โรงเรียนฮัคคุโอ สมแล้วที่มีชื่อเสียงไปทั่วในฐานะโรงเรียนชั้นสูง ถึงแม้ว่าจะไม่นับพื้นที่ที่ใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อที่ดูเหมือนเป็นหมู่บ้านมากกว่ากับตึกเรียนต่างๆ มันก็ยังอยู่ในระดับไฮคลาสอยู่ดี………..
หรือแม้ว่าจะไม่นับทุกๆอย่าง เอาแค่ข้อสอบเข้าอย่างเดียวก็ยากจนบล็อคผู้คนส่วนใหญ่ได้แล้ว
แม้ว่าวู่หยานจะจะเนื้อในหนังสือได้ทั้งหมด เขาก็ไม่กล้าพูดว่าจะคะแนนสูงๆได้ ที่เป็นแบบนี้ไม่รู้เป็นเพราะเขาไปกวนเธอรึเปล่า พี่สาวท่านประธานถึงเอาข้อสอบระดับยากโครตๆกว่าเดิมมาให้
แต่ถึงแบบนั่น วู่หยานก็ยังมั่นใจว่าสอบผ่านได้ พอลองนึกกลับเมื่อก่อนเขาก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา ทำไมตอนนั่นเราทำยังกับกระดาษข้อสอบเป็นปีศาจกันนะ ตอนนี้เขามี ความทรงจำสมบูรณ์ กระดาษข้อสอบก็ยังกับกระดาษเช็ดก้น…………..
หลังจากนี้ เขาก็แค่ต้องนั่งรอจดหมายสอบผ่านจากโรงเรียน
แต่ว่า ตอนนี้เขากำลังมีปัญหา ซึ่งต้นเหตุของปัญหามาจากคำถามของยูคิจิ
“เขียนที่อยู่ในนี่ซะ แล้วเดียวจะมีคนส่งจดหมายไปให้”
ใช้ การให้ที่อยู่มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ทางโรงเรียนไม่สาสามารถรู้ว่าคุณสอบผ่านหรือไม่ แล้วมันก็จะใช้เวลาตรวจและอีกหลายๆอย่างรวมทั้งจัดส่งจดหมายด้วย ปกติแล้วก็จะใช้เวลาประมาณ2-3วัน
และภายใน2-3วันนี่ คุณก็ไม่ได้อยู่ที่โรงเรียนตลอดใช้ไหมละ?
ดังนั่น จึงต้องมีการให้ที่อยู่เพื่อส่งจดหมายตามไปทีหลัง
ปัญหามันอยู่ตรงนี้แหละ เขาไม่มีที่อยู่นะสิ!
เขาเพิ่งมาโลกนีได้ไม่ถึงวัน แล้วเขาจะไปมีที่อนู่ได้ยังไง……
เขียนที่ๆรู้จักไป? แน่นอนว่าทำได้ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจดหมายจะมาเมื่อไหร่ เขาไม่สามารถไปๆมาๆเพื่อรอจดหมายได้
ดังนั่น ตอนนี้วู่หยานจึงตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
กะอีแค่ที่อยู่…..ไม่นึกเลยว่าวันนึงต้องมาปวดหัวเพราะมัน……
“มีอะไร?มีปัญหาเหรอ?” ฮินะงิคุ เริ่มชินกับการที่เขามีปัญหาบ่อยๆ
มองไปที่หน้าน่ารักๆของท่านประธาน แล้วอยู่ๆในหัวเขาก็ปิ๊งไอเดียขึ้น แววตาวาวโรจน์
แล้วเขาก็กระโจนหมอบกราบไปกับพื้นต่อหน้าฮินะงิค ซึ่งทำให้ท่านประธานที่แทบไม่กลัวอะไรสะดุ้ง ไม่รอให้ฮินะงิคุตอบสนอง เขากราบไปด้วยท่าทางจริงจัง
“เธออยากได้พ่อบ้านไหม?……..”
“ห่ะ?” ฮินะงิคุไม่สามารถตามทันสถานการณ์ตรงหน้าได้ เกิดอะไรขึ้น?
“อืมมม เอาเป็นว่า ฮินะงิคุ เธอแค่ให้ฉันไปเป็นพ่อบ้านก็พอ…..” แน่นอนว่าด้วยนิสัยอย่างเขาจะทำอะไรจริงจังแบบเมื่อกี่ไม่ได้ไม่นาน ซึ่งแค่1วินาต่อมาเขาก็กลับสู่โหมดบ้าๆบอๆเหมือนเดิม เขากางเขนกว้างแล้วหัวเราะ
“เป็นพ่อบ้านฉัน?”
เธอเอานิ้วชี้ไปที่จมูกตัวเอง เครื่องหมายคำถามเต็มหัว ถึงแม้ว่าในโรงเรียนฮัคคุโอจะเต็มไปด้วยลูกคุณหนูจากตระกูลที่ร่ำรวยเต็มไปหมด แต่สุดท้าย ฮินะงิคุก็เป็นแค่ลูกของครอบครัวที่พอมีเงินนิดหน่อย เธอจึงไม่มีทางมีพ่อบ้าน
ไม่ต้องพูดเลยว่า ตัวเธอนั่นมีชื่อเสียงในด้านความสามารถ ไม่งั้นก็คงไม่มีทางได้มาเป็นประธานนักโรงเรียนฮัคคุโอที่ที่เต็มไปด้วยเด็กอัจฉริยะได้หรอก เธอไม่จำเป็นต้องมีพ่อบ้านคอยดูแลเลยสักนิด
แล้วตอนนี้อยู่ดีๆก็มีคนมาขอเป็นพ่อบ้านให้กับคนอย่างเธอที่ซึ่งเป็นที่ไม่จำเป็นต้องมีพ่อบ้านมากที่สุด นี้ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะคิดว่าเขาอาจจะมีเป้าหมายอื่น
“ใช้! ฉันอยากเป็นพ่อบ้านของเธอ” พูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เป็นถึงประธานนักเรียนของโรงเรียนฮัคคุโอที่มีชื่อเสียง จะไม่มีพ่อบ้านได้ยังไง? เพราะงั้นฉันถึงอยากเป็นพ่อบ้านให้เธอไงละ!”
“แต่…ฉันไม่จำเป็นต้องมีพ่อบ้าน แล้วก็ถึงจะเห็นแบบนี้ แต่ทางบ้านฉันก็ไม่ได้รวยเหมือนคนอื่นเค้า ฉันก็ไม่ใช้คุณหนูด้วย…….”
ฮินะงิคุบอกวู่หยานไปตรงด้วยท่าทางปวดหัว เอาจริงๆเธอไม่คิดเลยอยู่ดีๆเขาจะทำแบบนี้ เธอเองก็ยังตามไม่ทันเลยว่าทำไมอยู่ดีๆถึงเปลี่ยนเรื่องจากการสอบเป็นเรื่องนี้
“ไม่เป็นไร ฉันไม่อยากได้ค่าจ้าง เพราะงั้นสบายใจได้เลย!”
ไม่เลย ได้ยินนายพูดแบบนี้ฉันยิ่งไม่สบายใจกว่าเดิม…………
ฮินะงิคุอยากตบไปกลับไป ทำงานให้ฟรีๆ ยิ่งไปกว่านั่นยังเต็มใจทำอีก แล้วบอกว่าไม่มีเจตนาอื่นแฝง บอกใครไปก็ไม่มีคนเชื่อ…….
“จะทำแบบนั่นได้ยังไง! ไม่แม้แต่จะจ่ายค่าจ้าง….”
เธอตั้งการ์ดกับเขาทันที เธอดูราวกับว่ากำลังป้องกันตัวเองจากหมาป่าหื่นกาม
“นั่นไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ….”
วู่หยานเงยหน้ามองตรงไปที่ฮินะงิคุ เขาเปลี่ยนท่าทางจริงจังเป็นท่าทางลูกหมาน่าสงสารที่ถูกเจ้าของทิ้ง
“ฉันไม่มีที่อยู่!!” (@พระเอกมันชั่วจริงๆมีเหรียญทองเต็มกระเป๋า แทนที่จะไปหาโรงแรมอยู่5555)
“……..” มองไปที่คนหน้าที่เปลี่ยนสีหน้าได้ไวดุจพลิกฝ่ามือ คำพูดเขาก้องในหัว เธอก็ได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว ทำให้เธอคงความใจเย็นไม่ได้อีกต่อ ริมฝีปากเธอบิ้ดเบี้ยว
“นายหมายถึงนายไม่มีที่อยู่ ดังนั่นเลยคิดมาเป็นพ่อบ้านฉันแล้วอยู่บ้านฉันใช้ไหม?”
ในที่สุดเธอก็เข้าใจเป้าหมายของเขาจึงคลายความระแวงไป แต่กลับรู้สึกสึกพูดไม่ออก เธอยิ้มอย่างเหยเก
“ใช้ๆ เธอก็รู้นี่ว่าฉันเป็นคนจีนที่เพิ่งมาที่นี่ ฉันไม่รู้จักใครเลย แน่นอนว่าไม่มีที่อยู่ด้วย ดังนั่นฮินะงิคุเธอเป็นคนดีได้โปรดให้ที่ซุกหัวนอนฉันด้วย”
เธอไม่รู้ว่าจะมีใครในโลกนี้อีกไหม ที่สามารถพูดกลับกลอกเพื่อขอเกาะคนอื่นให้ช่วยได้สมเหตุสมผลแบบนี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเจอคนแบบนี้ ทำให้เธอตบมุขตอบไม่ได้เลย
แต่แน่นอนว่า วู่หยานไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นแมงดาไปเกาะคนอื่นอยู่ เพราะแมงดาในความเข้าใจของเขาคือ เกาะผู้หญิงกิน ให้ผู้หญิงปกป้อง แบบนี้ถึงจะเรียกว่าแมงดา แต่ฉันแตกต่าง ฉันทำเพื่อปกป้องท่านประธาน ฉันเป็นพ่อบ้าน ฉันมีเหตุผลจริงๆ และฉันบริสุทธิ์ใจ……….
ไม่มีที่ไป แค่จำเป็นต้องให้อาหารเพื่อจ้างพ่อบ้าน ไม่เลวเลย นี้เป็นเหตุผลที่ดีมาก อย่างน้อยๆคนใจดีอย่างท่านประธานก็ไม่ปฏิเสธเหตุผลแบบนี้
ฮินะงิคุ ถอนหยายใจอย่างยอมแพ้
“ได้ ที่บ้ายมีห้องว่างห้องนึง ฉันคิดว่าฉันให้นายอยู่ห้องนั่นได้ แต่นายไม่จำเป็นต้องเป็นพ่อบ้านฉัน”
“จะทำแบบนั่นได้ไง!” วู่หยานลุกขึ้น แล้วพูดด้วยท่าทางคนที่ไม่ชอบเอาเปรียบคนอื่น “นั่นไม่ใช้ทำให้ฉันเป็นแมงดากลายๆเหรอไง?”
แม้ว่านายจะทำตัวเป็นพ่อบ้าน มันก็ยังไม่ค่อยห่างจากคำว่าแมงดาอยู่ดี…..
“โอเค โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ทำตามใจชอบได้เลย”
มองดูท่าทางของวู่หยาน เธออับจนคำพูด แต่จริงๆเธอก็ไม่ได้เกลียดที่ได้เขาเป็นพ่อบ้าน ยังไงซะเขาก็อยู่ด้วยแล้วสนุกดี ถึงแม้ว่าจะปวดหัวไปบ้างก็ตามที….
“ติ๊ง! ยินดีด้วยที่ได้รับฉายา: พ่อบ้านของท่านประธาน (Kaichou sama’s butler)”
หลังจากได้ยิน เขาก็หัวเราะ
ได้เป็นพ่อบ้านของท่านประธาน….หมายความว่าได้อยู่ใกล้ๆเธอตลอดเวลาไม่ใช้?…….ได้เริ่มแผนพิชิตใจ……..
วู่หยาน เปิดเผยความคิดชั่วๆ
“อะแฮ่ม คุณหนูอยากได้น้ำชาไหมครับ?”
“อย่าเรียกฉันว่าคุณหนูนะ!”
“ไม่ได้ครับ ก็ผมเป็นพ่อบ้านนี่น่า”
“แต่ฉัน..ไม่ชินกับการโดนเรียกแบบนั่น…”
“โอ้ มื้อค่ำนี่อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมครับ? คุณหนุ!”
“ก็บอกไงว่าห้ามเรียกคุณหนูนะ!”
ทั้งคู่เดินไปคุยไปไกลออกไปเรื่อย โดยลืมการคงอยู่ของคนๆนึงไป
“ไอ้เด็กบ้านั่น ได้เป็นพ่อบ้านของฮินะไปซะแล้ว” พี่สาวที่ไม่เอาอ่าวซึ่งยืนดูฉากนี่ตั้งแต่ต้นจนจบ ในที่สุดก็ได้สติ
…..
ประสบความสําเร็จอย่างงดงาม วู่หยานได้เข้าบ้านเธอและได้รับกาบต้อนรับอันอบอุ่นจากท่านแม่บุญธรรม(!?) ไม่หมดแค่นั่น แม่ฮินะงิคุก็ได้ถามเขาว่าชอบกินอะไร ท่านอนแบบไหนถึงหลับสบาย ถามว่าเขาอยากซื้อเสื้อผ้าไหม หลากหลายคำถาม ทำให้วุ่หยานเหงื่อตก
วู่หยานอยากถามเธอไปมากๆว่า เธอเป็นพ่อบ้านฉัน หรือฉันเป็นพ่อบ้านฮินะงิคุกัน? นิสัยของพี่สาวฮินะ มาจากท่านแม่นี่เอง….
ตอนแรกเขาก็คิดว่าแม่ที่ลูกสาวทั้งสวยและเก่งแบบนี้จะระวังผู้ชายที่ลูกพาเข้าบ้าน อย่างน้อยนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่มักเกิดในหนังดราม่า…..
ในเนื้อเรื่องเดิม ฮายาเตะได้มานอนค้างบ้านฮินะงิคุหนึ่งคืน ถึงแม้เค้าจะได้รับการต้อนรับเหมือนวู่หยาน แต่นั่นเป็นเพราะหน้าตาฮายาเตะมันน่ารัก นั่นทำให้มันไปกระตุ้นต่อมคุณแม่เข้า สุดท้ายเลยกลายเป็นตุ๊กตาทดลองชุดของฮินะงิคุ
จากเหตุผลนี่ทำให้เขารู้ว่าแม่ฮินะนั่นยากที่จะรับมือ แต่เขาคิดว่าเขาน่าจะเป็นข้อยกเว้นพิเศษ
เขาไม่คิดเลยว่า แม่ฮินะที่ปฏิบัติกับเขาเหมือนฮายาเตะ จะไม่จับเขาไปเป็นตุ๊กตา แล้วดูเหมือนว่าเธอจะไม่ห่วงว่าเขาจะมิดีมิร้ายลูกสาวตัวเองเลย ยิ่งไปกว่านั่นดูเหมือนเธอจะพยายามจับคู่เขากับฮินะงิคุอีกต่างหาก
วู่หยาน รู้ว่าคนๆนี้เป็นแม่บุญธรรมของฮินะงิคุกับยูคิจิ เมื่อตอนที่ฮินะงิคุยังเด็กๆ พ่อแม่จริงๆของทั้งคู่นั่นได้หนีไปพร้อมกับทิ้งหนี้80ล้านเยนไว้ให้พวกเธอ
คิดไปมาวู่หยานก็เข้าใจ จริงๆแม่ฮินะงิคุแคร์ลูกสาวมาก ถึงแม้จะเป็นลูกบุญธรรมก็ตาม เหตุผลที่เธอไม่ระวังส่วนนึงก็มาจากนิสัยเธอ แต่ที่สำคัญเป็นเพราะฮินะงิคุ มีลูกสาวที่เก่งและฉลาดสุดๆทำให้เธอไม่เป็นห่วงผู้ชายที่พามา
อืมม ถึงแม้ตอนแรกที่เขาแนะนำตัว่าเป็นพ่อบ้านฮินะงิคุ แม่ฮินะจะทำหน้าแปลกๆก็ตาม…….
เขาชักสงสัยว่าที่จริงแล้วเธอเป็นแม่ของยุคิจิแล้วรับฮินะงิคุเป็นลูกบุญธรรม เพราะนิสัยเธอคล้ายกับยูคิจิมาก ไม่เหมือนฮินะงิคุเลยสักนิด
ระหว่างที่คุย เขาก็ไม่เห็นพ่อฮินะ แต่จากที่ดูในอนิเมะ เขาเองก็ค่อนข้างเพี้ยนเหมือนกัน…
ในหัวเขาหมุนชิ่วเริ่มคิดว่า เกิดเรื่องบางอย่างขึ้น ทั้งคู่ได้(พ่อแม่บุญธรรมฮินะ)มีลูกสาวชื่อยูคิจิ แล้วเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น จึงได้ส่งยูคิจิไปให้พ่อแม่จริงๆของฮินะเลี้ยงกลายเป็นพี่น้องกับฮินะ จนวันนึงพ่อแมงฮินะได้หนีไปพร้อมทิ้งหนี้ไว้ให้ทั้งคู่ ดังนั่นพ่อแม่ยูคิจิจึงไปเอาทุ่งคู่กลับมาอยู่ด้วย และด้วยเหตุบางอย่างอีกครั้ง พวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นพ่อแม่ของยูคิจิ ดังนั่นเลยกลายเป็นพ่อแม่บุญธรรมของทั้งหมดเลยนั่นเอง!
ความจริงก็คือ ฮินะนั่นไม่เกี่ยวข้างทางสายเลือดกับยูคิจิ! ฮินะงิคุเป็นคนเดียวที่เป็นลูกบุญธรรม!
วู่หยานไม่รู้ว่าทฤษฎีเขาถูกหรือเปล่า แต่หลังจากแชร์ที่เขาคิดให้ฮินะงิคุ เขาก็สะดุ้ง ถึงแม้เธอจะยิ้มให้ แต่เขารู้สึกว่าจริงๆแล้วเธออยากต่อยเขาสุดๆอยากมากๆ………..