“ใจเย็นก่อนครับอิจูอินซัง น่าจะพอมีข้อมูลหลงเหลืออยู่ในฐานข้อมูลของบริษัทบ้างไม่ใช่หรือครับ?”
ฟุโโวพยายามที่จะกล่อมอิจูอินที่ลืมชื่อของคนเขียนบทเกม
ถึงจะลืมชื่อไปแล้ว ก็น่าจะมีข้อมูลที่หลงเหลืออยู่บ้าง ยังไงก็ส่งตัวเกมที่ทำเสร็จไปจนถึงบ้านอีกฝ่ายได้นี่นา
ยังไงซะคนเขียนบทก็เป็นหน้าที่ที่สำคัญ ไม่มีทางเลยที่ข้อมูลชื่อและที่อยู่จะถูกบันทึกไว้แค่ในความทรงจำอย่างเดียว
ยังไงซะก็ใช่ว่าจะสนิทอะไรกันมาก อีกฝ่ายเป็นแค่เพื่อนร่วมงานที่ไม่เคยพบหน้ากันตรงๆด้วยซ้ำ จะจำด้วยความทรงจำอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะ
พอฟุโดวพูดอย่างนั้น อิจูอินก็เห็นด้วยและพยักหน้า
“ใช่แล้วครับ ชื่อจริงของเต่าแห่งฟิโอริถูกบันทึกไว้ในเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทเรียบร้อยแล้ว แถมยังมีเป็นโน้ตในคอมพิวเตอร์ด้วย แค่เปิดมันขึ้นมาเราก็จะรู้เองครับ”
มนุษย์น่ะเป็นสัตว์ที่ขี้หลงขี้ลืม
ต่อให้คิดว่าจะจำได้มากแค่ไหน ส่วนมากแล้วก็มักจะกลบข้อมูลที่ไม่ได้ใช้งานไว้ในส่วนลึกของสมอง พออยากจะจำก็จำไม่ได้
การจดบันทึกถึงเป็นเรื่องสำคัญไงล่ะ
ดีล่ะ ดีล่ะ
เท่านี้ก็ไปเจอคนเขียนบทได้แล้ว
ถึงอย่างนั้นก็ต้องรอให้อิจูอินซังไปเอาข้อมูลกลับมาจากบริษัทก่อน ซึ่งพอถึงเวลานั้นชั้นก็คงจะไม่ได้อยู่ด้วย ที่เหลือคงต้องฝากให้ฟุโดวกับอิจูอินซังจัดการแล้วล่ะ
ว่าไปแล้ว มีเรื่องที่ชั้นสงสัยอยู่เรื่องนึง
“ชื่อ ฟิโอริ นี่…ไม่ใช่ว่านั่นเป็นโลกที่ชั้นอาศํยอยู่หรอกหรือคะ?”
ใช่แล้ว เกี่ยวกับเรื่องนามปากกาของคนเขียนบท
ฟิโอริคือชื่อของโลกในเรื่องบุปผานิรันดร์ร่วงโรย
ชั้นมีลางสังหรณ์แปลกๆเกี่ยวกับเรื่องนี้
เป็นไปไม่ได้มั้ง ชั้นคิดอย่างนั้น
แต่การจะเปลี่ยนแปลงความทรงจำของผู้คนนี่ ถ้าไม่ใช่พระเจ้าแล้วใครที่ไหนจะทำได้
ไม่มีใครจดจำเอลริสคนก่อนที่เป็นที่รังเกียจ ทุกคนกลับจำได้ตัวชั้นที่กลายเป็นเอลริสเท่านั้น…ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้สมเหตุสมผลยาก
“ผมไม่เห็นว่ามีอะไรแปลกนะครับ มีคนตั้งมากมายที่ใช้ชื่อของตัวละครที่ตัวเองสร้างเป็นนามปากกา”
“นั่นก็จริงนะ…แต่ว่า ครั้งนี้เท่านั้นที่เรื่องมันแปลก”
อิจูอินซังไม่ได้คิดว่านามปากกานี้มันแปลกตรงไหน แต่ฟุโดวไม่เห็นด้วย
เมื่อกี๊แกยังพูดสุภาพอยู่เลยนี่ กลับมาพูดแบบเดิมแล้วเหรอ?
เอาเหอะ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับชั้นล่ะนะ
“อิจูอินซัง ในเซตติ้งของเนื้อเรื่องบุปผานิรันดร์นี่ เป็นเพราะว่าโลกสามารถสัมผัสได้การตื่นขึ้นของแม่มด จึงให้กำเนิดเซนต์ขึ้นมาเพื่อต่อกร แบบนั้นใช่มั้ย?”
“ใช่ครับ ถ้าจะพูดให้ตรง เมื่อโลกสัมผัสได้ถึงแม่มด เซนต์ก็จะเกิดขึ้นจากพลังเวทย์โดยเจตจำนงค์ของโลก ต้องบอกว่าทั้งระบบแม่มดและเซนต์ต่างกำเนิดมาจากโลกทั้งคู่”
ฟุโดวและอิจูอินซังคุยกันเรื่องเซตติ้งของโลกนั้นอยู่
ทั้งแม่มดและเซนต์ต่างเกิดขึ้นมาจากเจตจำนงค์ของโลก
นี่เป็นเซตติ้งที่ถูกเปิดเผยในส่วนสัมภาษณ์ผู้ผลิตเกม แต่ไม่ได้ปรากฏในเนื้อเรื่อง แต่…ก็สามารถบอกได้ว่าแม่มดและเซนต์มีรากฐานมาจากโลกทั้งคู่
แต่ก็ไม่รู้ว่าโลกทำแบบนั้นไปทำไม
มีข่าวลือว่าปริศนานี้จะถูกเปิดเผยในภาคต่อ แต่ภาคต่อนี่ก็อยู่ในระหว่างดำเนินงานมาสี่ปีแล้ว แต่ยังไม่คืบหน้าไปไหนเลย
“ทำไมโลกถึงทำเรื่องอย่างนั้น…พอจะรู้อะไรมั้ยครับ?”
“…ก็เคยได้ยินมานะครับ แม่มดถูกสร้างมาเพื่อสั่งสอนมนุษยชาติที่เย่อหยิ่งและเห็นแก่ตัว เพื่อให้มนุษยชาติยืนขาวขึ้น เพื่อให้พวกเขาหยุดทำลายธรรมชาติ แม่มดถูกสร้างมาเพื่อเป็นคอขวด แต่แม่มดกลับเกิดอาละวาดและพยายามที่จะทำลายล้างมนุษยชาติแทน แถมยังทำลายธรรมชาติแถมเข้าไปอีก โลกเลยสร้างตัวแทนอีกคนขึ้นมา นั่นคือเซนต์คนแรกอัลเฟรีย แต่เมื่อแม่มดถูกปราบลง ความเคียดแค้นและความมืดในใจของแม่มดก็ถูกถ่ายทอดสู่เซนต์และเปลี่ยนพวกเธอให้กลายเป็นแม่มดคนต่อไป อเล็กเซียตัดวิญญาณส่วนนึกของเธอและส่งให้กับเวอร์เนลใช่มั้ยล่ะครับ? นี่ก็คล้ายๆกัน แต่เป็นการถ่ายทอดทั้งหมด ไม่ใช่แค่ส่วนหนึ่ง เมื่อตัวแทนคนหนึ่งตายไป โลกก็จะให้กำเนิดตัวแทนคนใหม่ขึ้นมาแทน…กลายเป็นวัฐจักรที่ไม่รู้จบ…ประมาณนี้ล่ะครับ”
เหห เซตติ้งเป็นงี้เอง
แสดงว่าตัวต้นเหตุที่แท้จริงคือแม่มดคนแรกสินะ
ถ้าเธอไม่เกิดอาละวาดขึ้นมาก็คงไม่มีเรื่องแบบนี้ขึ้น
ฮ่าาา- ยุ่งยากเป็นบ้า
“ขอถามได้มั้ย? ใครๆก็รู้ดีว่าโหรเป็นผู้ให้คำพยากรณ์เกี่ยวกับการกำเนิดของเซนต์คนใหม่ แต่ว่า…ตั้งแต่แรกแล้ว โหรคนนั้นคือใครกันแน่? ทำไมถึงมีคนที่สามารถรับรู้ได้ถึงการเกิดขึ้นของเซนต์อยู่? ในเกมไม่ได้บอกเรื่องนี้ไว้เลย”
ฟุโดวถามถึงโหรผู้ให้คำพยากรณ์เป็นเรื่องต่อไป
เห็นด้วย เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคนคนนั้นเลย
ถึงจะบอกว่าโหรพยากรณ์ถึงการกำเนิดของเซนต์ และประเทศทั่วโลกก็จะส่งคนไปรับเซนต์ที่เพิ่งเกิดมา แต่เอาจริงๆแล้ว ใครที่สามารถพยากรณ์เรื่องแบบนั้นได้กันล่ะ?
เป็นโหรที่น่าจะมีบทบาทสำคัญในเนื้อเรื่องแท้ๆ แต่กลับหายหัวไปตลอดทั้งเกมเลย
ไม่มีใครเคยพูดถึงในเรื่องด้วยซ้ำ
“เรื่องนั้น…ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ผมก็เคยถามคล้ายๆกันไปแล้ว…แต่ก็ถูกเมิน ผมก็เลยคิดว่าน่าจะมีไว้เพื่อให้เนื้อเรื่องมันเกิดขึ้นก็เท่านั้น”
อิจูอินซังกอดอกด้วยท่าทางรู้สึกผิดเล็กน้อย
น่าจะคิดว่า รู้อย่างนี้ตอนนั้นดึงดันถามไปน่าจะดีกว่า
จากนั้นเขาก็หันมาทางชั้นแล้วถามอย่างสุภาพ
“เอ่ออ…เอลริส…ซัง เรียกอย่างนี้ได้ใช่มั้ยครับ? พอจะรู้อะไรบ้างหรือเปล่าครับ? คุณอาศัยอยู่ทางฝั่งนั้น อาจจะมีข้อมูลอะไรที่เราไม่รู้ก็ได้…”
“ไม่ค่ะ ทางชั้นเองก็ไม่รู้เช่นกันค่ะ…แต่ชั้นเคยถูกบอกว่ามีคนแบบนั้นอยู่ ถ้าเป็นองค์ราชาไอส์อาจจะรู้อะไรบางอย่างก็ได้ พอกลับไปถึงฝั่งนั้นแล้วจะลองถามดูค่ะ”
ตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งก่อน ลุงไอส์แกก็ให้ความร่วมมือดีมากเลย ถ้าถามไปก็น่าจะตอบให้
ว่าแล้วเชียว มีเส้นสายกับคนใหญ่คนโตนี่มันดีจริงๆ
อย่างน้อยชั้นก็คิดว่าลุงแกน่าจะเคยเจอกับโหรคนนี้มาก่อนนะ
ยังไงก็ผ่านเซนต์มาตั้งสี่รุ่นแล้วด้วย
ถ้าไม่นับชั้นที่เป็นตัวปลอมก็จะเป็นสามรุ่น น่าจะยากที่เขาจะไม่รู้จักกับโหรเลย
“ถ้าอย่างนั้นก็ตัดสินใจได้แล้วว่าจะเอายังไงต่อ ชั้นกับอิจูอินซังจะไปหาคนเขียนบท เอลริสจะไปหาโหรที่ทางฝั่งนั้น บางทีเราอาจจะได้เบาะแสบางอย่างที่เชื่อมโลกทั้งสองฝั่งเข้าด้วยกันก็ได้”
อิจูอินซังและชั้นพยักหน้าให้กับคำพูดของฟุโดว
ถ้าสถานการณ์ในโลกนั้นเปลี่ยนไป เกมในโลกนี้ก็จะเปลี่ยนไปด้วย แล้วความทรงจำของผู้คนก็จะเปลี่ยนไปเช่นกัน
เราไม่รู้ว่านั่นเป็นไปได้ยังไง บางทีคงจะเป็นบางสิ่งบางอย่างที่อยู่เหนือความเข้าใจของมนุษย์
ถึงอย่างนั้น เราก็ยังต้องหาคำตอบต่อไป
“จะว่าไป…ขอถามอะไรอย่างนึงได้มั้ย?”
พอคุยกันเสร็จ ฟุโดวก็หันมาหาชั้น
มีไรอ่ะ? ดูเหมือนว่าเจ้านี่จะสงสัยอะไรบางอย่าง
เขาเปิดคอมขึ้นมา และเปิดเว็บไซต์วิดีโอ
ในจอนั้น “เอลริส”ถูกราชาจับตัวไว้ แล้วพวกเวอร์เนลก็บุกเข้าไปช่วย
จากนั้นก็เป็นการต่อสู้ที่เมืองหลวง บอสของอีเวนต์คือเจ้ากา และพวกเวอร์เนลก็ต้องปราบมันโดยที่ไม่มีเอลริสอยู่ด้วย
ต่างจากตอนชั้นแฮะ…แต่ยังไงนี่ก็เป็นเกมนี่นะ
ต่อไป”เอลริส”ก็จัดการพวกปีศาจที่เหลือ จากนั้นเจ้ากาก็ใช้กำลังเฮือกสุดท้ายเพื่อโจมตี
เวอร์เนลโดดเข้ามากันเอลริสและได้รับบาดแผลสาหัส…
…ตามด้วยฉากที่เอลริสช่วยชีวิตเวอร์เนลด้วยการผายปอดแบบเมาท์ทูเมาท์
เออ ถ้าเป็นการผายปอด จะเมาท์ทูเมาท์ก็เป็นเรื่องปกติแหละ แต่ว่า…
…..
ฮ้าาาาาาา?! นั่นมันบ้าอะไรว้าาาาา?!
ไม่ ตูไม่ได้ทำอย่างนั้นนะ! ตูไม่ได้ทำอะไรบบนั้นแ่ๆ!!
ว่าแล้วเชียว อันนี้มันปัดเป็นแค่ “แตกต่างกันเพราะว่าเป็นเกม!”ไม่ได้แล้วล่ะ
ในคลิปก็จะมีคอมเมนต์แบบ “มาแล้วโว้ย!” “สลับที่กับตูทีเวอร์เนล!” “สลับที่กับตูทีเอลริส!” “ใช้เวทมนตร์เอาก็ได้ไม่ใช่หรอ ทำไมถึงเมาท์ทูเมาท์ล่ะ?” เฮ้ย นี่มันบ้าอะไรเนี่ย เดี๋ยวก่อนนะ
ชั้นใช้เวทมนตร์แก้สถานการณ์ไม่ใช่เหรอ? ชั้นแค่เอามือจ่อปากเพื่อช่วยหายใจใช่มั้ย?
แล้วทำไม”ตัวชั้น”บนหน้าจอถึงเมาท์ทูเมาท์ล่ะ?
แกเป็นโฮโมรึไง?!
แถมเป็นฉากที่พ่วงมากับCGพิเศษด้วย…
“ถ้าค่าความชอบของเอลริสต่ำกว่าห้าสิบเธอก็จะใช้มือส่งลมหายใจเข้าปาก แต่ถ้าสูงกว่าห้าสิบก็จะเปลี่ยนเป็นฉากจูบแทน ฉากนี้ถึงเป็นการตายที่คุ้มค่าไงล่ะ”
ไอ้คนในคลิปก็บรรยายอยู่นั่นแหละ ต่อให้ความชอบตูสูงก็ไม่ทำหรอกเฟ้ย!?
นี่ชั้นดูบ้าอะไรอยู่เนี่ย…บมนจอนั่นคือชั้นจริงๆเหรอ?
นี่มันมีโลกคู่ขนานที่ชั้นถูกเปลี่ยนเป็นผู้หญิงทั้งกายและใจด้วยรึไง ไอ้ฉิบหายเอ๊ย
ชั้นกระวนกระวาย ไม่อยากเชื่อฉากที่อยู่ตรงหน้า พอเห็นแบบนั้นฟุโดวก็ยิ้มแล้วถาม
“ไง ตกลงได้ทำแบบนั้นรึเปล่า?”
“ไม่มีทาง…ไม่มีทางที่ชั้นจะทำแบบนั้นอยู่แล้วสิคะ! แค่ผายปอดนี่ไม่จำเป็นต้องใช้ปากเลยค่ะ!”
เกือบละ เกือบหลุดทั้งๆที่อิจูอินซังยังอยู่แล้ว
ชั้นไม่ทำอย่างนั้น แน่นอน
ไม่ดิ? ถ้านั่นเป็นทางเดียวจริงๆ…ชั้นก็อาจจะทำมั้ง?
ในสถานการณ์เป็นตายนี่ จะให้บอกว่า “ชั้นไม่อยากทำเพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ชาย”ก็คงจะไม่ได้
แต่นั่นก็ต่อเมื่อไม่มีทางอื่นจริงๆเท่านั้น
ถ้ามีทางอื่นล่ะก็ ทำไมชั้นต้องทำอย่างนั้นด้วย?
“ว่าแล้วเชียว…ถ้าอย่างนั้น เราก็น่าจะบอกได้ว่าฉากนี้ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจริง แต่ถูกใส่มาในฐานะของแฟนเซอร์วิสในเกมก็เท่านั้น ยิ่งทำให้น่าสงสัยเข้าไปอีกว่าเกมมันเปลี่ยนตามการกระทำของเธอจริงๆรึเปล่า…ก็นะ เป็นไปได้ว่าเธออาจจะตกใจจนลืมว่ามีทางเลือกอื่นก็ได้น่ะนะ”
ฟุโโวถอนหายใจเล็กน้อย และมองบนจอเหมือนเจอบางสิ่งที่น่าสงสัย
เกมที่เราเห็นจนถึงตอนนี้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆที่ฝั่งนั้น หรือสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นก็เป็นได้
แต่ฉากนี้มันของเก๊เห็นๆเลย
ถ้าแบบนั้น ความเข้าใจที่เรามีมาจนถึงตอนนี้อาจจผิดก็ได้
แต่เราก็รู้เพียงแค่นั้น
เรายังมีข้อมูลไม่เพียงพอ
พูดอีกอย่างก็คือ…เราต้องการคนเขียนบทถึงจะไปต่อได้ ถึงจะสามารถคาดการณ์ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
เรื่องที่ชั้นต้องทำในช่วงวันหยุดฤดูหนาวนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว
น่าจะใกล้ได้เวลาที่ชั้นจะตื่นแล้วล่ะ คงต้องพอก่อน
ฝากด้วยล่ะ ฟุโดว(ตัวชั้น)
ชั้นก็จะพยายามเหมือนกัน
แล้วก็ลืมไอ้ฉากเมื่อกี๊ไปซะล่ะ เคนะ?