจากศูนย์วิจัยหมายเลขแปดสิบแปดออกจากแหวนมิติ วางลงบนพื้น

กันดั้มตัวนี้เปล่งรัศมีสีขาว ตั้งแต่หัวจรดเท้าเรียบเนียนมีความโค้งเว้า ซ้ำยังแผ่กลิ่นอายพลังงานบางๆ ราวกับว่ามันมีชีวิต

สายตาเหยียดหยามในคราแรกของศาสตราจารย์หยาง ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นทึ่ง แม้แต่ลมหายใจก็ถี่กระชั้นขึ้นมา

สองมือของเขาส่องแสงสีทอง ลูบไล้กันดั้มสีขาวตัวนี้อย่างสั่นเทา ริมฝีปากสั่นระริก “สร้างจากวัสดุโลหะผสม ค่ายกลผสานกันได้อย่าง…สมบูรณ์แบบ ระบบการตอบโต้…สมบูรณ์แบบ อาวุธ…สมบูรณ์แบบ ไม่ทราบว่า…”

ด้วยเหตุนี้ ศาสตราจารย์หยางจึงยอมแพ้

เพราะเมื่อเทียบกับหุ่นจักรกลที่อันหลินเอาออกมา ยอดมนุษย์เหล็กของเขาสู้หุ่นชั้นต่ำไม่ได้ด้วยซ้ำ…เป็นขยะชัดๆ!

…………

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม

Status: Ongoing
ในโลกมนุษย์ อันหลินดูเหมือนจะถูกพระเจ้าทอดทิ้งเมื่อจู่ๆ พ่อของเขาก็หายตัวไปพร้อมทิ้งหนี้ก้อนโตไว้ให้ ทำให้ชีวิตเขาตกอยู่ในอันตรายหลังจากถูกเจ้าหนี้บีบจนต้องขึ้นไปถึงดาดฟ้าตึก อันหลินกลับถูกลมประหลาดพัดออกจากดาดฟ้าและดิ่งลงพื้นแต่เขากลับไม่ตาย แถมยังรอดพ้นจากเจ้าหนี้ จากนั้นจึงพบว่าผู้ที่ช่วยตนไว้คือท่านเซียนคนหนึ่งท่านเซียนยังได้มอบของขวัญที่ดูเหมือนมาจากความเมตตาอันบริสุทธิ์ให้กับเขานั่นคือ ‘ระบบเทพสงคราม’ พร้อมกับจดหมายรับรองเพื่อมุ่งหน้าไปบำเพ็ญเพียรบนสวรรค์!?มาร่วมเดินทางในโลกอันเป็นตำนานใบใหม่ไปพร้อมกับอันหลินพบปะเพื่อนใหม่มากมาย ได้รับอาวุธและเครื่องไม้เครื่องมือในตำนานและเริ่มต้นเส้นทางการกลายเป็นผู้บำเพ็ญเซียนที่แข็งแกร่งที่สุด…ชีวิตใหม่ของอันหลินพร้อมกับระบบที่ ‘ยอดเยี่ยม’ ของเขาจะไม่มีช่วงเวลาให้เงียบเหงาอย่างแน่นอน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท