จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 61

ตอนที่ 61

บทที่ 61 : ไป๋เสี่ยวเฉินมำหำท่ำนน้ำ
ภายในหอบรรพชนตระกูลไป๋ ไป๋เซียวนั่งเอนหลังพิงกาแพง
เพื่อบรรเทาพิษไข้ภายในร่างกาย
“เสี่ยวมี่…ข้าคิดว่าท่านน้าคงจะอยู่ในนี้ เข้าไปพบท่านน้าข้าง
ในกันเถอะ” ภายนอกประตู เสียงเด็กน้อยดังแว่วเข้ามาใน
อาคารที่เงียบสงบ
ไป๋เซียว อยากจะเอ่ยปากร้องเรียก ทว่าครั้นเขาเปิดปากกลับ
ไม่มีเสียงใดเล็ดรอดออกมา เนื่องเพราะลาคอของเขาแห้ง
ผาก กระทั่งไม่อาจกล่าวคาใดออกมาได้แม้แต่คาเดียว เขา
ทรมานมาก
แคร่ก..
ประตูหอบรรพชนเปิดออก เปลือกตาของไป๋เซียวค่อย ๆ ลืม
ขึ้น เขาเห็นไป๋เสี่ยวเฉินหลานชายที่รักกาลังยืนอยู่ตรงประตู
ท่ามกลางแสงสว่างไสวของดวงจันทรา
“ท่านน้า !” ทันทีที่เห็นเด็กหนุ่มนอนอยู่บนพื้น เด็กชายตัว
น้อยก็รีบวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับเสี่ยวมี่
เด็กน้อยยื่นมือออกไปแตะหน้าผากไป๋เซียว พร้อมกับอุทาน
ว่า “ท่านน้า ท่านมีไข้นี่ !”
อย่าคิดว่าเหล่าจอมยุทธ์จะไม่รู้จักเจ็บป่วย แม้ว่าพวกเขาจะมี
ร่างกายที่แข็งแรงกว่าคนทั่วไป อีกทั้งยังมีระบบภูมิคุ้มกันที่
ดีกว่า หากแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ป่วย
“ข้าไม่เป็นไร … ” เสียงไป๋เซียวแหบพร่า เขาคงเกรงว่า
หลานชายของตนจะเป็นห่วง เขายังพยายามยิ้มให้เด็กน้อย
“เฉินเอ๋อ เจ้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร ?”
“หม่ามี้เป็นห่วงท่านน้ามาก นางจึงให้เสี่ยวมี่มาพบท่าน แล้ว
เฉินเอ๋อเองก็คิดถึงท่านน้ามากเช่นกัน เช่นนั้นหลานจึงมากับ
เสี่ยวมี่ด้วย”
ตลอดเวลาที่พูด ไป๋เสี่ยวเฉินก็ใช้มือควานลงไปในกระเป๋าของ
ตนไม่หยุด จากนั้นเขาก็หยิบขวดยาเล็ก ๆ ออกมาหลายขวด
แต่ละขวดบรรจุยาเม็ดที่เปี่ยมประสิทธิภาพมากมาย
หลากหลายชนิด
“เฉินเอ๋อขอโทษนะท่านน้า เฉินเอ๋อไม่เคยเรียนรู้ทักษะ
การแพทย์มาจากหม่ามี้มาเลย จึงไม่รู้ว่ายาเม็ดไหนที่สามารถ
รักษาท่านน้าได้”
ตั้งแต่เล็ก เขาก็สนใจเพียงเรื่องยาพิษเท่านั้น ส่วนเรื่องการ
ปรุงยารักษาคน บอกตามตรงเขาไม่ปลื้มเอาเสียเลย…
“ไม่งั้น…” ไป๋เสี่ยวเฉินเงยหน้านัยน์ตาเป็นประกาย “ท่านก็
ลองทั้งหมดเลยดีหรือไม่ ?”
“นี่คือ … ” ไป๋เซียวยกขวดต่าง ๆ ที่วางกองตรงหน้าไป๋เสี่ยว
เฉินขึ้นดู นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสงสัย
ไป๋เสี่ยวเฉินยิ้ม รอยยิ้มนั้นแลดูบริสุทธิ์สดใสเฉกเช่นเคย “นี่
คือขนมของเฉินเอ๋อกับเสี่ยวมี่ที่หม่ามี้เตรียมไว้ให้พวกเรา”
ขนม ?
ไป๋เซียวมองใบหน้าเล็ก ๆ ที่ละเอียดอ่อนของเด็กน้อย พลัน
กระแสอบอุ่นก็เติมเต็มหัวใจของเขา “ไม่จาเป็นหรอก พวก
เจ้าเก็บไว้กินกันเถอะนะ”
สีหน้าผิดหวังพลันเข้ามาแทนที่รอยยิ้มของไป๋เสี่ยวเฉินทันที
“ข้าคิดว่าท่านน้าต้องชอบขนมนี่แน่ ๆ ก็อาจารย์ตาทั้งสาม
ของข้ามักจะต่อสู้กัน เพื่อแย่งชิงขนมนี่อยู่เสมอ”
มุมปากของไป๋เซียวโค้งลง อาจารย์ตาทั้งสามต่อสู้แย่งชิงขนม
ตกลงทั้งสามคนนั่นอายุเท่าใดกันนี่ ?
“นายน้อยนี่ซื่อบื้อจริง ๆ” เสี่ยวมี่ปรายหางตามองไป๋เสี่ยว
เฉิน”ท่านคิดว่ามนุษย์ทุกคนจะเหมือนกับพวกเราที่สามารถ
กินยาเม็ดจิตวิญญาณแทนขนมได้กระนั้นรึ ? หากท่านให้เขา
กินยาเม็ดเหล่านั้นทั้งหมด ข้าเกรงว่าร่างกายของเขาน่าที่จะ
ระเบิดเป็นชิ้น ๆ ตายแหง๋แก๋เสียล่ะมากกว่า !”
ไป๋เสี่ยวเฉินกระพริบตาปริบ ๆ อย่างไร้เดียงสา อีกทั้งงุนงง
“ข้าเป็นลูกชายของหม่ามี้ ส่วนท่านน้าก็เป็นน้องชายของ
หม่ามี้ ก็แล้วเหตุใดเขาถึงกินเหมือนพวกเราไม่ได้ล่ะ ?”
เสือขาวเสี่ยวมี่เหลือบตามองบนให้กับคาถามไร้สาระของนาย
น้อย มันเดินไปข้างหน้าไม่สนใจไป๋เสี่ยวเฉินอีก แล้วมันก็เริ่ม
ใช้กรงเล็บควานหาขวดยา หลังจากนั้นไม่นานมันก็พบขวดยา
ขวดหนึ่งมันส่งมอบยาขวดนั้นให้ไป๋เซียว
“เพียงท่านกินไอ้นี่เม็ดหนึ่ง อาการไข้ของท่านก็จะหาย”
ไป๋เซียวรู้สึกตกใจเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินว่า การ
กินขนมช่วยรักษาอาการไข้ได้
ทว่าครั้นเห็นประกายแวววาวในดวงตาของหลานชาย ไป๋
เซียวก็ปฏิเสธไม่ออก เขาหยิบขวดเคลือบจากอุ้งเล็บของ
เสี่ยวมี่ จากนั้นก็เปิดขวดอย่างระมัดระวัง

จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์

จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์

นางกลับชาติมาเกิดเป็นทายาทในตระกูลขุนนางจีนที่ทรงเกียรติ ทว่าในเวลานั้นนางไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากต้องคว้าตัวชายสักคนมาปลดปล่อยความทรมานที่กำลังพุ่งถึงจุดที่ไม่สามารถอดทนได้

ไม่คาดคิดไม่เพียงแต่นางต้องถูกพร่าพรหมจรรย์อย่างไม่ตั้งใจคาเตียง นางยังต้องอุ้มท้องทั้งที่ไม่ได้แต่งงานอีกด้วย

มิหนำซ้ำ…ลูกที่นางอุ้มท้องมาถึงสิบเดือนกลับกลายเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวเล็ก ๆ ที่ร้องเรียกนางว่า “หม่ามี้” ตั้งแต่เกิด โชคดีที่ลูกของนางเลี้ยงง่าย และหวงแม่มาก

ในโลกนี้ย่อมมีทั้งคนดี และคนชั่วมากมายให้ผจญ หม่ามี้กับบุตรชายคู่นี้จึงต้องร่วมมือกันทำลายล้างศัตรู ไหนจะพวกญาติ ๆ ที่ชอบสบประมาทดูหมิ่นพวกเขาอีกล่ะ คนพวกนี้จะต้องได้รับผลกรรมให้สาสมกับสิ่งที่พวกมันกระทำกับพวกเขาสองแม่ลูก

แต่ทว่า จุ๊ ๆ วันหนึ่งป๊ะป๋าจิ้งจอกก็ปรากฏตัวขึ้น ไม่เพียงแต่คิดจะลักพาตัวจิ้งจอกน้อยเท่านั้น ทว่าเขายังคิดจะชิงหม่ามี้ของเจ้าจิ้งจอกน้อยอีกด้วย ชะช้า ป๊ะป๋าผู้โง่เขลากล้าดียังไง ? จะทำอะไรไม่ถามไม่ไถ่ความเห็นของจิ้งจอกน้อยสักคำ…

จิ้งจอกน้อยเท้าสะเอวพลางกล่าวว่า “ท่านอยากเป็นป๊ะป๋าของข้ากระนั้นรึ ? เช่นนั้นก็ต้องจ่ายค่าลงทะเบียนมา แล้วก็เดินไปต่อแถวหลัง ๆ โน่น เอ่อ หม่ามี้… ท่านลุงหวังที่อยู่บ้านถัดไปนั่นมีฐานะมั่งคั่งมาก ข้าว่าท่านควรไปเป็นลูกสะใภ้เขาจะดีกว่านะ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท