ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม – ตอนที่ 232 บงกชเร้นเลือดมาร

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม

“อย่าฆ่าข้า อย่าฆ่าข้าเลย…”

เฉินเยี่ยนมองเจ้าอัปลักษณ์ที่ย่างเข้ามาหาเขาทีละก้าวดุจปีศาจ วิงวอนขอร้องอย่างหวาดกลัว

แข็งแกร่งนัก ทั้งๆ ที่มีพลังยุทธ์เป็นระดับกึ่งแปลงจิตเหมือนกัน แต่เขากลับถูกวานรตัวนี้จัดการจนไม่อาจตอบโต้ได้

แต่เขายังไม่อยากตาย มาถึงขั้นนี้อย่างยากเย็น อีกเพียงก้าวเดียวก็บรรลุระดับแปลงจิตแล้ว ถึงตอนนั้นจะมีอายุยืนนานถึงหมื่นปี เขาจะตายที่นี่ไม่ได้เด็ดขาด!

“ขอแค่เจ้าไม่ฆ่าข้า ข้าจะบอกตำแหน่งบงกชเร้นเลือดปีศาจกับเจ้า บงกชเลือดใกล้จะเจริญวัยแล้ว หากมันเจริญวัยเมื่อใด จะเป็นวัตถุเซียนขั้นสอง กินมันช่วยให้พลังยุทธ์ของเจ้าเพิ่มพูนได้” เฉินเยี่ยนรู้ว่าหากต้องการจะรอด จำต้องอดทนต่อความเจ็บปวดยอมยกของรักของหวงชิ้นนี้ให้

เป็นอย่างที่คาด เจ้าอัปลักษณ์ตาลุกวาวทันที “งั้นดี เจ้าบอกข้ามาว่า บงกชเร้นเลือดปีศาจอยู่ที่ไหน”

“เจ้าให้คำสัตย์สาบานมาก่อน ข้าถึงจะบอกเจ้า” เฉินเยี่ยนกล่าว

เจ้าอัปลักษณ์พยักหน้า เริ่มสาบานตามที่ร้องขอ “ข้าให้คำสัตย์ว่า หากเฉินเยี่ยนยอมบอกตำแหน่งซ่อนตัวของบงกชเร้นเลือดปีศาจ ข้าจะไม่ลงมือกับเฉินเยี่ยน หากว่าคืนคำ ขอให้ฟ้าผ่า จิตแหลกสลาย!”

เมื่อเห็นเจ้าอัปลักษณ์สาบาน เฉินเยี่ยนก็โล่งใจ เริ่มเปิดเผยที่ซ่อนของบงกชเร้นเลือดปีศาจ

เจ้าอัปลักษณ์พยักหน้ายิ้มๆ จากนั้นก็เงยหน้ามองฟ้า

เฉินเยี่ยนเมื่อเห็นดังนั้นก็แหงนหน้าขึ้นตามด้วยความสงสัย จากนั้นเขาก็เห็นลำแสงสีดำที่พุ่งทะลุอากาศมา…

เสี้ยววินาทีต่อมา อันหลินก็ย่ำพื้นและเก็บกระบี่

“พวกเจ้าอาจหาญ…”

เฉินเยี่ยนตาแดงก่ำ ใบหน้ามีแต่ความโกรธแค้นเจ็บใจ พูดอย่างเสียสติ

แต่รอยเส้นสีแดงปรากฏเด่นชัดบนลำคอของเขานานแล้ว

ตุบ ศีรษะหล่นลงพื้น เลือดพุ่งกระฉูด

เสี้ยววินาทีก่อนเฉินเยี่ยนตาย เพิ่งตระหนักได้ว่าตนถูกหลอกถาม เสียดายที่ทุกอย่างสายไปเสียแล้ว

ใช่แล้ว เจ้าอัปลักษณ์ให้คำสัตย์ว่าจะไม่ลงมือกับเขา แต่คนอื่นลงมือได้นี่นา สำหรับอันหลิน การลอบโจมตีนักพรตระดับกึ่งแปลงจิตที่หายใจรวยรินคนหนึ่งนั้น มันช่างง่ายดายเหลือเกิน

หลิวหู่กับหลิวซู่ซู่เห็นอันหลินบั่นคอผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งสำนักอัมพร ความเคารพนับถือในใจทวีคูณ แต่หลังได้เห็นภาพการตายของเฉินเยี่ยนหลังรับรู้ด้านมืดของสำนักนี้แล้ว ในใจก็มีความสะใจเจือปนอยู่บ้างเช่นกัน

“เจ้าอัปลักษณ์ เจ้านำทางไปยังตำแหน่งของบงกชเร้นเลือดปีศาจเถอะ”

กำจัดนักพรตนอกรีตของสำนักอัมพรเหล่านี้เสร็จแล้ว อันหลินก็เก็บแหวนมิติของเฉินเยี่ยน ไม่ชักช้า เข้าประเด็นทันที

เขามาที่นี่ จุดประสงค์หลักก็คือบงกชเร้นเลือดปีศาจ มันสำคัญต่อปฏิบัติการบั่นคอนางพญามดเป็นอย่างยิ่ง

เจ้าอัปลักษณ์เหาะไปยังเนินเขาที่เกิดจากกระดูกสีขาวกองพะเนิน หยิบป้ายอาญาสิทธิ์สีดำบนเนินเขาทั้งเก้าลูกขึ้นมาถือไว้ มาถึงทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอารามอัมพร ปล่อยหมัดกระแทกผิวดินจนเกิดหลุมใหญ่ จากนั้นก็เข้าไปในห้องลับใต้พิภพ

ศูนย์กลางของห้องลับมีค่ายกลขนาดใหญ่ เจ้าอัปลักษณ์วางป้ายอาญาสิทธิ์ทั้งเก้าในแต่ละตำแหน่งของค่ายกล จากนั้นค่ายกลก็เริ่มสั่นอย่างแรง

“ป้ายบงกชสีดำจะกลืนกินเลือดเนื้อและวิญญาณของนักพรต จากนั้นถ่ายทอดของเหล่านี้ให้บงกชเร้นเลือดปีศาจที่อยู่ในห้องลับ ใช้เป็นอาหารเพื่อปลุกมัน” อันหลินมองแท่นสูงที่ค่อยๆ เลื่อนขึ้นมา พร้อมกับบอกข้อมูลที่เขาทราบมาจากหอจื่อเวยของสรวงสวรรค์ “แต่แม้บงกชเร้นเลือดปีศาจจะฟื้นคืนชีพ คนของอารามอัมพรก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ มันไม่ใช่ของขวัญที่นางพญามดมอบให้อารามอัมพรเพื่อการผูกไมตรี แต่นางพญามดหลอกใช้คนของอารามอัมพรเป็นชาวสวน เพื่อหล่อเลี้ยงดอกไม้ดอกนี้ก็เท่านั้น…”

ดอกบัวสีแดงสดพิกลตั้งตระหง่านอยู่บนแท่นสูง กลิ่นหอมประหลาดโชยมา ก่อตัวเป็นความเย้ายวนอย่างแสนสาหัส ชวนให้ลุ่มหลงมัวเมา

หลิวหู่กับหลิวซู่ซู่ที่พลังยุทธ์ค่อนข้างต่ำ เมื่อเห็นดอกบัวดอกนี้ ไม่อาจละสายตาได้เลย ใบหน้ามีรอยยิ้มอิ่มเอมใจปรากฏขึ้น

“จิ๊ๆ ๆ รูปลักษณ์ฉูดฉาดเย้ายวนแบบนี้ แทบจะเทียบเท่าเสี่ยวหงแล้ว” อากัปกิริยาของอันหลินเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเห็นดอกบัวดอกนี้ เอ่ยปากชมเปาะ

จู่ๆ กระเป๋าของเขาก็ขยับอย่างแรง ราวกับกำลังแสดงอาการต่อต้าน

“เอาละๆ…ถ้าดูจากความงดงามเย้ายวนแล้ว ดอกบัวดอกนี้สู้เจ้าไม่ได้ พอใจหรือยัง” อันหลินรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวในกระเป๋า จึงรีบเปลี่ยนคำพูดทันที

แรงสั่นในกระเป๋าแรงขึ้นกว่าเดิม คล้ายว่าจะแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง

“พี่อัน ในเวลาแบบนี้เจ้าน่าจะบอกพี่หงว่า มันแตกต่างกับแพศยาพราวเสน่ห์ด้านนอกนั่นอย่างสิ้นเชิง เป็นความงดงามที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง โฮ่ง!” จู่ๆ ต้าไป๋ก็โพล่งขึ้นมา

เป็นอย่างที่คาด เพิ่งสิ้นเสียง กระเป๋าของอันหลินก็หยุดขยับ

ต้าไป๋มองอันหลินแล้วยิ้มแสยะ แสดงท่าทางเหมือนจะบอกว่า ‘ข้าเข้าใจผู้หญิงที่สุด’

อันหลิน “…”

เอาเถอะ ในเมื่อเป็นแบบนี้ อันหลินก็จำต้องยอมรับว่า ความสามารถในการเดาใจผู้หญิงของเขาสู้หมาตัวหนึ่งไม่ได้ด้วยซ้ำ

เขาไม่คิดอะไรอีก เก็บบงกชเร้นเลือดปีศาจใส่แหวนมิติแล้วขี่ก้อนอิฐจากไป

ทุกคนออกห่างจากอารามอัมพรที่จวนจะพินาศย่อยยับ มุ่งหน้าเหาะไปที่อื่น

หลังหลิวหู่กับหลิวซู่ซู่ขอบคุณอันหลินที่ช่วยชีวิตแล้ว ก็เงียบงันมาเกือบตลอดทาง

พวกเขาสับสนงุนงง เพราะคนในครอบครัวถูกเผ่าพันธุ์มดสังหาร พวกเขาหวังเข้าร่วมปฏิบัติการกำจัดเผ่าพันธุ์มดกับสำนัก แต่ตอนนี้กลับพบเจอเรื่องราวเช่นนี้ที่อารามอัมพร พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป

“ต้องขออภัย เพื่อตามหาพิกัดของอารามอัมพร และลักลอบเข้าไปอย่างราบรื่น ข้าหลอกใช้พวกเจ้า ทำให้พวกเจ้าเอาชีวิตไปเสี่ยง” อันหลินพูดขึ้นมากะทันหัน

หลิวหู่กับหลิวซู่ซู่ต่างก็ชะงักไป ไม่คิดว่าอันหลินจะขอโทษเพราะเรื่องแบบนี้

“ผู้อาวุโสอันหลินอย่าพูดเช่นนี้เลย ตอนนั้นหากไม่ได้ท่านลงมือช่วย ข้ากับลูกสาวคงสิ้นชีพในปากของมดยักษ์ไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นได้ช่วยผู้อาวุโสขุดรากถอนโคนนักบวชนอกรีตที่ไร้ศีลธรรมเช่นนี้ ถือเป็นเกียรติกับข้าและลูกสาวยิ่งนัก” หลิวหู่ตอบอย่างนอบน้อม

คำพูดนี้เป็นความในใจของเขา ตอนนี้หายนะของเผ่าพันธุ์มดทำให้สิ่งชีวิตในแคว้นเทียนเหอวิบัติ ซ้ำยังมีสำนักให้ความร่วมมือกับนางพญามด สามารถสร้างประโยชน์ได้ในการกำจัดหายนะแบบนี้ ที่จริงแล้วพวกเขาก็ดีใจอยู่มากเหมือนกัน

อันหลินพยักหน้าอย่างละอายใจ จากนั้นถามว่า “เช่นนั้นพวกเจ้ายังคิดจะเข้าร่วมสมาคมต่อต้านเผ่าพันธุ์มดอยู่หรือไม่ สมาคมที่จัดตั้งโดยสำนักเหวินกู่แห่งแคว้นเทียนเหอน่ะ”

“สำนักเหวินกู่…” หลิวหู่เบิกตากว้าง “นั่นมันสำนักอันดับหนึ่งแห่งเขตเฮยเหยียนของเราไม่ใช่หรือ!”

“ก็ใช่น่ะสิ ข้ากับผู้อาวุโสท่านหนึ่งของสำนักเซียนพอจะรู้จักกันบ้าง” อันหลินทำหน้ารำลึกความหลัง

ในความคิดของเขา มีผู้หญิงที่เคยวนเวียนอยู่ในความมืดมิดคนนั้นผุดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

“ว่าอย่างไร จะไปหรือไม่ หากอยากไปละก็ ข้าจะไปส่งพวกเจ้าที่นั่น” อันหลินเอ่ยถามต่อ

เมื่อได้ยินว่ายังมีโอกาสเข้าร่วมสมาคมต่อต้านเผ่าพันธุ์มดอีก พวกเขาสองคนก็ตกปากรับคำโดยที่ไม่คิดเลย

อันหลินไม่พูดพร่ำทำเพลง พาสองพ่อลูกมุ่งหน้าเหาะไปทางหุบเหวหมื่นกาลี

ชายแดนหุบเหวหมื่นกาลีต่างหากที่เป็นศูนย์กลางการปราบปรามเผ่าพันธุ์มด

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม

Status: Ongoing
ในโลกมนุษย์ อันหลินดูเหมือนจะถูกพระเจ้าทอดทิ้งเมื่อจู่ๆ พ่อของเขาก็หายตัวไปพร้อมทิ้งหนี้ก้อนโตไว้ให้ ทำให้ชีวิตเขาตกอยู่ในอันตรายหลังจากถูกเจ้าหนี้บีบจนต้องขึ้นไปถึงดาดฟ้าตึก อันหลินกลับถูกลมประหลาดพัดออกจากดาดฟ้าและดิ่งลงพื้นแต่เขากลับไม่ตาย แถมยังรอดพ้นจากเจ้าหนี้ จากนั้นจึงพบว่าผู้ที่ช่วยตนไว้คือท่านเซียนคนหนึ่งท่านเซียนยังได้มอบของขวัญที่ดูเหมือนมาจากความเมตตาอันบริสุทธิ์ให้กับเขานั่นคือ ‘ระบบเทพสงคราม’ พร้อมกับจดหมายรับรองเพื่อมุ่งหน้าไปบำเพ็ญเพียรบนสวรรค์!?มาร่วมเดินทางในโลกอันเป็นตำนานใบใหม่ไปพร้อมกับอันหลินพบปะเพื่อนใหม่มากมาย ได้รับอาวุธและเครื่องไม้เครื่องมือในตำนานและเริ่มต้นเส้นทางการกลายเป็นผู้บำเพ็ญเซียนที่แข็งแกร่งที่สุด…ชีวิตใหม่ของอันหลินพร้อมกับระบบที่ ‘ยอดเยี่ยม’ ของเขาจะไม่มีช่วงเวลาให้เงียบเหงาอย่างแน่นอน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท