“งั้นเจ้าระวังด้วยนะ” หลังสวีเสี่ยวหลานเห็นเปลวไฟที่ระเบิดจากภายในของอันหลิน ก็โล่งใจไปเปราะหนึ่ง เริ่มเหาะไปยังตำแหน่งที่เพื่อนๆ รวมตัวกัน
“สหายอันหลินจะทำอะไร” เซวียนหยวนเฉิงมองอันหลินที่อยู่กลางนภา พูดด้วยความเป็นห่วง
ไม่ใช่แค่เขา สมาชิกทุกคนต่างก็มองไปทางอันหลิน
ในตอนนั้นเอง มีปีศาจร้ายสิบตนพุ่งใส่อันหลินพร้อมกัน
พวกมันเจือด้วยกลิ่นอายบ้าคลั่ง ยื่นกรงเล็กที่บิดเบี้ยวออกมา กลายเป็นเงาดำแล้วกระโจนใส่ชายหนุ่มกลางเวหา
ต๋าอีกับต๋าเอ้อร์กระโดดลง เปิดบาเรียไอออนเพื่อคุ้มกัน
นิ้วชี้ของอันหลินเกี่ยวกัน นิ้วโป้งประกบกัน ประสานอินโบราณอย่างหนึ่ง
จู่ๆ อากาศก็พลันบิดเบี้ยว จากนั้นปีศาจร้ายหลายสิบตนก็ส่งเสียงร้องโหยหวน ร่างบิดเบี้ยวดำเมี่ยมระเหยเป็นไอ มีควันขาวขมุกขมัวฟุ้งกระจาย
“เพลิงอนัตตา!”
ครืนคลื่นโปร่งใสกระจายไปรอบทิศทาง แผดเผาปีศาจร้ายหลายสิบตนจนวอดวาย!
“เพลิงสุริยะ!”
ดวงแสงทรงกลมสีขาวเหลืองปรากฏด้านหลังอันหลิน พื้นที่ในรัศมีหลายร้อยจั้งกลายเป็นนรกที่ร้อนรุ่ม! แม้แต่อากาศก็บิดเบี้ยวอย่างยิ่ง
ปีศาจร้ายบนพื้นถูกอุณหภูมิสูงจนน่ากลัวที่โผล่มากะทันหันเผาจนดิ้นพล่านอย่างทรมาน ปีศาจร้ายหลายตนพยายามพุ่งใส่อันหลิน กลับถูกเพลิงอนัตตาที่ไร้รูปร่างไม่มีสีเผาจนเป็นเถ้าถ่าน!
“เพลิงมารดารา!”
ลูกไฟสีม่วงก่อตัวเหนือนภา กลายเป็นทะเลเพลิงดวงดารา ลูกไฟสีขาวมากมายแฝงด้วยอานุภาพที่น่ากลัว พร่างพรายท่ามกลางทะเลเพลิง ประดุจดวงดาวก็ไม่ปาน
“เพลิงจันทร์ภฤษฏ์!”
บนพสุธา คลื่นลูกไฟสีน้ำเงินม้วนตัวไปทั่วทุกสารทิศอย่างบ้าคลั่ง ปกคลุมหลายลี้ ปีศาจร้ายนับไม่ถ้วนถูกเปลวไฟที่เย็นยะเยือกแช่แข็ง จากนั้นร่างกายก็เริ่มละลายอย่างประหลาด
บัดนี้ ทั้งนภาธรณี เวหาตะวันจันทรา ล้วนกลายเป็นนรกแห่งเพลิง!
เหล่าสมาชิกมองเหตุการณ์ตรงหน้าอึ้งๆ ใบหน้ามีแต่ความตะลึง
ในตอนนี้ อันหลินก็คือเจ้าแห่งอัคคี ยืนตระหง่านบนฟ้าสูง บงการอัคคีทั้งปวง!
“ทะเลเพลิงสี่วิญญาณ!”
ใบหน้าของอันหลินเคร่งขรึม อักขระสีชาดบนหลังมือสว่างโชติช่วง เริ่มท่าไม้ตายของจริงแล้ว!
บนท้องนภา เปลวไฟสีม่วงห่อหุ้มแสงดาวสีขาว ตกลงสู่พสุธาประหนึ่งอุกกาบาต
เพลิงอนัตตาท่วมท้นท้องฟ้า กลายเป็นกระแสลมที่ทรงอานุภาพพุ่งใส่ปีศาจร้าย
ดวงอาทิตย์ที่อยู่ด้านหลังก็พ่นไฟสีทองออกมาไม่ขาดสาย แผ่กระจายไปทั่วด้วยพลังที่บ้าคลั่ง
บนธรณี ลูกไฟสีน้ำเงินก่อให้เกิดคลื่นใหญ่มโหฬาร แผ่คลุมปีศาจร้ายทั้งหมด
ฟ้าดินถูกเพลิงทั้งสี่ชนิดทำให้กลายเป็นเตาหลอมนรก ทำลายล้างทุกสรรพสิ่งในพริบตา!
จักรพรรดิจื่อหยางตัวสั่นเทาจ้องการโจมตีที่สะเทือนฟ้าดิน นี่น่ะหรือความสำเร็จของเคล็ดวิชาเผาไหม้ เจตจำนงเปลวเพลิงชนิดนี้ การผสานคาถาเปลวเพลิงแบบนี้ มันสมบูรณ์แบบจริงๆ!
แม้แต่จักรพรรดินีปี้ฉงก็ตาลุกวาว ใบหน้าฉายอาการตกใจเป็นครั้งแรก
ครืน
เพลิงสี่ชนิดกลายเป็นลานประหารที่น่ากลัวอย่างมหันต์ ปีศาจร้ายบนพื้นถูกแผดเผาจนสิ้นซาก
บาเรียคุ้มกันไอออนของต๋าอีกับต๋าเอ้อร์ถูกเปลวไฟโจมตี ส่อเค้าลางว่าจะต้านทานไม่ไหวอยู่รำไร
ท่าที่แผ่กระจายไปทั่วทุกอณูเช่นนี้ แทบจะแผดเผาดินแดนผืนนี้ให้แหลกลาญแล้ว หลังเพลิงสงบลง ปีศาจร้ายนับพันตนก็วอดวายอย่างไม่ต้องสงสัย แผ่นดินเหมือนถูกย่างจนสุก ละลายและส่องแสงสีแดงอ่อน
อันหลินลอยลงมาช้าๆ หน้ามืด ล้มลงไปอย่างหมดแรง
ในตอนนั้นเอง กลิ่นหอมอ่อนๆ ก็โชยมา
ร่างของเขาถูกอ้อมแขนที่อ่อนนุ่มประคองไว้ เมื่อเหลียวมอง หญิงสาวงามสะคราญคนหนึ่งกำลังจ้องตนด้วยรอยยิ้ม ดวงตาสุกใสเจือความฉงน
“ไม่คิดว่าเจ้าจะเล่นไฟได้ดีกว่าข้า” หญิงสาวเอ่ยชม
อันหลินส่ายหน้า “เจ้าอย่าชมข้าเลย ข้าเป็นแค่ท่าเดียว”
เมื่ออยู่กับสวีเสี่ยวหลาน อันหลินคิดว่าถ่อมตนสักหน่อยดีกว่า
ขณะเดียวกัน เขาก็คิดไม่ถึงว่าท่าใหม่ของตนจะน่ากลัวปานนี้ ทำให้ปีศาจร่วมพันตนกลายเป็นเถ้าธุลีในพริบตาได้ เมื่อคิดว่าต่อไปตนจะมีบาเรียที่ยิ่งใหญ่อย่างยิ่งเพิ่มมา ในใจก็รู้สึกปลื้มปริ่มเหลือเกิน
ตอนนั้นเอง สมาชิกคนอื่นก็พากันเข้ามาหา ใบหน้ามีแต่ความตกใจ
โดยเฉพาะแฟนคลับตัวยงอย่างเหยาหมิงซี หูก้วนและพญางูขาว ตื่นเต้นจนแทบกระโดดกอดแล้ว และพูดไม่หยุดปากว่าพี่อันไร้เทียมทาน เป็นหนึ่งในหล้า ไม่มีใครขวางได้ ขนมาทุกคำพูดแล้ว
พญางูขาวถึงขั้นเสนอให้แก้ฉายานามจากเจ้าแห่งพิษเป็นเจ้าแห่งอัคคี
อันหลินงุนงงไปชั่วขณะ เจ้าแห่งพิษไปเป็นฉายาของเราตอนไหนกันนะ
เจ้าแห่งพิษเป็นฉายาที่คนอื่นเรียกเขาซี้ซั้วแต่แรกอยู่แล้ว เขายังไม่มีฉายานามเสียหน่อย
ต่อให้จะตั้งฉายานาม ก็คงไม่ตั้งฉายานามที่เชยอย่างเจ้าแห่งอัคคีหรอก!
อย่างเช่นอุบาสกแห่งชิงเหลียน[1] เซียนกระบี่อันฮ่าวต่างหากที่เข้ากับสไตล์ของเขา
จู่ๆ ก็มีเสียงดังมาจากเบื้องบน
“ขอแสดงความยินดีด้วย การทดสอบพิทักษ์แดนภาคปีศาจร้ายสำเร็จลุล่วง!”
จากนั้นม่านแสงก็ลอยลงมาจากฟ้า ด้านบนมีตัวอักษรปรากฏให้เห็น
อันหลิน 11200 คะแนน สวีเสี่ยวหลาน 2030 คะแนน เซวียนหยวนเฉิง 1800 คะแนน ซูเฉี่ยนอวิ๋น 1650
เหยาหมิงซี 920 คะแนน หูก้วน 750 คะแนน หลิวเชียนฮ่วน 570 คะแนน เถียนหลิงหลิง 110 คะแนน พญางูขาว 30 คะแนน ถังซีเหมิน 0 คะแนน
ไม่มีคะแนนของจักรพรรดิสงคราม
มีแค่การแจ้งคะแนน ไม่มีแสงของการสืบทอดใดลอยลงมา
ทุกคนมองคะแนนด้านบน ในใจกระจ่างแจ้งโดยพลัน นี่เป็นคะแนนรวมของการทำความดีความชอบในการทดสอบสินะ ไม่แน่ว่าเมื่อถึงเป้าหมาย ทุกคนอาจจะได้รับมรดกหรือได้สมบัติอะไรบางอย่างจากคะแนนก็ได้
เพราะอันหลินปล่อยระเบิดทำลายล้าง กำจัดปีศาจร้ายร่วมพันตนในพริบตา คะแนนจึงสูงที่สุด หลิวเชียนฮ่วนเอาแต่อู้ตลอดเวลา แม้จะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ได้คะแนน
ส่วนเถียนหลิงหลิงกับพญางูขาวนั้นใช้พลังเซียนโจมตีจากภายในวงไฟไม่หยุด สังหารปีศาจร้ายตนสองตนได้เป็นครั้งคราว จึงมีคะแนน คนที่น่าเวทนาที่สุดคือถังซีเหมิน คะแนนศูนย์ค่อนข้างสะดุดตา…
ถังซีเหมินนอนจ้องคะแนนบนม่านแสงกลางอากาศจากบนก้อนอิฐสีดำ พูดไม่ออกชั่วขณะ เมื่อเห็นสายตาเห็นอกเห็นใจจากทุกคน ก็ยิ่งอัดอั้นตันใจเข้าไปใหญ่
พวกเจ้ามองข้าทำไม มองข้าทำไม! ข้าถังซีเหมินผงาดค้ำฟ้า ไม่จำเป็นจะต้องสงสาร!
แต่เมื่อเขาฉุกคิดได้ว่า การเดินทางสู่สุสานครั้งนี้เขาอาจได้รับการสืบทอดเพียงอย่างเดียว น้อยกว่าเถียนหลิงหลิงกับพญางูขาวที่เอาชนะด้วยความไร้เดียงสาเสียอีก
เก็บเกี่ยวน้อยที่สุดในบรรดาสิบคน เมื่อคิดเช่นนี้ เขาก็อดเศร้าสลดไม่ได้…
เส้นทางมิติสีขาวเริ่มก่อตัว อันหลินกินยาบำรุงเลือดลม หลังทุกคนหยุดพักกันครู่หนึ่งแล้วก็ออกเดินทางต่อ
ภายในมิติมืดมนแห่งหนึ่ง พญางูนิลประสานมือ จ้องพวกอันหลินที่กำลังเดินหน้าจากหน้าจอ นิ้วโป้งขาวปลอดเคาะเบาๆ
“อันหลิน หลิวเชียนฮ่วน สวีเสี่ยวหลาน เซวียนหยวนเฉิง ซูเฉี่ยนอวิ๋น ความสามารถของคนพวกนี้เป็นนักพรตที่มีพลังใกล้เคียงจักรพรรดิสงคราม รวมจื่อหยางกับเสี่ยวชิงด้วย กลุ่มนี้ต่อให้เป็นความยากระดับนรก เกรงว่าคงทำให้พวกเขาเจอประสบการณ์เฉียดตายไม่ได้…”
“หากไม่มีแม้แต่ด่านที่ฝึกประสบการณ์เฉียดตาย จะเป็นการทดสอบที่ดีได้อย่างไร”
พญางูนิลพูดพลางเบนสายตามองชายหัวโล้น นัยน์ตาดำขลับลุ่มลึกชวนให้ดำดิ่งลงไป
“เจ้าผนึกกำลังของตัวเองแปดส่วน ไปแสดงเป็นบอสในด่านสุดท้ายเพื่อขัดขวางพวกเขา”
ชายหัวโล้นได้ฟังก็สะดุ้งโหยง ก้มหน้ารับคำว่า “ขอรับนายหญิง!”
[1] อุบาสกแห่งชิงเหลียน ฉายาของหลี่ไป๋ กวีเอกของจีน