รัตติกาลมืดมน ดวงจันทร์ถูกเมฆดำบดบัง
ไม่รู้เพราะเหตุใด หมอกหนาเริ่มจางไป มองเห็นแสงดาวระยิบระยับกลางนภา
ณ เกาะปีศาจ ค่ายกลสังเวยเลือดสิบวิญญาณถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง เลือดแห้งกรังบนธรณิน
พสุธาที่ส่องแสงสีม่วงแผ่กลิ่นอายพิศวง
มังกรหกปีกฉวัดเฉวียนเหนือเวหา เปลวไฟสีชาดห้อมล้อมรอบกาย ส่องผืนฟ้าให้สว่างไสว
อันหลิน ต้าไป๋ เจ้าอัปลักษณ์ ต๋าอีและต๋าเอ้อร์ต่างก็ยืนอยู่บนก้อนอิฐสีดำ ทอดมองเกาะปีศาจที่อยู่เบื้องล่างด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
กับดักที่ต๋าอีกับต๋าเอ้อร์เตรียมไว้พร้อมใช้งานแล้ว ตอนนี้รอเพียงช่วงเวลาที่จอมปีศาจทลายพันธนาการเท่านั้น
ยุคทองของจอมปีศาจมีพลังระดับหวนสู่ความว่างเปล่า ระดับพลังยุทธ์แบบนั้น ต่อให้ค้นหาทั่วแผ่นดิน มันก็มีเพียงสุดยอดผู้กล้าเท่านั้น
ตอนนั้นเสิ่นอิงอยู่ในระดับกึ่งแปลงจิต เป็นบุคคลที่มีฝีมือเหนือชั้นอย่างยิ่ง หลังใช้ไพ่ตายนับไม่ถ้วน ก็ยังสังหารมันไม่ได้ เพียงแค่ผนึกมันไว้ในเขาจื่อเหมิงเท่านั้น จะเห็นได้ว่าจอมปีศาจน่ากลัวปานใด
บัดนี้จอมปีศาจถูกผนึกร่วมหมื่นปีแล้ว มีความหวังจะได้ปลดเปลื้องพันธนาการสักที มันในตอนนี้ เป็นช่วงเวลาที่อ่อนแอที่สุดแน่นอน แต่ความสามารถของมันยังคงสุดแท้หยั่งถึง
ฉะนั้นคำถามที่ว่าจะเอาชนะจอมปีศาจได้หรือไม่นั้น พวกอันหลินก็ไม่มั่นใจเท่าใดนัก
ไม่รู้ว่าดวงดาวสีทองทั้งเก้าโคจรมาอยู่บนระนาบเดียวกันตั้งแต่เมื่อใด ลอยเด่นกลางท้องฟ้ายามราตรีประหนึ่งกระบี่สีทองเล่มหนึ่ง
ครืน…
ทันใดนั้น ธรณีสีม่วงก็เริ่มสั่นสะเทือนขึ้นมา
“มาแล้ว!” ใจของอันหลินกระตุกวูบ พูดอย่างลุ้นระทึก
พลังแห่งดารากลางนภาประหนึ่งถูกพลังบางอย่างของแผ่นดินสีม่วงชักนำ ดวงดาวสีทองเก้าดวงสว่างกว่าเดิม ลำแสงสีทองจากห้วงอากาศพุ่งทะยานลงมา แทรกซึมลงในเกาะปีศาจอย่างเชื่องช้า
แกรก…
เสียงราวกับพันธนาการบางอย่างถูกปลดออก แสงสีม่วงบนเกาะปีศาจพลันสลัวลง จากนั้นเสาแสงสีม่วงก็พวยพุ่งขึ้นทะลุชั้นเมฆ เสมือนจะทลายฟ้าดินผืนนี้
“โอ้โห ภาพแบบนี้มันเหตุการณ์ของกำเนิดจอมปีศาจชัดๆ!” อันหลินชมไม่ขาดปาก กล้ามเนื้อทั่วร่างเริ่มหดเกร็ง จดจ้องเสาแสงบนพื้นไม่วางตา
ลำแสงสีม่วงจางหายไป สิ่งมีชีวิตร่างมนุษย์ปรากฏกายบนผิวดิน
ผิวของเขาเป็นสีม่วงอ่อน นัยน์ตาหม่นหมองลุ่มลึกประดุจหลุมดำไร้ก้น มีวงแหวนสีม่วงเหนือศีรษะ กำลังเปล่งรัศมีเจิดจ้า
“ท่านผู้วิเศษ…” มังกรหกปีกเนื้อตัวสั่นเทิ้มเมื่อเห็นจอมปีศาจปรากฏกาย ในใจเกิดความรู้สึกเคารพเลื่อมใสอย่างไม่รู้ตัว มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของบุคคลที่มีชั้นต่ำซึ่งมีต่อบุคคลชั้นสูง
จอมปีศาจเงยหน้ามองทุกคนบนนภา สีหน้าปราศจากการเปลี่ยนแปลงใด
“เริ่มต่อสู้ ระเบิดแม่เหล็กไฟฟ้า เดินเครื่อง!” อันหลินโพล่งขึ้นมา
ตูม! บอลสายฟ้าที่ซุกซ่อนใต้พิภพเคลื่อนตัวไปอยู่ใต้ฝ่าเท้าของจอมปีศาจแล้วระเบิดทันที
พื้นดินในรัศมีร้อยเมตรถูกสายฟ้าทำลายล้างจนย่อยยับในพริบตา ทั้งบริเวณกลายเป็นขุมนรกอัสนี
มังกรหกปีกอ้าปากพ่นลมหายใจ เปลวไฟสีแดงดิ่งลงไปหาจอมปีศาจราวกับเพลิงสวรรค์ลงทัณฑ์ ระเบิดและหลอมปฐพีทั้งผืนให้สลาย
ระเบิดแสงของต๋าอีกับต๋าเอ้อร์โจมตีจอมปีศาจพร้อมกัน ทั้งเพลิงนิลของเจ้าอัปลักษณ์ ใบมีดลมของต้าไป๋ หมัดสะเทือนขุนเขาของอันหลิน ต่างก็พุ่งไปโจมตีจอมปีศาจ
ครืน!
พลังงานที่น่ากลัวทำให้เกาะสั่นไหว ท้องทะเลเกลือกกลิ้ง
การระเบิดของพลังงานทำให้เหมือนมีดวงตะวันเจิดจ้าร้อนระอุโผล่มาในม่านรัตติกาล ส่องโลกให้สว่างไสว
การโจมตีที่ถี่และน่ากลัวเช่นนี้ แม้แต่มังกรหกปีกก็ใจสั่นหวั่นไหว
มันบอกกับตัวเองว่า หากตนอยู่ภายใต้การโจมตีเช่นนี้ ให้มันสิบชีวิตก็ไม่พอต่อต้าน
ฟิ้ว!
ลำแสงสีม่วงเส้นหนึ่งพุ่งมาหามังกรหกปีกในพริบตาปานสายฟ้า
มังกรหกปีกเบิกตากว้าง นี่แหละจอมปีศาจ! แม้มันจะบาดเจ็บ เนื้อตัวมีเลือดสีม่วงไหลซึมออกมา แต่พลังมหาศาลดุจทะเลกว้างยังคงพุ่งทะยาน ตอนนี้บรรลุระดับที่น่าสะพรึงอย่างมหันต์แล้ว
จอมปีศาจถูกกระแสอากาศสีม่วงปกคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้า ทะลวงร่างของมังกรหกปีกทันใดประดุจสายฟ้า!
“อ๊าก!” มังกรหกปีกหวีดร้อง ร่างถูกทะลวงเป็นรูใหญ่ เลือดสาดกระจายเต็มนภา
รวดเร็วเหลือเกิน!
เร็วจนมังกรหกปีกไม่ทันได้ป้องกันเลย!
ฟิ้ว! จอมปีศาจไม่หยุดยั้ง กลายเป็นลำแสงสีม่วงพุ่งใส่ศีรษะของมังกรหกปีกอีกครั้ง
โครม! ครั้งนี้ลำแสงสีม่วงชนกับดวงแสงสีน้ำเงิน เกิดริ้วคลื่นรุนแรงเป็นระลอก
กันดั้มลงมือแล้ว ค่ายกลป้องกันไอออนแผ่ขยาย นับว่าสกัดการโจมตีของจอมปีศาจไว้ได้
ขณะที่ค่ายกลป้องกันเริ่มปริแตก กันดั้มอีกตัวก็เงื้อดาบเลเซอร์จะฟันจอมปีศาจ
จอมปีศาจถอยหลัง หลบจากการฟันของดาบเลเซอร์ได้อย่างหวุดหวิด
“อาวุธอัจฉริยะของจื่อซิงหรือ”
จอมปีศาจพูดนิ่งๆ ใบหน้าเจือความฉงนใจ
จากนั้นเขาก็เสตามองมังกรหกปีก “เจ้าทรยศเจตจำนงของข้า สวามิภักดิ์ต่อศัตรู ทำลายค่ายสังเวยเลือดสิบวิญญาณ ตายเสียเถอะ!”
สิ้นเสียงของจอมปีศาจ วงแหวนสีม่วงเหนือศีรษะก็พลันขยายใหญ่เป็นเท่าตัว
ความน่าเกรงขามที่ชวนให้หยุดหายใจแผ่ออกจากตัวเขาอย่างไม่กลัวเกรง เริ่มมีวงแหวนสีม่วงปรากฏรอบสองมือราวกับเป็นกำไลข้อมือ
ยกมือขึ้นแล้วปล่อยหมัดลงมา!
ร่างสีม่วง หมัดที่ทรงพลังดุจหมื่นขุนเขากระแทกค่ายกลไอออนทันใด
ค่ายกลไอออนแตกระแหง เสี้ยววินาทีต่อมา ม่านแสงสีม่วงก็แตกกระจายราวกับกระจก
หมัดทลายค่ายกลป้องกัน กระแทกศีรษะของมังกรหกปีก
ความน่ากลัวของอานุภาพแห่งหมัดทำให้สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง
ขณะที่จอมปีศาจปล่อยหมัด กะโหลกของมังกรปีศาจยุบตัว น้ำลายฟูมปาก ร่วงลงสู่พสุธานั้น ลำแสงสีขาวเส้นหนึ่งก็ปล่อยกระแสลมออกมาเป็นทาง เชือดลำคอของจอมปีศาจด้วยองศาที่แปลกพิลึก
จอมปีศาจที่เฉยเมยเสมอมาหน้าถอดสี ร่นถอยทันใด!
เลือดสีม่วงพวยพุ่งขึ้นอีกครั้ง รอยเลือดไม่ตื้นไม่ลึกปรากฏบนลำคอของจอมปีศาจ
วานรสวมหน้ากากโผล่มาด้านหลังจอมปีศาจ กระบองสีเงินแหวกอากาศจะฟาดศีรษะของมัน!
จอมปีศาจหันหลัง ปล่อยหมัดมาทางด้านหลัง กระแทกกับกระบองเงิน
โครม!
พลังมหาศาลผลักภูเขาพลิกทะเลจู่โจมเจ้าอัปลักษณ์ ทำให้มันกระอักเลือดและกระเด็นออกไป
ในตอนนั้นเอง ฟ้าดินก็มืดมน เงียบสงัดทันใด มีเพียงลำแสงสีดำเท่านั้นที่ฟันสันหลังของจอมปีศาจด้วยพลังทำลายล้างขั้นสุดยอด!
หลังอันหลินใช้กระบี่แห่งสายลมแล้ว ก็ใช้เงาพยัคฆ์ กระบวนท่าที่สองของหกกระบี่เทพสงครามอย่างไม่ลังเล!
ลำแสงสีดำยืดยาวร่วมร้อยจั้ง พุ่งลงมาอย่างไร้สุ้มเสียง ราวกับจะตัดทุกสรรพสิ่งให้ขาด กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง
เสียงแผดร้องดังขึ้น ร่างสีม่วงหลบหนีอย่างบ้าคลั่งไปพร้อมกับเลือดที่สาดกระจาย
ท้องฟ้ากลับมาสว่างโร่อีกครั้ง จอมปีศาจปรากฏกายห่างอันหลินพันเมตร จ้องอันหลินด้วยความตกตะลึง
ตั้งแต่ศีรษะยันเอวของมัน มีบาดแผลที่น่าสะพรึงกลัวเป็นทาง ราวกับจะฉีกร่างของมันเป็นสองท่อน เลือดสีม่วงพรั่งพรูไม่หยุด โปรยปรายเต็มพื้น
หากนักพรตทั่วไปได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ คงตายไปนานแล้ว
แต่จอมปีศาจเพียงแค่หายใจหอบ จดจ้องอันหลินอย่างหวาดระแวง
“ข้าประเมินศัตรูต่ำไป ไม่คิดว่านักพรตระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณจะใช้เพลงกระบี่ที่น่ากลัวเช่นนี้ได้…”
จอมปีศาจจำต้องยอมรับว่า นักพรตตรงหน้าเกือบทำให้มันเรือล่มในคลองเสียแล้ว[1]
อันหลินก็ตกใจเช่นกัน ฉวยจังหวะที่มังกรปีศาจโดนทำร้าย ตนกับเจ้าอัปลักษณ์โจมตีสุดกำลังโดยไม่ทันตั้งตัว ต่อให้เป็นบุคคลระดับแปลงจิตขั้นปลายก็ต้องตายทันที
แต่จอมปีศาจตนนี้ตอบสนองรวดเร็วเหลือเกิน หลบกระบี่แห่งสายลมได้ไม่พอ แม้แต่การโจมตีที่ลึกลับเกินหยั่งอย่างเงาพยัคฆ์ก็ถูกมันหลบหลีกพลังทำลายล้างไปได้มากกว่าครึ่ง…
อันหลินกินยาบำรุงเลือดลม เริ่มฟื้นฟูพลังปราณ
“ต๋าอี ต๋าเอ้อร์ ไป!”
จอมปีศาจได้รับบาดเจ็บแล้ว ต๋าอีกับต๋าเอ้อร์พุ่งใส่จอมปีศาจอีกครั้ง
ครั้งนี้ต๋าอีกับต๋าเอ้อร์มีพลังต่อสู้ สามารถสู้รบปรบมือกับจอมปีศาจแล้ว
อันหลินกินยาบำรุงเลือดลมเสร็จ พลังที่หมดไปกับการใช้หกกระบี่เทพสงครามเริ่มฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว
“หึๆ ต่อให้จอมปีศาจจะแข็งแกร่งแล้วอย่างไร กลยุทธ์ผลัดกันสู้ต้องฆ่าเจ้าได้แน่!”
ใบหน้าของเขาฉายความมั่นใจ หิ้วกระบี่เหาะไปหาจอมปีศาจอีกครั้ง
[1] เรือล่มในคลอง หมายถึง เกิดปัญหาในสิ่งที่ตนถนัด