ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก – ตอนที่ 331 เธออยู่ที่เถาหยาง

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 331 เธออยู่ที่เถาหยาง

ตอนที่ 331 เธออยู่ที่เถาหยาง

“ฉันจะอยู่เอง และฉันจะย้ายออกจากบ้านของตระกูลทันทีเมื่อบ้านที่นู่นสร้างเสร็จ”

คุณหนูรองตระกูลเซียวคิดว่าน้องสาวตนเองล้อเล่น

“เธอจ่ายเงินไปแต่ยังไม่ได้อะไรกลับมาอย่างนั้นเหรอ? ฉันได้ยินมาว่าเถาหยางเป็นเมืองเล็ก ๆ ถัดจากตงหยาง… มันไม่ใช่ฐานทัพด้วยซ้ำ สถานที่แบบนี้จะปลอดภัยได้ยังไง เธออย่าลืมว่าครึ่งปีที่ผ่านมามีฐานกี่แห่งที่ถูกทำลายไป บางทีบ้านของเธออาจจะสร้างไปได้ครึ่งหนึ่ง และอาจจะถูกซอมบี้บุกโจมตีจนราบเป็นหน้ากลอง”

“พี่จะคิดยังไงก็ตามใจ แต่ถ้าบ้านของฉันสร้างเสร็จถึงตอนนั้นพี่อย่ามาขอร่วมอยู่อาศัยแล้วกัน ฉันวางก่อนนะ”

เมื่อฟังเสียงติ๊ดทางโทรศัพท์ พี่สาวคนรองก็โกรธจนสำลัก

เหอะ?!

ใครจะสนใจสถานที่ที่ห่างไกลและรกร้างแบบนั้นกัน? น้องสาวของเธอบ้าไปแล้วจริง ๆ

……

ซูเถารอให้เซียวเหวินอวี้ออกไป จากนั้นก็รีบติดต่อหาผู้ช่วยของหัวหน้าสวี่ ผู้ช่วยหัวหน้าสวี่คิดว่าพวกเขากำลังจะออกเดินทางจึงรีบพูดว่า “หัวหน้าสวี่ยังมีเรื่องที่ต้องสะสาง คิดว่าน่าจะเสร็จไม่เกินสองทุ่ม คุณซูรบกวนถามผู้จัดการหม่าให้ได้ไหมครับว่าสะดวกรอไหม”

“ไม่ต้องรีบร้อนหรอกค่ะ ฉันมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งกับหัวหน้าสวี่ หากเขาได้เห็นรูปที่ฉันส่งไปเขาก็จะเข้าใจ”

เธอส่งรูปถ่ายประจำวันของอลิซไป

ในภาพ อลิซผู้งดงามราวกับตุ๊กตากำลังนั่งอยู่บนบ้านต้นไม้ ห้อยขาแกว่งไปมาพลางเงยหน้ามองดูท้องฟ้าสีคราม ส่วนอีกภาพคือหมวกสีแดงที่วาดโดยอลิซ เมื่อผู้ช่วยของหัวหน้าสวี่เห็นภาพ มือของเขาก็สั่นสะท้านจนเกือบจะทำเครื่องสื่อสารในมือร่วง

เขาเอ่ยตะกุกตะกัก “นะ นี่คือ..”

“เธออยู่ที่เถาหยางและอยู่อย่างปลอดภัย ไม่ต้องกังวลเรื่องการกินอยู่ของเธอเลยค่ะ” ซูเถากล่าว

“…ตกลง ผมจะรีบไปหาหัวหน้าสวี่ทันที” ผู้ช่วยตื่นเต้นมากจนพูดไม่ออก

เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะวางสาย และวิ่งตรงไปยังห้องรับรองทันที ในขณะนี้หลิงเทียนจี้ และพรรคพวกของเขากำลังจัดงานเลี้ยงส่งสวี่ฉาง

มีตัวแทนหลาย ๆ ฝ่ายขึ้นไปกล่าวถึงสิ่งดี ๆ และพยายามกล่าวเยินยอสวี่ฉาง เพื่อทำให้เขาไม่เห็นถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอย่างบ่อยครั้ง จากการจัดงานประชุมสุดยอดพันธมิตรในครั้งนี้ของซินตู ช่วงหลายปีที่ผ่านมาซินตูถือว่าทำได้ดีมาโดยตลอด และหลิงเทียนจี้รู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องยากที่จะรับมือกับสวี่ฉาง

ปีนี้ถือเป็นการได้รู้ว่าสวี่ฉางมีความเข้มงวดเพียงใด!

เขาไม่อยากที่จะยอมรับเลย และคาดว่าภายใน 2 สัปดาห์ ฉางจิงน่าจะประกาศผลออกมา ซึ่งในปีนี้ซินตูของพวกเขาคงไม่ติดหนึ่งในสามอันดับสุดยอดฐานยอดเยี่ยม

หลิงเทียนจี้หายใจเข้าลึก ๆ และมองไปที่จั๋วเอ่อร์เฉิง

หลังจากได้รับคำสั่ง ท่าทางของจั๋วเอ่อร์เฉิงก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที “หัวหน้าสวี่ เรารู้ว่าคุณมีลูกสาวที่หายไปหลายปี…”

ทันทีที่เขาพูดได้ครึ่งทาง สวี่ฉางเอ่ยแทรกขึ้นมา

“หัวหน้าจั๋วนี่เป็นเรื่องครอบครัวของผม ผมจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาเธอด้วยตัวเองและจะไม่ยืมมือคนอื่น”

จั๋วเอ่อร์เฉิงสะอึก แต่หลิงเทียนจี้กลับพูดอย่างหน้าไม่อาย

“หัวหน้าสวี่ ผมได้ยินมาว่าลูกสาวของคุณปรากฏตัวทางใต้ แม้ว่าในปีนี้ซินตูจะทำผลงานได้ไม่ดีนัก แต่เราก็มีผู้ที่มีความสามารถอยู่ไม่น้อยและรู้จักคนมากมายในทางใต้ ซึ่งสามารถลดเวลาในการค้นหาลูกสาวของท่านได้อย่างมาก”

จั๋วเอ่อร์เฉิงตามมาเติมเชื้อไฟติด ๆ

“ตอนนี้ซอมบี้และสัตว์เลื้อยคลานออกอาละวาด ในสถานการณ์ที่อันตราย เวลาคือชีวิต…”

ใบหน้าของสวี่ฉางยังเรียบนิ่ง แต่มือที่อยู่ใต้โต๊ะของเขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

เขามือสะอาดและซื่อสัตย์มาตลอดชีวิต ไม่ว่าก่อนวันสิ้นโลกหรือหลังวันสิ้นโลก สิ่งที่เขาต้องทำคือความยุติธรรม และทำเรื่องทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมาต่อผู้นำสูงสุดโดยไม่มีความเห็นแก่ตัวใด ๆ ด้วยเหตุผลนี้ เขาจึงกล้าที่จะลุยน้ำผ่านไฟโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด

แต่เขายังเป็นคนที่มีเลือดเนื้อเชื้อไข ซึ่งเป็นญาติคนเดียวของเขา… ลูกสาวคนเดียวของเขาถูกลักพาตัวไป เพราะมีคนอยากให้เขาช่วยปกปิดเรื่องไม่ดี พวกเขานำตัวเธอไปทิ้งไว้ข้างนอกอย่างไร้ร่องรอย

เมื่อใดที่คิดถึงเรื่องนี้ เขาก็กระวนกระวายจนนอนไม่หลับทั้งคืน เขาทั้งรู้สึกขมขื่นและเสียใจ

“หัวหน้าสวี่ สิ่งที่เอ่อร์เฉิงพูดนั้นถูกต้อง เวลาคือชีวิต พวกเราควรเร่งออกตามหาเธอ และหลังจากนั้น…” หลิงเทียนจี้กระแอมเบา ๆ

ทันใดนั้นผู้ช่วยก็พังประตูเข้ามาและตะโกนเสียงดัง “หัวหน้าสวี่!”

ทุกคนในซินตูขมวดคิ้ว ทำไมผู้ช่วยคนนี้ถึงหยาบคายไร้มารยาทแบบนี้นะ แต่เนื่องจากเขาเป็นคนของหัวหน้าสวี่ จึงเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะตำหนิคน ๆ นี้

สวี่ฉางถอนหายใจ มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าลมหายใจนั้นสั่นไหวเพียงใด พูดตามตรง ถ้าผู้ช่วยของเขาไม่ปรากฏตัวกะทันหันเพื่อขัดขวางความคิดของเขา เขาอาจจะ…

ผู้ช่วยอยู่กับเขามาหลายปี ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าเขามีความกังวลเกี่ยวกับลูกสาวเพียงใด ผู้ช่วยของเขากล่าวออกมาอย่างเหนื่อยหอบ “หัวหน้า! พะ…พบตัวคุณเหอเหอแล้ว”

สวี่ฉางชะงักงันจากนั้นคิดอยู่ครู่หนึ่งว่าเขากำลังเห็นภาพหลอนหรือหูแว่วไปหรือไม่

เขาคิดถึงลูกสาวมากจนประสาทหลอนเลยหรือเปล่า?

ใบหน้าของหลิงเทียนจี้สลดลงทันที ล้อเล่นหรือเปล่า?!

พวกเขาต้องการใช้สิ่งนี้เพื่อทำให้สวี่ฉางยอมอ่อนข้อให้ แต่จู่ ๆ กลับมีคนมาบอกว่าพบตัวลูกสาวของเขาแล้วงั้นเหรอ?!

จะบังเอิญขนาดนี้ได้ยังไง!

จั๋วเอ่อร์เฉิงก็คิดแบบเดียวกัน อาจเป็นเพราะสวี่ฉางไม่ต้องการร่วมมือด้วย ดังนั้นเขาจึงจ้างผู้ช่วยมาแสดงบทบาท เพื่อที่เขาจะได้ปฏิเสธพวกเขาทันที!บราวนี่ออนไลน์

เมื่อเห็นว่าสวี่ฉางไม่ขยับผู้ช่วยก็พูดซ้ำอีกครั้ง

“หัวหน้าครับ เราพบแล้ว! ครั้งนี้พบแล้วจริง ๆ! เธออยู่ที่เถาหยางและพวกเขาก็ดูแลเธออย่างดี โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการดำรงชีวิตของเธอ หลังจากที่คุณซูรู้ตัวตนของเธอ เธอก็ติดต่อผมมาโดยเร็วที่สุด หัวหน้ารีบเก็บของไปพร้อมคุณซูกับผู้จัดการหม่าเถอะครับ!”

ดวงตาของหลิงเทียนจี้แสดงความไม่พอใจออกมาอีกครั้ง

คนในเถาหยาง?!

ถ้าไม่ใช่การแสดง เถาหยางนี้คงจะวิเศษเกินไป หัวหน้าสวี่มีความประทับใจที่ดีต่อซูเถา และเหตุการณ์นี้ทำให้เถาหยางได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากฉางจิงในปีนี้แน่นอน

ละครฉากนี้บังเอิญเกินไปแล้ว…

หลิงเทียนจี้คิดว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะสมรู้ร่วมคิดโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

ผู้ช่วยไม่สนใจว่าพวกเขาจะคิดอย่างไร และรีบแสดงภาพหน้าจอบนเครื่องสื่อสารให้สวี่ฉางดู

เขาเห็นลูกสาวตัวอ้วนกลมไร้กังวลในรูปถ่าย

โลกของสวี่ฉางกำลังหมุนอีกครั้ง

เขาจินตนาการถึงสถานการณ์ของลูกสาวนับไม่ถ้วน แต่เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอจะมีชีวิตที่ดีได้โดยไม่มีเขา

สวี่ฉางรู้สึกพร่ามัวเล็กน้อยกับสิ่งที่เขาเห็นตรงหน้า ทุกอย่างรอบตัวเขาหยุดนิ่ง ในขณะที่เขาใช้นิ้วปัดดูรูปบุคคลในภาพเบา ๆ

สี่ปีที่แล้ว…

เหอเหอของเขาโตเป็นสาวแล้ว

ผู้ช่วยได้เรียกสติเขาอีกครั้ง “ท่านครับไปกันเร็ว ทุกคนในเถาหยางอยู่ที่นี่แล้ว ทุกคนรอท่านอยู่ ตอนนี้พร้อมออกเดินทางแล้ว”

“ไปกันเถอะ!” สวี่ฉางไม่สนใจสิ่งอื่นและเดินออกไปทันที ปล่อยให้ทุกคนในซินตูจ้องมองกันและกัน

“จู่ ๆ เขาก็ออกไปเหรอ! เขาไม่แม้แต่จะบอกกล่าวอะไรเลยหรือไง?” คนบางคนของซินตูตะโกนออกมา

จั๋วเอ่อร์เฉิงเอนกายลงบนเก้าอี้ เขารู้สึกว่าสถานการณ์นี้จบลงแล้ว

“เขารีบไปพบลูกสาว ไม่มีเวลามาสนทนากับพวกคุณหรอก”

หลิงเทียนจี้มองเขาอย่างเย็นชา “หากการจัดอันดับฐานยอดเยี่ยมในปีนี้ เถาหยางติดอันดับเขาก็ไม่แปลกใจเลยเพราะว่าได้รับการคุ้มครองจากหัวหน้าสวี่ และเขาก็มองว่าผลประโยชน์ในครั้งนี้จะมีเพียงตงหยางเท่านั้นที่จะได้รับ”

จั๋วเอ่อร์เฉิงเลิกคาดหวังผลประโยชน์จากเถาหยางแล้ว “คุณหลิง ลืมมันไปเถอะ เถาหยางไม่ได้ขึ้นบัญชีดำเรา เรายังสามารถจัดซื้อเสบียงต่าง ๆ ได้อยู่”

แม้ว่าหลิงเทียนจี้จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว เถาหยางนี้ไม่สามารถล้อเล่นได้ง่าย ๆ

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
คอยดูเถอะ…วันสิ้นโลกแบบนี้ฉันจะยืนด้วยด้วยลำแข้งของตัวเองให้ได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท