บทที่ 72 : รสชำติของนำง
เขารู้ว่า หากเวลานี้เขาไม่เชื่อฟังมารดา จนทาให้ถูกชายผู้นั้น
พบตัว บางที…บางที …
เขาอาจจะพรากจากหม่ามี้ตลอดไป !
ไป๋หยานรู้สึกปวดร้าวใจ นางดึงตัวเด็กน้อยเข้ามาสวมกอด
เพื่อปลอบโยน “พรุ่งนี้แม่จะให้ยาเจ้าขวดหนึ่ง เมื่อไรก็ตามที่
เจ้าอยากพบแม่ก็กินยานั่นเสีย ยานั่นจะช่วยปิดบังกลิ่นอาย
ของเจ้า เขาจะได้หาเจ้าไม่พบ ”
ทันทีที่ไป๋เสี่ยวเฉินได้พบกับตี้คัง เขาจะต้องจาเด็กน้อยได้เป็น
แน่
สัตว์อสูรมีความสามารถในการแยกแยะกลิ่น เช่นนั้นไป๋หยาน
จึงให้ไป๋เสี่ยวเฉินปกปิดกลิ่นอาย เพื่อมิให้ตี้คังได้กลิ่นเขา
“หม่ามี้”
ไป๋เสี่ยวเฉินยกมือเล็ก ๆ ของเขาขึ้นโอบรอบคอมารดาแน่น
น้าตาคลอหน่วย ทว่าเด็กน้อยก็ไม่มีเวลามากพอที่จะเศร้า
เพราะไป๋หยานเขกหัวเขาเสียก่อน
“เฉินเอ๋อ แม่ยังไม่ได้คิดบัญชีเจ้าเลย ! ไยเจ้าถึงเป็นคนโลภ
ตั้งแต่ยังเด็ก ? มารดาของเจ้ายังรวยไม่พอกระนั้นหรือ ? เหตุ
ใดเจ้าถึงอยากได้ทรัพย์สมบัติของผู้อื่น ?”
ครั้นหวนคิดถึงถ้อยคาของไป๋เสี่ยเฉินเมื่อครู่แล้ว นางก็แยก
เขี้ยว
อะไรคือฉู่อี้เฟิงทั้งอ่อนโยน ใจดีและร่ารวย ?
เจ้าเด็กคนนี้คิดจะขายแม่ตัวเองกระนั้นรึ ?
“หม่ามี้ หาใช่ความผิดของข้าไม่ พี่สาวฉู่บอกให้ข้า พูดแต่
เรื่องดี ๆ เกี่ยวกับพ่อบุญธรรมต่อหน้าท่าน”
ไป๋เสี่ยวเฉินลูบหัวเล็ก ๆ ที่เพิ่งจะถูกเขกป้อย ๆ ครั้นเขาเงย
หน้าขึ้นก็เห็นแววตาโกรธ ๆ ของไป๋หยาน จึงรีบโบ้ยความผิด
“นางเป็นน้องสาวของพ่อบุญธรรมเจ้า หากเจ้าเรียกนางว่า
พี่สาว เช่นนั้นพ่อบุญธรรมเจ้าจะอยู่ในฐานะใด ?”
“แต่ … พี่สาวฉู่ไม่ยอมให้ข้าเรียกนางว่าท่านน้า นางให้ข้า
เรียกนางว่าพี่สาวเท่านั้น”
ด้วยความคับข้องใจไป๋เสี่ยวเฉินเกือบร้องไห้ เขามองไป๋หยาน
พร้อมน้าตาที่คลอหน่วย
“ต่อไป ห้ามเจ้าสมรู้ร่วมคิดกับนางเช่นนี้อีก !” ไป๋หยานเช็ด
น้าตาให้บุตรชาย ขณะกล่าวเตือน
เด็กสาวจอมจุ้นผู้นั้นชอบสร้างปัญหาน่าปวดหัวให้กับเหล่าผู้
อาวุโสในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ทว่าไป๋เสี่ยวเฉินกลับชอบเล่นกับ
นางเป็นที่สุด
“เฉินเอ๋อ…รู้ความผิดของตัวเองแล้ว”
แม้โลกนี้จะยิ่งใหญ่สักเพียงใด หากแต่หม่ามี้ของข้ายิ่งใหญ่
ที่สุด
“รีบไปอาบน้าแล้วเข้านอน พรุ่งนี้เช้าเราจะกลับบ้านกัน”
หลังจากไป๋หยานกล่าวจบ นางก็ไม่สนใจว่าบุตรชายจะทาสิ่ง
ใดต่อ นางลุกขึ้น จากนั้นก็เดินไปที่เก้าอี้นุ่มอย่างช้า ๆ
*****
ณ ย่านชานเมืองของเมืองหลวงแห่งนี้ ตี้คังในอาภรณ์สีม่วง
ร่อนลงจากท้องฟ้า เขากามือแน่น ก่อนจะชกต้นไม้เก่าแก่ ที่
อยู่ตรงหน้าดังปัง
ต้นไม้เก่าแก่ ที่สูงชะลูดพลันหักโค่นลงทันที หลังจากได้
ระบายอารมณ์ออกไปบ้าง ความรู้สึกปวดใจก็บรรเทาลง
“ท่านอ๋อง”
องครักษ์คุกเข่าลงข้างหลังตี้คังด้วยอาการกระสับกระส่าย
พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุใดท่านอ๋องจึงโกรธถึงเพียงนี้
?
“ไปตรวจสอบมาให้ข้า ข้าต้องการข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับสตรี
ที่ชื่อไป๋หยานผู้นั้น !”
ไป๋หยาน เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่ ?
เหตุใดเลือดของเจ้า … จึงสามารถกระตุ้นอารมณ์ของข้าได้
อย่างง่ายดายเช่นนี้ ?
“รับทราบ ท่านอ๋อง” หัวใจขององครักษ์ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
หลังจากได้ยินคาสั่งนี้ เขารีบลุกขึ้น จากนั้นก็ถอยออกไป
ปฏิบัติตามคาสั่งทันที
ครั้นเห็นองครักษ์ลับตาไปแล้ว ตี้คังก็ยกนิ้วเรียวงามขึ้นแตะ
ริมฝีปากของตน
ริมฝีปากของเขายังคงมีรสชาติของหญิงผู้นั้นติดอยู่ ….
“ข้าไม่สนใจหรอกว่าเจ้าจะยอมรับหรือไม่ ? ข้ามั่นใจว่าเจ้า
จะต้องเป็นหญิงคนเดียวกับเมื่อหกปีก่อนเป็นแน่ !”
สาหรับเผ่าจิ้งจอกแล้ว ประสาทรับรู้กลิ่นของพวกเขาทรง
พลังที่สุด ด้วยความสามารถในการแยกแยะกลิ่นที่ดีเยี่ยม จะ
มีผู้ใดสามารถเก็บงากลิ่นของตน โดยไม่ทาให้พวกเขาล่วงรู้ได้
เล่า
ยิ่งโดยเฉพาะ ….
เมื่อหวนคิดถึงข่าวลือเกี่ยวกับการตั้งครรภ์โดยไม่ได้แต่งงาน
ของไป๋หยาน ประกายแสงหม่น ๆ พลันปรากฏขึ้นในแววตา
ของตี้คัง
จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 72
จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์
นางกลับชาติมาเกิดเป็นทายาทในตระกูลขุนนางจีนที่ทรงเกียรติ ทว่าในเวลานั้นนางไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากต้องคว้าตัวชายสักคนมาปลดปล่อยความทรมานที่กำลังพุ่งถึงจุดที่ไม่สามารถอดทนได้
ไม่คาดคิดไม่เพียงแต่นางต้องถูกพร่าพรหมจรรย์อย่างไม่ตั้งใจคาเตียง นางยังต้องอุ้มท้องทั้งที่ไม่ได้แต่งงานอีกด้วย
มิหนำซ้ำ…ลูกที่นางอุ้มท้องมาถึงสิบเดือนกลับกลายเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวเล็ก ๆ ที่ร้องเรียกนางว่า “หม่ามี้” ตั้งแต่เกิด โชคดีที่ลูกของนางเลี้ยงง่าย และหวงแม่มาก
ในโลกนี้ย่อมมีทั้งคนดี และคนชั่วมากมายให้ผจญ หม่ามี้กับบุตรชายคู่นี้จึงต้องร่วมมือกันทำลายล้างศัตรู ไหนจะพวกญาติ ๆ ที่ชอบสบประมาทดูหมิ่นพวกเขาอีกล่ะ คนพวกนี้จะต้องได้รับผลกรรมให้สาสมกับสิ่งที่พวกมันกระทำกับพวกเขาสองแม่ลูก
แต่ทว่า จุ๊ ๆ วันหนึ่งป๊ะป๋าจิ้งจอกก็ปรากฏตัวขึ้น ไม่เพียงแต่คิดจะลักพาตัวจิ้งจอกน้อยเท่านั้น ทว่าเขายังคิดจะชิงหม่ามี้ของเจ้าจิ้งจอกน้อยอีกด้วย ชะช้า ป๊ะป๋าผู้โง่เขลากล้าดียังไง ? จะทำอะไรไม่ถามไม่ไถ่ความเห็นของจิ้งจอกน้อยสักคำ…
จิ้งจอกน้อยเท้าสะเอวพลางกล่าวว่า “ท่านอยากเป็นป๊ะป๋าของข้ากระนั้นรึ ? เช่นนั้นก็ต้องจ่ายค่าลงทะเบียนมา แล้วก็เดินไปต่อแถวหลัง ๆ โน่น เอ่อ หม่ามี้… ท่านลุงหวังที่อยู่บ้านถัดไปนั่นมีฐานะมั่งคั่งมาก ข้าว่าท่านควรไปเป็นลูกสะใภ้เขาจะดีกว่านะ”