ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก – ตอนที่ 206 ประสบมากับตัว

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 206 ประสบมากับตัว

ตอนที่ 206 ประสบมากับตัว

“เถาจื่อ! ไปหาเผยตงเร็ว! ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกเธอ เร็วเข้า!”

กวานจือหนิงดูมีความกลัวบนใบหน้าของเธอ ขณะที่พูดก็กำลังจะลุกจากเตียง แต่ก่อนที่ทุกคนจะหยุดเธอได้ทัน ร่างกายที่ยังพักฟื้นก็ทรุดลงบนพื้น

เฉินซีอุทานออกมา “นั่นไง ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณยังไม่หายดี คุณมีรูขนาดใหญ่ที่ท้อง ลำไส้ของคุณได้รับการล้างและนำใส่กลับเข้าไปใหม่ ถ้าคุณลุกขึ้นจากเตียงได้ด้วยตัวเองภายในระยะเวลาเพียง 1-2 วัน คุณก็เป็นยอดมนุษย์แล้ว!”

ซูเถาไม่เคยเห็นกวานจือหนิงมีสีหน้าแบบนี้มาก่อน หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ คาดเดาว่าเธออาจเห็นหรือค้นพบบางสิ่งที่ไม่ธรรมดาก่อนที่เธอจะตกอยู่ในอาการโคม่า

“ฉันโทรเธอแล้ว เธอกำลังเดินทางกลับมา ตอนนี้คุณนอนลงก่อนนะ”

กวานจือหนิงสงบลงเมื่อเธอได้ยินดังนั้น แต่เธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะพูดพล่าม

เมื่อเผยตงมาถึง เธอก็ลุกขึ้นนั่งโดยไม่รู้ตัว บาดแผลและความเจ็บปวดทำให้ดวงตาของเธอมืดลง ร่างกายสั่นสะท้านจนพูดไม่ออก

เมื่อเจอคนไข้แบบนี้ เฉินซีก็แทบจะเป็นบ้า

แม้แต่จงเกาอี้ก็ยังปวดหัว คิดว่าอวัยวะภายในของเธอคงปริและมีเลือดออกอีกแล้ว และเขาก็ต้องทำงานล่วงเวลาอีกครั้งในตอนกลางคืน…

เผยตงหายใจเข้าลึก ๆ ระงับคำพูดที่เตรียมจะตำหนิอีกฝ่าย และถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น

ปากของกวานจือหนิงสั่นเทาจากความเจ็บปวด เธอพยายามพูดคำที่ฟังไม่เข้าใจออกมาสองสามคำ จากนั้นก็เดินกะโผลกกะเผลก

จงเกาอี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากให้การรักษาง่าย ๆ เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของเธอ จากนั้นเธอก็เดินสะดุด

“ฉัน…ฉันเห็นแล้ว คนที่ทำลายเมืองจริง ๆ ไม่ใช่ ไม่ใช่คนธรรมดา ซอมบี้ ไม่ใช่เคียว..เคียวโลหิต เป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน มันดำและเน่าไปหมด…”

ตอนนี้ทุกคนเข้าใจแล้ว

บรรยากาศเงียบสนิทไม่มีใครส่งเสียง

สมองของซูเถารู้สึกว่างเปล่า “ซอมบี้นิรนามเหรอ?”

เป็นข่าวที่ไม่ค่อยดีเลยจริง ๆ…

สวีฉีที่เงียบมาตลอดก็พูดว่า

“ผมสามารถช่วยคุณแสดงภาพเหตุการณ์ในตอนนั้นได้ เพียงแค่ยื่นมือมาที่ผม”

กวานจือหนิงมองไปที่ซูเถา ราวกับว่ากำลังถามว่าคน ๆ นี้เป็นใคร

ซูเถากล่าวว่า “คนของฉันเอง มาดูกันเถอะ”

เผยตงพยักหน้า กวานจือหนิงวางมือลงบนฝ่ามือของสวีฉี ในขณะนี้ทุกคนในห้องก็ตระหนักว่าบรรยากาศโดยรอบเปลี่ยนไป

แสงจันทร์ที่เต็มไปด้วยเลือดและกลิ่นเหม็นเน่าปกคลุมไปทั่ว พวกเขาเห็นซากศพจำนวนมากที่แนวรบนอกประตูตงหยางหมายเลข 3 ทหารจำนวนนับไม่ถ้วนถูกกลายเป็นศพกองทับกันอยู่

กรงเล็บขนาดยักษ์ของเคียวโลหิตได้ทำลายแนวป้องกันราวกับเขื่อนแตก เหล่าซอมบี้ก็ไหลทะลักเข้ามาเป็นจำนวนมาก

พวกมันยังคงสังหารทุกคนและทำลายทุกอย่างที่อยู่ด้านหน้า แม้แต่กำแพงเมืองที่สร้างขึ้นใหม่

เผยตงยืนอยู่บนหอสังเกตการณ์ สวมเครื่องแบบทหารสีเลือด ถือปืนพลังงานนิวเคลียสเรืองแสงและยิงไปที่เคียวโลหิตทีละตัว ๆ จนเธอหมดสติไปเนื่องจากสูญเสียพลังไปเป็นจำนวนมาก

ในขณะเดียวกัน ในเงามืดก็มีสัตว์ประหลาดเลื้อยคลานสี่ขา ตัวของมันสีดำเมี่ยมและเกือบจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับความมืดในตอนกลางคืน มันออกมาจากพื้นดิน และปีนขึ้นไปบนกำแพงเมืองเหมือนตุ๊กแก

กวานจือหนิงตะโกนว่ามีบางอย่างที่กำแพงเมือง เธอรีบวิ่งไปแทงหางของสัตว์ประหลาดตัวนั้น ตอกมันเข้ากับกำแพงเมือง ป้องกันไม่ให้มันปีนเข้ามา

แต่ก่อนที่กวานจือหนิงจะทันได้เคลื่อนไหว เจ้าสัตว์ประหลาดก็สะบัดหางของมันออกและกระโดดข้ามกำแพงในทันที

กวานจือหนิงตกตะลึงและในไม่ช้าก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของสหายของเธอที่ด้านหลังกำแพงเมือง

เคียวโลหิตก็ตามมาติด ๆ และแขนขาขนาดใหญ่ก็ทะลุช่องท้องของกวานจือหนิง เลือดของเธอสาดกระเซ็นไปทั่วในช่วงเวลากลางคืนที่มีท้องฟ้ามืดมิดแบบนี้

และภาพเหตุการณ์ก็จบลงตรงนี้

ทุกคนเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ

ความคิดวนเวียนอยู่ในหัวของทุกคน สัตว์ประหลาดตัวนี้ที่ปรากฏตัวขึ้นกะทันหันสามารถปีนกำแพงและอาจมุดลงไปในดินได้

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
คอยดูเถอะ…วันสิ้นโลกแบบนี้ฉันจะยืนด้วยด้วยลำแข้งของตัวเองให้ได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท