พอสมาชิกรอบๆ ได้ยินประโยคนี้ ก็รู้สึกเหมือนมีม้านับหมื่นวิ่งห้อในใจ
คำพูดที่อวดดีขนาดนี้ ยังมีหน้าพูดออกมาอย่างผ่าเผยอีกเหรอ ลุงหน้าแดงไม่เป็นเหรอ!
จากนั้นเรื่องที่เหลวไหลยิ่งกว่าก็เกิดขึ้น
หลังเฉิงอิงขบคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าตอบตกลง “ได้ ในเมื่อสหายอันหลินจะมา งั้นฉันจะไม่เรียกกำลังเสริมแล้ว”
เมื่อสมาชิกที่เหลือได้ยินก็อึ้งกันเป็นทิวแถว มองหัวหน้าทีมของพวกเขาด้วยความตะลึง
คำพูดอวดเก่งอย่าง ‘ต่อให้เป็นเทพ ก็จะฆ่าให้ทุกคนดู’ พลตรีเฉิงอิงเชื่อด้วยงั้นเหรอ!
เฉิงอิงไม่เหมือนพวกเขา เขารู้ข้อมูลเกี่ยวกับอันหลินเยอะกว่า และครอบคลุมกว่า
เขาจึงมีเหตุผลที่จะเชื่อว่าอันหลินจัดการทุกอย่างได้ อันหลินนี่แหละกำลังเสริมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!
ลู่เสวี่ยใช้ท่อนแขนขาวราวหิมะกระทุ้งอันหมิงชวน เอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า “พี่อัน ลูกชายพี่เป็นใครกันแน่น่ะ”
อันหมิงชวนยิ้มบางๆ แต่ใบหน้ากลับมีความภาคภูมิใจอย่างปิดไม่มิด “ตัวจริงของเขาฉันบอกไม่ได้ แต่ฉันแอบบอกเธอได้นิดหน่อยว่า กระบี่น้ำค้างครามเล่มนี้ ได้มาจากลูกชายฉันนั่นแหละ”
“อะไรนะ! นี่มันอาวุธวิเศษเชียวนะ!”
ลู่เสวี่ยหายใจเข้าดังเฮือก ดวงตาคู่สวยเบิกจนกลมกว้าง ใบหน้าตกตะลึง
ในวงการบำเพ็ญเซียนของประเทศจีน อาวุธวิเศษจัดอยู่ในประเภทอาวุธเทวะ อย่าว่าแต่นักพรตกายแห่งมรรคเลย ต่อให้เป็นนักพรตหล่อเลี้ยงวิญญาณก็ไม่มีทางได้ครอบครองอาวุธวิเศษ แต่คนคนนั้นกลับมอบอาวุธวิเศษให้ตั้งหนึ่งเล่ม ต้องใจป้ำขนาดไหนกัน
“ลูกชายของพี่สุดยอดจริงๆ!” ครู่ใหญ่กว่าเธอจะอุทานออกมา
“งั้นๆ แหละ ก็แค่สุดยอดธรรมดาทั่วๆ ไป” อันหมิงชวนตอบเรียบๆ
ลู่เสวี่ย “…”
ในตอนนั้นเอง เฉิงอิงก็พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “พลังปราณเขาฉางไป๋ปรวนแปร พลังงานกำลังไหลมาบรรจบที่เทือกเขา นี่เป็นเวลาที่เหล่าปีศาจเริงระบำ”
“และหมู่บ้านที่ถูกราชาศพรุกรานหมู่บ้านนี้ น่าจะเป็นสถานที่ที่มันสร้างผีดิบ เพียงแต่ว่าผีดิบยังสร้างไม่สำเร็จ พวกเราก็ฆ่าพวกมันตายจนหมดซะก่อน คิดว่าราชาศพน่าจะพิโรธแน่ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะกลับมาอีก สหายอันหลินยังมาไม่ถึง พวกเราหาที่ลับตาซ่อนตัวกันก่อนเถอะ”
ทุกคนต่างก็พยักหน้าอย่างเห็นดีเห็นงามด้วย พวกเขาไม่คาดหวังกับคนที่เดินทางมาช่วยเหลือมากเท่าใดนัก และไม่มีทางยืนบื้ออยู่ที่เดิมรอให้ราชาศพปรากฏตัว
ทว่าเสียงของเฉิงอิงเพิ่งหยุดลง หมอกดำกลุ่มหนึ่งก็กลายเป็นเขตอาคมปกคลุมรอบทิศเสียแล้ว
เสียงหัวเราะชั่วร้ายดังขึ้นทันใด กระจายไปทั่วพื้นที่ “วะฮ่าๆ ๆ ๆ…มาทำลายสัตว์เลี้ยงของข้า ยังคิดจะเล่นซ่อนแอบกับข้างั้นหรือ คนร้ายอย่างพวกเจ้าช่างเล่นเก่งเสียจริง…”
ครืน! พลังที่ยิ่งใหญ่อย่างมหันต์พุ่งมาแต่ไกล กดดันจนทุกคนเริ่มหายใจไม่ออก
“ทุกคนระวังนะ! เกาะกันเป็นกลุ่ม หมอกดำพวกนั้นเป็นพิษศพ ห้ามสัมผัสโดยเด็ดขาด!” เฉิงอิงตะโกนลั่น ขณะเดียวกันก็ชักดาบสีแดงเล่มหนึ่งออกมา จดจ้องเบื้องหน้าดุจเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ
“เหอะๆ…พวกเจ้าอย่าขัดขืนเลย ยอมมาเป็นผีดิบของข้าเสียดีๆ ข้าทำให้พวกเจ้าสบายได้นะ…”
หญิงคนหนึ่งเยื้องย่างทะลุหมอกดำมา เอ่ยวาจาพร้อมกับยิ้มชั่วร้าย
ใบหน้างามสะคราญ ผมดำขลับยาวจรดบั้นเอว กายท่อนบนเปลือยเปล่า คลื่นพลังโหมกระหน่ำ เอวคอดกิ่วสวมกระโปรงหญ้า เผยให้เห็นเรียวขายาวเย้ายวน
ทุกคนเห็นเรือนร่างที่อิ่มเอิบมีเสน่ห์ของหญิงคนนี้ แต่ในใจไม่ตื่นเต้นเลยสักนิด กลับรู้สึกถึงความเย็นเยือกบาดกระดูก เพราะผิวหนังขาวปลอดของเธอมีสีดำปะปน ไอความตายอันเข้มข้นแผ่ออกมาจากตัว ทำให้หายใจติดขัด
ชายสองคนที่มีผิวสีทองตามหลังเธอมาประหนึ่งหุ่นเชิด แววตาเลื่อนลอย
เฉิงอิงสัมผัสได้ถึงพลังอันมหาศาลของผู้หญิงคนนั้น รู้แล้วว่าไม่ใช่สิ่งที่ตนจะสู้ได้ แต่เขายังคงคุ้มกันเหล่าสมาชิกด้วยความเด็ดเดี่ยว
“ทุกคนอย่าบุ่มบ่าม ราชาศพยกให้ฉันจัดการเอง!” เขายกดาบขึ้นขวางหน้า เอ่ยด้วยแววตาที่ดุดัน
“วะฮ่าๆ ๆ…ช่างเป็นมนุษย์ที่น่ารักจริงๆ กิริยาท่าทางใช้ได้นะ” หญิงผมยาวกุมหน้าท้องอันแบนราบแล้วหัวเราะ “แต่ว่า…ใครบอกเจ้ากันว่า ข้าคือราชาศพ”
จู่ๆ เบ้าตาของหญิงสาวก็กลายเป็นสีดำทะมึนทึนทึบ
จากนั้นอานุภาพที่บ้าระห่ำก็กระจายมากดทับทุกคนประหนึ่งเป็นขุนเขา
ในรัศมีห้าจั้งรอบตัวเธอ มีผีดิบเริงระบำ หมื่นวิญญาณโหยหวน ยิ่งไปกว่านั้นมีไอศพกลายเป็นมังกรดำแยกเขี้ยวอีกด้วย
“นี่มัน…โดเมนงั้นเหรอ” เฉิงอิงสะดุ้งโหยง สีหน้าไม่อาจเก็บอาการได้อีก
“โดเมนงั้นเหรอ หรือนี่จะเป็นระดับแปลงจิตในตำนาน…”
“เสร็จกัน พวกเราเจอเทพศพ!”
“นี่มันดวงบ้าอะไรกันเนี่ย แค่ทำภารกิจเจอศัตรูระดับแปลงจิตเลยงั้นเหรอ!”
“ตอนนี้หนีไม่พ้นแล้วจริงๆ…”
หลังสมาชิกสิบกว่าคนเห็นโดเมนที่หญิงคนนั้นปล่อยออกมา สัมผัสได้ถึงพลังที่น่ากลัว ต่างก็แสดงสีหน้าสิ้นหวังกันระนาว
ใบหน้างดงามของลู่เสวี่ยซีดเผือด เมื่อก่อนเธอเคยเจอศัตรูที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ที่ไหนกัน ตอนนี้ทำได้เพียงยืนนิ่งกับที่ ไม่รู้ว่าควรจะรับมืออย่างไร
“นี่นะเหรอระดับแปลงจิต”
อันหมิงชวนเคร่งขรึม มือกำกระบี่น้ำค้างครามแน่น จ้องหญิงสาวตรงเบื้องหน้า ร่างกายสั่นเทาอย่างไม่รู้ตัว มันเป็นปฏิกิริยาจากจิตใต้สำนึกที่เกิดขึ้นเพราะความแตกต่างราวฟ้ากับเหว
“เหอะๆ ที่รักทุกๆ คน อย่ากังวลไปสิ ข้าอ่อนโยนมากนะ” ใบหน้าของหญิงสาวเผยรอยยิ้มชั่วร้าย นัยน์เนตรกวาดมองเหล่าสมาชิกสิบกว่าคนที่เกาะกันเป็นก้อน
สุดท้ายแววตาของเธอก็หยุดอยู่ที่กระบี่ของอันหมิงชวน สายตาเจือความแปลกใจ
“โอ้ เหมือนจะมีของดีแฮะ รอบนี้ข้าได้กำไรแล้ว”
“ไป ไปชิงกระบี่เล่มนั้นมาให้ข้า!”
สิ้นคำสั่งของเทพศพ ผีดิบที่มีผิวสีทองสองตนก็ขยับ พุ่งตัวใส่อันหมิงชวนทันที
“อย่าคิดจะแตะต้องหมิงชวน!”
เฉิงอิงถือดาบสีแดง กายยืนขวางหน้าอันหมิงชวน เงื้อขึ้นแล้วฟันผีดิบสีทอง
ผีดิบสีทองทั้งสองตนไม่หลบไม่หลีก ปล่อยหมัดกระแทกดาบสีแดง
ดาบสีแดงที่มีเปลวไฟร้อนระอุปะทะกับหมัดของผีดิบสีทองทั้งสอง พลังงานระเบิดโดยพลัน ทำให้พื้นพสุธาในรัศมีสามจั้งแตกระแหง
เฉิงอิงถูกพลังงานมวลใหญ่ที่น่าสะพรึงกระแทกจนถอยหลังหลายก้าว เลือดทะลักออกมาจากปาก
แต่ผีดิบสีทองสองตนกลับยืนตระหง่านดังเดิม หมัดมีร่องรอยสีขาว นอกเหนือจากนั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย
เมื่อสู้กันแล้ว ความแตกต่างทางพลังของทั้งสองฝ่าย ตัดสินได้ทันที
“เป็นไปได้ยังไง…” เฉิงอิงคาดไม่ถึง แม้แต่ผีดิบที่ถูกสร้างโดยเทพศพก็ยังเหนือกว่าเขา
ถ้าเป็นแบบนี้ ศึกนี้จะดำเนินไปได้อย่างไร
“เฮ้อ ไยจึงชักช้าเช่นนี้ ข้ารอไม่ไหวแล้ว ข้าลงมือด้วยตัวเองดีกว่า”
เทพศพแลบลิ้นสีเรื่อเลียริมฝีปาก หมอกดำทั่วร่างกลายเป็นมังกรดำที่กำลังคำรามสองตัว กระโจนใส่อันหมิงชวนด้วยอานุภาพที่ไม่อาจหลบเลี่ยงได้
มังกรดำแฝงด้วยพลังทำลายล้างและความตายอันล้นเหลือ ธรณีทุกหนแห่งที่ผ่านถูกกัดกร่อนจนเป็นดำทะมึน อากาศก็ขมุกขมัวมืดสลัว ชวนให้รู้สึกสิ้นหวัง
เทพศพยิ้มบางๆ ความยิ่งใหญ่ของกระบวนท่านี้ ต่อให้เฉิงอิงขัดขวาง ก็จะถูกสังหารในพริบตาเดียว
สมาชิกบางคนเมื่อเห็นมังกรดำที่พุ่งทะยาน ถึงกับตกใจจนล้มนั่งกับพื้น ใบหน้าซีดเซียว
อันหมิงชวนยังคงกำกระบี่ประจันหน้ากับมังกรดำสองตัว แม้จะพรั่นพรึง แต่ก็ไม่สิ้นหวัง เพราะเขารู้ว่าพวกเขายังไม่แพ้!
“บังอาจโจมตีพ่อฉัน ตายซะเถอะ!”
เสียงตวาดกังวานทะลุค่ายกลหมอกดำ ก้องโสตประสาทของผู้คนรอบข้าง
จากนั้นหมัดสีทองที่มีกระแสไฟห้อมล้อมก็พุ่งลงมาจากฟ้า กระแทกมังกรดำที่ทรงพลังจนแหลกสลาย
“แรงดันราชันวายุ! โฮ่ง!”
พายุหมุนที่น่าสะพรึงกลัวกระแทกเทพศพโดยไม่ทันตั้งตัว จากนั้นร่างสีขาวก็พุ่งตรงไปทางเทพศพ ฉีกโดเมนจนกระจุกกระจาย ชนเธอจนล้มลง
อุ้งมือสีขาวทั้งสองข้างตรึงข้อมือของหญิงสาวไว้แน่น ก้นใหญ่ยักษ์ทับหน้าท้องอันเรียบเนียนแบนราบ
สมาชิกทุกคนรวมถึงเฉิงอิงต่างก็ตะลึงพรึงเพริด จ้องผู้มาเยือนอย่างไม่เชื่อสายตา
เทพศพผู้ยิ่งใหญ่ที่ยโสโอหังตนนั้น ถูกสุนัขสีขาวตัวเขื่องโถมตัวล้มทับด้วยท่วงท่าที่คลาสสิกอย่างยิ่ง!
อันหมิงชวนมองร่างที่คร่อมอยู่เหนือสุขันสีขาวอึ้งๆ ร่างนั้นให้ความรู้สึกปลอดภัยเชื่อถือได้
ลูกชายของเขาโตแล้ว…
ทุกคนยังไม่ทันได้หายใจหายคอ เหตุพลิกผันบังเกิด
สุนัขสีขาวตัวเขื่องถูกโจมตีเข้าอย่างจัง เลือดสาดกระจายว่อนอากาศ!
สมาชิกทุกคนกังวลใจขึ้นมาทันที เมื่อรู้ว่าเทพศพตอบโต้แล้ว
จากนั้นเสียงตะโกนก็ดังขึ้น
“คุณพระ! พี่อัน ทำไมผู้หญิงคนนี้ไม่ใส่เสื้อผ้า!”
“ร้อนแรงเหลือเกิน! โฮ่ง!”
ทุกคน “…”