ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก – ตอนที่ 224 พูดคุยเรื่องการควบรวมตงหยาง

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 224 พูดคุยเรื่องการควบรวมตงหยาง

ตอนที่ 224 พูดคุยเรื่องการควบรวมตงหยาง

ซูเถาไม่รู้เลยว่าเธอกลายเป็นคนโปรดของคนทางเขตตะวันออก เธอกำลังดูบัญชีเงินเดือนกับหรงหรงถึงเงินเดือน ค่าตอบแทนและผลประโยชน์ต่าง ๆ ของเดือนแปด

วันสุดท้ายของเดือนแล้ว ได้เวลาจ่ายเงินเดือนพนักงาน

“เถ้าแก่ ยอดรวมคือ 476,000 เหลียนปัง คุณอยากตรวจสอบอีกครั้งไหม”

“เพิ่มขึ้นสองเท่าเมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว?” ซูเถาประหลาดใจ

เฉียนหรงหรงจับหน้าอกของเธอ

“ใช่ คุณน่าจะลืมว่าเดือนนี้คุณเลื่อนตำแหน่งพนักงานเก่าหลายคน และจ้างพนักงานใหม่เกือบสิบคน”

“อ๋อ ถ้างั้นก็โอนเลย เราจะมามัวอมเงินทุกคนไม่ได้”

แม้ว่ารายจ่ายเงินเดือนจะสูง แต่จากความเพียรพยายามก็ยังได้รับผลตอบแทน

เมื่อรวมกับพื้นที่เพาะปลูกและภูเขาผานหลิว รายได้ในช่วงครึ่งหลังของเดือนสิงหาคมสูงถึง 1.36 ล้านเหลียนปัง เพิ่มขึ้นมากกว่า 200,000 เหลียนปังเมื่อเทียบกับครึ่งแรกของเดือน

หากไม่มีการขยายตัว รายได้นี้ก็ถึงจุดสูงสุดแล้ว แต่ด้วยพื้นที่ที่จำกัดและพนักงานที่จำกัด สิ่งที่สามารถสร้างได้ก็มีจำกัดเช่นกัน

ซูเถาตัดสินใจรวมการขยายพื้นที่เพาะปลูกและภูเขาผานหลิวไว้ในแผนการทำงานเดือนเก้า

รายรับที่เหลือคือค่าเช่าจำนวนมหาศาล

ตลอดทั้งเดือนแปด ห้องพักได้รับการต่อสัญญาทั้งหมด 58 ห้อง โดยมีผู้เช่ามากกว่า 90 คน และค่าเช่าต่ออายุอยู่ที่ 1.19 ล้านเหลียนปัง

ตอนนี้เงินสำหรับการสร้างโดมป้องกันและฐานเป้าถูถูกลบออก ทรัพย์สินรวมของเถาหยาง ก็ยังคงมีมากกว่า 5.2 ล้าน

ซูเถาคำนวณแล้ว ระบบจะอัปเกรดเป็นเลเวล 6 ประมาณเดือนเก้าเธอจะทำงานหนักเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ในต้นเดือนหน้า เพื่อสร้างห้องพักให้มากขึ้น ปล่อยเช่ามากขึ้น และขายอุปกรณ์ต่าง ๆ มากขึ้น!

ท่ามกลางความยุ่งวุ่นวายของเถาหยาง เดือนใหม่ก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

ซูเถายังได้รับข่าวสารล่าสุดจากสือจื่อจิ้น พวกเขาไปยังฐานที่ไกลออกไปทางใต้เพื่อค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของสัตว์เลื้อยคลาน

เฮยจือหม่าถูกนำออกไปกับทีมกองทัพบุกเบิกเพื่อทำภารกิจรายวันและความอันตรายค่อนข้างต่ำ

นอกจากนี้เธอยังรู้มาจากกัปตันทีมกองทัพบุกเบิกว่าพ่อค้ายาสูบรายใหญ่อย่างเหอหยางหัวถูกไล่ออกจากชิงเผิง ซึ่งเป็นการตัดการขายยาสูบของเขาทางทิศใต้

แม้แต่เรื่องสกปรกที่จี้ไฉเจ๋อทำ ก็ยังเข้าหูพ่อของเขา

จี้ป๋อต๋าโกรธมาก เธอได้ยินว่าเขาปิดประตูทุบตีลูกชายของเขาเป็นเวลานานจนลุกจากเตียงไม่ได้

ซูเถาเองก็เพิ่งได้ยินเรื่องนี้ จี้ป๋อต๋าก็โทรมาหาเธอเพื่อขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น

หญิงสาวได้ยินความเจ็บปวดในน้ำเสียงของเขา

“เถ้าแก่ซู ผมสอนลูกชายไม่ดีเอง…”

แม้ว่าซูเถาจะไม่ชอบจี้ไฉเจ๋อและเกลียดเขา แต่เมื่อเผชิญหน้ากับคุณจี้ที่มีอายุมากแล้ว เธอก็เกลียดชังเขาไม่ลงและรู้สึกเห็นอกเห็นใจเขา

แม้แต่จวงหว่านก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า

“สู้เฉินหยางของฉันไม่ได้ เขาก็ยังถือว่าพึ่งพาได้ ไม่ได้แย่ขนาดนั้น”

เฉินหยาง “…”

ซูเถาไม่รู้จะพูดอะไร เธอจึงปลอบพ่อที่แก่ชราอย่างเขา และพูดทำนองว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อความร่วมมือของพวกเขา

จี้ป๋อต๋าซาบซึ้งใจมาก และหลังจากวางสายแล้ว เขาก็ไปสั่งสอนลูกชายอีกครั้ง ซูเถาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มากนักและอุทิศตนให้กับงานอีกครั้ง

หม่าต้าเพ่าเกริ่นมานานแล้วว่าเขาต้องการขยายโรงแรมผานหลิวซาน และสร้างห้องเพิ่ม เพราะผู้เช่าที่ต่อแถวอยู่ที่ด้านล่างของภูเขานั้นลำบากจริงๆ

ซูเถากำลังจะพับแขนเสื้อขึ้นและทำงานใหญ่ แต่จู่ ๆ เผยตงก็เข้ามาหาเธอ

“ก่อนหน้านี้ที่เธอบอกว่าเถาหยางควรควบรวมกับตงหยาง อดีตผู้นำกองทัพเห็นด้วยแล้วนะ”

“จริงเหรอ?” ซูเถาเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ

เผยตงพยักหน้าและยิ้มให้กับอีกฝ่าย

“ต้องใช้ความพยายามอย่างมากเชียวล่ะ แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาดีนะ ไม่ว่าในใจของคนระดับสูงเหล่านั้นจะคิดยังไง แต่พวกเขาก็ไม่คัดค้านออกมา”

ซูเถาจินตนาการไม่ออกว่าอะไรทำให้อดีตผู้นำกองทัพตัดสินใจแบบนี้

เพราะตงหยางก็ไม่ใช่ฐานเล็ก ๆ และมีประชากรมากกว่า 50,000 คน ทั้งคนธรรมดาทั่วไปหรือแม้กระทั่งผู้ที่มียศมีตำแหน่งก็นับไม่ถ้วน

มันไม่ง่ายเลยที่จะทำให้ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน

“ลำบากอดีตผู้นำแล้ว”

เผยตงส่ายหัว “เขามีความสุขมาก ขึ้นรถสิ เขาอยากคุยกับคุณแบบตัวต่อตัว”

เธอขึ้นรถและมุ่งไปที่กองบัญชาการตงหยาง เพื่อพบกับอดีตผู้ทำกองทัพผู้สง่างาม

“นั่งลงสิ ซูอวี่ รินชาให้พวกเราหน่อย”

สิงซูอวี่ขยิบตาให้ซูเถา จากนั้นก็หันไปรินชา

อดีตผู้ทำกองทัพมองไปที่ซูเถาซึ่งอายุยังไม่ถึงยี่สิบปี และใบหน้าที่ดูจะยังไม่บรรลุนิติภาวะ จากนั้นเขาก็เลยเอ่ยออกมาว่า

“คงต้องฝากตงหยางไว้ในมือคนหนุ่มสาวอย่างพวกเธอ ฉันเองก็แก่แล้ว”

“คุณยังไม่แก่หรอกค่ะ ตงหยางยังต้องการคุณนะคะ” ซูเถาพูดด้วยความเคารพ

อดีตผู้นำกองทัพยิ้มและส่ายหัว เขาขอให้ผู้ช่วยของเขานำกล่องใบใหญ่มาให้ซูเถา

หญิงสาวหยิบมันขึ้นมาโดยที่ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร และเปิดมันต่อหน้าของอดีตผู้นำกองทัพ และทันทีที่เธอห็นมัน มือของเธอก็สั่นด้วยความตกใจ

ในกล่องนี้เต็มไปด้วยผลึกนิวเคลียส!

มีสามสิบหรือสี่สิบอัน!

ทันใดนั้นซูเถาก็เงยหน้าขึ้นมองอดีตผู้นำกองทัพ

เขากระแอมสองครั้งและหัวเราะ “เธอตกใจเหรอ”

ซูเถาปิดกล่อง พร้อมกับดันกล่องไปที่กลางโต๊ะแล้วพยักหน้า

เธอตกใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เพราะไม่เคยเห็นผลึกนิวเคลียสมากมายขนาดนี้ มันเกือบจะทำให้ตาของเธอบอด

อดีตผู้นำกองทัพถอนหายใจ “เธอรู้ไหมว่าสิ่งเหล่านี้มีที่มาที่ไปยังไง”

ซูเถาส่ายหัว

อดีตผู้นำกองทัพเคาะกล่องด้วยข้อนิ้วแล้วพูดว่า

“ผลึกนิวเคลียสที่อยู่ในกล่องนี้ สือจื่อจิ้นเป็นคนออกล่าและฆ่าเพื่อนำมันมา เขาขอให้ฉันช่วยรวบรวมและนำมามอบให้เธอ”

“…ให้ใครนะคะ?”

เมื่อเห็นเธอตกตะลึง อดีตผู้นำกองทัพก็หัวเราะออกมาดัง ๆ

“ให้เธอ ถ้าฉันเดาไม่ผิด การควบรวมตงหยางเธอต้องใช้ผลึกนิวเคลียสใช่ไหม แม้ว่าเธอจะบอกว่าเถาหยางถูกสร้างขึ้นเพราะเธอมีความสามารถพิเศษ และแม้แต่จื่อจิ้นก็ช่วยเธอปิดบัง”

“แต่ชายชราผู้มากประสบการณ์อย่างฉันพอจะมองออกว่านี่ไม่น่าจะใช่ความสามารถของเธอ แต่เป็นพลังภายนอกบางอย่างกำลังช่วยเธออยู่”

“และเป็นไปไม่ได้ที่พลังภายนอกจะช่วยเธอฟรี ๆ เพราะเธอมักจะต้องสะสมผลึกนิวเคลียสทุกครั้ง ดังนั้นมันเดาได้ไม่ยาก”

ซูเถาพูดไม่ออก

ผู้มากประการณ์…

เมื่อเห็นขนตาของเธอสั่นไหว อดีตผู้นำกองทัพก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นอกเห็นใจ และพูดอย่างใจดี

“ไม่ต้องกลัวไปหรอก ที่ฉันขอให้เผยตงพาเธอมาในวันนี้ เพื่อที่จะพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตงหยาง ฉันจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง และจะช่วยเธอปกปิดเพื่อช่วยให้เรื่องนี้สำเร็จ”

“ตงหยางพัฒนามากว่า 20 ปี และความสัมพันธ์ภายในนั้นซับซ้อนกว่าที่เธอคิด ฉันพอจะเดาเรื่องต่าง ๆ ได้ คนอื่น ๆ ก็เดาได้เช่นกัน แต่เธอไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้ ฉันจะช่วยจัดการให้ ถ้าใครมีเจตนาร้ายต่อเธอ ฉันจะไม่ปล่อยให้เขาเดินออกจากตงหยางอย่างแน่นอน”

เผยตงพยักหน้าอย่างจริงจัง

หัวใจของซูเถารู้สึกตื้นตันใจอย่างมาก และเธอก็เงยหน้าขึ้นมองชายชราวัยย่างเข้าหกสิบ

“ขอบคุณนะคะ ฉันจะทำให้ดีที่สุด”

อดีตผู้นำกองทัพพอใจมากและผลักกล่องที่เต็มไปด้วยผลึกนิวเคลียสไปตรงหน้าเธอ

“เธอรับไว้เถอะ ไม่ว่าเธอจะเอาไปใช้ยังไงฉันก็เชื่อในตัวเธอ ฉันแค่หวังว่าศูนย์ส่งเสริมแม่และเด็กในตงหยาง จะอยู่ภายใต้การดูแลของเธอโดยเร็วที่สุด ช่วงนี้พวกของจื่อจิ้นไม่อยู่ พวกเขายังต้องเดินทางไปอีกหลายเขต ฉะนั้นในช่วงเวลานี้ศูนย์ส่งเสริมแม่และเด็กที่อยู่ใกล้ประตูหมายเลข 4 ตกอยู่ในอันตราย”

“มีสตรีและเด็กเกือบ 3,000 คนในศูนย์ส่งเสริมแม่และเด็ก พวกเขาคือความหวังของตงหยาง…”

“ศูนย์ส่งเสริมแม่และเด็กมีพื้นที่กี่ตารางเมตร?” จู่ ๆ ซูเถาก็ประหม่าขึ้นมา

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
คอยดูเถอะ…วันสิ้นโลกแบบนี้ฉันจะยืนด้วยด้วยลำแข้งของตัวเองให้ได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท