นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา – บทที่ 115 อย่าเดินออกไปข้างลึก

นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา

โจวกุ้ยหลานหาวหวอด ลุกขึ้นนั่ง “ในบ้านมีเนื้อ ไม่ต้องออกไปล่าสัตว์หรอก เวลานี้ในป่าอันตราย”

ระยะนี้สวีฉางหลินไม่ได้ออกไปล่าสัตว์อีก และโจวกุ้ยหลานก็ไม่อยากให้เขาไปด้วย

ในป่าลึกมีอะไรนางก็ไม่ทราบ อย่างไรก็ให้เขาไปทำเรื่องอันตรายอย่างนั้นไม่ได้

“ข้าจะนั่งเฝ้าอยู่ข้างๆ ได้ไก่ป่าก็กลับมาแล้ว ไม่เป็นไร” สวีฉางหลินตอบ จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอก

วันนี้ท่านแม่ยายกับพี่เมียจะมา อย่างไรเขาก็ต้องทำอาหารป่าสักหน่อย

อีกอย่าง ในบ้านก็มีแต่เนื้อหมักแดดเดียวกับกุนเชียง ที่เหลือก็เป็นเนื้อไร้มัน จะรับรองพวกเขาไม่ดีไม่ได้

“เจ้าอย่างเดินไปลึกล่ะ!” โจวกุ้ยหลานตะโกนบอกอีกทีอย่างไม่วางใจ

ในความคิดของนาง การเข้าป่าลึกเป็นเรื่องอันตรายอย่างหนึ่ง ถึงจะบอกว่าสวีฉางหลินมีฝีมือ แต่นางก็ยังกังวล กลัวว่าเขาจะเกิดเรื่อง

“รู้แล้ว” สวีฉางหลินรับคำ สาวเท้าออกจากห้อง หยิบคันธนูลูกศรกับดาบเล่มโตนั้นของตัวเองที่เรือนไม้ไผ่ แล้วออกไปขณะที่ที่ฟ้ายังมืดอยู่

ระหว่างทางยังปิดประตูเรือนใหม่ด้วย ย่างเท้าสู่แสงแห่งจันทรา เดินเข้าไปในป่า

โจวกุ้ยหลานนอนลงอีกครั้ง แต่อย่างไรก็นอนไม่หลับ มักคิดว่าสวีฉางหลินจะประสบกับอันตรายอะไรหรือไม่

นางนอนไม่หลับจึงคลานลุกขึ้นมา หวีผมล้างหน้าตัวเองครู่หนึ่ง จากนั้นก็หยิบไม้กวาดกวาดทั้งในและนอกเรือนจนสะอาดสะอ้าน

มองดูท้องฟ้า ยังไม่สว่างเลย

นางวิ่งไปห้องครัวหยิบข้าวใส่ในหม้อ เติมน้ำแล้วต้ม

รอจนโจ๊กนั้นจะเสร็จ ฟ้าก็ยังไม่สว่างอยู่ดี ทั้งยังมืดกว่าเดิมหลายส่วน

“ปกติเขาคงไม่ได้ไปล่าสัตว์เช้าขนาดนั้นกระมัง?”

โจวกุ้ยหลานมองสีท้องฟ้าข้างนอก อดบ่นไม่ได้

เมื่อคิดอย่างนี้แล้ว ในใจก็รู้สึกไม่สบายนิดๆ

ตอนนี้เงินในบ้านพอให้นางใช้ตลอดชีวิตแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาต้องใช้อย่างประหยัด เขาไม่จำเป็นต้องไปล่าสัตว์อีก อื่ม ดูท่าต้องให้เขามีงานทำ มิเช่นนี้ต้องอันตรายอย่างนี้อยู่เรื่อย

โจวกุ้ยหลานตัดสินใจ ยกตะเกียงน้ำมันเดินไปห้องทางเหนือ คลำเตาไฟ อื่ม อุณหภูมินี้ไม่เลว ดูท่าถ่านจะเผ่าได้นานมาก

คิดแล้วนางก็เดินไปเติมฟืนที่เตาอีกท่อนหนึ่ง กลับห้องครัว หยิบกะละมังใบใหญ่สองสามใบ แช่ของจำพวกเห็ดหอม

เมื่อออกมาจากห้อง ดูท้องฟ้าแล้วก็กลับเข้าห้องไปหยิบเสื้อผ้าของทุกคนออกมาซัก ตากบนราวที่สวนผักข้างหลัง

หยิบไส้เดือนที่แช่เอาไว้วางบนเตาเรียบง่ายที่อยู่ข้างนอก จุดไฟ เทไส้เดือนลงผัดในหม้อด้วยความร้อนสูงเพื่อฆ่าพยาธิ

รอจนผัดขึ้นกลิ่นไหม้เล็กน้อยแล้วก็ตักขึ้นมา วางไว้ในชามใบใหญ่ ใช้ค้อนค่อยๆ ทุบ กระทั่งเป็นผงแล้วนางจึงหยุด แต่ตอนนี้ก็เหน็ดเหนื่อยเหลือเกินแล้ว

ดูท่าต่อไปต้องทำเครื่องบดสักเครื่อง

นั่งพักหนึ่งก็ลุกขึ้นไปที่เรือนไม้ไผ่ หยิบวัตถุดิบอื่นออกมาผสมคลุกเคล้าเข้าด้วยกันก่อนจะบรรจุไว้ในที่เก็บอาหารไก่ในยามปกติ

หลังจากทำเสร็จ โจวกุ้ยหลานก็เข้าห้องครัวอีก เห็นโจ๊กในหม้อต้มเสร็จแล้วจึงเปิดฝาออก ล้างหม้อที่อยู่กลางเตา หยิบขนมหัวไชเท้าที่เหลือจากเมื่อวานออกมา เทน้ำมัน ทอดขนมหัวไชเท้าให้เป็นสีเหลืองทองทั้งสองด้าน เกิดเป็นกลิ่นหอมขจรขจาย

เมื่อทำเสร็จหมดแล้ว นางจึงกลับห้องปลุกเจ้าก้อนน้อย หวีผมล้างหน้าให้เขา แล้วพาเขามานั่งเก้าอี้รับประทานอาหารเช้า

เจ้าก้อนน้อยรับประทานโจ๊ก พอเห็นว่าที่โต๊ะมีแต่เขากับท่านแม่ก็อดถามขึ้นไม่ได้ “ท่านแม่ ท่านพ่อล่ะ?”

“พ่อเจ้าออกไปล่าสัตว์ให้เจ้ากิน” โจวกุ้ยหลานตอบ

เจ้าก้อนน้อยยังอยากกล่าวอะไรอีก แต่ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อน

โจวกุ้ยหลานสาวเท้าเดินไปเปิดประตู เห็นเหล่าไท่ไท่กับโจวต้าไห่ยืนอยู่ข้างนอก

“ทำไมพวกเจ้ามากันเช้าอย่างนี้ล่ะ?” โจวกุ้ยหลานเอ่ยพลางต้อนรับทั้งสองเข้ามา

“ทำงานจะไม่เช้าได้อย่างไร” เหล่าไท่ไท่ตอบแล้วเดินเข้ามา

เจ้าก้อนน้อยวางตะเกียบ ลุกขึ้นยืนอยู่บนเก้าอี้ เรียกเสียงเบา “ท่านยาย…ท่านน้า…”

แต่ท่านยายคนนี้ไม่ชอบเขา…

เหล่าไท่ไท่ “อื่ม” เสียงหนึ่ง ท่าทีเย็นชา

กลับเป็นโจวต้าไห่เสียอีก เดินปรี่เข้าไปหาอย่างอารมณ์ดี อุ้มเขาขึ้นมาแล้วโยนกลางอากาศ ทำจนเจ้าก้อนน้อยหวีดร้องตกใจเสียงหนึ่ง

“พี่อย่าทำเขาสิ กำลังกินข้าวอยู่ พวกเจ้ากินข้าวแล้วหรือยัง? กินด้วยกันอีกหน่อยสิ?” โจวกุ้ยหลานกล่าว แล้วเดินไปทางโต๊ะอาหาร

ก่อนหน้านี้มีแต่นางกับเจ้าก้อนน้อยอยู่ที่บ้าน เข้าบ้านแล้วนางจึงคล้องประตู แต่ตอนนี้ในบ้านมีคนหลายคน จึงให้ประตูอ้าอยู่อย่างนั้น

“ต้มบะหมี่กินตอนเช้าแล้ว ตอนนี้ยังไม่หิว” เหล่าไท่ไท่ตอบ แล้วลวดยกเก้าอี้นั่งอยู่ข้างฝ้ายกับผ้า

โจวกุ้ยหลานเห็นจึงรีบดึงนางขึ้นมา

“ท่านแม่ ฟ้ายังไม่ทันสว่างดีเลย ยังทำงานไม่ได้ ไม่อย่างนั้นตาจะเสีย! วันนี้เราต้องทำงานตลอดเช้า บะหมี่ไม่อยู่ท้อง พวกเจ้ากินขนมหัวไชเท้าสักหน่อยให้ท้องหนักเถอะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเดียวก็หิวแล้ว”

ว่าแล้วก็รับเหล่าไท่ไท่มานั่งตรงหน้าโต๊ะอาหาร ส่วนนางก็ไปหยิบถ้วยกับตะเกียบในครัว

ตักโจ๊กให้พวกเขาแล้วยกออกมาวางบนโต๊ะ

ทั้งสองรู้สึกว่ามีเหตุผลจึงไม่บอกปัด หยิบถ้วยกับตะเกียบแล้วเริ่มรับประทาน

ครั้นลิ้มรสขนมหัวไชเท้า ทั้งสองก็ตกตะลึง “ทำไมวันนี้อร่อยกว่าเมื่อวานอีกเล่า?”

“เมื่อวานนึ่ง วันนี้ทอด” โจวกุ้ยหลานยิ้มพลางอธิบาย จากนั้นก็รับประทานอาหารเช้าต่อ

เมื่อทั้งสองได้ฟังจึงเข้าใจ

ของที่ใช้น้ำมันก็ต้องไม่เหมือนกันอยู่แล้ว

“จริงสิ ฉางหลินล่ะ?”

เหล่าไท่ไท่รับประทานโจ๊กคำหนึ่งแล้วถาม

“เขาออกไปล่าสัตว์ตั้งแต่เช้าแล้ว บอกว่าจะไปล่าไก่ป่ากลับมาให้พวกท่านกิน”

โจวกุ้ยหลานตอบ ยกโจ๊กขึ้นซดคำหนึ่งด้วย

“เราไม่ใช่แขกสักหน่อย เอาของดีอย่างนั้นมาเลี้ยงรับรองทำไม?” เหล่าไท่ไท่ปลาบปลื้มในใจ แต่ก็ยังไม่เห็นด้วยอยู่ดี

ที่กินเมื่อวานก็ดีพอแล้ว วันนี้พ่อลูกเขยยังไปล่าไก่ป่ามาให้พวกเขากินอีก สิ้นเปลืองจริงๆ

ขอเพียงมีข้าวกิน งานอะไรพวกเขาก็ทำได้หมด

“ข้าบอกแล้วว่าในบ้านยังมีของกินอีกเยอะ เขาก็ไม่ฟัง จะไปให้ได้ อย่างนั้นก็สุดแล้วแต่เขาเถอะ” โจวกุ้ยหลานกล่าว

“กุ้ยหลานอย่าคิดเช่นนี้ น้องเขยเป็นคนมีความสามารถ” พอโจวต้าไห่เห็นน้องสาวตัวเองหงุดหงิดจึงกล่าวเตือน

ก่อนหน้านี้เขาเคยตามสวีฉางหลินไปดูมาแล้ว ฝีมือยิงธนูเขาแม่นมาก! ยิงออกไปเป็นต้องได้มา อย่างไรก็ไม่มีอันตรายเกินไป

โจวกุ้ยหลานตอบกลับนิดหน่อย

กระทั่งพวกเขารับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เหล่าไท่ไท่ก็ช่วยโจวกุ้ยหลานเก็บถ้วยชาม โจวต้าไห่ถือขวานออกไปตัดต้นไม้ ส่วนเจ้าก้อนน้อยตามมารดาตนเข้าห้องครัว ยืนเล่นกับตัวเองอยู่ข้างๆ

พอล้างถ้วยเสร็จ ฟ้าก็เพิ่งจะสาง

เหล่าไท่ไท่นั่งทำงานอยู่ห้องโถง โจวกุ้ยหลานกลับห้องครัวไปทำขนมหัวไชเท้าอีก

ตอนสวีฉางหลินกลับมา ในมือยังถือไก่ป่ามาสองตัวด้วย

“ไอ้หยา ฉางหลินเก่งจริงๆ! ออกไปไม่นานก็ได้ไก่มาสองตัวแล้ว!” เหล่าไท่ไท่ร้องตกใจ

นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา

นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา

Status: Ongoing
นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเอกชายและหญิงและการแสวงหาความรักของพวกเขา หลังจากเหตุการณ์จบลงในที่สุดพวกเขาจะจบลงอย่างมีความสุขหรือไม่?แต่งงานกับครอบครัวนักล่าจนๆ?จนมากถึงกับขอทานเรียกพี่?เป็นแม่เลี้ยงมันยาก? ญาติมิตรตัวร้ายกาจมาหาเรื่องอยู่บ่อยๆ? โจวกุ้ยหลานยืดอกด้วยความภาคภูมิ บุรุษนางหล่อเหลากว่าชายใด หุ่นนั้นล่ำสันสุดๆ แล้วยังรักถนอมเมียยิ่งกว่าอะไร! ยังมีหนูน้อยแสนน่ารัก ดั่งกามเทพบุตรตัวน้อยหล่นมาจากฟ้า! จนงั้นหรอ?มันก็แค่เรื่องจิ๊บจอย เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่สร้างฟาร์มสร้างเล้า พาครอบครัวไปรวยกันเถอะ เราจะออกไปแตะขอบฟ้ากัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน