บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ! – ตอนที่ 99 การต่อสู้ของแรงค์8 ยกหนึ่งล่ะ!

บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ!

นางฟ้า!

นี่คือความประทับใจแรกที่อิคารอสมีต่อพวกเขา!

ด้วยหน้าตาที่งดงามหาใดเปรียบ กับรูปร่างที่ทำให้ผู้ชายที่เห็นรู้สึกเร่าร้อน ปีกแสงคู่ใหญ่ที่กระพือไปมาเบาๆ ผมสีชมพูที่สยายออก และเหนือศีรษะเธอก็มีวงแหวนสีขาวบริสุทธิ์ นี่ทำให้อิคารอสดูมีออร่าศักดิ์สิทธิ์ขึ้น!

ถ้าพวกเอ็งรู้ว่านี่คือรูปร่างอิคารอสในโหมดสู้รบ ไม่รู้ว่าจะคิดยังกันน่ะ? ฮาๆ

แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่รู้ เพราะตอนนี้ทุกคนที่เห็นอิคารอส ถ้าไม่อึ้งก็ต้องช็อคไปกับความสง่างามที่ดูราวกับไม่ใช้มนุษย์….

อิคารอสเองก็ไม่ได้ให้ความนใจว่าคนอื่นจะมองตนเองยังไง ณ ตอนนี้ในหัวเธอ มีแต่คำสั่งของวู่หยาน ดังนั้นสายตาเธอจึงจดจ่ออยู่ที่แรงค์3ทั้งสามคน!

เมื่อยืนยันเป้าหมายสำเร็จ ภายใต้สายตาของทุกคน ริมฝีปากของอิคารอสก็ค่อยๆอ้าออก พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“อิคารอส! โจมตี! ”

สิ้นเสียงอิคารอส บรรยากาศรอบๆตัวเธอก็สั่นสะเทือน ก่อนจะมีโลหะที่ไม่ทราบชนิดโผล่ออกมาด้วยจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน ส่วนหัวมันเล็งไปที่ด้านหน้า ผู้คนทั้งสามกลุ่มมองดูโลหะจำนวนมากตรงหน้าสีหน้างุนงง แต่กลับกันพวกคาร์ลเรียาทั้งสามต่างก็หน้าเปลี่ยนสีทันทีที่เห็น!

ขณะที่โลหะไม่ทราบชนิดโผล่ออกมา ในใจพวกคาร์ลเรียสต่างก็รู้สึกถึงวิกฤต พวกเขาเชื่อสัญชาติญาณตนเอง จึงรีบเคลื่อนย้ายตัวหนีออกจากจุดเดิมด้วยความเร็วสูง!

“อาร์เทมิส!!”

เปิดฉากด้วยมิสไซล์เหมือนทุกที อิคารอสอาจจะไม่ได้สังเกตว่าแทบทุกครั้งที่ต่อสู้ เธอมักจะเปิดฉากด้วยมิสไซล์ก่อนเสมอ

ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ในเมื่อเธอใช้ ฟอร์เอเวอร์มิสไซล์นำวิถี มันก็หมายความเริ่มต่อสู้แล้วนั่นเอง…..

ทว่าพวกคาร์ลเรียสที่ฉีกตัวหลบออกไปนั้นย่อมไม่รู้จัก ฟอร์เอเวอร์มิสไซล์นำวิถี จึงไม่รู้ว่ามันไม่สามารถหลบได้!

เมื่อเห็นว่ามิสไซล์เลี้ยวตามมา พวกคาร์ลเรียสก็หน้าเปลี่ยนสีทันที รอบนี้พวกเขาทั้งสามต่างก็แยกย้ายกันหนี

มิสไซล์เองก็ไม่ได้ช้าเลย ถ้าเทียบกับมิสไซล์ของจริงแล้วนับว่ามันยังเร็วกว่าเยอะ ถ้าพวกคาร์ลเรียสเป็นคนธรรมดาก็คงโดนมิสไซล์ถล่มไปตั้งแต่วินาทีแรกแล้ว

เมื่อเห็นว่าฝูงมิสไซล์กระจายตัวออกไปทั้งสามทิศ คราวนี้สีหน้าพวกเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้งจากตอนแรกแค่ประหลาดใจเป็นช็อค! ดูจากความเร็วที่มันพุ่งมา ถ้าพวกเขาโดนเข้าล่ะก็ มันไม่ใช้เรื่องตลกแน่!

จากตอนแรกที่ช็อคเพราะอยู่ดีๆก็มีสาวสวยเข้าโจมตีตน ตอนนี้มันได้เปลี่ยนเป็นความโกรธเรียบร้อยแล้ว ปกติพวกตนจะเป็นคนโจมตีแล้วอีกฝ่ายจะคนหลบ ทว่าตอนนี้มันได้กลับกัน แล้วแบบนี้จะไม่ให้แรงค์8ทั้งสามคนที่หยิ่งยโสโกรธได้ยังไง?

“บัดซบ! อย่ามาดูถูกกันนะโว้ย!” คาร์ล(@ขอย่อจากคาร์ลเรียส)คำรามออกมา ก่อนจะมีดาบหนักโผล่ออกมาในมือ เทียบกับดาบปกติแล้วมันไม่ต่างกันเลย แต่ถ้าจะคิดว่ามันเป็นดาบปกติธรรมดาล่ะก็ คนๆนั้นได้ตายอนาถแน่!

ขณะที่คาร์ลมัวแต่เอาดาบออกมา มิสไซล์ก็ได้ไล่จนเกือบจะถึงตัวเค้าอยู่แล้ว คาร์ลสูดลมหายใจเข้าลึก เกร็งกล้ามแขนจนเส้นเลือดปูดโปน ก่อนจะตวัดดาบออกไป ก่อเปิดเป็นคลื่นปราณดาบพุ่งตรงเข้าไปหามิสไซล์!

เห็นแบบนี้ โมมิลี้กับชาร์ลก็หยิบเอาอาวุธของตนออกมาเหมือนกัน ของโมมิลี้เป็นหอกยาวดําทมิฬ ส่วนของชาร์ลเป็นขวานที่มีใบมีดสองด้าน

ยุทธภัณฑ์ดิน!

ภายใต้ฟังก์ชั่นตรวจสอบของระบบ ทำให้วู่หยานสามารถมองระดับของอาวุธทั้งสามคนได้ในพริบตา!

แต่ทว่านี่กลับทำให้วู่หยานโล่งอกไปชั่วครู่ อย่างน้อยๆพวกมันก็ไม่มียุทธภัณฑ์ฟ้า ส่วนที่ว่าทำไมเขาถึงโล่งอกไปชั่วครู่น่ะเหรอ? นั่นเป็นเพราะวู่หยานยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายยังมีไพ่ตายอะไรเก็บไว้อีกรึเปล่านะสิ….

เขาเองก็ไม่ได้มีเวลามานั่งชมการต่อสู้ระหว่างแรงค์8 เพราะตอนนี้ได้มีกลุ่มนักรบวิ่งเข้ามาหาเขาด้วยใบหน้าโกรธๆราวกับหมาบ้า ยังกับจะให้เวลาเขานั่งดูสบายๆเลย

พวกเขาจะไม่โกรธจนเป็นบ้าได้ไงใช้มั้ย? หลักจากผู้หญิงที่ดูราวกับนางฟ้าโผล่มา ก็ได้มีเด็กหนุ่มผมดำกับเด็กสาวผมสีน้ำตาลปรากฏตัวออกมายืนดูนางฟ้ากับนายท่านทั้งสามของพวกตนสู้ และไม่ว่าพวกเขาจะตะโกนถามไปกี่ครั้งต่อกี่ครั้งว่า ‘แก/นาย/เธอเป็นใคร’ ก็ไม่ได้คำตอบกลับมา พวกเขาโดนเมินสนิท

ถ้าใครหน้านไหนโดนเมินเหมือนอากาศแบบนี้แล้วยังอารมณ์ดี ได้โปรดไสหัวออกมาให้เห็นหน่อย!

ขณะที่พวกนักรบกำลังโถมเข้ามา เหล่านักเวทย์ที่ยืนอยู่ด้านหลังก็เริ่มท่องคาถา เห็นภาพนี้วู่หยานก็ปวดหัวจี๊ดเลย

พวกนักเวทย์นี่เป็นอะไรที่เขาหนักใจที่สุดเลย ถ้าเกิดบังเอิญโดนเวทย์ไปสักดอกหนึ่งคงโดนดาบฟันรัวๆต่อมาแน่นอน ถึงแม้ว่าเขาจะมีเกราะมังกรไร้ลักษณ์ที่สามารถป้องกันการโจมตีที่ต่ำกว่าแรงค์6ลงมาได้ แต่ที่นี่มันมีแรงค์6เต็มไปหมดเลยนี่น่า!

ถอนหายใจหนักๆ วู่หยานหันหน้าไปหาสาวน้องข้างตัว “มิโคโตะ ดูท่าสู้แบบกลุ่มพวกเราจะเสียเปรียบนะ”

ได้ยินคำพูดวู่หยาน มิโคโตะหันมองกองทัพนักเวทย์ด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะหยิบเอาขวดยาออกมาแล้วยกขึ้นมาดื่มสองสามอึก

วู่หยานเองก็ทำแบบเดียวกัน เขาหยิบขวดยาออกมาแล้วยกกระดกดื่มพรวดๆอย่างรวดเร็ว ดื่มเสร็จเขาก็ยิ้มร่าทันทีขณะที่มือก็โยนขวดยาทิ้งไป แล้วหันไปสบตากับมิโคโตะ ก่อนที่จะ…พุ่งเข้าไปหาฝูงนักรบที่วิ่งเข้ามา!

…………….

อีกด้านหนึ่ง

เจอกับอิคารอสที่สามารถบินได้อย่างอิสระ พวกคาร์ลก็ปวดหัวจี๊ด ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสามารถบินได้ชั่วครู่ด้วยการใช้ปราณ แต่ก็ไม่สามารถบินได้อย่างคล่องแคล่วแบบอิคารอส

สกิลการบินผาดโผนที่อิคารอสแสดงให้ดูยิ่งทำให้พวกเขางุนงง นอกจากนักเวทย์แรงค์7ที่มีเวทย์บิน และไม่มีไอเท็มช่วย แล้วใครจะไปบินได้อิสระเสรีอย่างอิคารอสกันล่ะ?

บางทีคงมีระดับครึ่งก้าวเทวะ(แรงค์10)ที่จะสามารถเหินหาวได้เหมือนเดินดิน ไม่งั้นต่อให้แรงค์9มาเองก็คงบินไม่ได้อย่างเธอเลยมั้ง….

จริงๆว่าวู่หยานก็ไม่ได้คิดเหมือนกันว่า การที่สามารถบินไปมาได้อย่างไร้ขีดจำกัดของอิคารอสจะสามารถทำให้อีกฝ่ายปวดหัวได้ถึงขนาดนี้ บวกกับท่าโจมตีระยะไกลของเธอ บางทีอิคารอสอาจจะชนะไปได้โดยไม่กินยา ‘ลมหายใจแห่งชีวิต’ เหมือนเขากับมิโคโตะก็ได้…..

ทำลายมิสไซล์ ด้วยยุทธภัณฑ์ดิน สีหน้าของทั้งสามคนดำมืดเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธและยังเจือปนไปด้วยความจนปัญญาด้วย…..

“ไอ้พลังที่สามารถท่องทะยานไปบนฟ้าได้ นี่มันช่างร้ายกาจจริงๆ แล้วยังไอ้ก้อนเหล็กที่บินได้นี่อีก แม่งเอ้ย ผู้หญิงคนั้นเป็นใครกันแน่วะ หรือว่าจะเป็นสัตว์อสูร? เป็นไปไม่ได้ ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าสัตว์อสูรทีจะมีรูปร่างแบบมนุษษย์ หรือจะเป็นสัตว์อสูรระดับครึ่งก้าวเทวะ? ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้อีก ถ้าเป็นงั้นจริง ก็ไม่เห็นจะเป็นต้องปล่อยไอ้เศษเหล็กนี่มาเลย แค่ขยับมือพวกเราก็ตายแล้ว!”

คาร์ลกำลังมึนหัวกับมิสไซล์ที่ดาหน้าเข้ามาไม่หยุดขณะที่ปากก็สาปแช่งอิคารอสไปด้วย หลังจากที่เขาใช้อาวุธในมือทำลายมิสไซล์ไป วินาทีต่อมาก็จะมีมิสไซล์ชุดใหม่เข้ามาแทนอีก วนแบบนี้เรื่อยๆ

ชาร์ลกระโดดเข้ามายืนข้างๆคาร์ล โมมิลี้ก็ทำแบบเดียวกัน ทั้งสามคนรวมตัวกันอีกครั้ง ชาร์ลรีบพูดขึ้นว่า “เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่! พวกเรามาแบ่งหน้าที่กัน ให้คนหนึ่งคอยอยู่รับโลหะบินได้ อีกคนก็ช่วยเปิดเส้นทาง และคนสุดท้ายมุ่งหน้าเข้าไปโจมตี!”

คาร์ลกับโมมิลี้พยักหน้าเห็นด้วยทันที มันไม่มีทางเลือกอื่นแล้วในตอนนี้ เป็นแบบนี้ต่อไปในไม่ช้าพวกเขาก็จะใช้ปราณจนหมด สุดท้ายก็โดดยัยนางฟ้านี้ฆ่าแน่!

เมื่อตกลงกันได้ ชาร์ลก็ใช้ขวานสองมือกวัดแกว่งทำลายฝูงมิสไซล์ทิ้งทันที เมื่อทำลายหมดคาร์ลกับโมมิลี้ก็พุ่งทะยานตัวไปหาอิคารอส

อิคารอสกระพริบตา แล้วปล่อยมิสไซล์ไปอีกชุด เป็นเพราะระยะทางมันสั้นลงกว่าเดิม เพียงแค่พริบตามิสไซล์ก็ไปถึงต่อหน้าทั้งสองคน!

“ฉีกนภา!!”

โมมิลี้แทงหอกในมือออกมา ปราณจำนวนมหาศาลมารวมตัวกันที่ปลายหอก โมมิลี้กระตุ้นปราณ ก่อนจะมีลำแสงยิงออกไปจากส่วนหัวของหอก พุ่งเข้าทำลายมิสไซล์ไปจนหมด!

คาร์ลฉีกยิ้มกว้าง ทะยานตัวขึ้นมาอยู่เหนือหัวอิคารอส ก่อนที่จะฟันดาบลงไปสุดแรง!

บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ!

บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ!

Status: Ongoing
นี่คือเรื่องราวของ โอตาคุติดบ้านแสนธรรมดา ที่วันหนึ่งพอลืมตาตื่นขึ้นมา เขาพบว่าตัวเองได้มาอยู่กลางป่าในต่างโลก พร้อมระบบร้านค้าแสนจะกวนประสาท ที่ชอบข่มขู่ให้เขาต้องทำตามมัน หลังจากผจญภัยเสี่ยงชีวิตมามากมาย เขาก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะแข็งแกร่งขึ้น เพื่อที่จะปกป้องครอบครัวที่เขารัก แล้วใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ที่สดใสในต่างโลกให้ได้เลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท