ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม – ตอนที่ 338 เรื่องราวในสุสาน

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม

หลังพบสุสานเซียนสวรรค์โส่วหยางแล้ว พวกอันหลินต่างก็ดีใจเหลือเกิน

ผ่านความยากลำบากมามากมายปานนั้น ในที่สุดก็เจอที่นี่สักที!

จักรพรรดิจื่อหยางเป็นผู้นำทาง เดินนำอยู่ด้านหน้าสุด ลอดอุโมงค์มืดมิดมายังโถงที่ใหญ่โต ภายในกว้างขวางเป็นอย่างมาก รอบๆ มีประตูบานใหญ่ปิดแน่นหนา มีแท่นศิลาขาวสะอาดตั้งอยู่ใจกลางห้อง

พวกอันหลินก้าวเข้าไปหยุดลงตรงหน้าหลักศิลา บนศิลามีแผนที่สลักอยู่

“นี่…เป็นแผนที่เส้นทางของสุสานงั้นเหรอ” เถียนหลิงหลิงพูดอย่างแปลกใจ

อันหลินเองก็งุนงง สร้างสุสานให้ตัวเอง หรือสร้างสถานที่ท่องเที่ยวกันแน่ มีแม้กระทั่งแผนที่นำทางด้วยงั้นเหรอ!

ตามที่แผนที่ระบุไว้ ตำแหน่งที่พวกเขาอยู่เป็นจุดเริ่มต้นที่อยู่ต่ำที่สุด จากนั้นเป็นทางลดเลี้ยวขึ้นไปแยกเป็นสิบทาง ผ่านทางเชื่อมหนึ่งจุด สุดท้ายมาบรรจบกัน ผ่านทางเชื่อมอีกสามจุด ก็จะถึงจุดหมาย

เส้นทางสิบทางถูกขนานนามว่า สิบเผ่าพันธุ์พิทักษ์แดน เผ่าภูตงู เผ่าเต่าสวรรค์ เผ่ามังกร เผ่าจอมศาสตรา เผ่าปีกทมิฬ เผ่าวิหคเพลิง เผ่าพันธุ์ศิลา เผ่าภูตมัจฉา เผ่าจอมมาร เผ่าจิตวิญญาณ

เผ่าพันธุ์เหล่านี้มีทั้งเผ่าพันธุ์ที่อันหลินคุ้นเคยดี และเผ่าพันธุ์ที่แปลกหน้าอย่างยิ่ง

สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจที่สุดก็คือ ในนี้กล่าวถึงเผ่าปีกทมิฬด้วย!

เผ่าปีกทมิฬเป็นสิบเผ่าพันธุ์พิทักษ์แดนงั้นเหรอ พวกมันพิทักษ์ดินแดนไหน คงไม่ใช่ทั้งโลกหรอกนะ

เขาคิดว่าไม่ใช่อิทธิพลพิทักษ์แดนที่เที่ยงตรงแน่ๆ ดูเผ่าพันธุ์จอมมาร เผ่าพันธุ์ปีกทมิฬอะไรนั่นสิ แค่มองก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดี ไม่มีแม้แต่เผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยซ้ำ!

“ท่าทางเส้นทางทั้งสิบเส้นจะถูกเตรียมไว้ให้พวกเราทั้งสิบคน ไม่แน่ว่าแต่ละเส้นอาจจะมีโชคให้แสวงก็ได้ ทุกคนเลือกกันเลย” อันหลินขบคิดแล้วเอ่ยออกไป

พญางูขาวไม่แม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ ยืนตรงหน้าประตูของเผ่าพันธุ์ภูตงูอย่างยิ้มแย้มทันที ท่อนแขนของนางยังมีเสี่ยวชิงคล้องอยู่ จึงไม่มีใครคิดว่าการฝึกตนคราวนี้จะเป็นปัญหาสำหรับนาง

เถียนหลิงหลิงเลือกเผ่าพันธุ์ภูตมัจฉา ไม่มีเหตุผลอื่น เพียงเพราะดูแล้วจะกำราบได้ง่ายหน่อยก็เท่านั้น…

อันหลินจัดแจงให้ผู้นำทางของทีมอย่างจักรพรรดิจื่อหยางไปกับเถียนหลิงหลิง เพราะเถียนหลิงหลิงเป็นเพียงนักพรตกายแห่งมรรคขั้นสิบเท่านั้น อันหลินไม่วางใจให้นางไปคนเดียว

สวีเสี่ยวหลานลังเลระหว่างเผ่าพันธุ์วิหคเพลิงกับเผ่าพันธุ์มังกรอยู่นาน สุดท้ายก็เลือกเผ่าพันธุ์วิหคเพลิง

อันหลินเลือกเผ่าพันธุ์ปีกทมิฬ เขาอยากดูว่าเผ่าพันธุ์ที่เคยมีความแค้นต่อกันจะมีอะไรซ่อนอยู่ข้างใน

หลิวเชียนฮ่วนเลือกเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณ แทบจะไม่ลังเลเลยเช่นกัน แววตาประกายแสงวูบหนึ่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ลูกทีมลำดับถัดไป ล้วนเลือกส่งๆ ไปตามยถากรรม

ซูเฉี่ยนอวิ๋นเลือกเส้นทางเผ่าพันธุ์เต่าสวรรค์ ถังซีเหมินเลือกเผ่าพันธุ์มังกร เซวียนหยวนเฉิงเลือกเผ่าพันธุ์จอมศาสตรา เหยาหมิงซีเลือกเผ่าพันธุ์จอมมาร หูก้วนเลือกเผ่าพันธุ์ศิลา

ทุกคนเดินไปหยุดตรงหน้าประตู พบว่าบนประตูมีช่องว่าง หลังวางป้ายหยกลงตรงนั้นแล้ว ประตูก็ค่อยๆ แง้มออก เผยให้เห็นเส้นทางที่มีริ้วแสงส่องสะท้อน

“ข้าจะรอทุกคนที่เส้นทางบรรจบ แล้วพบกันที่นั่น” อันหลินมองเหล่าสมาชิกที่เตรียมตัวจะก้าวเท้าเข้าสู่เส้นทาง กล่าวด้วยรอยยิ้ม

พูดจบเขาก็ก้าวเข้าไปในประตูแสงอย่างไม่ลังเล

ภายในอุโมงค์ ริ้วแสงสีทองกระจายตัวอย่างเชื่องช้าดุจเกลียวคลื่น

อันหลินก้าวไปข้างหน้าไม่หยุด ความรู้สึกประหลาดบางอย่างแผ่ซ่านในร่างกายเขา ราวกับถูกบางสิ่งบางอย่างกระทบ

หรือนี่จะเป็นการเชื่อมโยงจากโชคชะตา เป็นชะตากรรมหรือ

เขาหวนคิดถึงสงครามที่สะเทือนปฐพีในทิเบตครั้งนั้น ความร้อนรุ่มบางอย่างก็ผุดขึ้นในใจ มันเป็นสงครามระหว่างเขากับเผ่าพันธุ์ปีกทมิฬ!

ขณะที่อันหลินกำลังจินตนาการอย่างจูนิเบียวอยู่นั้น กระบี่ดำขลับในมือกลับสั่นระริกขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ

เขาจ้องมองกระบี่พิชิตมารในมืออย่างแปลกใจ ถามกระอึกกระอักว่า “เอ่อ…ที่ข้ามีความรู้สึกแบบนี้ เป็นเพราะเจ้างั้นหรือ”

กระบี่พิชิตมารเย็นชา ไม่พูดไม่จา

อันหลินถอนหายใจ เดินหน้าต่อไป

ขณะเดียวกัน หูก้วนมาถึงดินแดนแห่งใหม่แล้ว ที่นั่นมีเสาดำทะมึนสูงร่วมร้อยเมตรหลายสิบต้น เสาหินเหล่านี้ล้วนเก่าแก่ตระการตา และแฝงด้วยกลิ่นอายอันตรายบางอย่าง

“ตรวจสอบพบว่าผู้ทดสอบอยู่ในระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นต้น เปิดโหมดทั่วไป”

จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นในอากาศ จากนั้นเสาหินสีดำก็มีดวงตาสีชาดปรากฏให้เห็น

พญางูขาวพาเสี่ยวชิงมุ่งหน้าสู่ปลายทางของเส้นทาง

“เสี่ยวชิง เจ้าว่าข้างในนั่นจะมีสัตว์ประหลาดอะไรโผล่มาไหม ข้ากลัว…”

“ไม่ต้องกลัว ไม่ว่าจะเป็นอะไร ข้าจะปกป้องเจ้าเอง”

“จู่ๆ ข้าก็รู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์ มีคนคอยปกป้องตลอดเวลา ทำอะไรไม่ดีเลยสักอย่าง…”

“นั่นเป็นเพราะเจ้ายังไม่เติบโต เมื่อเจ้าเติบใหญ่ เจ้าจะปกป้องคนอื่นได้”

ขณะที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกัน พวกนางก็พ้นเส้นทางมาแล้ว มองเห็นบึงปรากฏตรงเบื้องหน้า

“ตรวจสอบพบว่าผู้ทดสอบอยู่ในระดับกายแห่งมรรค เปิดโหมดง่าย”

จักรพรรดินีปี้ฉงชะงักเมื่อได้ยินประโยคนี้ จากนั้นก็ขำเบาๆ “เหอะๆ น่าสนใจ ไม่คิดว่าจะปรับระดับความยากตามระดับพลังยุทธ์ได้ด้วย แต่ไม่รวมพลังต่อสู้ของข้า ดูถูกกันเกินไปหน่อยแล้ว…”

ถังซีเหมินเดินไปจนถึงปลายทาง เห็นขุนเขาดำทะมึนอยู่ไกลโพ้น กระดูกสีขาวกระจัดกระจาย กลิ่นอายความตายแผ่คลุมไปทั่วบริเวณ

“ตรวจสอบพบว่าผู้ทดสอบอยู่ในระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นปลาย เปิดโหมดยาก”

“เหอะๆ โหมดยากงั้นหรือ กำลังคิดอยู่เลยว่าชีวิตเรียบง่ายเกินไป มาทันเวลาพอดี” ถังซีเหมินยิ้มบาง ชักกระบี่ออกมา พลังพุ่งทะยานทันที

ข้าเข้ามาในโลกใบนี้เนิ่นนานปานนี้แล้ว แต่ก็ยังมือเปล่า สมบัติในครั้งนี้ ข้าต้องได้มาครอง!

