The Rise of Otaku – ตอนที่ 115

ตอนที่ 115

บทที่ 115 วิถีของโอตาคุ

เดิมที่โจวหยุคิดว่าภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องใหม่นั้นจะออกมาเร็วๆนี้ แต่ท้ายที่สุดมันก็ยังไม่มีอะไรออกมา โชคดีที่เซี่ยฮวนนั้นไม่ได้โกรธอะไรกับเรื่องนี้ อีกฝ่ายทําเพียงหัวเราะและพูดว่าถือว่านี้สองสามวันนี้เป็นวันพักผ่อนของพนักงานก็แล้วกัน ตั้งแต่การถ่ายทําภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องโจรสลัดผลไม้จบไป เขาเองก็ยังไม่ได้หาเวลาพักผ่อนเช่นกัน

สองสามวันมันเป็นเวลาที่มากพอที่ช่างไม้บีเวอร์และลิงช่างหินจะสร้างฉากทั้งหมดเสร็จ

สคริปต์ยอดนิยมระดับ B เรื่อง “ล่าขุมทรัพย์มังกร ” ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เองก็ยังคงรูปแบบการผจญภัยแฟนตาซีแบบ “โจรสลัดผลไม้” เอาไว้เกือบทั้งหมด

มันจึงเป็นสคริปต์ที่โจวหยุรู้สึกชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้อ่านมัน แต่เมื่อพูดถึงนักแสดงนําในครั้งนี้ เซี่ยฮวนกับเลือกที่จะให้นักแสดงพระรองจากเรื่องโจรสลัดผลไม้มารับบทเป็นพระเอกส่วนบทบาทของนักแสดงนําหญิงนั้นก็เป็นมู่ลี่

เมื่อมองไปที่รายชื่อนักแสดงนําชายในครั้งนี้ โจวหยูก็ตระหนักถึงปัญหาหนึ่งขึ้นมา นั้นก็คือนักแสดงในครั้งนี้ไม่ได้แตกต่างจากเดิมเลย มันอาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะทําให้คนดูสังเกตเห็นเรื่องนี้ และนั้นอาจจะนําไปสู่เรื่องยุ่งยากได้ในภายหลัง

สําหรับผู้คนจากโลกแห่งความเป็นจริงแล้วบทบาทของโลก ACG นั้นได้รับการแก้ไขและไม่เหมือนใคร มันไม่เหมือนกับนักแสดงในโลกแห่งความจริงที่สามารถทําหน้าที่ได้หลายบทบาทในภาพยนตร์เรื่องต่างๆ

เพื่อแก้ปัญหานี้เซี่ยฮวนได้นําช่างแต่งหน้ามาเป็นตัวช่วย โดยที่เธอทําเพียงบัดๆแต่งๆทรงผมและหน้าของนักแสดงนําชายไม่กี่ครั้ง จากนั้นเรื่องแปลกๆก็เกิดขึ้น นักแสดงนําชายที่ก่อนหน้านี้ยังไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิม ก็กลายเป็นคนละคนไปทันที

“เฮ้อ! ในที่สุดปัญหานี้ก็ได้รับการแก้ไข” โจวหยูต้องยอมรับว่าวิธีแก้ไขที่เขาเห็นนี้มันเหมาะสมกับเป็นโลกของ ACG อย่างแท้จริง เพียงแค่การเปลี่ยนทรงผมไปเล็กน้อยมันก็ทําให้คนคนหนึ่งแตกต่างไปจากเดิมได้แล้ว

ทางด้านลูกสาวของเขาเองก็เหมือนกัน เขาเองก็เกือบจะจําเธอไม่ได้หลังจากเธอผ่านการแต่งหน้ามา ด้วยบทบาทที่เธอจะเป็นนั้นเป็นผู้หญิงที่เต็มไปด้วยพลังของชีวิตชีวา หลังจากที่ได้อ่านบทและแต่งหน้าเพียงเล็กน้อย ลักษณะขี้อายที่มักจะปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอตลอดเวลาก็ได้หายไป ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยใบหน้าที่มั่นใจและยังแฝงความบุคลิกที่ดื้อรั้นคล้ายกับหิงห้อยพี่สาวของเธอเอาไว้อีกเล็กน้อยอีกด้วย

ด้วยความสามารถในการรับบทบาทอย่างรวดเร็วของเธอ มันแสดงให้เห็นว่าเธอนั้นเหมาะสมเป็นนักแสดงมืออาชีพอย่างแท้จริง

นี่คือสิ่งที่มีเนียนตัวน้อยพี่ชายของเธอไม่สามารถแข่งขันได้ แม้ว่าเขาจะอยู่ในแวดวงบันเทิงมานานกว่าหนึ่งปี แต่ทักษะการแสดงของเขาก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมายซึ่งนั้นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่คะแนนของภาพยนตร์โจรสลัดผลไม้นั้นลดลงจากที่ตั้งเป้าไว้อาจจะพูดได้ว่าเพราะการแสดงของเขานั้นทําให้เหล่านักวิจารณ์ตํานินั้นเอง

ดังนั้นในภาพยนตร์เรื่องนี้ทางเซี่ยฮวนจึงได้ตัดสินใจเปลี่ยนตัวนักแสดงนําดู

นักแสดงเป็นอาชีพที่หายากที่สุดในหมู่บ้านมินิลู่หัว ดังนั้นโจวหยูจึงให้ความสําคัญกับพวกเขาเสมอหลังจากตรวจสอบนักแสดงทั้งหมดที่นํามาโดยเซี่ยฮวน เขาก็พบว่าการหานักแสดงดีๆซักคนหรือการหานักแสดงที่เหมาะสมกับบทบาทนั้นๆเป็นเรื่องที่ยากเย็นและยังยากเป็นอย่างมาก

“สไลน์พันร่าง: สามารถแปลงร่างเป็นสายพันธุ์ต่างๆตามความต้องการ” เนื่องจากภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้มันถูกเรียกว่า “ล่าขุมทรัพย์มังกร” ดังนั้นในเรื่องมันจึงต้องมีมังกรอยู่ด้วย

ตัวประกอบสุดพิเศษ: อาชีพที่น่าสังเวช พวกเขาจะรับบทบาทเป็นตัวละครในบทบาทเล็กๆตั้งแตกเริ่ม พวกเขาไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไรนอกจากการเป็นคนมุง” แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ถือว่าเป็นนักแสดงที่ดีมากมายอะไรแต่ทุกบริษัทก็จําเป็นต้องมีพวกเขาไว้จํานวนหนึ่ง

“นักแสดงตลก: เพื่อเพิ่มสีสันในเรื่อง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช้นักแสดงนําหลักของเรื่อง แต่การขาดตัวละครนี้ไปก็อาจจะทําให้เนื้อเรื่องทั้งหมดตกลงได้

ดูเหมือนว่ายังมีอีกหลายอย่างที่เขาจะต้องเรียนรู้ ถ้าเขาต้องการเดินบนเส้นทางของผู้สร้างภาพยนตร์นี้จริงๆ

ผ่านไปสองวันฉากประกอบทั้งหมดก็เสร็จสมบรูณ์ และนี้ก็ถือว่าเป็นวันดีที่จะเริ่มต้นสร้างฉากภาพยนตร์ฟอร์มยักอีกครั้ง

โจวฟูเป็นคนแรกๆที่รู้เรื่องนี้และได้ตรงมายังโจวหยูแทบจะทันที ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาได้ทํางานอย่างหนักและได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มาจํานวนมาก

ที่เป็นแบบนั้นก็เนื่องมากจากเรื่องที่โจวหยูนั้นตกลงส่งภาพยนตร์ของเขาออกไปให้คนอื่นง่ายๆ มันทําให้เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก

พระเจ้าทรงทราบดีว่าคนเหล่านั้นได้รับประโยชน์มากมายเพียงใดกับเรื่องนี้ ต้องรู้ว่ารายได้ของภาพยนตร์ไม่ใช่แค่รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงรายได้หลังจากวางขายในรูปแบบอื่นๆอีกด้วย ซึ่งสัญญาที่โจวหยูเคยลงนามก่อนหน้านี้ มันเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ข้อตกลงที่ดีที่สุด

ในความเป็นจริงโจวหยูเองก็รู้เรื่องนี้ดีเช่นกัน เกือบทุกบริษัทมักจะแสวงหาผลกําไรสูงสุดให้ตัวเอง ทุกวันนี้บริษัทที่ดีที่มีมโนธรรมนั้นหาได้ยากเป็นอย่างมาก หรืออาจจะหายไปแล้วก็ได้

แต่ถึงแม้ว่าเขาจะรู้เรื่องนี้ แต่เขาก็เลือกที่จะไม่สนใจมันอยู่ดี เขาไม่ใช้คนประเภทที่ต้องการติดตามผลดําเนินงานตลอดเวลา ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆก่อนหน้านี้เขาคงไม่ทําสัญญาปกปิดตัวเองแบบนั้นออกมาอย่างแน่นอน

เหตุผลที่แท้จริงที่เขาสร้างภาพยนตร์ขึ้นมาก็เพียงตอบสนองความต้องการส่วนตัวของตัวเองและลูกของเขาเท่านั้น ถ้าจะให้เขายึดถือมันเป็นเรื่องจริงจังละก็เขาคงต้องเลิกทํามันจะดีซะกว่า

คนในสังคมก็มีวิถีชีวิตของตนเองและโอตาคุอย่างเขาเองก็มีวิถีชีวิตของตนเองเช่นกันหากพวกเขาไม่สร้างปัญหาให้ใครก็ไม่มีอะไรที่จะต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ ดังนั้นตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ได้ทําเรื่องทั่วๆให้เขาเองก็ไม่รังเกียจที่จะแบ่งปันเรื่องดีๆให้แก่พวกเขาเช่นกัน

แน่นอนว่าโจวฟูไม่คิดอย่างนั้น อย่างไรก็ตามในแง่ของการโน้มน้าวใจของโจวฟูนั้นโจวหยูจะทําเพียงฟังเฉยๆเท่านั้น เขาจะไม่ทําตามแต่อย่างใด แม้ว่าถ้าเขาทําตามวิธีที่อีกฝ่ายพูดออกมาแล้วจะเป็นกราเสริมอํานาจของเขาเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ทํามันอยู่ดีเขาขอเพียงแค่ใช้ชีวิตสบายๆไปวันๆ ดีกว่าจะต้องมานั่งค่อยคิดแต่จะหาวิธีเพิ่มอํานาจของตัวเองทุกวัน

เป็นเรื่องปกติที่แต่ละคนจะมีความคิดที่แตกต่างกัน สําหรับโจวหยูแล้วเขาขอแค่การใช้ชีวิตสบายไปวันๆก็เพียงพอแล้ว แต่สําหรับโจวฟูกับไม่ใช้แบบนั้น เขาต้องการออกจากกระดอกเต่าเก่าๆที่เขาอยู่และเปลี่ยนไปยังสถานที่ที่ดีกว่านี้

ดังนั้นหลังจากที่การเซ็นสัญญาของภาพยนตร์โจรสลัดผลไม้ได้จบลง โจวฟูก็ได้ใช้ความพยายามทั้งหมดศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจนี้ ดังนั้นเมื่อเขาได้เห็นว่าโจวหยุได้หยิบกล้องขึ้นมาอีกครั้งเขาก็รีบมาเข้าร่วมทันที

แม้ว่าเขาจะยังไม่คุ้นเคยกับมันมากนักในตอนนี้ แต่ตราบใดที่เขายังเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เขาก็เชื่อว่าในที่สุดเขาจะต้องสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญได้เช่นกัน

เกี่ยวกับเรื่องนี้โจวหยุรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ดังที่ได้พูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าผู้คนในสังคมเองก็มีวิถีชีวิตของตนเองและโอตาคุเองก็มีวิถีชีวิตของตนเองเช่นกัน เพียงเพราะพวกเขามีวิถีชีวิตเป็นของตนเองมันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่สามารถทํางานรวมกันหรือการแบ่งปันสิ่งที่ชอบซึ่งกันและกันได้

เนื่องจากโจวฟูต้องการทําธุรกิจนี้เช่นกัน มันจึงเป็นเรื่องปกติที่โจวหยูผู้ซึ่งขี้เกรียจจะให้การสนับสนุนเขาเต็มที่ แน่นอนว่าในเรื่องของการสนับสนุนนั้นจะต้องตั้งอยู่บนศีลธรรมอันดีเท่านั้น

ข่าวที่ว่าโจวหยูกําลังสร้างภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องที่สองได้ถูกปล่อยออกมาในเวลาไม่นานหลังจากกระแสร้อนแรงที่ภาพยนตร์โจรสลัดผลไม้ทําเอาไว้ มันก็ทําให้เหล่าแฟนๆต่างก็รอคอยที่จะดูภาคสองหรือผลงานใหม่ๆของสตูดิโอสตาร์

อย่างไรก็ตามเป็นเวลานานแล้วที่ไม่มีข่าวใดๆจากโจวหยูหรือสตูดิโอสตาร์ ซึ่งนั้นทําให้แฟนๆอนิเมชั่นหลายคนเริ่มเป็นกังวล

“แต่ในที่สุดมันก็มีบางอย่างเกิดขึ้น

เมื่อมีภาพที่โจวหยูกําลังสร้างแบบจําลองที่ค่อนข้างใหญ่ในสตูดิโอถ่ายทํา พร้อมกับรายละเอียดที่สมบูรณ์กว่าที่ผ่านมา เพียงแค่ภาพถ่ายไม่กี่ภาพที่ถูกปล่อยออกมา มันก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากจากเหล่าแฟนๆและพวกนักสะสมโมเดล

เป็นผลให้แฟนๆหลายคนต่างก็เดินทางมาที่หมู่บ้านลู่หัวทันที แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเข้าไปยังที่ถ่ายทําได้ แต่การได้เห็นสถานที่จริงพร้อมกับการทํางานด้วยตาของตัวเองมันก็เพียงพอแล้วสําหรับพวกเขา

แน่นอนว่าเหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่เคยขายโมเดลเรือจากเรื่องโจรสลัดผลไม้เองก็มาที่นี้เหมือนกันพวกเขาต่างก็ที่มุ่งหน้ามายังหมู่บ้านลู่หัวเช่นฉลามที่คมได้กลิ่นเลือดจากที่ไกลๆ

โดยไม่คาดคิดสถานที่ถ่ายภาพเรื่องใหม่นี้ได้กลายเป็นจุดชมวิวแห่งใหม่ของสวนสนุกไปแล้ว

เมื่อเป็นแบบนี้โจวฟูก็ได้เปิดให้เหล่านักท่องเที่ยวสามารถชมดูได้จากจุดที่จัดเอาไว้ให้เท่านั้นพวกเขาจะไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้มากกว่านี้ ถ้าเกิดว่ามีใครที่ฝ่าฝืนก็จะถูกเหล่ายามจับตัวออกไปทันที

The Rise of Otaku

The Rise of Otaku

เรื่องย่อย

โจวหยูเป็นโอตาคุที่รักสันโดษ ซึ่งเขานั้นเป็นคนที่ไม่ชอบออกจากบ้านของตัวเอง

แต่เขาก็ถูกบังคับให้ออกจากบ้านโดยเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในวันหนึ่ง…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท