“ขออภัยที่ให้รอขอรับท่านเซนต์ นี่คือรายชื่อของเหล่าสายลับที่กระผมค้นพบจากการตรวจสอบในช่วงสองสัปดาห์มานี้”
พอเจ้าแว่นโรคจิตพูดจบ เขาก็ยื่นเอกสารที่มีรายชื่อของสปายที่ได้มาจากการตรวจสอบตามคำขอของชั้น
ไม่รู้ว่าเอกสารของเจ้านี่มันจะสกปรกแค่ไหน ชั้นเลยให้เลย์ล่าเป็นคนรับมาอ่านให้ชั้นฟังแทน
รายชื่อโดยส่วนมากเป็นชื่อที่ชั้นไม่เคยได้ยินมาก่อน(ตั้งแต่แรกแล้วตัวประกอบในเกมส่วนมากน่ะไม่เคยบอกชื่อ เพราะแบบนั้นชั้นก็ไม่มีทางจำพวกนั้นได้หรอก) รวมแล้ว 24 คน
แน่นอนว่ารวมครูใหญ่และไอน่าด้วยแล้ว
โดยส่วนมากแล้วจะเป็นพวกโง่ที่โดนหลอกเหมือนกับไอน่า แต่ก็คงมีพวกลูกน้องตัวจริงของแม่มดปนอยู่บ้าง
ถ้ารายชื่อนี้เป็นของจริง ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเจ้านี่มีความสามารถในเรื่องพวกนี้อยู่
นึกว่าเป็นแค่ไอ้แว่นโรคจิตธรรมดาแท้ๆ มีประโยชน์ใช้ได้นะเนี่ย
แต่เลย์ล่าที่เป็นคนอ่านกลับทำทีดูไม่เชื่อถือ สีหน้าของเธอค่อยๆทะมึนลงในทุกขณะยิ่งอ่านผ่านไปทุกรายชื่อ
“นี่มัน…หมายความว่ายังไงกัน ผู้ฝึกสอนซัปเปิ้ล เมนต์? ข้าสามารถมองได้เพียงว่าตัวเจ้านั่นแหละที่เป็นผู้ติดตามของแม่มด และพยายามใช้โอกาสนี้เพื่อกำจัดผู้ที่ขวางทาง นี่เจ้าคิดจะตัดกำลังสำคัญจำนวนมากของมนุษยชาติหรืออย่างไรกัน?”
“เป็นคำถามที่โง่เขลานัก กระผมนั้นจงรักภักดีต่อเซนต์เอลริสแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีใครอื่นอีก”
“ถ้าอย่างนั้นนี่อะไร? รายชื่อผู้ทรยศเหล่านี้…คือเหล่าผู้ที่ร่วมสู้ไปกับเซนต์รุ่นก่อน มีแต่เหล่าอัศวินชั้นยอดไม่ใช่หรืออย่างไร!”
ต่อหน้าเลย์ล่าที่กำลังโมโห ไอ้แว่นโรคจิตทำเพียงยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
แต่สำหรับชั้นแล้ว คำพูดของเลย์ล่านี่แหละที่ช่วยยืนยันว่ารายชื่อพวกนี้เป็น”ของจริง”
อ้าา—เป็นพวกอัศวินของเซนต์รุ่นที่แล้วนี่เอง
คนพวกนั้นก็ดูน่าสงสัยอยู่หรอก แต่ก็ไม่นึกว่าจะมาเจอจริงๆในรายชื่อที่ไอ้แว่นโรคจิตหามาให้ ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่นะเนี่ย
“นี่กระทั่งมีรายชื่อของอัศวินที่เกษียณแล้วแต่ก็ยังทำหน้าที่ของอาจารย์ในสถาบันนี้อยู่เพื่อปลุกปั้นคนรุ่นใหม่ มีแต่รายชื่อของบุคคลที่โดดเด่นและน่านับถือทั้งนั้นเลย! นี่เจ้าคิดจะดูถูกพวกเราเหล่าอัศวินหรืออย่างไรกัน?!”
“กระผมไม่มีความคิดเห็นส่วนตัวใดๆต่อคนเหล่านั้น แต่ถ้าพวกเขาเลือกที่จะทรยศมนุษยชาติ ก็แปลว่าเป็นเพียงคนที่ไร้ค่า ไม่ว่าพวกนั้นจะจงรักภักดีต่อเซนต์รุ่นก่อนอย่างไร ดูเหมือนว่าการเป็นอัศวินก็ไม่ได้มีเกียรติอย่างที่เจ้าคิดเลยนะ เลย์ล่าคุง”
“ไอ้สารเลว…”
มือของเลย์ล่าเอื้อมไปที่ด้ามดาบ ส่วนเจ้าแว่นโรคจิตก็เตรียมใช้เวทมนตร์
เฮ้ยพวกแก อย่ามาสู้กันที่นี่สิ
“ใจเย็นก่อนจ้ะเลย์ล่า ถึงแม้นี่จะเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่เรามีครูใหญ่ที่ถูกยืนยันแล้วว่าเป็นผู้ทรยศ ฉะนั้นการที่จะมีอดีตอัศวินจากรุ่นก่อนรวมอยู่ในฝ่ายศัตรูด้วยนั้นก็เป็นความเป็นไปได้ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ผู้ที่นับถือครูใหญ่เองก็มีอยู่ไม่น้อยเลย”
“กะ…ก็จริงค่ะ แต่ว่า…”
หลังโดนชั้นติไป เลย์ล่าก็ลดมือลงจากดาบ
จากนั้นชั้นก็หันไปหาเจ้าแว่นโรคจิต
แหงะ แค่ได้เห็นหน้าชั้นมันก็ดูมีความสุขแล้ว ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากมองหน้ามันเท่าไหร่เลยน้า…
“ซัปเปิ้ลเซนเซย์ ข้อมูลเหล่านี้ได้มาอย่างไรหรือคะ?”
“เป็นคำถามที่ดีขอรับ คนเหล่านี้จะใช้นกประเภทหนึ่งในการสื่อสารกัน นี่เป็นพันธุ์ที่ถูกค้นพบเมื่อ 80 ปีก่อนโดยนักผจญภัยที่ชื่อ สตีล และจึงถูกตั้งชื่อตามนักผจญภัยคนนั้นตั้งแต่นั้นมา นหชนิดนี้มีความสามารถในการพรางตัว หลบหลีกนักล่าด้วยการเปลี่ยนสีตนเองให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม และเลียนเสียงของสัตว์ชนิดอื่นเพื่อใช้ในการขับไล่ศัตรู พวกมันถูกนำมาเลี้ยงตั้งแต่ช่วง 50 ปีก่อน ด้วยความสามารถในการพรางตัวราวกับล่องหน ถ้าไม่สังเกตใกล้ๆก็ไม่มีทางจับได้ ผนวกกับความสามารถในการเลียนเสียง มันจึงนับว่าเป็นนกส่งสารชั้นยอดขอรับ”
เจ้าแว่นโรคจิตพล่ามอะไรไม่รู้เยอะแยะเพื่อตอบคำถามสั้นๆ
ใครสนวะว่ามันถูกค้นพบตอนไหน
บอกว่ามันเป็นนกส่งสารที่ดีก็พอแล้ว
“กระผมจับนกสตีลทุกตัวที่บินอยู่เหนือน่านฟ้าของสถาบัน และสลับพวกมันกับนกสตีลที่กระผมเลี้ยงไว้ การสื่อสารทุกชนิดจะผ่านกระผมก่อนที่จะถูกส่งต่อไปยังเป้าหมาย แน่นอนว่ากระผมไม่ได้จับพวกมันมาทั้งหมดในครั้งเดียว แต่ทีละตัวไปเรื่อยๆ…จนกระทั่งได้มาทั้งข้อมูลของสารและจุดหมาย จากนั้นจึงแอบดักฟังจุดในนัดพบที่คนทรยศจะมารวมตัวกัน หรือบุกเข้าค้นห้องในช่วงที่พวกเขาไม่อยู่ ทำให้ในเวลาสองสัปดาห์กระผมสามารถปกติดปะต่อความสัมพันธ์ของคนเหล่านี้ได้อย่างเรียบร้อย”
…เก่งกว่าที่คิดนะเนี่ย
งี้นี่เอง เปลี่ยนตัวนกสื่อสารสินะ
ถ้าเทียบกับยุคปัจจุบันก็คงคล้ายๆกับการดักฟังโทรศัพท์
แต่ในโลกนี้ไม่มีทั้งโทรศัพท์หรืออินเตอร์เน็ต เลยต้องใช้การสื่อสารแบบโบราณแทน
เวลาแบบนี้แหละที่ทำให้คนเราเห็นว่าโทรศัพท์นี่มีค่าแค่ไหน
“รายชื่อนี้ไม่ผิดแน่ใช่ไหมคะ?”
“ถึงแม้กระผมจะไม่สามารถยืนยันได้ว่าพวกเขาทำไปโดยความสมัครใจหรือถูกล่อลวงมา…แต่ผลลัพท์ก็เหมือนกัน พวกเขากลายเป็นสายลับให้แก่แม่มด ฉะนั้นกระผมจึงขอแนะนำให้จับกุมพวกเขาทุกคนขอรับ”
“มีโอกาสที่จะยังหลงเหลือสายลับคนอื่นอีกไหมคะ?”
“กระผมคงจะไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าโอกาสเป็นศูนย์ โอกาสที่จะมีสายลับที่ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆเลยในช่วงสองสัปดาห์นี้นั้นมีอยู่ ถึงแม้จะมีความเป็นไปได้ต่ำแค่ไหนก็ตาม”
ไม่เป็นศูนย์สินะ
ไม่รู้ว่านี่เป็นการปักธงรึเปล่า แต่ถ้าทางนี้ไม่เคลื่อนไหวเองก็คงยากที่พวกมันจะโผล่หางออกมาด้วยตัวเอง
“หลักฐานของปีศาจ” สินะ โอกาสที่จะสามารถพิสูจน์ได้ว่าสิ่งใด”เป็นไปไม่ได้เลย”นั้นแทบจะไม่มีจริง
ถ้าบอกว่า “มีคนที่เอาขนมปังเสียบคาตูดพร้อมกับเอามือขวาแหย่จมูกในขณะที่มือซ้ายชกมวยไปด้วย พร้อมกับร้องตะโกนว่า ‘สุขภาพต้องมาก่อน’ อยู่ในโลกจริงรึเปล่า” คำตอบก็คงจะเป็นว่า “ไม่มีหรอก”
แต่ถ้าจะให้ถามว่า “มีหลักฐานมั้ยล่ะว่าไม่มีคนที่ทำแบบนั้น” ก็คงไม่น่าจะมีใครที่หาหลักฐานมาพิสูจน์ได้
คงต้องคิดว่า “ไม่มีสปายคนอื่นนอกเหนือจากในรายชื่อนี้แล้ว” ถึงจะไปต่อได้
…เอาล่ะ คงต้องลงมือแล้วสิ
ถ้ามีเวลาสืบสวนมากกว่านี้ก็คงดี แต่ปบบนั้นก็อาจมีคนที่ถูกหลอกแบบไอน่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าแบบนั้นก็จะเป็นปัญหาใหญ่
แต่ถ้าจัดการถอนรากถอนโคนพวกสปายแบบม้วนเดียวจบ แม่มดก็อาจจะสังเหตได้ถึงความผิดปกติแล้วหนีไปได้
ถึงจะไม่ชอบแค่ไหน…แต่ดูเหมือนว่าความร่วมมือจากไอ้แว่นโรคจิตจะเป็นเรื่องที่จำเป็น
“คิดว่าเราคงต้องจัดการสถานการณ์นี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด แต่หากแม่มดรู้ตัวว่าเหล่าผู้ติดตามของเธอหายตัวไป เธออาจจะเกิดสงสัยและหลบหนีไปจากสถาบันก็ได้ ซัปเปิ้ลเซนเซย์คะ คุณช่วย…”
“กระผมเข้าใจดีขอรับ กระผมจะสับเปลี่ยนนกสตีลที่ใช้ในการสื่อสารกับแม่มด และใช้นกสตีลนั้นในการสื่อสารกับแม่มดแทนที่ครูใหญ่ที่ถูกจับกุม…นี่คงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดขอรับ”
“หลักแหลมจริงๆค่ะ”
ดูเหมือนมันจะไม่โง่แฮะ
ฮะ…ไม่ใช่ว่าแกเป็นแค่ไอ้แว่นโรคจิตหรอกเหรอ?
ในเกมเป็นแค่ลูกกระจ๊อกแท้ๆ ทีงี้ล่ะพึ่งพาได้เชียว
เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มปฏิบัติการ “ม้วนเดียวจบ” ได้
ไปลุยกันเลย!
.
ปฏิบัติการนี้ก็ง่ายๆ
ใช้นกสื่อสารของเจ้าพวกนี้ในการล่อพวกมันมารวมอยู่ในที่เดียวกันภายใต้ชื่อของครูใหญ่
ในทางกลับกัน ครูใหญ่ก็ถูกเรียกมาโดยใช้ชื่อของสปายอีกคนโดยบอกว่า “มีเรื่องจะคุยด้วย”
ด้วยการเรียกพบกันแบบลับๆ(ฮา)นี้ ทำให้พวกโง่ทั้งหลายถูกเรียกมารวมกันที่ห้องฝึก
ห้องฝึกคือโดมขนาดใหญ่ที่อยู่หลังอาคารเรียน คล้ายๆโรงยิม
จริงๆในเกมนี่มันก็โรงยิมนั่นแหละ แค่ชื่อเปลี่ยนเฉยๆ
ถึงจะเป็นโรงเรียนก็เถอะ จะมีที่แบบนี้ในสถานฝึกฝนอัศวินไปทำไมกัน
คนสร้างน่าจะขี้เกียจก็เลยแปะรูปโรงยิมที่หาได้จากเน็ตลงไปแหงเลย
ตอนนี้พวกเราซ่อนตัวอยู่หลังม่าน
“มีเรื่องอะไร? ทำไมพวกเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”
“พูดอะไรน่ะครับ? ไม่ใช่ครูใหญ่หรอกหรือที่เรียกพวกเรามาที่นี่?”
“ข้ารึ? อย่ามาพูดบ้าๆน่า ข้าไม่มีทางเรียกรวมตัวให้เป็นที่สะดุดตาแบบนี้…”
โอ้ โอ้ พวกโง่เริ่มสับสนกันแล้ว
ไปเลยบาเรีย! ขังทุกคนไว้ในนี้ซะ
“แย่แล้ว! นี่เป็นกับดัก!”
ดูเหมือนว่าครูใหญ่จะรู้ตัวแล้ว แต่ช้าไปเว้ย! พวกแกหนีไม่รอดแล้วล่ะ!
ถ้าเป็นภาษาหมากรุกก็คือพวกแกโดน “เช็คเมท” ไงล่ะ!
หลังจากล้อมเจ้าพวกนี้ไว้ในบาเรียแล้ว ชั้นก็เดินออกมาจากหลังม่าน
หืม นี่คือโฉมหน้าของพวกโง่นี่สินะ
“ทะ ท่านเซนต์…?! นี่มันหมายความว่ายังไง…”
ไอน่าดูท่าทางสับสน ก็ปกติสำหรับคนที่ถูกหลอกที่จะไม่เข้าใจสถานการณ์
ต่อหน้าพวกเขาคือเจ้าแว่นโรคจิตที่มีรอยยิ้มกวนบาทาพร้อมกับดีดนิ้ว
นกสตีลที่เกาะอยู่บนไหล่ของเจ้าพวกนี้ก็พูดทวนบทสนทนา
บ้างก็ว่า “อย่าให้เอลริสจับได้เด็ดขาด” “ผู้หญิงโง่ๆนี่มันหลอกง่ายจริงๆ” “เพื่อท่านแม่มด” ไปจนถึง “ถ้าเราล่อเอลริสมาอยู่ที่เดียวแล้วรุมโจมตีพร้อมกันล่ะ?”
บางคนที่ได้ยินอย่างนั้นก็คุมอารมณ์ไม่อยู่และหันไปมองครูใหญ่
“ครูใหญ่ครับ นี่มันหมายความว่ายังไง!?”
“บทพูดเมื่อครู่… คิดจะทำร้ายท่านเอลริสอย่างนั้นหรือ…!”
“ไม่ใช่ว่าพวกเราทำไปเพื่อท่านเซนต์หรอกหรือคะ!?”
อ้า คนพวกนี้คือพวกที่โดนหลอกให้ร่วมมือสินะ
กลุ่มแตกเป็นสองฝ่ายทันที ผู้ติดตามตัวจริงของแม่มดกับคนที่ถูกหลอก ทั้งสองฝ่ายจ้องตากัน
“สงบลงก่อน! บทพูดของนกตีลสามารถถูกเปลี่ยนได้! นี่เป็นการใส่ร้าย! …ท่านเซนต์ อย่าถูกหลอกนะขอรับ ผู้ชายคนนั้น ซัปเปิ้ล เมนต์คือลูกน้องตัวจริงของแม่มด!”
บางคนเริ่มจะสงบลงและหันความเกลียดชังไปที่เจ้าแว่นโรคจิตแทน
ก็นะ ดูน่าสงสัยซะขนาดนี้
ถ้าไม่รู้มาก่อนชั้นก็คงสงสัยเหมือนกัน
จริงอยู่ที่บทพูดของนกสามารถถูกเปลี่ยนแปลงได้
ยังไงมันก็เป็นแค่นก แค่ป้อนคำใหม่ใส่หัวมัน มันก็จะทรยศเจ้านายของตัวเองไปโดยไม่รู้ตัว
ตั้งแต่แรกแล้ว นกพวกนี้ไม่รู้ได้ซ้ำว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่ พวกมันก็แค่พูดทวน”เสียง”ที่ได้ยินมา
“โปรดเชื่อข้าเถิด! ทั้งหมดที่ข้าทำไป ก็เพื่อท่านเซนต์!”
โฮ่ โฮ่ โฮ่ งี้นี่เอง งี้นี่เอง
ที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อเซนต์สินะ
รู้อยู่แล้วล่ะ ก็มันเป็นความจริงนี่นา
ทั้งหมดก็เพื่อ เซนต์ของแก ใช่มั้ยล่ะ?
เฮ้ยไอ้แก่ คิดว่าชั้นไม่รู้ความลับของเซนต์กับตัวตนที่แท้จริงของแม่มดรึไง?
พอบอกแบบนั้น ท่าทีของครูใหญ่ก็กลายเป็นแข็งกร้าวขึ้นพร้อมกับหัวเราะอย่างเย็นชา
“…อึก! เข้าใจล่ะ… เจ้ารู้อยู่แล้วสินะ… ถ้าอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งอีกต่อไป…”
“ความลับของแม่มด…? ตัวตนที่แท้จริงของแม่มด…? ท่านเอลริสคะ นั่นหมายความว่าอย่างไร…?”
อา สต๊อกโกะจัง เรื่องนั้นไว้คุยกันทีหลังแล้วกันนะ ตอนนี้ต้องตั้งสมาธิก่อน
ครูใหญ่พุ่งเข้ามาคิดจะโจมตีชั้น แต่ก็ถูกเลย์ล่าสกัดไว้ได้
“ดิแอสโดโน่! การหันดาบใส่ท่านเอลริสนั้นยกโทษให้ไม่ได้!”
“เลย์ล่า สก็อตต์รึ…”
การที่พยายามจะโจมตีชั้นก็เป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาอยู่ฝ่ายไหน
พวกผู้ติดตามของแม่มดเริ่มชักดาบออกมาเพื่อเข้าช่วยเหลือครูใหญ่ ส่วนพวกที่ถูกหลอกก็ชักดาบออกมาเพื่อปกป้องชั้น
จากนั้นปาร์ตี้ของเวอร์เนลก็เข้ามาสมทบ และแล้วการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น
จริงๆชั้นจะยิงเวทย์ตู้มเตียวเพื่อแก้ปัญหาทุกอย่างก็ได้อ่ะนะ แต่ว่า…แบบนั้นไอน่าจะน่าสงสารเกินไปน่ะสิ
หลังจากที่เข้าใจว่าเธอทำอะไรลงไป เธอก็นั่งอยู่กับที่ไม่ไหวติง จากนั้นก็ชักดาบออกมาจ่อที่คอ…หวาหวาหวา สต๊อป สต๊อปปุ!
ชั้นรีบดึงดาบไว้ทันที…เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ
“ท่านเซนต์…ปล่อยชั้นไปเถอะค่ะ…ชั้น…หลังจากนี้…ไม่อาจเจอหน้าท่านพ่อได้อีกต่อไปแล้ว…”
พอได้เห็นไอน่าที่น้ำตาคลอ ชั้นก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
สาวสวยร้องไห้นี่มันก็ไม่เลวนะ!
…ไม่ดิ ก่อนหน้านั้นต้องปลอบเธอก่อน
หยอดคำหวานนิดหน่อยก็พาเข้าม่านรูดได้แล้ว
ถ้าเธอฆ่าตัวตายล่ะก็ชั้นจะรู้สึกไม่ดีนา พอดีไม่ชอบฉากจบที่มันหดหู่น่ะ
มามะ มากอดซิ รู้สึกดีใช่มั้ยล่า
จากนั้นชั้นก็ลูบหัวเธอนิดหน่อย พูดอะไรมั่วถั่วไปเป็นการปลอบ
เคจ้า เคจ้า ไม่เป็นไรน้า ไม่เป็นไรน้า
ที่ทำแบบนั้นไปก็เพราะต้องการจะปกป้องชั้นใช่มั้ยล่ะ
แค่เผอิญว่าที่เธอทำไปมันเหมือนกับหนูแฮมสเตอร์วิ่งบนวงล้อ ไม่คืบหน้าไปไหนเท่านั้นเอง
ไม่โกรธหรอกจ้า สาวสวยน่ะทำพลาดนิดหน่อยๆถือว่าน่ารัก
ถ้าเป็นผู้ชายนี่โดนประหารไปแล้ว แต่เป็นคนน่ารักอย่างเธอนี่ชั้นอภัยให้ ชั้นน่ะใจกว้างนา(เฉพาะกับสาวงาม)
คนอื่นจะว่ายังไงแต่ถ้าชั้นให้อภัยเธอก็คือจบเรื่องแล้ว ไม่มีปัญหาหรอก
ไม่ใช่แค่ชั้นนะ คนอื่นก็จะยกโทษให้เธอแน่
พอพูดไปแบบนั้น ไม่รู้ทำไมเวอร์เนลถึงตัวสั่นๆพร้อมบอกเห็นด้วย
สุดท้ายแมรี่ก็ยื่นมือเข้าหาเธอ แต่ครั้งนี้ไอน่าไม่ได้ปัดมันออกแต่จับมือนั้นไว้
โอเค คืนดีกันได้แล้ว ต้องแบบนี้สิ
ส่วนเรื่องการต่อสู้…ฝั่งเราได้เปรียบแฮะ
อาจจะฟังดูแย่ไปบ้าง แต่อีกฝ่ายส่วนมากแล้วเป็นพวกวัยเกษียณ
ตอนนี้ยิ่งมีพวกเวอร์เนลและไอน่าร่วมเสริมกำลังด้วย อีกฝ่ายก็ยิ่งเสียเปรียบกว่าเดิม
สุดท้ายก็เหลือแค่ครูใหญ่ที่อยู่ระหว่างสู้ตัวต่อตัวกับเลย์ล่า
“ทำไมถึงทำแบบนี้กันคะ?! ทั้งที่ท่านสู้เคียงข้างท่านอเล็กเซียในการปราบแม่มดแท้ๆ! ทำไมถึงขายวิญญาณให้กับแม่มดล่ะคะ?!”
“ข้าไม่ได้ขายอะไรทั้งนั้น ข้ายังเป็นคนเดิม คนที่ข้าคอยปกป้องก็ยังเป็นคนเดิม ข้าจะปกป้องเซนต์ของข้า”
“คนทรยศอย่างท่านหยุดพูดเรื่องไร้สาระแบบนั้นได้แล้ว!”
เลย์ล่ากับครูใหญ่กำลังสู้กันดุเดือดเลย
โอ้—เท่แฮะ–
ทำเป็นไม่อ่านบรรยากาศแล้วน็อคครูใหญ่สลบตอนนี้จะดีมั้ยเนี่ย?
เลย์ล่ากับครูใหญ่แลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันไปมา อธิบายได้แค่นี้แหละ ไม่รู้จะบรรยายยังไงดี
“เลย์ล่าโดโน่! เรามาช่วยท่านแล้ว!”
“ฮืม พวกปลาซิวปลาสร้อย…ถอยไปซะ! ไม่ว่าพวกเจ้าจะเข้ามาเท่าไรก็ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก!”
หลังจากที่จัดการพวกพ้องของครูใหญ่แล้ว พวกคนที่ถูกหลอกก็พยายามเข้าโจมตีครูใหญ่ แต่แค่ครูใหญ่ฟันทีเดียวด้วยดาบผสานเวทย์สายฟ้า เจ้าพวกนั้นก็ลงไปกลิ้งร้อง”อุว้า!”หรือ”อิย้า!”
เป็นพวกปลาซิวจริงๆนั่นแหละ
จากนั้นองครักษ์ส่วนตัวเซนต์ทั้งสองคนก็สู้กันต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ทรยศ? อย่าพูดให้ข้าขำไปหน่อยเลย พวกเราไม่ได้ทรยศโลกใบนี้ เป็นโลกนี้ต่างหากที่ทรยศพวกเรา…สักวันหนึ่งเจ้าจะเข้าใจ และสิ้นหวังให้กับโลกเช่นนั้น”
“พยายามจะพูดอะไรกันแน่?!”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องเข้าใจหรอก ที่ข้าทำไปก็เพื่อปกป้องท่านอเล็กเซีย”
โช้งเช้งโช้งเช้ง
ฉึบฉับฉึบฉับ
ชิ้งฉ่องฉ่องชิ้ง
อธิบายท่าพวกนี้เป็นคำไม่ถูกเลยเว้ย
“ท่านพูดบ้าอะไรออกมา? หลังจากที่ปราบแม่มดสำเร็จ ท่านอเล็กเซียก็…”
“ก็ตายไปแล้วเช่นนั้นรึ? ไม่ใช่เลย ท่านอเล็กเซียยังมีชีวิตอยู่ เธอเพียงถูกจัดฉากว่าเสียชีวิตไปแล้ว!”
“วะ—ว่าอะไรนะ!?”
“เจ้าพวกคนเขลาที่เคยถูกปกป้องไว้โดยท่านอเล็กเซีย พวกมันหลงลืมความเมตตาที่เธอเคยมอบให้และพยายามจะฆ่าเธอ! เพราะอย่างนั้น—ในฐานะอัศวินองครักษ์ของเธอ ข้าจะปกป้องเธอให้ได้! ถึงแม้จะต้องเป็นศัตรูกับทั้งโลกใบนี้ก็ตาม!”
เอ๊ะ ช้า ช้าก่อน
จะบอกตอนนี้เลยเหรอ เร็วไปมั้ง?
นี่มันสปอยเรื่องที่จะถูกเปิดเผยให้แก่ปาร์ตี้ของเวอร์เนลในช่วหลังของเนื้อเรื่องนะ!?
“จะ เจ้าพูดอะไรออกมา…”
“ฮืม…ดูเหมือนว่าเซนต์ของเจ้าจะรู้อยู่แก่ใจนะ? ทำไมไม่บอกพวกเธอล่ะเอลริส? ทำไมถึงไม่บอกเรื่องนี้กับอัศวินของตัวเอง?! ถ้าทำไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นข้าจะเป็นคนพูดให้! ฟังซะ ตัวจริงของแม่มดก็คือ — เซนต์รุ่นที่แล้ว! ตัวจริงของแม่มดที่พวกเจ้าพยายามจะกำราบก็คือ เซนต์อเล็กเซีย!”
อะ-อ๊า พูดไปซะแล้ว
ทำไงดีล่ะทีนี้ บรรยากาศมาคุเลยเห็นมั้ยเนี่ย?