รัตติกาล บ่อสวรรค์แห่งเขาฉางไป๋
จู่ๆ ก็มีลำแสงห้าสีเส้นหนึ่งปรากฏบนท้องนภา
ทะเลสาบสะท้อนดาราดวงจันทร์กลางผืนฟ้ายามราตรี ริ้วคลื่นระยิบระยับ ภายในความสงบที่กระแสกำลังซัดสาด
แม้ลำแสงห้าสีจะคงอยู่เพียงระยะเวลาสั้นๆ สิบกว่าวินาที กลับดึงดูดให้นักพรตแทบจะทั้งหมดในเขาฉางไป๋ให้มุ่งหน้า
พวกอันหลินกลับไม่มีทีท่าตื่นเต้นอะไรมากนัก เพียงแค่รอในค่ายกลป้องกันเงียบๆ รอให้สุสานเปิด
ผู้แข็งแกร่งของหลายอิทธิพลพากันรวมตัวละแวกบ่อสวรรค์กันระนาว ในผืนป่ามีเงาดำผลุบโผล่ บรรยากาศรอบข้างตึงเครียดและเย็นเยือก เรียกได้ว่าอันตรายรอบด้านของแท้ เมื่อมีสิ่งของที่จับต้องได้ปรากฏขึ้น เกรงว่าคงเกิดศึกตะลุมบอน
เถียนหลิงหลิงกับหลิวเชียนฮ่วนเริ่มสู้กันแล้ว
เถียนหลิงหลิงกำลังเล่นเกมใหม่ที่มีชื่อว่าลีคออฟคิง ด้วยความสามารถแรงค์ไดมอนด์อย่างเธอ จึงแพ้พ่ายราบคาบ ถูกศิษย์พี่หลิวจอมโกงรังแกจนแพ้ยับเยิน
ถามว่าทำไมเธอถึงต้องเล่นอีก
ถามมาก เล่นด้วยแล้วได้เงินนี่นา!
หนึ่งชั่วยามได้ค่าตอบแทนตั้งหนึ่งร้อยหินวิญญาณ! มีแต่คนโง่ที่จะปฏิเสธ!
แต่ทว่าเธอไม่รู้ว่า ตอนที่อยู่ในสำนักความร่วมมือบำเพ็ญเซียน ค่าตอบแทนที่อันหลินเล่นเกมกับหลิวเชียนฮ่วนคือชั่วยามละหนึ่งพันหินวิญญาณ…
แต่แล้วอย่างไรเล่า เถียนหลิงหลิงไม่รู้เรื่องนี้ เธอจึงเล่นอย่างสบายใจเฉิบ
หลิวเชียนฮ่วนเองก็สนุกมากเช่นกัน
ทุกคนต่างก็มีเบิกบานใจมาก ล้วนแต่สุขใจ!
บนภูเขาลูกหนึ่งข้างบ่อสวรรค์ มีดวงตาสีแดงฉานคู่หนึ่งกลางพงไพร บัดนี้กำลังแผ่กลิ่นอายอันตราย
เจ้าของดวงตาเป็นบุรุษที่มีรูปโฉมหล่อเหลา เขามีนามว่าดุค เป็นเจ้าแห่งผีดูดเลือดผู้สูงส่ง เป็นสุดยอดผู้แข็งแกร่งแห่งเผ่าพันธุ์ผีดูดเลือดตะวันตก แต่ตอนนี้เขาหมดสภาพมาก ชุดคลุมสีแดงกับเสื้อผ้าห้อยต่องแต่งตามตัวเหมือนสายเอี๊ยม ดุจยาจกที่เร่ขอทานตามท้องถนนก็ไม่ปาน
บรู๊ว…
ในตอนนั้นเอง เสียงหมาป่าที่ทระนงก็แว่วมาจากยอดเขาที่อยู่ไกลออกไป สะท้อนก้องบ่อสวรรค์และภูเขาสิบกว่าลูกละแวกนี้ด้วยพลังมหาศาล
“ท่านดุค เผ่าหมาป่าอนธการกำลังท้าทายพวกเรา!”
ชายชุดแดงขบกรามพูด
ดุคมองยอดเขาลูกหนึ่งที่อยู่ห่างไกล นัยน์ตาสีเลือดฉายแววกระหายเลือด ทว่าครู่เดียวก็หม่นหมองลงไป
จ่าฝูงหมาป่าอนธการที่เดินทางมาครั้งนี้แข็งแกร่งนัก เขาไม่อาจสู้ได้ เพียงไม่นานพวกเขาก็แพ้สงครามในเทือกเขาฉางไป๋ ถูกไล่กวดสามสิบกว่าลี้…
“ตอนนี้ยึดสมบัติเป็นสำคัญ หนี้แค้นของเผ่าหมาป่าอนธการ…เราค่อยจัดการภายหลัง!” ดุคกล่าวเสียงเย็น
ขณะเดียวกัน พวกอันหลินก็ได้ยินเสียงหมาป่าหอนเช่นกัน
เสียงหอนเจือความอำมหิตโหดเหี้ยม ราวกับกำลังเตือนและประกาศศักดาแด่เหล่านักพรตละแวกบ่อสวรรค์
เถียนหลิงหลิงตกใจจนหน้าถอดสี ร่างบางอดขยับเข้าใกล้อันหลินไม่ได้
“โอ้โฮ หมาป่าบ้านใครกัน หอนเสียงดังปานนี้” หลิวเชียนฮ่วนพูดอย่างประหลาดใจ
“เสียงดังหรือ หมาข้าร้องดังกว่านี้อีก” อันหลินทำหน้าเยาะเย้ย
“ดึกๆ ดื่นๆ หอนทำไมกัน รบกวนผู้อื่น” สวีเสี่ยวหลานหาวหวอดๆ แล้วทำสมาธิต่อ
“มันคงร้องเพราะติดสัด ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย” ถังซีเหมินก็เอ่ยเสียงจริงจังเช่นกัน
เถียนหลิงหลิง “…ทำไมทุกคนนิ่งขนาดนี้ล่ะ พลังที่ยิ่งใหญ่ปานนี้ หมาป่าตัวนั้นคงจะบรรลุระดับแปลงจิตแล้วละ”
เซวียนหยวนเฉิงยิ้มอ่อนโยน “น้องเถียน หมาป่านั่นทำให้เจ้าตกใจหรือ ข้าไปฆ่ามันดีไหม”
“ช่างเถอะพี่เฉิง โลลิน้อยขี้กลัว แค่งูตัวเดียวยังทำนางตกใจได้เลย ฆ่าไม่หมดหรอก” อันหลินโบกมือปัดๆ ห้ามปรามว่า “ปัญหายิ่งน้อยยิ่งดี”
เถียนหลิงหลิงเดือดดาล ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มแดงก่ำ กลับไม่รู้จะโต้แย้งอย่างไร ครู่ใหญ่กว่าจะพูดว่า “เหลวไหล! นายเห็นฉันตกใจเพราะพญางูขาวไหม!”
อันหลิน “…”
เซวียนหยวนเฉิง “…”
ให้ตายสิ…นอกจากฉายาของพญางูขาวที่เกี่ยวข้องกับงูแล้ว มีตรงไหนที่เหมือนงูอีก!
ถ้าตกใจกลัวเพราะฉายา อย่างนั้นอย่ามีชีวิตอยู่เลย!
หลังเสียงหอนพ้นไปแล้ว ในบ่อสวรรค์ก็ไม่มีเสียงอื่นใดอีก
ทุกคนต่างก็กำลังรอคอยเงียบๆ รอการมาเยือนของเวลานั้น
ดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า แสงตะวันสีทองลอดผ่านผืนป่า ตกกระทบผิวน้ำของบ่อสวรรค์ ทำให้ริ้วคลื่นฉาบสีทองเป็นระลอกๆ
สายลมเคล้าพลังปราณเข้มข้นโชยมา ชวนให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า
วันนี้ อากัปกิริยาของพวกอันหลินต่างก็แปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
เพราะเวลาที่สรวงสวรรค์คาดการณ์ว่าสุสานโส่วหยางจะเปิด เป็นเวลานี้นี่แหละ
เมฆบนท้องนภาเริ่มเคลื่อนตัว
จู่ๆ ผิวน้ำที่สงบก็มีฟองอากาศเล็กๆ ผุดขึ้นมา ในเวลาเดียวกัน พลังปราณทั่วทั้งผืนแผ่นดินก็เริ่มไหลมาบรรจบที่ใจกลางบ่อสวรรค์ โหมซัดดุจคลื่นทะเล!
ณ ตอนนี้ ทุกคนล้วนแต่ใจจดใจจ่อ นี่เป็นพลังกระเทือนฟ้าดิน สัญญาณของการเปิดมิติ!
“โบราณสถาน มันเป็นการเปิดของโบราณสถานต่างมิติ!”
นักพรตคนหนึ่งในพนาเห็นปรากฏการณ์นี้ ตะโกนลั่นด้วยความตื่นเต้น
ไม่เพียงแค่เขา เกือบจะทุกคนที่เริ่มนั่งไม่ติด
เงามากมายพากันโผล่หัวออกจากพงไพร
บางส่วนถึงกับปรากฏตัวริมบ่อสวรรค์อย่างโจ่งแจ้ง ด้วยกลัวว่าตัวเองจะช้ากว่าคนอื่น
นานเพียงใดแล้วที่ไม่มีโบราณสถานต่างมิติเกิดขึ้นในโลก ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นขุมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่!
ครืน
ขุนเขาเริ่มสั่นสะเทือน ผิวน้ำเดือดพล่าน เกิดเกลียวคลื่นเป็นระลอกๆ
การรวมตัวของพลังปราณค่อยๆ ก่อตัวเป็นพลัง พุ่งโจมตีอากาศ
แกรก…
ราวกับอะไรบางอย่างแตกสลายอย่างไรอย่างนั้น จู่ๆ ประตูสีขาวขนาดสามจั้งก็ปรากฏขึ้นกลางผิวทะเลสาบ
ทันใดนั้น เสียงดนตรีก็ขับขานพร้อมเพรียงกัน ลำแสงห้าสีพุ่งทะยานลงจากเวหา!
ประตูมิติโบราณสถาน!
ยามนี้ ทั้งพรตพากันเคลื่อนไหวแทบจะทุกรายแล้ว
เจ้าแห่งผีดูดเลือด หมาป่าอนธการ สุดยอดโจนิน นักพรตแดนมังกร เผ่าเวทผู้เร้นลับ นักรบกลายพันธุ์…
พลังที่แข็งแกร่งทั้งหลายแหล่ระเบิดโดยพลัน กลายเป็นลำแสงพุ่งไปหาประตู!
มีเพียงทีมของอันหลินที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ประหนึ่งว่าอยากยืนยันอะไรบางอย่าง
ลำแสงที่พุ่งเร็วที่สุดคือลำแสงสีเลือดกับลำแสงสีดำ ทั้งสองเข้าประชิดประตูแทบจะพร้อมกัน
“ไปให้พ้น เจ้าผีดูดเลือดสกปรก!”
กรงเล็บของหมาป่าอนธการกลายเป็นลมคลั่งดำทะมึนห้าสาย พุ่งไปโจมตีข้างๆ ด้วยพลังงานความตาย บีบคั้นให้เจ้าแห่งผีดูดเลือดล่าถอย
“ฮ่าๆ ๆ ฉันขอล่วงหน้าไปก่อนนะ!”
ใบหน้าของหมาป่าอนธการฉายสีหน้าผู้ชนะ พุ่งตรงสู่ประตูมิติ
โครม
เสียงดังสนั่นสะเทือนผิวน้ำจนเกิดเกลียวคลื่น
หมาป่าอนธการกลิ้งหลุนๆ ตกทะเลสาบด้วยความงุนงง “พับผ่าสิ! อะไรกัน!”
มันรู้สึกว่าหัวของมันชนกับกำแพงที่ทนทานยากจะทำลาย ออกแรงมากไป ตอนนี้รู้สึกว่าโลกกำลังหมุน
“ฮ่าๆ ๆ…เจ้าโง่!”
ดุคหัวเราะเยาะ กลายเป็นลำแสงสีเลือด มือถือหอกโลหิต พุ่งใส่ประตูมิติอีกครั้ง
โครม เขาถือหอกโลหิตพุ่งชนประตูมิติอย่างแรง
ไม่คิดว่าแรงสะท้อนที่มีพลังมหาศาลจะจู่โจมทันใด กระแทกจนเขาถอยร่นไปร่วมร้อยเมตร เลือดซึมออกจากมุมปาก
“อะไรกัน”
“เข้าประตูมิติไม่ได้หรือ”
ผู้คนที่ตามหลังต่างก็แสดงอาการตกใจระคนสงสัย เมื่อเห็นท่าทางของหมาป่าอนธการกับเจ้าแห่งผีดูดเลือด
“บางทีอาจจำกัดระดับพลังยุทธ์ ขอฉันลองหน่อย!”
นักพรตจอมอ้วนคนหนึ่งขี่กระบี่พุ่งชนประตูมิติ พลังกระบี่อันแก่กล้าถึงขั้นแหวกผืนทะเลสาบเป็นสองฝั่ง
เขาคือเฉินจิ่งเทียน ยอดอัจฉริยะด้านยันต์แห่งสำนักซ่างชิง มีพลังระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นปลาย
โครม เสียงดังกึกก้องอีกครั้ง ก้อนเนื้อของจอมอ้วนแนบชิดประตู กระบี่ร่วงลงทะเลสาบ ท่าทางดูเศร้าวังเวง
อันหลินเห็นภาพนี้ก็ยิ้มบางๆ “คนอื่นเข้าอุโมงค์มิติไม่ได้จริงๆ ด้วย”
“ตอนนี้ได้เวลาเราออกโรงแล้ว!”