ซูเฉี่ยนอวิ๋นก้าวไปข้างหน้าอย่างหวาดวิตก นางชินกับการถูกปกป้อง ตอนนี้ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายอันไม่ทราบชื่อ ในใจของนางจึงกระวนกระวายและกังวล

นางเยื้องย่างออกจากเส้นทางทีละก้าว จากนั้นต้องตะลึงกับทัศนียภาพด้านนอก

“นี่…นี่มันอะไรกัน ชายหาด ทะเลหรือ” ปากสีระเรื่อจิ้มลิ้มของซูเฉี่ยนอวิ๋นเผยอเล็กน้อย มองทัศนียภาพตรงหน้าอึ้งๆ

ชายหาดสีทอง ท้องทะเลกว้างใหญ่ แสงสว่างเจิดจ้า ให้ความรู้สึกราวกับห้วงความฝัน

“ตรวจสอบพบว่าผู้ทดสอบอยู่ในระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นปลาย เปิดโหมดยาก”

ในตอนนั้นเอง เสียงก็ดังก้องท้องนภา

แต่ซูเฉี่ยนอวิ๋นกลับกะพริบตาปริบๆ ด้วยความงุนงง “ฮะ เจ้าพูดอะไรน่ะ”

อืม เสียงแจ้งเตือนเหนือเวหาเป็นภาษาจีนกลาง นักเรียนซูจึงงงเป็นไก่ตาแตก

ทว่า คนที่งงมากที่สุดไม่ใช่ซูเฉี่ยนอวิ๋น แต่เป็นหลิวเชียนฮ่วน

หลิวเชียนฮ่วนมาถึงแผ่นดินสีขาวกว้างไกลสุดลูกหูตา ลำแสงสีรุ้งลอยล่องเต็มบริเวณ และมีสิ่งมีชีวิตเจ็ดสีนับไม่ถ้วนเคลื่อนไหวบนพื้น ประหนึ่งศิลปะไร้รูปลักษณ์ เปี่ยมด้วยความบิดเบี้ยวและลวงตา

“ตรวจสอบพบว่าผู้ทดสอบอยู่ในระดับแปลงจิต เปิดโหมดยากระดับนรก”

หลิวเชียนฮ่วนนิ่งงันเมื่อได้ยิน

ระดับแปลงจิต ข้าแปลงจิตงั้นหรือ

ทั้งๆ ที่ข้าอยู่ในระดับกึ่งแปลงจิตแท้ๆ เจ้าเปิดโหมดยากระดับนรกให้ข้ามันเรื่องอะไรกัน!

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม

Status: Ongoing
ในโลกมนุษย์ อันหลินดูเหมือนจะถูกพระเจ้าทอดทิ้งเมื่อจู่ๆ พ่อของเขาก็หายตัวไปพร้อมทิ้งหนี้ก้อนโตไว้ให้ ทำให้ชีวิตเขาตกอยู่ในอันตรายหลังจากถูกเจ้าหนี้บีบจนต้องขึ้นไปถึงดาดฟ้าตึก อันหลินกลับถูกลมประหลาดพัดออกจากดาดฟ้าและดิ่งลงพื้นแต่เขากลับไม่ตาย แถมยังรอดพ้นจากเจ้าหนี้ จากนั้นจึงพบว่าผู้ที่ช่วยตนไว้คือท่านเซียนคนหนึ่งท่านเซียนยังได้มอบของขวัญที่ดูเหมือนมาจากความเมตตาอันบริสุทธิ์ให้กับเขานั่นคือ ‘ระบบเทพสงคราม’ พร้อมกับจดหมายรับรองเพื่อมุ่งหน้าไปบำเพ็ญเพียรบนสวรรค์!?มาร่วมเดินทางในโลกอันเป็นตำนานใบใหม่ไปพร้อมกับอันหลินพบปะเพื่อนใหม่มากมาย ได้รับอาวุธและเครื่องไม้เครื่องมือในตำนานและเริ่มต้นเส้นทางการกลายเป็นผู้บำเพ็ญเซียนที่แข็งแกร่งที่สุด…ชีวิตใหม่ของอันหลินพร้อมกับระบบที่ ‘ยอดเยี่ยม’ ของเขาจะไม่มีช่วงเวลาให้เงียบเหงาอย่างแน่นอน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท