The Rise of Otaku – ตอนที่ 122

ตอนที่ 122

บทที่ 122 ความหวังครั้งใหม่

คืนนั้นหลังจากผู้บุกรุกมากกว่าหนึ่งโหลถูกจัดการไป ไม่มีใครกล้าที่จะพยายามบุกเข้ามาอีกครั้ง พวกสัตว์อัศวินทั้งหมดเองก็ได้มีชื่อเสียงในการต่อสู้ขึ้นมาและกลายเป็นฮีโร่ยอดนิยมของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปในที่สุด ทุกวันพวกเขาจะพาพวกมันไปลาดตระเวนในสวนสนุก

“ต้องยอมรับว่าพวกมันมีประสิทธิภาพมากกว่าสุนัขตํารวจ

ถึงแม้ว่ารอบปฐมทัศน์จะเสร็จไปแล้วแต่มันก็ยังคงต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่ภาพยนตร์จะออกฉายในโรงภาพยนตร์สาธารณะ สําหรับเวลาที่แน่นอนนั้นเจ้าของอย่างโจวหยูไม่ค่อยสนใจมันเท่าไหร่ เพราะสําหรับเขาแล้วถ้าต้องการดูอีกครั้งก็สามารถทําได้ง่ายๆ

ในทางกลับกันลุงโจวฟูเป็นคนที่ยุ่งมากที่สุดเมื่อเร็วๆนี้ เขาได้ยอมรับการสัมภาษณ์ทุกประเภท ทําการประชุมทุกชนิด และถึงขั้นเดินทางไปทําธุรกิจทุกที่ที่ได้รับจดหมายเชิญ เห็นได้ชัดว่าเขาควรจะได้รับรางวัลพนักงานที่ขยันมากที่สุดแห่งปีไปครอบครองในปีนี้

แต่ในตอนนี้ทุกความสนใจของโจวหยูนั้นอยู่กับเจ้าเมล็ดพันธุ์ร่วงหล่น

โจวหยูไม่เคยเลือกฝ่ายและไม่ได้วางแผนที่จะสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะเขารู้ว่าตัวเองนั้นเป็นเพียงมนุษย์จากโลกแห่งความจริง และมันไม่จําเป็นต้องให้เขากระโดดลงไปในความขัดแย้งในโลก ACG ดังนั้นการที่จะปลูกเมล็ดพืชนี้หรือไม่จึงไม่ใช้ปัญหาสําหรับเขา

จนถึงตอนนี้เมล็ดพันธุ์ที่ได้รับจากโลก ACG นั้นถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเสมอมา แต่ในตอนนี้มันกับเกิดปัญหาขึ้น และปัญหานั้นก็คือไม่มีใครรู้ว่าเจ้าเมล็ดพันธุ์ร่วงหล่นนี้จะเติบโตขึ้นมาเป็นคนยังไง เขาจะทํายังไงถ้าเกิดว่าลูกที่เกิดมานั้นเป็นผู้ร้าย? ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆไม่ใช้ว่าเขาต้องยอมส่งลูกของเขาไปยังเมืองแบล็กสตาร์หรอกนะ?

ด้วยความสงสัยและความกังวลทุกประเภทต่างก็กระดอนเข้ามาหาโจวหยูอย่างต่อเนื่องจนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะทดลองปลูกเมล็ดนี้ดู

เมื่อคิดได้แบบนั้นเขาก็ไม่รอช้าที่จะเปิดใช้ทักษะอย่าง “ชาวนาผู้มีอํานาจทุกอย่าง” ด้วยเอฟเฟคของทักษะนี้มันจะทําให้เขาสามารถใช้จอบธรรมดาในการปลูกเมล็ดพันธุ์ทุกชนิดในโลกของ ACG ได้ แต่จํานวนครั้งที่เขาสามารถใช้ได้นั้นเหลือเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และหลังจากใช้แล้วทักษะในครั้งนี้ไปแล้ว ก็ไม่สามารถใช้งานมันได้อีก

หลังจากเปลี่ยนเป็นชาวนาผู้มีอํานาจทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อย โจวหยูก็เหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าเขายังมีเจ้าเมล็ดพันธุ์ปริศนาอยู่หนึ่งเมล็ด ดังนั้นเขาจึงได้เข้าไปค้นในห้องเก็บของ ก่อนที่จะพบเจ้าเมล็ดที่ต้องการในที่สุด เจ้าเมล็ดนี้เขาได้รับมาจากลูกสาวคนโต หลังจากที่เธอกลับมาจากการเคลียดันจันคุกมืดเมื่อนานมาแล้ว

เป็นครั้งแรกที่เขาไม่รู้ว่ามันเป็นเมล็ดอะไรและจะปลูกยังไง ดังนั้นตั้งแต่ที่เขาได้มันมาก็ได้จับโยนมันไปยังห้องเก็บของแทบจะทันที แต่ตอนนี้เขาจะใช้โอกาสนี้เพื่อปลูกมัน

“สองเมล็ด! สองความหวังที่ไม่รู้จัก!”

โดยทั่วไปแล้วมันมักจะเกิดปัญหาขึ้นมาหลังจากที่โจวหยูเริ่มปลูกเมล็ดลงไป ตัวอย่างเช่นเมล็ดไอดอลเขาได้พบปัญหาอย่างการโจมตีจากพวกสโตกเกอร์ เมล็ดผู้กํากับเองถึงจะไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้แต่มันก็จําเป็นที่จะต้องออกไปแก้ปัญหาข้างนอกหมู่บ้านเช่นกัน ดังนั้นเมื่อเขาเริ่มปลูกเมล็ดพันธุ์ใหม่ทั้งสองนี้ลงไป แน่นอนว่าเขาต้องเพิ่มมาตรการป้องกันพวกมันโดยรอบทันที

เมล็ดพันธุ์ที่ร่วงหล่น: หยุดการเติบโต!

สภาพแวดล้อมไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการเติบโต

เมล็ดพันธุ์ปริศนา: หยุดการเจริญเติบโต!

มันไม่พอใจมาก

ข้อมูลที่สังเกตได้พวกนี้เห็นได้ชัดว่ามันไม่สามารถให้เบาะแสอะไรได้เลย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำ เมล็ดพันธุ์ทั้งสองต้องการสภาพแวดล้อมแบบไหน? และทําไมมันถึงไม่พอใจกัน?

ดังนั้นในเวลานี้เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องซื้อโรงพยาบาลเมล็ดพันธุ์มา

โรงพยาบาลเมล็ดพันธุ์ขั้นต้น: ค่าใช้จ่าย 1,000 เหรียญโม สามารถวินิจฉัยโรคได้เกือบทุกชนิด อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถสั่งยาบางชนิดได้ สามารถสร้างห้องปฏิบัติการเพื่อพัฒนายาเฉพาะหลังจากการอัพเกรดเท่านั้น

หลังจากรอสองวันโจวหยูก็สามารถเห็นพิมพ์เขียวของเจ้าโรงพยาบาลเมล็ดพันธุ์ขั้นต้นบนเครื่องขายของอัตโนมัติ

หลังจากทําการสร้างเสร็จ โจวหยูรู้สึกว่ามันเหมือนกับการเล่นเกมแนวโรงพยาบาลในโทรศัพท์ไม่มีผิด มีหมอจิ๋วออกมารักษาเมล็ดพันธุ์อย่างเคร่งขรึม หมอได้ใช้หูฟังตรวจสอบดินก่อนที่จะพึมพําอะไรตลอดเวลา มันดูแล้วเป็นอะไรที่ตลกเป็นอย่างมาก แต่ยังไงเขาก็หวังว่าหมอพวกนี้จะรู้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว

ใช้เวลาไม่นานก่อนที่ผลจะออกมา สรุปว่าเมล็ดที่ร่วงหล่นนั้นมีอาการเป็น “ไข้แห้ง” วิธีแก้ปัญหานี้ก็ง่ายๆคือมันจําเป็นต้องเติบโตในที่ที่มีน้ำแข็งและหิมะ ในด้านของเมล็ดปริศนานั้นเองที่มันไม่พอใจก็เพราะมันขาด สารอาหารและต้องการอาหารมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น

“อืม! สถานที่ที่มีน้ำแข็งและหิมะ! อย่าบอกฉันนะว่าฉันต้องปลูกมันในแถบอาร์กติก? และเจ้าเมล็ดพันธุ์ปริศนานี้ก็เรื่องมากจริงๆ อะไรคือต้องการอาหารเพิ่ม? ก็เห็นอยู่ชัดๆว่าก่อนปลูกฉันได้ใส่ปุ๋ยลงไปจํานวนมากขนาดนั้น มันยังบอกว่าขาดสารอาหารอีก?”

แต่ในไม่ช้าโจวหยูก็พบวิธีแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว เจ้าเมล็ดพันธุ์ที่ร่วงหล่นนั้นเขาได้นํามันไปปลูกในตู้เย็นที่ว่างเปล่าหลังหนึ่ง ด้วยการสั่งซื้อมาด้วยราคาแพงเจ้าตู้นี้จึงสามารถปรับอุณหภูมิได้จนถึงติดลบ5องศาเลยที่เดียว

ตามความรู้ทั่วไปในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว การปลูกในลักษณะเช่นนี้เมล็ดพืชอาจจะตายหรือไม่ก็หยุดเจริญเติบโตได้ อย่างไรก็ตามสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในโลกของ ACG นั้นแปลกเป็นอย่างมาก หลังจากที่ได้ย้ายเมล็ดที่ร่วงหล่นไปปลูกยังต้นเย็นติดลบแล้ว มันไม่เพียงแต่ไม่ตายหรือหยุดการเจริญเติบโตเท่านั้น หลังจากผ่านไปเพียงหนึ่งคืนมันกลับงอกต้นอ่อนขึ้นมาแทน

ต้องพูดว่าไม่สามารถเอาสามัญสํานึกหรือตรรกะในโลกแห่งความจริงมาติดสินได้จริงๆ

ในแง่ของเจ้าเมล็ดปริศนานั้นมันมีวิธีแก้ที่ง่ายเช่นกัน เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวกับอาหารในดินโจวหยูจึงเพิ่มจํานวนปุ๋ยเข้าไปก็ถือว่าเสร็จเรียบร้อย มีการฉีดพ่นปุ๋ยสองแพคให้กับมัน แต่มันก็ยังไม่แสดงอาการใดๆ จากนั้นแพ็คที่สามก็ถูกเทลงไปเพิ่ม วิธีนี้ง่าย ตรงจุด และเห็นผลได้แทบจะทันที ความอุดมสมบูรณ์ของดินได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเป็นแบบนั้นปัญหาอย่างการขาดสารอาหารก่อนหน้านี้ก็หายไป และสถานะอย่างไม่พอใจก็หายไปเช่นกัน

“ไม่รู้ว่าลูกที่เกิดมาครั้งนี้จะเป็นพวกกินจุไหมนะ?”

แต่การแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ก็มีปัญหาเช่นกัน ด้วยอัตราการบริโภคปุ๋ยจํานวนมากของมัน ทําให้ความสมดุลก่อนหน้านี้เริ่มถูกทําลายลงไป ดังนั้นมันจําเป็นต้องลดการให้ปุ๋ยในฟาร์มผักลง และนําปุ๋ยพวกนั้นมาใช้กับเรื่องนี้ก่อนจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

วันหยุดฤดูหนาวกําลังใกล้เข้ามาและได้เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการตรวจสอบสถิติปีแล้ว หลังจากตรวจสอบสวนสนุกแห่งนี้เสร็จ ลุงฟูก็ได้เข้ามาพูดถึงข้อเสนอของเขาเองสําหรับการดําเนินงานของสวนสนุกในปีถัดไป แต่โครงการทุกประเภทใดต้องได้รับการตัดสินใจโดยโจวหยูเพียงก่อนถึงจะสามารถลงมือทําได้ ดังนั้นจึงไม่ใช้เรื่องแปลกที่เขาจะมาพูดเรื่องนี้ในเวลาแบบนี้

พูดตามตรงว่าข้อเสนอของลุงโจวฟูนั้นไม่เลว แต่มันไม่สอดคล้องกับแนวคิดของโจวหยู

ถ้ามันเป็นแค่สวนสนุกธรรมดา ข้อเสนอแบบธรรมดาพวกนี้ของลุงฟูนั้นจะได้รับการอนุมัติทันที แต่เมื่อมันเป็นสวนสนุกของโจวหยู มันก็ไม่สามารถนําตรรกะแบบธรรมดามาใช้ได้ ดังนั้นถ้าจะได้รับการอนุมัติให้ผ่านได้นั้น มันจะต้องเป็นโครงการที่ไม่เหมือนใครและที่สําคัญที่สุดเลยก็คือ มันจะต้องเป็นโครงการที่เขาสนใจด้วย

ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง “โจรสลัดผลไม้” เป็นที่นิยมไปทั่วประเทศจีนและยังได้รับการเปิดตัวในตลาดตะวันตก มีผลิตภัณฑ์ต่อพ่วงทุกชนิดและเกมที่มีชื่อเดียวกัน เมื่อโจวฟูรู้เรื่องนี้มันก็สายเกินไปแล้วที่เขาจะเริ่มหากําไรจากเรื่องพวกนี้ ดังนั้นเมื่อเขารู้ว่าโจวหยูได้สร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ขึ้นมา เขาก็รีบมานําเสนอความคิดเกี่ยวกับการหากําไรจากมันแทบจะทันที

เขาถึงกับได้วางแผนมาแล้วว่าจะทํายังไงกับเรื่องนี้ และต้องทํายังไงถึงจะทําให้กิจกรรมนี้กลายเป็นกิจกรรมร้อนแรงที่สุด

ความคิดทั้งหมดต่างก็ถูกเขียนลงไปบนกระดาษที่อยู่ตรงหน้าโจวหยูแล้วในตอนนี้

ก่อนที่จะนําเสนอเรื่องนี้โจวฟูได้คิดมันอย่างรอบคอบแล้ว โดยเงื่อนไขต่างๆที่มีอยู่ในตอนนี้มันก็ดูเหมือนเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แต่มันก็ยังมีปัญหาเล็กๆเช่นกัน โครงการที่เป็นนวัตกรรมใหม่พวกนี้ถือว่าเป็นโครงการที่มีเสียงเกินไป หากมันไม่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ มันมีความเป็นไปได้ที่จะสูญเสียการลงทุนทั้งหมด

“ลุงฟูครับ! ผมอ่านดูแล้วคิดว่ามันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เรื่องเงินในการลงทุนเองก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะการมีความสนุกเป็นสิ่งที่สําคัญที่สุดผมต้องการ ดังนั้นผมคิดว่าโครงการนี้ของลุงฟูสามารถดําเนินงานได้ทันที ผมเองก็อยากจะเห็นเช่นกันว่าถ้าเราสร้างพื้นที่ที่เหมือนกับภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมาจะเป็นยังไง”

“งั้นผมจะไปติดต่อขอผู้ร่วมทดสอบจากทางโรงเรียนลู่หัวเช่นกัน ด้วยวิธีนี้มันจะทําให้เราง่ายต่อการควบคุมและยังสามารถประเมินความรู้สึกได้ง่ายๆอีกด้วย “

“รับสมัครนักเรียนอีกครั้ง?”

ในช่วงวันหยุดฤดูร้อนที่ผ่านมา สระว่ายน้ำธรรมดาและสระว่ายน้ำคลื่น ลูกค้าเกือบทั้งหมดต่างก็ได้ใช้ตัวนักเรียนฟรีเข้า ซึ่งนั้นทําให้รายได้ของสวนสนุกลดลงไปถึง 20 เปอร์เซ็นต์เลยที่เดียว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้โจวหยูต้องการทําอะไรในเวลานี้ แต่ในตอนนี้เขาเริ่มแน่ใจว่าเรื่องนี้มันเป็นเพียงงานอดิเรกส่วนตัวของโจวหยูอีกแน่นอน

“เฮ้อ! โอเค! เธอไปรับสมัครเด็กนักเรียนพวกนั้นมาได้ แล้วครั้งนี้เธอจะใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการรับสมัครละ? จะใช้คะแนนสอบเหมือนเดิมไหม??”

“ยังใช้อยู่ครับ! แต่คราวนี้ผมคิดว่าอาจต้องเพิ่มทักษะบางอย่างลงไปเป็นเกณฑ์ด้วยเช่นนักเรียนที่มีทักษะพิเศษทางด้านดนตรี ในด้านกีฬา หรือการวาดภาพ และยังรวมไปถึงนักเรียนที่ชนะการแข่งขันในด้านต่างๆก่อนหน้านี้ก็ถือว่าผ่านเกณฑ์เช่นกัน”

มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะนานแล้วที่เขาไม่ได้เล่นสนุกแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงต้องวางแผนงานให้ดีๆ มันจะไม่ได้รับให้มีเรื่องผิดพลาดขึ้นกับเรื่องนี้

The Rise of Otaku

The Rise of Otaku

เรื่องย่อย

โจวหยูเป็นโอตาคุที่รักสันโดษ ซึ่งเขานั้นเป็นคนที่ไม่ชอบออกจากบ้านของตัวเอง

แต่เขาก็ถูกบังคับให้ออกจากบ้านโดยเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในวันหนึ่ง…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท