บทที่ 51 : ทำตัวดี ๆ อย่ำขยับ (2)
“เจ้าโกหก !” ใบหน้าเศร้า ๆ ของไป๋จื่อเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว นางจ้องมองไป๋หยานด้วยความโกรธ พลางกล่าวว่า “ท่านแม่ของข้า ต้องการให้เจ้าสวมใส่เครื่องประดับ ทว่าเจ้าเป็นผู้ปฏิเสธเอง ตอนนี้เจ้ากลับบิดเบือนความจริง เพื่อป้ายความผิดให้ท่านแม่ข้า !“
มุมปากของไป๋หยานโค้งก่อให้เกิดรอยยิ้ม นางมองใบหน้าโกรธเกรี้ยวของไป๋จื่อด้วยสายตาเย็นชา “หากเป็นเช่นนั้น ท่านตาโปรดนารายการสินสอดทองหมั้นที่ท่านเตรียมให้ท่านแม่ออกมาด้วย เพราะตามธรรมเนียมแล้ว สินสอดทองหมั้นถือได้ว่าเป็นมรดกที่มารดาทุกคนจะต้องส่งมอบให้กับบุตรสาวในสายเลือด ตอนนี้ข้าเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ข้าโตพอที่จะรับมรดกเหล่านั้นแล้ว”
ผู้ชายในอาณาจักรนี้มีภรรยามากเป็นเรื่องธรรมดา เช่นนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากสามีจะไม่สนใจภรรยาเก่า และหันไปเอาอกเอาใจแต่ภรรยาใหม่
ทว่ามิยินยอมให้ทรัพย์สินของภรรยาเก่าตกไปอยู่ในมือของบุคคลอื่น หรือหญิงคนใหม่ด้วย กฏหมายระบุว่าสินสอดทองหมั้นใด ๆ
ของมารดาจะต้องตกทอดสู่บุตรในสายเลือดของนาง และลูกหลานของนางเท่านั้นที่มีสิทธิ์จัดการมรดกนี้
ครั้นได้ยินคากล่าวนี้ ไป๋เฉิงเซียง และไป๋จื่อบุตรสาวผู้เป็นที่รัก ต่างก็มีสีหน้าซีดเผือด
“ตกลง” ท่านผู้เฒ่าตระกูลหลานกล่าว “ข้าได้จดแจ้งสินสอดทองหมั้นเหล่านั้นไว้ที่ฝ่ายพิธีการก่อนการสมรส ข้าจะไปขอรายละเอียดทั้งหมดมา และเมื่อทุกอย่างพร้อม ข้าจะไปที่บ้านสกุลไป๋ เพื่อทวงคืนสิ่งที่ควรเป็นของหยานเอ๋อหลานข้า“
ไป๋เฉิงเซียงโกรธจนพูดไม่ออก เด็กคนนี้กาลังสร้างปัญหาใหญ่ให้ข้า
สินสอดเหล่านั้นถูกใช้ไปหมดแล้ว ข้าจะไปหามันได้ที่ใดกันเล่า ?
“ไป๋หยาน” หนานกงอี้ ไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไป เขามองไป๋หยานด้วยแววตารังเกียจ “อย่างไรเสียเจ้าบ้านไป๋ก็เป็นบิดาของเจ้า เจ้าลงมือกับท่านก่อน แล้วยังก้าวร้าวท่านอีก เจ้าไม่รู้สึกหรือว่าการกระทาของเจ้านั้นเกินไป ?”
ก่อนหน้านั้น แม้ว่าไป๋หยานจะถูกมองว่าเป็นคนไร้ประโยชน์ ไม่สามารถฝึกฝนวรยุทธได้ หากแต่อย่างน้อยนางก็ยังเป็นคนจิตใจดีมีเมตตา ทว่าในตอนนี้นางไม่เพียงยโสโอหังน่ารังเกียจ นางยังมีความสัมพันธ์กับตี้คัง อ๋องนอกคอกนั่นอีกด้วย
สตรีที่สกปรกเยี่ยงนี้ ต่อให้นางสวยบาดตาสักเพียงใด เขาก็ไม่คิดจะเหลียวแลมอง !
“ข้าเพียงต้องการสินสอดทองหมั้นของข้าคืน ท่านก็หาว่าข้าก้าวร้าว ข้ามากเกินไปที่ใดหรือ ? หรือองค์รัชทายาทไม่เคารพธรรมเนียมของเรา ?” ไป๋หยานกราดตามององค์รัชทายาท น้าเสียงของนางเย็นชา
นางกล้าดียังไงมาว่าข้าไม่เคารพขนบประเพณี ? หนานกงอี้ไม่รู้จะตอบกลับเช่นไร ? ในฐานะองค์รัชทายาทเขาไม่มีวันให้ผู้ใดมองว่าเขาไม่รู้จักขนบประเพณีอันมีมายาวนานนี้หรอก หากแต่ครั้นเห็นท่าทางหยิ่งยโสของหญิงผู้นี้แล้ว ใจของเขาก็ไม่อาจยอมรับได้จริง ๆ !
“ไป๋หยาน ท่านไป๋และไป๋ฮูหยินเป็นคนดีมาก เช่นนั้นย่อมไม่มีทางที่พวกเขาจะยักยอกสินสอดทองหมั้นของเจ้า ในทางกลับกันหากพวกเขามอบสินสอดทองหมั้นเหล่านั้นให้แก่เจ้า บางทีเจ้าอาจจะถูกผู้ชายหลอกจนหมดตัวแล้วก็เป็นได้ ?” หนานกงอี้กัดฟันพูดอย่างไร้ยางอาย ประโยคหลังนี้ เขาจงใจบอกกับตี้คังทางอ้อมว่านิสัยของไป๋หยานนั้นน่ากลัวสักเพียงใด !
ไป๋หยานหัวเราะเยาะ น้าเสียงของนางเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “ผู้ชายเลว ๆ ที่ต้องพึ่งพาผู้หญิงในการสร้างฐานะ จากนั้นก็โผล่หางออกมาทันทีที่เขาประสบความสาเร็จ ท่านคิดว่าคนอย่างเขาน่าเชื่อถือหรือไม่ล่ะ ?
“ไป๋หยาน เจ้าเป็นคนหยาบคายเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?” หนานกงอี้ส่ายศีรษะด้วยรู้สึกผิดหวังอย่างแท้จริง “หากเจ้าคุกเข่าต่อหน้าท่านไป๋ และขอโทษท่านซะ บางทีท่านไป๋อาจจะให้อภัยสาหรับความผิดทั้งหมดของเจ้า !“
ชั่วขณะนั้น
จู่ ๆ มือใหญ่ที่ทรงพลังก็ยื่นออกมาจากด้านหลัง มือนั้นดึงตัวไป๋หยานเข้าไปกอดอย่างไร้ปรานี “ข้าไม่รู้ว่า เหตุใดสตรีของข้าจะต้องคุกเข่าขอโทษมดตัวเล็ก ๆ เช่นนั้น” น้าเสียงของเขาทั้งเย็นชา ทั้งคุกคาม เสียงนั้นดังกึกก้องไปทั่วห้องจัดเลี้ยง ทาให้แขกเหรื่อต่างกลับคืนสู่ความเงียบงันอีกครั้ง
ครั้นเจอถ้อยคาวางท่าเกทับเช่นนั้น ใบหน้าของหนานกงอี้พลันเกร็งเขม็งกระทั่งมองเห็นเส้นเลือด
“ตี้คัง ! !”
ตี้คังไม่ตอบโต้ เขาเพียงเหลือบตามองหนานกงอี้ พลันกลิ่นอายที่แข็งแกร่งก็แผ่ออกกดดันองค์รัชทายาทจนแทบหายใจไม่ออก
“ทาตัวดี ๆ อย่าขยับ” เมื่อรู้สึกว่าเด็กสาวในอ้อมกอดของเขาเริ่มจะเกเรอีกครั้ง เขาก็ยิ่งกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น เขากระซิบเบา ๆ ข้างใบหูของนาง “จะน่าเสียดายมาก หากมือที่บอบบางของเจ้าถูกตัดทิ้ง … “
ไป๋หยาน รู้สึกหงุดหงิด อีกทั้งโกรธแค้นมาก ไม่ว่านางจะทาอะไร ชายผู้นี้ก็จะพูดว่าเขาจะตัดขา หรือไม่ก็มือของนาง เขาปฏิบัติต่อนางราวกับสัตว์เลี้ยงตัวเล็ก ๆ ที่เขาสามารถทาอะไรก็ได้ตามแต่ใจต้องการ !
จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 51
จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์
นางกลับชาติมาเกิดเป็นทายาทในตระกูลขุนนางจีนที่ทรงเกียรติ ทว่าในเวลานั้นนางไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากต้องคว้าตัวชายสักคนมาปลดปล่อยความทรมานที่กำลังพุ่งถึงจุดที่ไม่สามารถอดทนได้
ไม่คาดคิดไม่เพียงแต่นางต้องถูกพร่าพรหมจรรย์อย่างไม่ตั้งใจคาเตียง นางยังต้องอุ้มท้องทั้งที่ไม่ได้แต่งงานอีกด้วย
มิหนำซ้ำ…ลูกที่นางอุ้มท้องมาถึงสิบเดือนกลับกลายเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวเล็ก ๆ ที่ร้องเรียกนางว่า “หม่ามี้” ตั้งแต่เกิด โชคดีที่ลูกของนางเลี้ยงง่าย และหวงแม่มาก
ในโลกนี้ย่อมมีทั้งคนดี และคนชั่วมากมายให้ผจญ หม่ามี้กับบุตรชายคู่นี้จึงต้องร่วมมือกันทำลายล้างศัตรู ไหนจะพวกญาติ ๆ ที่ชอบสบประมาทดูหมิ่นพวกเขาอีกล่ะ คนพวกนี้จะต้องได้รับผลกรรมให้สาสมกับสิ่งที่พวกมันกระทำกับพวกเขาสองแม่ลูก
แต่ทว่า จุ๊ ๆ วันหนึ่งป๊ะป๋าจิ้งจอกก็ปรากฏตัวขึ้น ไม่เพียงแต่คิดจะลักพาตัวจิ้งจอกน้อยเท่านั้น ทว่าเขายังคิดจะชิงหม่ามี้ของเจ้าจิ้งจอกน้อยอีกด้วย ชะช้า ป๊ะป๋าผู้โง่เขลากล้าดียังไง ? จะทำอะไรไม่ถามไม่ไถ่ความเห็นของจิ้งจอกน้อยสักคำ…
จิ้งจอกน้อยเท้าสะเอวพลางกล่าวว่า “ท่านอยากเป็นป๊ะป๋าของข้ากระนั้นรึ ? เช่นนั้นก็ต้องจ่ายค่าลงทะเบียนมา แล้วก็เดินไปต่อแถวหลัง ๆ โน่น เอ่อ หม่ามี้… ท่านลุงหวังที่อยู่บ้านถัดไปนั่นมีฐานะมั่งคั่งมาก ข้าว่าท่านควรไปเป็นลูกสะใภ้เขาจะดีกว่านะ”