ท้องนภาอันมืดสลัว ร่างสีดำพุ่งหวีดหวิวผ่านไป พร้อมกับพ่นไฟอันร้อนระอุใส่ข้างหลังประหนึ่งพ่นน้ำลายอยู่บ่อยครั้ง
นักพรตคนหนึ่งไล่กวดตามหลังมันไม่ลดละ ใช้กระบี่ฟันเปลวไฟพลางก่นด่าไม่หยุด
เงาดำกับนักพรตที่ว่านี้ก็คือ มังกรนิลในบททดสอบเผ่าพันธุ์มังกรกับถังซีเหมินที่พยายามเอาชนะมันนั่นเอง
การไล่ล่าครั้งนี้กินเวลามาเนิ่นนานแล้ว มังกรนิลสู้ถังซีเหมินไม่ได้ แต่ความเร็วในการเหินเวหากลับเร็วอย่างน่าตกใจ จึงเล่นเกมตามล่า ทำให้ตอนนี้ถังซีเหมินตกอยู่ในสภาพที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ
“ไอ้กิ้งก่าระยำ แน่จริงก็หยุดสิ มารบกันอย่างสง่าผ่าเผย!”
ถังซีเหมินสบถด่าพร้อมกับขี่กระบี่ไล่กวดอย่างบ้าคลั่ง
สิ่งที่ตอบกลับมายังคงเป็นรอยยิ้มแสยะของมังกรนิล กับเปลวไฟร้อนระอุอย่างยิ่งคำแล้วคำเล่า
บัดซบ มันช่างบัดซบเหลือเกิน!
ถังซีเหมินไม่เคยพบเจอศัตรูที่ไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน มังกรดำตัวนี้เป็นความอัปยศอดสูของเผ่าพันธุ์มังกรที่ผยองยิ่งใหญ่ชัดๆ!
“นักพรตโง่ แน่จริงก็ตามข้าให้ทันสิ ตามข้าให้ทัน ข้าจะยอมเจ้า หึๆ ๆ…” มังกรนิลแสยะยิ้ม โต้เถียงอย่างไม่รู้สึกผิด
ถังซีเหมินได้ยินคำนี้เส้นเลือดก็เต้นตุบๆ มังกรตัวนี้ยังมีหน้าตอกกลับอย่างหน้าไม่อายทั้งที่กำลังหลบหนี ทนได้หรือ ทนไม่ได้!
“อัสนีปราณพิฆาต!”
เขาตะโกนลั่น ตวัดกระบี่ในมือปล่อยลำแสงกระแสไฟสีขาวออกมาสองเส้น ประสานเป็นรูปกากบาท พุ่งไปหามังกรนิลที่อยู่ข้างหน้าอย่างทรงพลัง พร้อมกับเสียงฟ้าคำรามกึกก้องไปตลอดทาง!
คิดไม่ถึงว่ามังกรนิลจะคุ้นชินกับการโจมตีกะทันหันของถังซีเหมินแล้ว เบี่ยงตัวฉับไว เคลื่อนตัวลงด้านล่างทันที หลบการโจมตีของถังซีเหมินได้อย่างงามสง่า
“ฮ่าๆ ๆ คิดจะฆ่าข้าหรือ เจ้ายังอ่อนหัดไปหน่อย!” มังกรนิลเห็นลำแสงที่เจือกระแสไฟรูปกากบาทพุ่งผ่านข้างกายของมันไป จึงหัวเราะอย่างลำพองใจ
ถังซีเหมินใบหน้าบูดบึ้งขึ้นเรื่อยๆ ไล่ล่ามานานปานนี้ พละกำลังของมังกรนิลแทบจะไม่ลดลงเลย ข้อนี้สามารถมองได้จากความสามารถอันปราดเปรียวในการหลบกระบี่ของตน
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่แน่คนที่ล้มลงก่อนอาจเป็นตัวเขาเองก็ได้
ขณะที่เขาเริ่มลังเลอยู่นั้น ก็มีเสียง ‘ปู๊ด’ ดังสนั่นหวั่นไหว
อากาศธาตุสีเขียวดำประหนึ่งพายุหมุนก็โชยมาปะทะหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว ซ้ำยังมีกลิ่นที่เหม็นอย่างยิ่งยวดปะปนอยู่ด้วย
“ฮ่าๆ ๆ…ตามหลังข้ามีแต่จะได้กินขี้ รสชาติเป็นอย่างไรบ้าง ยังอยากได้อีกไหม”
เสียงหัวเราะที่ชั่วร้ายอย่างที่สุดของมังกรนิลแว่วมา ซ้ำยังแผลงฤทธิ์ด้วยการส่ายก้นไปมา…
ถังซีเหมินโมโหจนตัวสั่น เกือบจะกระอักเลือดออกมาตรงนั้นแล้ว
ตดนี่ได้กลายเป็นชนวนที่ทำให้เขาตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในที่สุด
“ระยำเอ๊ย อ่อนแรงสามวันแล้วอย่างไร ข้าทนไม่ไหวแล้ว!”
จู่ๆ ถังซีเหมินก็ใช้กระบี่เฉือนข้อมือตัวเอง เลือดเปล่งแสงสีแดงเป็นประกาย ภายใต้การชักนำของเคล็ดวิชาบางอย่าง พัวพันรอบคมกระบี่
พลังภายในร่างกายของเขาถูกเลือดสูบออกไป และรวมตัวกันที่กระบี่อย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น กระบี่ก็สาดแสงสีแดงท่วมท้นนภา คล้ายว่าจะฉีกผืนฟ้าที่มืดสลัว อานุภาพที่แฝงเร้นทำให้ลมและเมฆเคลื่อนตัว มิติสั่นไหว
มังกรนิลสัมผัสได้ถึงพลังอันน่ากลัวด้านหลังเช่นกัน เมื่อเหลียวหลังก็รู้สึกถึงภัยคุกคามอันถึงแก่ชีวิต เร่งความเร็วสุดชีวิตโดยไม่ลังเล
“สหาย วางกระบี่ลง ค่อยพูดค่อยจา!” มังกรนิลตะโกนเสียงดัง
“เหอะๆ รู้จักขอร้องแล้วหรือ แต่มันสายไปแล้ว!” ถังซีเหมินมองมังกรนิลพร้อมกับแสยะยิ้ม สองนิ้วประกบกันแล้วชี้มังกรนิล “ไป!”
กระบี่ที่แฝงพลังงานอันน่าสะพรึง กลายเป็นลำแสงสีแดงเส้นหนึ่งพุ่งไปหามังกรนิลด้วยความเร็วที่น่ากริ่งเกรง!
มังกรนิลหน้าถอดสี โยกย้ายตำแหน่งกลางอากาศเป็นพัลวัน พยายามหลบหลีกการโจมตีของกระบี่บินด้วยการเคลื่อนไหวสุดเท่
แต่กระบี่บินไม่ได้มีความรวดเร็วยิ่งยวดเท่านั้น ทว่ายังปราดเปรียวจนน่าขนลุก ยามมังกรเปลี่ยนตำแหน่ง กระบี่บินก็เปลี่ยนตำแหน่งตามเช่นกัน
มังกรนิลอ้าปากพ่นไฟทะลุอากาศใส่ด้านหลัง แต่กระบี่บินกลับแหวกเปลวไฟมวลมหึมาของมันด้วยอานุภาพที่ไม่มีใครต้านทานได้
“ไม่!” มังกรนิลแผดเสียงลั่น จากนั้นก็รู้สึกเย็นวาบที่รูทวาร
จากนั้นก็เป็นท้อง ลำคอและศีรษะ
ลำแสงสีแดงทะลวงร่างของมังกรนิลด้วยความเร็วอันน่าสะพรึง!
ตูม ในที่สุดร่างมโหฬารของมังกรนิลก็สิ้นลมหายใจ ร่วงลงจากอากาศ กระแทกพสุธาอย่างแรง
“ยินดีด้วย การทดสอบเผ่าพันธุ์มังกรสำเร็จลุล่วง!”
ถังซีเหมินมองแสงแห่งการสืบทอดที่ลอยลงมาจากท้องนภา เรียกได้ว่าน้ำตาเอ่อคลอ
สำเร็จแล้ว สำเร็จสักที!
ในที่สุดเขาก็ไม่ใช่บุรุษที่ไม่ได้อะไรเลยอีกต่อไป!
ยามที่พรรคพวกได้อาวุธเทวะ เพลิงเทวะและผลเซียน มันกระทบกระเทือนจิตใจถังซีเหมินอย่างมหันต์ เพราะศิษย์พี่ที่โดดเด่นที่สุดของชั้นปีที่สี่ กลับกลายเป็นคนที่ไม่ได้อะไรเลยในกลุ่ม…
แต่ครั้งนี้เขาได้รับการสืบทอดแล้วในที่สุด แม้จะสูญเสียมากไปหน่อย แต่อย่างน้อยก็สำเร็จแล้ว!
ถังซีเหมินที่รับมรดกเผ่าพันธุ์มังกรแล้วนัยน์ตาสุกใส มันเป็นวรยุทธ์มังกรเหินพายุ ถึงว่ามังกรนิลตัวนั้นหนีได้เร็วปานนั้น คิดว่าคงจะมีวรยุทธ์นี้
ประตูมิติเริ่มปรากฏให้เห็น ถังซีเหมินจ้องประตู จู่ๆ สองขาก็พลันอ่อนแรงล้มลงบนพื้น ผลข้างเคียงจากการใช้เคล็ดวิชาออกอาการแล้ว อ่อนแรงสามวัน…
พวกอันหลินรอในห้องหินอยู่นาน ถังซีเหมินก็ยังไม่โผล่หน้ามา
เวลาค่อยๆ ล่วงเลยไป ยิ่งนานเท่าใด ใจของทุกคนก็ยิ่งหนักอึ้ง
“ศิษย์พี่ถังคงไม่ได้ประสบเหตุไม่คาดฝันอะไรหรอกใช่ไหม” หูก้วนพูดอย่างกระวนกระวาย
“หากว่าเป็นการทดสอบโหมดยากจริง ตามหลักแล้ว น่าจะไม่ถึงขั้นตายสิ…” เซวียนหยวนเฉิงขมวดคิ้ว
อย่างน้อยๆ ถังซีเหมินก็เป็นนักพรตที่โดดเด่นที่สุดในบรรดานักศึกษาชั้นปีที่สี่ ความสามารถเก่งกล้า ไพ่ตายในมือน่าจะมีก่ายกอง ไม่มีเหตุผลที่จะเสียเปรียบการทดสอบในระดับนี้
อันหลินมองเส้นทางที่ว่างเปล่าเงียบๆ บอกว่าจะนัดเจอกันที่นี่ เช่นนั้นเขาก็ต้องรอจนกว่าถังซีเหมินจะปรากฏตัวที่นี่
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด ในที่สุดเขาก็ได้เห็นร่างที่กำลังคืบคลานมาอย่างเชื่องช้า…
ใช่แล้ว ร่างนั้นสะบักสะบอมยิ่ง ถึงขั้นคลานเข้ามา!
“ศิษย์พี่ถัง!” อันหลินตะโกนลั่น นัยน์ตาแดงก่ำ นี่มันศึกที่โหดเหี้ยมขนาดไหนกันนะ คนที่สมบูรณ์แข็งแรงถึงขั้นเสียขาไปทั้งสองข้างแบบนี้!
สมาชิกคนอื่นก็มองร่างที่คลานมาช้าๆ นั่นด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด ในใจรู้สึกไม่ดีเลยสักนิด
เส้นทางมิติเป็นทางเดี่ยว พวกเขาจึงได้เพียงมองถังซีเหมินคลานเข้ามาอย่างเชื่องช้าด้วยท่าทางที่องอาจทว่าเจ็บปวด…
ถังซีเหมินเงยหน้ามองทุกคนที่ดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าเห็นอกเห็นใจ รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที
ข้าแค่อ่อนแรงทำให้ร่างกายท่อนล่างไม่ได้ดั่งใจเท่านั้น พวกเจ้าต้องเป็นถึงขนาดนี้เลยหรือ
ทำท่าเหมือนข้าพลีชีพตายไปแล้วอย่างนั้นหมายความอย่างไร ดูถูกศิษย์พี่หรือ!
ถังซีเหมินที่ลำบากยากเข็ญกว่าจะได้มรดกมาครอง ประหนึ่งกลายเป็นคนที่อนาถที่สุดในกลุ่มทันที มันทำให้เขาคิดว่าศักดิ์ศรีถูกลบหลู่…
ถังซีเหมินที่คลานออกจากเส้นทางมิติถูกอันหลินอุ้มไปวางบนก้อนอิฐดำอย่างอ่อนโยน
การปลอบโยนของพวกพ้องดังไม่ขาดสาย ไม่ให้โอกาสถังซีเหมินได้อธิบายเลยสักนิด
“พวกเจ้าฟังข้าก่อน ข้าไล่ตามมังกรนิลไม่ทัน จึงใช้เคล็ดวิชา ถึงได้…”
“พอแล้ว! ศิษย์พี่ถังไม่ต้องอธิบายแล้ว พักผ่อนเถอะ ต่อไปให้เป็นหน้าที่พวกเราเอง!”
“ศิษย์พี่ถัง ชีวิตต่างหากสำคัญที่สุด ขอเพียงมีชีวิตรอด ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้!”
“พวกเราไม่มีทางดูถูกศิษย์พี่เพียงเพราะศิษย์พี่พิการหรอก!”
ถังซีเหมิน “…”
…
ภายในมิติมืดมน สุดท้ายชายหัวโล้นก็โล่งอก
เขารู้สึกขอบคุณถังซีเหมินมาก ในที่สุดก็มีคนที่ค่อนข้างสะบักสะบอมโผล่มาแล้ว แบบนี้สิถึงจะเป็นการทดสอบ...
พญางูนิลปรายตามองชายหัวโล้นด้วยตาเขียวปั๊ด ชายหัวโล้นสะดุ้ง ความเย็นเยียบจู่โจม ทำให้เขาเหงื่อกาฬผุดขึ้น แทบหายใจไม่ออก
พักใหญ่กว่าเขาจะรู้สึกว่าความเย็นเยียบมลายหายไป
“ทำไม คิดว่าการทดสอบนั่นประสบความสำเร็จมาก เลยดีใจงั้นหรือ” พญางูนิลยิ้ม
ชายหัวโล้นที่ก้าวออกจากประตูนรกแล้วก้มหน้าลง ไม่กล้าปริปากเลยสักคำ
“ไป ไปปรับอีกสามสถานีต่อไปให้ยากระดับนรก กลุ่มนี้แข็งแกร่งยิ่งนัก เชื่อว่าโส่วหยางไม่ถือสาที่เราทำเช่นนี้หรอก” พญางูนิลพูดต่อ
“ขอรับนายหญิง ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”
ชายหัวโล้นไหนเลยจะกล้าปฏิเสธคำสั่งของพญางูนิล จึงวิ่งไปเพิ่มระดับความยากให้ถึงขีดสุดที่สุสาน
เดิมทีอีกสามด่านที่เหลือเป็นความยากระดับธรรมดา ตอนนี้กระโดดข้ามขั้นจากระดับยากเป็นระดับนรก... เขาไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ในเมื่อเป็นคำสั่งของพญางูนิล เขาเพียงทำตามก็พอแล้ว…