The Rise of Otaku – ตอนที่ 132

ตอนที่ 132

บทที่ 132 งานแต่งงานแบบหมู่

ภายใต้สายตาที่จับตามองของพ่อแม่ของเขา โจวหยูต้องพยายามไม่เผยพิรุธอะไรออกมาแม้ว่าการเคลื่อนไหวของเขาจะช้าและแปลกไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติกับจังหวะของกาก้ามากนัก และหลัวจากที่พวกท่าได้เห็นการกระทําของลูกชายตัวเอง พวกท่านก็มีความรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่แปลกอย่างมากแต่พวกท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร

การจับคู่ของพวกทั้งสองนั้นเป็นเรื่องยากจริงๆ ความประมาทเพียงเล็กน้อยก็สามารถทําให้หลุดออกจากการเคลื่อนไหวได้แล้ว ดังนั้นในตอนนี้หน้าผากของโจวหยูจึงเต็มไปด้วยเหงื่อเขาพยายามใช้พลังโฟกัส 120,000 เปอร์เซ็นต์ไปกับการเคลื่อนไหวาของกาก้า และยังต้องคอยฟังคําแนะนําต่างๆที่ลูกชายคนนี้พูดออกมาอีกด้วย

” พ่อต้องเปลี่ยนไปเป็นไม้พายแล้วเริ่มผัด”

“เกลือ! …. นั่นมันน้อยเกินไป! พ่อต้องใส่เพิ่มอีกหน่อย โอ้ไม่! นั่นมันมากเกินไป …”

“โอ้พระเจ้า! พ่อต้องพลิกผักพวกนี้เร็วขึ้นอีก ไม่อย่างนั้นซอสจะไม่เข้าเนื้อ…เอาละ! พ่อต้องเพิ่มไฟขึ้นอีก..!”

การทําอาการของโจวหยู่ในฐานะเชฟคนแรกนั้นเป็นอะไรที่เต็มไปด้วยข้อผิดพลาดมากมาย แต่ยังถือว่าโชคดีที่มันเป็นแค่อาหารที่ง่ายที่สุด มันจึงทําให้เขานั้นสามารถทํามันให้เสร็จได้ในที่สุดในขณะที่พ่อแม่ของโจวหยูได้เสียสมาธิไปเล็กน้อยในระหว่างรออาหารนั้นกาก้าได้กระโดดเข้ามาทําการดัดแปลงอาหารจานด่วนนี้ทันที ดังนั้นมันจึงทําให้อาหารจานกลายเป็นอาหารที่กิน

เมื่ออาหารจานนี้ใกล้จะเสร็จ ส่วนหนึ่งของร่างกายเป็นเป็นก็ได้กลายเป็นลําโพงขนาดเล็กและเริ่มเล่นเพลงที่พวกเขาสองพี่น้องเล่นตามปกติ

“ โย, โย้, ตรวจสอบ, ตรวจสอบมันออกมา…” ในขณะที่กากาเริ่มแร็พอย่างเป็นธรรมชาติเป็นเป็นก็เริ่มที่จะกระดิกก้นหม้อเป็นจังหวะ ถ้าโจวหยูไม่ได้รีบเข้ามาห้ามการกระทําพวกนี้เอาไว้ก่อนมีความเป็นไปได้ที่พ่อและแม่จะสังเกตเห็นเรื่องผิดปกตินี้ได้

“วัย … เกือบจะเป็นเรื่องแล้วไม่ละ!”

การกระทําของโจวหยูอย่างการตบลงบนเค้าเตอร์ทําอาหารนั้น ทําให้พ่อแม่ของเขาตกใจเล็กน้อย แต่เขาก็ได้คิดหาข้อแก้ตัวเอาไว้แล้ว ดังนั้นเมื่อหยางซูหลันกําลังจะพูดอะไรออกมาเขาก็พูด ขึ้นก่อนว่า “เอ่อ … แม่ไม่ต้องกังวลไปครับ! มันเป็นเพียงแมลงวันตัวหนึ่งเท่านั้นเดียวเสร็จจากเรื่องนี้แล้วผมคิดว่าต้องกลับมาทําความสะอาดห้องครัวนี้ใหม่”

“เอาละ! งั้นลูกก็รีบนําอาหารที่ลูกทําออกมาให้แม่ดูได้แล้ว ไม่อย่างนั้นอาจจะมีแมลงวันตกลงไปได้!”

หยางซุหลันไม่ได้คาดหวังว่าลูกชายของเธอจะพัฒนานิสัยดังกล่าวหลังจากที่เขาได้ย้ายเข้ามาในหมู่บ้านนี้ โชคดีที่อาหารที่เขาทํานั้นได้ปรุงสุกแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอมีความคิดว่าเธออาจจะต้องกินแมลงวันที่ผัดลงไป

การชิมอาหารในครั้งนี้มีความแตกต่างทางด้านรสชาติเล็กน้อย แต่มันถือว่าเป็นเรื่องปกติท้ายที่สุดแล้วความแตกต่างจากอาหารในร้านอาหารนั้นเป็นอะไรที่พบเห็นได้ตลอดเวลาอาหารจานเดียวกันก็มีรสชาติที่แตกต่างกันได้เช่นกัน แต่ในครั้งนี้ถือว่าเป็นที่น่าพอใจสําหรบเธออย่างมาก เธอไม่ได้คาดหวังว่าหลังจากที่ลูกชายของเธอย้ายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านนี้แล้ว เขาจะสามารถทําอาหารระดับนี้ออกมาได้

แม้ว่าเธอจะรู้สึกภูมิใจในตัวลูกของเธอเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ยังรู้สึกอิจฉาในฐานะแม่เช่นกันดูเหมือนว่าหลังจากกลับไปครั้งนี้เธอจะต้องฝึกทักษะการทําอาหารของเธอให้มาก

ในที่สุดหลังจากรอดชีวิตจากการสอบสวนของแม่มาได้ โจวหยูก็ถอนหายใจออกมาด้วยความ โล่งอกและรีบกลับไปที่สวนสนุกทันที เหตุการณ์ในครั้งนี้ทําให้เขาได้เห็นถึงพลังของเชฟคู่แฝดนี้อีกครั้งถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งคู่จะเป็นคนของโลกACG แต่ทักษะที่พวกเขามีนั้นกับเป็นอะไรที่โลกแห่งความจริงไม่สามารถมองข้ามได้

“ไม่เลวสําหรับฝาแฝดที่กลายพันธุ์

และในครั้งนี้ทักษะการทําอาหารที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ก็ทําให้โจวหยูรู้สึกสนใจขึ้นมา

แม้ว่าหมู่บ้านมินิลู่หัวนั้นจะมีสุดยอดปรมาจารย์มกมาย แต่คนที่เขาต้องการเรียนรู้ ในทักษะของพวกเขากับมีไม่มากนักตัวอย่างเช่นกันช่างไม้บีเวอร์และลิงช่างหิน พวกเขาต่างก็ต้องการถ่ายทอดทักษะของตัวเองให้เขา แต่เขากับปฏิเสธเรื่องนี้ออกไปทันทีเพียงแค่เขาชอบการต่อโมเดลมันไม่ใช้ว่าเขาจะรักการทํามันเสียหน่อย

แต่ทักษะการทําอาหารนั้นเป็นอะไรที่แตกต่างออกไป

โจวหยูยังถือว่าเป็นนักชิมตัวยงเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาไม่มีเงินมากนัก ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เรื่องมากในการกินเขาได้ยึดคติที่ว่ามีกินให้อิ่มท้องดีกว่าไม่มีอะไรกิน แต่ตอนนี้มันกับต่างออกไปแล้วเขามีเงินมากมายในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นเขาจึงได้เพิ่มมาตรฐานในการกินของตัวเองมากขึ้น

“กาก้า! ลูกช่วยสอนพ่อทําอาหารได้มั้ย?”

“แน่นอนครับ! แต่พ่อต้องยอมรับเงื่อนไขของผมเช่นกัน คือพ่อต้องเปิดฟาร์มอีกแห่งและปลูกสิ่งที่สามารถเปลี่ยนเป็นอาหารรูปแบบอื่นๆได้ และยังต้องช่วยพวกเราพัฒนาอาหารจานใหม่อีกด้วย”

ฝาแฝดได้ใช้โอกาสนี้ทําการระบุเงื่อนไขของพวกเขาออกมา และยังได้เปิดเผยจุดอ่อนของพวกเขาเช่นกัน ปรากฏว่าแม้ว่าพวกเขาจะมีทักษะการทําอาหารที่สุดยอด แต่พวกเขาก็รู้วิธีทําอาหารเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

การพัฒนาอาหารใหม่จําเป็นต้องมี “ศูนย์วิจัยอาหาร” ซึ่งมีราคาแพงเล็กน้อย แต่มัน อว่าคุ้มค่าถ้ามันทําให้เขานั้นสามารถกินอาหารอร่อยได้ในอนาคต

หลังจากทําการตัดสินใจแล้วโจวหยูได้ตรวจสอบสถานะของตัวเองทันที ก่อนที่จะพบว่าความสามารถในการทําอาหารของเขานั้นสูงพอที่จะอนุญาตให้เขาเปลี่ยนอาชีพไปเป็นพ่อครัวฝึกหัดได้ที่เป็นแบบนี้อาจจะเป็นเพราะในอดีตอาหารในงานเลี้ยงของหมู่บ้านมินิลู่หัวทั้งหมดนั้นต่างก็ถูกทําขึ้นมาด้วยเขา ดังนั้นคะแนนทักษะพวกนี้จึงได้เพิ่มขึ้นสูงในเวลาสั้นๆแบบนี้

โดยไม่รอช้าเขาได้กดเปลี่ยนอาชีพทันที

เชฟผู้น้อยช่วยให้สถานที่วิจัยด้านอาหารสามารถวิจัยอาหารทั้งหมดภายใต้การจัดอันดับ Dของอาหารจีน ชาวนาฮัทสามารถอัพเกรดเป็น Happy Farmhouse

เช่นเดียวกับชาวประมงฝึกหัดและนักล่าสัตว์ร้ายฝึกหัด หลังจากที่โจวหยูเปลี่ยนอาชีพเป็นพ่อครัวฝึกหัดแล้ว ก็ได้มีอาคารที่เกี่ยวข้องบางแห่งปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน แต่มันไม่ได้ทําให้โจวหยูกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญการทําอาหารทันที สิ่งที่เขาทําได้ในตอนนี้ก็คือต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองเท่านั้น

เวลาเดียวกันก็ได้ปรากฏพิมพ์เขียวของบ้านไร่ที่มีความสุขขึ้นมาในตู้ขายของอัตโนมัติมันเป็นกระท่อมอีกระดับของชาวนา ซึ่งมันสามารถให้เกษตรกรสองคนอยู่ด้วยกันแบบคู่รักได้การอัปเกรดต้องใช้วัตถุดิบบางอย่างเช่นไม้ซุงและแร่ ซึ่งเจ้ากระท่อมนี้เองก็มีประโยชน์เป็นอย่างมากคือมันใช้พื้นที่เท่าเดิมแต่มันสามารถเพิ่มจํานวนของเกษตรกรได้อีกเท่าตัว

เนื่องจากกาก้ายังต้องการส่วนผสมอาหารที่มากขึ้นจึงเป็นเรื่องที่ดีที่เขาจะเริ่มหาเกษตรกรเพิ่มขึ้น ด้วยระยะเวลาในการเจริญเจริญเติบโตของผักต่างๆ มันไม่เท่ากันดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องจําเป็นที่แต่ละแปลงนั้นจะมีเกษตรกรดูแล เช่น ข้าวสาลี, ข้าว, ข้าวฟ่าง,ข้าวโพด, มันฝรั่ง, มันฝรั่งหวานและธัญพืชอื่นๆไม่เพียงแต่พวกมันจะมีเวลาเติบโตที่ไม่เท่ากันเท่านั้น แต่วิธีนําไปแปรรูป เป็นวัสดุอาหารเองก็ไม่เหมือนกันเช่นกันดังนั้นการดูแลจึงแตกต่างกันไปด้วย

ดังนั้นอย่างแรกของการอักเกรดกระท่อมชาวนาไปยังระดับต่อไปก็คือ ต้องตามหาตัวช่างไม้บีเวอร์และลิงช่างหินมา โจวหยุได้ขอให้พวกเขาทําการอัพเกรดกระท่อมของชาวนาทั้งหมดหลังจากหนึ่งคืนผ่านไปกระท่อมชาวนาเล็กๆก่อนหน้านี้ที่อยู่อย่างกระจัดกระจายเดิมได้ถูกแทนที่ด้วยสิ่งปลูกสร้างที่ใหญ่โตและดูหรูหรากว่ามาก

แม้ว่ากระท่อมของชาวนาทั้งหมดจะได้รับการอัพเกรดเป็นอีกระดับ แต่จํานวนเกษตรกรไม่เพิ่มขึ้นโดยตรงอย่างที่โจวหยูคิด มันยังคงต้องมีการรับสมัคร “เกษตรกรที่เป็นคู่สามีภรรยา” เพิ่มอีกซึ่งเรื่องนี้เองก็จําเป็นต้องใช้เงิน

เดิมที่โจวหยูคิดว่าหลังจากที่พวกเกษตรกรทํางานด้วยกันมาระยะหนึ่ง พวกเขาอาจจะตกหลุมรักซึ่งกันและกันซึ่งเป็นอะไรที่มีอารยธรรม แต่เขาไม่ได้คิดว่ามันไม่ใช้แบบนั้น มันยังเป็นการแต่งงานด้วยคุมถุงชน พวกเขาต่างก็บอกว่าการแต่งงานในครั้งนี้เป็นหน้าที่ของผู้จ้างที่จะจัดการให้พวกเขาต่างก็ไม่มีข้อเรียกร้องอะไร ขอแค่เป็นสิ่งที่ผู้เป็นเจ้านายเลือกให้ พวกเขาต่างก็ยินดีที่จะรับเอาไว้โชคดีที่เรื่องนี้มันเป็นโลก ACG ดังนั้นโจวหยูจึงไม่คิดอะไรมากนัก

แต่เมื่อคิดอย่างถี่ถ้วน โจวหยูก็เพิ่งสังเกตว่าวิธีการนี้มันดูไม่เป็นธรรมกับคนเหล่านี้มากพวกเขาควรจะได้มีความรักที่บริสุทธิ์และชอบคนที่พวกเขาต้องการถึงจะถูก

ถึงแม้ว่าเขาจะมีความคิดมากมายที่ต้องการพูดออกมา แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ทําอะไรและปล่อยมันให้ผ่านไป ในไม่ช้าพวกชาวนาต่างก็มีความสุขเมื่อพวกเขาได้รู้ว่าในไม่ช้าพวกเขาก็จะได้คู่แต่งงานเป็นของตัวเอง ทุกคนต่างตั้งตารอเจ้าสาวและเจ้าบ่าวของตัวเองอย่างตื่นเต้น

โชคดีที่แม้ว่ามันจะเป็นการแต่งงานแบบคุมถุงชน แต่ดูเหมือนว่าทุกครอบครัวที่ได้คู่ครองไปนั้นดูมีความสุขอย่างมาก สังเกตได้จากพวกเขาแต่ละคนนั้นต่างก็ยิ้มออกมาตลอดเวลา

แน่นอนว่าในวันนี้จะต้องมีการเฉลิมฉลองขึ้น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พิธีแต่งงานของเกษตรกรจะไม่ถูกจัดขึ้น และแน่นอนว่าชาวบ้านของหมู่บ้านมินิลู่หัวทุกคนต่างก็ยินดีที่จะเข้าร่วมงานนี้

คืนนั้นในช่วงเวลากลางคืนนี้จึงได้มีการจัดพิธีแต่งงานหมู่เกิดขึ้น

The Rise of Otaku

The Rise of Otaku

เรื่องย่อย

โจวหยูเป็นโอตาคุที่รักสันโดษ ซึ่งเขานั้นเป็นคนที่ไม่ชอบออกจากบ้านของตัวเอง

แต่เขาก็ถูกบังคับให้ออกจากบ้านโดยเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในวันหนึ่ง…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท