หลังผ่านอีเว้นท์ในตำนานไป ท่านประธานก็เริ่มทำไม่ปกติ
แปลกยังไงนะเหรอ?
เมื่อก่อน ฮินะงิคุจะเดินเชิดหน้าหลังตรงด้วยความมั่นใจ นานๆทีถึงจะได้เห็นเธอในโหมดเบอร์เซิร์ก และตั้งแต่เขารู้จักเธอมา ยกเว้นบางครั้งที่เขาทำให้เธอหัวเราะ เขาก็ไม่เคยเห็นเธอทำหน้าเขินอายเลย
นี่เป็นเรื่องปกติ!
เธอเริ่มไม่ปกติหลังจากเต้าหู้ของเธอถูกเขากิน (@ถูกเอาเปรียบหรือก็คือถูกเห็นตอนเปลือย)
ทุกครั้งที่เธอเจอวู่หยาน เธอจะหน้าแดงก่ำ แม้ว่ามันจะผ่านมาหลายวันแล้วก็ตามหลังจากอีเว้นท์ครั้งนั่น เธอยังคงไม่หาย ‘บาดเจ็บ’ และเธอจะเลือดลมปั่นป่วนทุกครั้งที่เจอเขา
ยิ่งไปกว่า จากที่เมื่อก่อนพวกเขาสามารถคุยเล่นและหัวเราะคิกคักไปด้วยกันได้ แต่ตอนนี้ ทุกครั้งที่พวกเขาคุยกัน จะเป็นเขาพูดเองคนเดียวและเธอก็จะก้มหน้าฟังเขาอย่างเงียบๆ
ตอนนี้ เขาเริ่มรู้กังวลหน่อยๆแล้ว เพราะเขาไม่สามารถเดาได้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ เขาได้คาดเดาต่างๆนาๆจนหัวหมุนไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่สุดท้ายผลลัพธ์ก็จบลงด้วยหนึ่งประโยค ‘มันคือหัวใจของผู้หญิง ไม่ต้องไปคาดเดาจะดีที่สุด’…..
แล้วเรื่องเดิมๆก็เกิดขึ้นวันนี้ หลังจากทั้งคู่กินข้าวเช้าเสร็จ ทั้งสองก็เตรียมตัวไปโรงเรียน กลืนข้าวคำสุดท้ายเข้าไป วู่หยานเดินออกจากบ้าน แล้วเห็นฮินะงิคุยืนรออยู่
“ฉันเสร็จแล้ว เราไปกันเลยไหม?”
เห็นวู่หยานเดินมา เธออดที่จะหน้าแดงไม่ได้ เห็นท่าทางฮินะงิคุวู่หยานคิดในใจ
‘ช่างเป็นคุณหนูที่บริสุทธ์อะไรอย่างนี้ มันก็ผ่านมาหลายวันแล้วแท้ๆ แต่ก็ยังจำอีเว้นท์นั่นได้…’
นี้ต้องเป็นคำพูดที่หน้าดานไร้ยางอายและไร้ความรับผิดชอบที่สุดแน่!
ฮินะงิคุหันหัวกลับไปอย่างไม่ป็นธรรมชาติ เธอพูดเบาๆว่า
“อืม ไปกันเถอะ เรากำลังจะสายแล้ว”
มองขึ้นบนฟ้าที่เพิ่งสว่าง เขาพยักหน้าอย่างจริงจัง
“อ่า ใช้ เรากำลังจะสายแล้ว”
ระหว่างทางไปโรงเรียน วู่หยานได้พยายามหาเรื่องมาหยอกล้อฮินะงิคุ ให้เธอได้หัวเราะ แต่ที่เธอตอบสนองเขาคือเฉยเมยไม่แม้แต่จะเหลือบมองมา นี่ทำให้รู้สึกเขาอึดอัด
มาถึงโรงเรียนฮาคุโอ ในที่สุดฮินะงิคุก็หลุดออกจากสภาวะ ‘นิ่งเงียบ’ เธอกำลังประหลาดใจกับภาพตรงหน้า
คนที่ก้าวเท้าออกมาจากรถสุดหรูนั่นเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก แต่นั่นไม่ใช้ประเด็น ประเด็นคือเธอเด็กมาก อายุดูราวๆ12ถึง13ปีเท่านั่น ผมสีทองทรงทวินเทล เธอมองฮาคุโอด้วยสายตารังเกียจราวกับว่ามันเป็นโรงพยาบาลบ้ามากกว่าโรงเรียน
ด้านหลังเธอมีสาวน้อยผมสีดำเข้มเกือบเป็นสีน้ำเงิน สวมชุดกิโมโน สาวน้อยน่ารักที่สูงพอๆกับคนแรกก้าวออกมาจากรถ เธอมองเด็กผู้หญิงทวินเทลด้วยใบหน้าอ่อนโยนแบบผู้ดี ใช้แขนเสื้อกิโมโนของเธอมาปิดปากดุจเจ้าหญิงโบราณตัวน้อยๆ
“นางิ!”
ได้ยินเสียงเรียก ทั้งสองคนหันมามองและเห็นฮินะงิคุที่ทำสีหน้าแปลกใจและ…..วู่หยานที่กำลังทำหน้ายังกับผี
“อะไรกัน เป็นเธอเองเหรอ ฮินะงิคุ” เด็กสาวที่ชื่อนางิตอบกลับด้วยสีหน้าซังกะตาย
“สีหน้าท่าทาง นั่นมันอะไรกันน่ะ…” มุมปากฮินะงิคุกระะตุก
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณฮินะงิคุ”
“อรุณสวัสดิ์ อิสึมิ”
ใช้แล้ว เด็กสาวทั้งสองคนตรงหน้าเป็นคุณหนู ซันเซนอิง นางิ และ ซากิโนะมิยะ อิสึมิ
ซันเซนอิง นางิ : Level 0
ซากิโนะมิยะ อิสึมิ : Level 30
ซันเซนอิง นางิ เป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลซันเซนอิง เหมือนกับลูลู่ เธอมีปู่ที่มักแกล้งเธอแต่จริงๆแล้วเขาก็รักเธอจากหัวใจ วู่หยานจะไม่รู้เรื่องเธอได้ไง ในเมื่อเธอเป็นคุณหนูอันดับ1ของโลกนี้และเป็นคุณหนูของตัวเอกในโลกนี้อีกด้วย
และอีกคนถึงจะไม่ดังเท่านางิ แต่กับวู่หยาน ซากิโนะมิยะ อิสึมิ จุดประกายความสนใจจากเขาได้ เห็นได้จากเลเวล30ของเธอที่ไม่ปกตินี่ เธออายุแค่12มากสุดก็13 แต่เธออยู่ระดับเดียวกับเขา
ถึงเหตุผลส่วนใหญ่จะเป็นเพราะสายเลือดแต่กำเนิดที่เธอสืบทอดมาของตระกูล สายเลือดอันยอดเยี่ยมที่ทำให้เธอมีพลังวิญญาณอันทรงพลัง แต่กับเด็กอายุแค่สิบสองสิบสาม ถ้าพึ่งเพียงสายเลือดตัวเองจะมีพลังขนาดได้เหรอ?
เขาคิดว่าในอนิเมะเธอคงเป็นคนจัดการผู้นำวิญญาณ แต่ก็เข้าใจได้ละนะในเมื่อเธอเลเวล30ระดับเดียวผู้นำวิญญาณแถมบวกกับวิชาปราบภูตผีปีศาจที่เป็นของแพ้ทางกับพวกปีศาจ ควันดำที่สร้างปัญหาให้เขาคงโดนเธอปัดเป่าได้ง่ายๆเลยละ
ถ้าไม่มีคัวนดำ เจ้ากระดูกหน้าโง่นั่นจะเอาอะไรสู้เด็กสาวอัจฉริยะได้กัน?
อืม~ ไอ้ผีโครงกระดูมันควรวิ่งหนีนะ ดูจะมีโอกาสรอดมากกว่าอีกนา เพราะนักปราบภูตผีปีศาจคนนี้ขึ้นชื่อในเรื่องหลงทิศสุดๆ เช่น เดินหลงจากสวนหลังบ้านตัวเองมาโผล่ที่คฤหาสน์ของ ซันเซนอิง นางิ ได้
“นี่นายเป็นใครกัน?”
คุณหนูซึนเดเระพูดขึ้น ดูท่าแล้วเธอเองก็ไม่ได้ใส่ใจว่าเขาจะตอบหรือเปล่า
“ฉันชื่อ วู่หยาน เป็นพ่อบ้านของฮินะงิคุ สวัสดีคุณหนูซันเซนอิง แล้วก็ คุณหนูซากิโนะมิยะ ”
วู่หยานอดทนไม่ไปทะเลาะกับนางิ แล้วตอบกลับไปด้วยท่าทางสุภาพ
“พ่อบ้าน?”
ตอนนี้คุณหนูทวินเทลเริ่มสนใจ แม้แต่อิสึมิที่สง่างามก็ประหลาดใจ
“นายแน่ใจนะว่านายเป็นพ่อบ้านของฮินะงิคุไม่ใช้เธอเป็น?” นางิถามด้วยใบหน้าจริงจัง ทำให้วู่หยานสะดุ้ง
“เฮ้ เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงกันห่ะ นางิ” ฮินะงิคุพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ เพราะความหมายแฝงมันเห็นกันชัดๆ นางิว่าเธอสตองเกินไปควรจะเป็นพ่อบ้านมากกว่า
“สวัสดีค่ะ ท่านวู่หยาน” ขณะเอ่ยอิสึมิก็โค้งคำนับอย่างสุภาพ
ใช้แล้ว! คุณหนูหัวเถิกโดยธรรมชาติน่ารักที่สุดล่ะ….
“ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะมาโรงเรียน”
ฮินะงิคุแขวะอย่างมีเหตุผล รู้กันดีว่าคุณหนูตรงหน้าเป็นควีนแห่งการโดดเรียน ที่จะไม่ยอมไปโรงเรียนเกิน10ครั้งต่อปี สุดยอดฮิคิโคโมริ
“”ฉันก็ไม่ได้อยากมาเหมือนแหละน่า เพราะ มาเรีย บ่นอยู่นั่นแหละบอกให้ฉันมาโรงเรียนบ้าง”
เธอมองประตูฮาคุโอด้วยสีหน้าขยะแขยง ราวกับว่าเธอเคยโดนขืนใจที่นี่มาก่อน
เขารู้ความจริงที่ว่าเธอไม่อยากออกไปไหนสักที่ ในฐานะโอตาคุที่ยิ่งใหญ่ เธอพยายามรักษาชื่อนี่ด้วยความพยายามอย่างที่สุด ไม่มีใครเทียบเธอได้ในด้านนี้ อย่างน้อยๆก็ในหมู่ผู้หญิงด้วยกัน
สาวน้อยคนนี้ใช้ช่วงเวลาเรียนไปเล่นเกม ดูอนิเมะ และอ่านมังงะ เธอเพิ่งอายุ13แต่เธอเรียนข้ามชั้นมามัธยมปลาย ดังนั่นจึงไม่มีกล้าด่าเธอเพราะเธอมันฉลาดเกินไป
อืม…..ร่วมไปถึงตัวเอกหลักของเรื่อง อายาซากิ ฮายาเตะ ด้วย…
มองเด็กสาวทั้งสอง วู่หยานพูดไม่ออก ถึงแม้เขาจะเป็นโลลิค่อน(@What?!!) แต่เขาชอบแบบอายุเยอะกว่านี้หน่อย ดังนั่นเขาจึงยังไม่ถึงกับเอาอมยิ้มไปล่อลวงเด็กๆ
แต่กับ อิสึมิ เขาคิดจะคุยกับเธอสักหน่อย
เควส3ของเขาคือหาเศษชิ้นส่วนคริสตัลอีกครึ่งให้เจอ ดูจากที่มันเป็นภารกิจของระบบ เขาก็มั่นใจเลยว่ามันต้องเป็นของที่ไม่ธรรมดา เพราะงั้น กับตระกูลซากิโนะมิยะที่เชี่ยวชาญด้านนี้อาจจะพอรู้อะไรบ้างก็ได้
ไม่งั้นเขาจะไปหามันที่ใหญ่แค่นิ้วหัวแม่มือในโลกอันกว้างใหญ่นี้ได้ยังไงกัน……..
ดังนั่นเขาจึงคิดใช้ตัวช่วย โดยการพึ่งคุณหนูสุดเทพตรงหน้า
เอาเศษชิ้นส่วนคริสตัลลึกลับออกมาจากแหวนมิติ วู่หยานเอ่ยกับอิสึมิ
“เอ่อ….คุณซากิโนะมิยะฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?”
เครื่องหมายคำถามลอยอยู่บนหัวเธอ อิสึมินึกไม่ออกว่ากับคนที่เพิ่งรู้จักกันจะถามเธอ
ฮินะงิคุและนางิเองก็มองมาด้วยความอยากรู้
เมินสองสาว เขาเอาคริสตัลให้อิสึมิดู
“คุณหนูซากิโนะมิยะ พอจะรู้อะไรเกี่ยวกับคริสตัลนี้บ้างไหม?”
คริสตัลสีขาวที่หักครึ่งปีที่เปร่งประกายแวววาวภายใต้แสงแดด มันสวยงามมากอย่างผิดปกติแม้ในเวลากลางวัน
“สวยจัง…”
เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่สาวๆ จะสนใจสิ่งของน่ารัก แม้ว่าจะเป็นเพียงครึ่งเดียวจากสภาพเดิม คริสตัลนี้ก็ได้หัวใจของฮินะงิคุไปได้ในทันที
“มันสวยมาก”
กับคุณหนูร่ำรวยอย่างเธอที่สามารถสร้างสระว่ายน้ำและสวนสนุกที่บ้านของเธอได้ อัญมณีแบบนี้ไม่ใช่อะไรนอกจากหินสวยๆที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่น่าแปลกใจ เธอเหลือบมองด้วยท่าทางไม่แยแส
“นี่คือ?…”
ในทางกลับกัน อิซึมิก็ทำสีหน้าเคร่งขรึมและขมวดคิ้วขณะมองดูคริสตัลในมือ
“เกิดอะไรขึ้น? เธอรู้ต้นกำเนิดของหินก้อนนี้? “
เขารู้สึกยินดีกับปฏิกิริยาของเธอ แต่ก่อนที่เขาจะได้ดีใจมากกว่า อิสึมิก็เงยหน้าขึ้นและมองเขาด้วยใบหน้าจริงจังก่อนที่จะดับฝันเขา
“ไม่ค่ะ ฉันไม่รู้”
เขารู้สึกเข่าอ่อนยวบ เขาเกือบจะคุกเข่าต่อหน้าสาวน้อยคนนี้แล้ว เธอพูดว่าเธอไม่รู้แล้วท่าทางเคร่งขรึมนั่นมันอะไรกัน?
“แม้แต่เธอก็ไม่รู้?”
รู้สึกไร้เรี่ยวแรงจากท่าทางของเธอ วู่หยานทำได้แค่ถามย้ำอีกครั้ง
“ไม่ แต่ฉันรู้สึกได้ถึงอะไรพิเศษบางอย่างจากคริสตัลนี้ราวกับว่า … มีพลังลึกลับบางอย่างอยู่ข้างในตัวมัน”
มองใบหน้าที่กลุ้มใจของเธอ เขาไม่รู้ว่าจะควรจะทำอะไรต่อไป ถ้าขนาดเด็กผู้หญิงคนนี้ยังบอกว่าเธอไม่รู้ แล้วเขาจะไปทำอะไรได้?
“คุณหนูซันเซนอิง คุณรู้ไหมว่าหินนี่คืออะไร?”
“ไม่!” ดี ตอบได้เถรตรงมาก……
“แล้วพวกเธอเคยเห็นคริสตัลที่คล้ายๆกันบ้างไหม?”
เขาคาดหวังกับคำตอบพวกเธอ ในขณะเก็บคริสตัลไป
แต่น่าเสียดาย ทั้ง นางิและ ฮินะงิคุ ต่างส่ายหัวตอบ ทำให้เขาผิดหวังมาก
“ท่านวู่หยาน ไปได้คริสตัลชิ้นนี้จากที่ไหนงั้นเหรอคะ?”
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในคนของตระกูลนักปราบภูตผีปีศาจ วัตถุประเภทนี้ที่มีอำนาจลึกลับจะดึงดูดความสนใจของเธอได้ เพราะถ้าหากมันเป็นของอันตรายจะได้รีบจัดการตัดไฟต้นลม
“เจ้านี่คือของที่ฉันได้หลังจากที่ฆ่า ผู้นำวิญญาณ นะ”
ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรจากเธอ เพราะทั้งสองคนเป็นผู้เดินไปในเส้นทางเดียวกัน แต่ก็นั่นแหล เขาดันลืมไปว่ามีคนนอกอยู่ใกล้ๆอีกสองคน
เสียงตะโกนของทั้งสามสาวดึงดูดสายตาจากผู้คนรอบๆ
“ผู้นำวิญญาณ สรุปมันก็คือผีใช้ไหม?”
ด้วยน้ำเสียงตื่นกลัว สาวน้อยซึนเดเระผมทองที่ฉลาดเกินอายุ ถามขึ้น
“ฆ่า? ที่นายวิ่งหายไปวันนั่นก็เพราะไปฆ่าเจ้าตัวที่ชื่อ ผู้นำวิญญาณ?”
กลัว แต่เธอรู้สึกโกรธมากกว่ากับความจริงที่ว่า ‘ไปทำธุระบางอย่าง’ จะกลายเป็นปิดบังเธอแล้วแอบไปฆ่าบางสิ่งบางอย่าง
“ท่านวู่หยาน สามารถฆ่าผู้นำวิญญาณได้……”
พึมพำขณะที่สายตาเธอก็มองเข้าไปในดวงตาของเขาด้วย เธอเริ่มรู้สึกสนใจและอยากรู้ (@เอาละสิใครเชียร์สาวน้อยนักปราบปีศาจบ้างง)
มองไปรอบๆกับสามสาวที่มีปฏกิริยาแตกต่างกัน เขาหัวเราะอย่างขมขื่นในใจ
มันเป็นความผิดเขาเองที่ไม่หาที่ลับๆหรือที่อื่นเพื่อคุยกัน…….
ติดตามข่าวสารได้ที่นี้ – ห้องสมุดคนรักนิยายแปล มีกลุ่มลับแล้ว