ตอนที่ 336 ความกังวลของอวี๋ผอผ่อ
ตอนที่ 336 ความกังวลของอวี๋ผอผ่อ
ซูเถาเลิกคิ้วและพูดกับเหล่าอวี๋ผอ “คุณเข้าใจเถาหยางผิดมาตลอดเหรอ?”
อวี๋ผอผ่อรู้สึกว่าตนเองอาจคาดเดาบางอย่างผิดไป และใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ เมื่อเห็นแบบนี้ ซูเถาก็เปลี่ยนหัวข้อทันที “แต่เถาหยางไม่มีกำลังคน และไม่มีอาวุธจริง ๆ ค่ะ เรื่องนี้คุณเข้าใจไม่ผิด”
เธอต้องให้เกียรติผู้ใหญ่ เพราะเธอเคารพผู้เฒ่าและรักผู้เยาว์
ท่าทางของอวี๋ผอผ่อผ่อนคลายลงจริง ๆ เมื่อคิดว่าเถาหยางอาจได้รับเสบียงจำนวนมากโดยบังเอิญ จึงทำให้เธอหมดห่วงเรื่องการดำรงชีวิต
“แต่เราก็ต้องรู้จักประหยัดมัธยัสถ์เอาไว้ให้เป็นนิสัย เพราะเสบียงมันก็มีวันหมด” เธออดไม่ได้ที่จะเตือนสติ
ซูเถาพยักหน้าอย่างจริงจัง ก่อนจะหันหน้าไปเก็บของเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางอีกครั้ง และก็นำโยเกิร์ตผลไม้เย็น ๆ มาแจกให้ทุกคนคนละถ้วย
เสี่ยวอวี๋ขอบคุณเธอ จากนั้นเขาก็ลงมือกินทันที
เหล่าอวี๋ผอตัวสั่นเล็กน้อยขณะที่ถือถ้วยโยเกิร์ตด้วยมือข้างหนึ่ง แต่มืออีกข้างกำแน่น พยายามยั้งมือเพื่อไม่ให้ตีหลานชายตัวเอง หญิงชรามองไปรอบ ๆ และพบว่าเฉียนหลินไม่แปลกใจเลย และทำเหมือนกับว่าการกินสิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องธรรมดา
แม้แต่เฉียนหรงหรงก็ไม่แม้แต่จะเหลือบมองโยเกิร์ต และเอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำเอกสาร ซึ่งอาจเป็นการพยายามทำบัญชี
คำถามมากมายก่อขึ้นในใจเหล่าอวี๋ผอ
อะไรที่ทำให้เถาหยางได้รับเสบียงมามากมายขนาดนี้ ไม่ขาดแคลนพลังงานต่าง ๆ และเครื่องปรับอากาศในรถก็เปิดอยู่ตลอด โดยที่ไม่มีใครรู้สึกเดือดร้อนกับการใช้พลังงานไปอย่างสิ้นเปลือง
เมื่อคิดได้แบบนี้เหล่าอวี๋ผอก็เริ่มกังวลใจ
มีของดีมากมายขนาดนี้ แต่ไม่มีการปล้นเสบียงเกิดขึ้นเลยเหรอ แต่เธอคิดว่าไม่ช้าก็เร็วก็ต้องมีคนต้องการแย่งชิงมันไป เธออดไม่ได้ที่จะหยิบสมุดบันทึกของเธอออกมา และเริ่มค้นคว้าอาวุธที่เหมาะสมสำหรับเถาหยาง เพื่อเตรียมการสำหรับการวิจัยและพัฒนา
เถาหยางมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ เธอไม่สามารถใจร้ายได้ แม้ว่ามันจะเป็นสถานที่ห่างไกล แต่ก็ต้องเตรียมการป้องกันเอาไว้ก่อน เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดการโจมตีเมื่อไหร่
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เถาหยางต้องปกป้องเสบียงมากมาย
อย่างไรก็ตาม ยังมีซูเถาที่ถูกยิงบริเวณเท้าแต่ก็ยังกระโดดไปมา เธอคงต้องประดิษฐ์ไม้เท้าล่องหนให้หญิงสาว
ซูเถาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าโยเกิร์ตหนึ่งถ้วยจะทำให้เหล่าอวี๋ผอรู้สึกถึงอันตราย และรีบค้นคว้าพัฒนาสิ่งของขึ้นมาทันที และตอนนี้กำลังคุยกับหัวหน้าสวี่และถามเกี่ยวกับอดีตของอวี๋ผอผ่อ
สวี่ฉางถอนหายใจ “ผมรู้จักเธอก่อนวันสิ้นโลก เธอทำงานสถาบันวิจัยอาวุธยุทโธปกรณ์แห่งชาติ และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาอาวุธที่ยอดเยี่ยม และหลังจากวันสิ้นโลก เธอโชคดีที่สามารถปลุกพลังความสามารถของเธอ ที่เรียกว่า ‘การขึ้นรูป’ ได้ เป็นความสามารถด้านโลหะประเภทหนึ่ง ประกอบกับประสบการณ์การทำงานดั้งเดิมของเธอ เธอสามารถพัฒนาอาวุธพลังงานนิวเคลียสได้มากมายในวันสิ้นโลกแบบนี้”
“ยังไงก็ตาม ปืนพลังงานนิวเคลียสที่พัฒนาโดยฉางจิงเมื่อครึ่งปีก่อน สร้างเสร็จโดยใช้พื้นฐานความสามารถของเธอ และตอนนี้มันเป็นอาวุธที่มีอัตราการใช้งานสูงสุด”
“แต่เป็นเพราะความสามารถนี้ เธอจึงได้เข้าไปพัวพันกับเรื่องถูกและผิดมากมาย จนตกที่นั่งลำบาก ต่อมาเธอถูกตระกูลฉู่หลอกไปใช้ประโยชน์ จากนั้นก็ถูกกักบริเวณในบ้านเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งคนผมดำอย่างลูกชายของเธอที่ต้องเสียชีวิตไปก่อน”
ซูเถาก็รู้สึกแบบเดียวกัน เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เธอก็ถือว่าโชคดีกว่าคนส่วนใหญ่ในยุคก่อน ๆ เนื่องจากระบบได้ให้ผลประโยชน์มากมายแก่เธอ และยังให้ความคุ้มครองแก่เธออีกด้วย
ต่างจากเหล่าอวี๋ผอตรงที่เธออยู่คนเดียวโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าเธอจะต้องฝ่าลมและคลื่นแรงเพียงใดเธอก็ไม่สามารถต้านทานคลื่นที่เชี่ยวกรากได้ เธอจึงทำได้เพียงถูกลากตัวไปมาจนจมดิ่งลงสู่ทะเลลึก
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อขบวนหยุดเพื่อพักผ่อน ซูเถากระโดดลงจากรถ และให้หลิงอวี่และเฮยจือหม่าตรวจสอบถนนข้างหน้า
ช่วงนี้ลูกทั้งสองของเธอให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จึงทำให้ไม่มีอุบัติเหตุระหว่างทางกลับ ดังนั้นความเร็วของพวกเขาจึงเร็วกว่าตอนที่พวกเขามามาก
ด้วยความเร็วนี้ พวกเขาจะไปถึงตงหยางได้ในเช้าตรู่ของวันมะรืน
หลิงอวี่กระพือปีกและบินขึ้นสูง เฮยจือหม่าก็กระโดดออกมาอย่างตื่นเต้นบราวนี่ออนไลน์
เหล่าอวี๋ผอจ้องไปที่เฮยจือหม่าหลายครั้ง แล้วหันไปถามซูเถา “ครั้งก่อนฉันเห็นแมวสีขาว มันกลายเป็นสีดำได้ยังไง”
ซูเถาเงยหน้าขึ้น “คุณย่าคะ พวกมันคือแมวคนละตัวกันค่ะ ตัวสีขาวคือแมวน้อยอีกตัว มันนอนหลับอยู่ในรถของฉัน และตัวสีดำคือคนรักของมัน”
เหล่าอวี๋ผอยกตาขึ้นข้างหนึ่ง “แมวต่างก็จับคู่กันหมดแล้ว ทำไมคุณไม่หาคู่บ้างล่ะ”
ซูเถา “…”
เหล่าอวี๋ผอมองไปที่เท้าของเธอด้วยความสงสารและโยนบางอย่างให้ “ลองสิ่งนี้กับข้อเท้าของคุณสิ หญิงพิการตัวน้อย”
ซูเถารีบจับมันและพบว่ามันเป็นสายรัดข้อเท้าซึ่งค่อนข้างอ่อนนุ่ม
“ให้ฉันเหรอคะ?”
เหล่าอวี๋ผอตอบ “ก็ใช่น่ะสิ ในทีมนี้ใครพิการก็คนนั้นแหละ สวมมันซะสิ”
ซูเถานั่งลงอย่างมีความสุข จากนั้นก็ยกเท้าที่บาดเจ็บแล้วพันสิ่งนี้เข้าที่ข้อเท้า
เนื้อสัมผัสเดิมที่อ่อนนุ่มเริ่มแข็งตัวขึ้นเล็กน้อยราวกับว่ามันกำลังปกป้องข้อเท้าของเธอไว้อย่างแน่นหนา เมื่อเธอลุกขึ้นยืนอีกครั้ง แม้ว่าจะยังมีอาการเจ็บอยู่บ้างแต่การเดินก็ง่ายราวกับว่าเธอใช้ไม้ค้ำ และสะดวกสบายขึ้นมาก
“พอได้ไหม?”
ซูเถาพยักหน้ารัว ๆ “ใช้งานง่ายค่ะ” จากนั้นเธอก็ประสานมือเข้าด้วยกัน! “ขอบคุณนะคะคุณย่า~”
เหล่าอวี๋ผอเชิดหน้าขึ้น “ขึ้นรถเถอะ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็ไม่ต้องลงมา พักผ่อนอยู่บนรถไป”
ทันทีที่พูดจบเฉินหยางและเจิ้งซิงก็วิ่งเข้ามาพร้อมตะโกนใส่ซูเถา “พี่เถาจื่อ ผู้ค้ามนุษย์คนนั้นกำลังจะตาย ผมไม่รู้ว่าทำไมอยู่ ๆ เธอก็น้ำลายฟูมปาก!”
ก่อนที่ซูเถาจะทันได้ตอบสนอง เจียงอวี่รีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ผู้ค้ามนุษย์คนนี้เป็นคนเดียวที่รู้ว่าศพของเจียงถงน้องสาวของเขาถูกฝังไว้ที่ไหน
ถ้าเธอตาย เขาอาจจะหาที่ฝังน้องสาวของเขาไม่เจอ
เมื่อทุกคนมาถึง ก็รีบลากเธอออกจากท้ายรถ ดวงตาของเธอเหลือกขึ้นและร่างกายก็กระตุกอย่างต่อเนื่องบราวนี่ออนไลน์
เฉียนหรงหรงซึ่งไม่เคยเห็นสถานการณ์เช่นนี้เธอรู้สึกหวาดกลัวไม่น้อย เซียวเหวินอวี้ซึ่งกำลังเฝ้าดูเหตุการณ์ตรงหน้าก็กล่าวว่า “น่าจะเป็นโรคลมบ้าหมู ต้องให้เธอรีบกินยา”
แล้วจะไปหายามาจากไหน…
เจียงอวี่พยายามสงบสติอารมณ์ ในที่สุดก็เขาก็หมอบลงและรีบหยิบกระเป๋าของผู้หญิงคนนั้นออกมาอย่างรวดเร็ว ควานหาอยู่สักพักก็พบขวดยาขนาดเล็ก เขาไม่ได้สนใจปริมาณยา และเทมันลงบนฝ่ามือโดยไม่ได้ดูว่ามีกี่เม็ด พร้อมกับจับปากของหญิงสาวแล้วยัดเข้าไป
หลังจากนั้นไม่นาน ร่างกายของหญิงคนนั้นก็ค่อย ๆ หยุดกระตุก ราวกับว่าเธอผ่านช่วงวิกฤติไปแล้ว
ซูเถาถอนหายใจด้วยความโล่งอก
สีหน้าตึงเครียดของเจียงอวี่ก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลง เขาประคองหญิงคนนั้นขึ้นมาแล้วยัดเธอกลับเข้าไปในท้ายรถ
แต่ผู้หญิงคนนั้นคว้าเขาไว้อย่างอ่อนแรงและร้องขอความเมตตา “ปล่อยฉันออกไป ขอร้องล่ะ ฉันไม่หนีไปไหนแล้ว พวกคุณจะมัดฉันต่อไปก็ได้ แต่ฉันไม่อยากอยู่ข้างในแล้ว ฉันผิดไปแล้ว ได้โปรด ยกโทษให้ฉัน…”
เจียงอวี่ปิดประตูท้ายรถอย่างไร้ความรู้สึก
ตอนนั้นน้องสาวของเขาต้องอ้อนวอนเธอมากมาย ไม่รู้ว่าเธอได้รับความเมตตาบ้างไหม หรือสิ่งที่เธอได้รับกลับมาคือการทำร้ายและเฆี่ยนตีเท่านั้น
ที่เขายังไม่กำจัดเธอทิ้ง เพราะเธอยังมีค่า
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ระหว่างทางกลับซูเถาเห็นว่าเจียงอวี่กระวนกระวายมากขึ้นเรื่อย ๆ และบางครั้งก็ไม่มีสติ เธอเรียกเขาหลายครั้งก่อนที่เขาจะออกมาจากเงามืดอย่างล่าช้า
เจียงอวี่รู้สึกผิด เขาก้มศีรษะและขอโทษ “ผมขอโทษ ผม…”
ซูเถาส่ายหัว “ไม่เป็นไร ฉันมาที่นี่เพื่อปรึกษาเรื่องนี้กับคุณ บ่ายวันนี้คุณพาคนไปสองคนไหมคะ ขับรถไปหาเธอเลย ไม่จำเป็นต้องกลับเถาหยางกับเราก่อน”