เมอร์ริวลู่ โลลิ : เลเวล44
เวลาเดียวกันกับที่ตัวลูลู่แผ่พลังเวทย์ออกมา วู่หยานก็ได้เปิดฟังก์ชั่นตรวจสอบ เมื่อเห็นเลเวลของลูลู่ เขาก็อดประหลาดใจไม่ได้
2-3เดือนก่อนที่เขากับลูลู่จะแยกทางกัน เธอยังเลเวลแค่35 ไม่คิดเลยว่าผ่านไปไม่กี่เดือน ลูลู่จะเลเวลอัพไปถึง9เวล ขาเอีกแค่เวลเดียวก็จะเท่ากับหนึ่งแรงค์เลยนะ!
ถึงแม้จะบอกว่าแรงค์ระดับกลางๆจากแรงค์4ไป5มันไมได้ยากมากนัก แต่ก็ไม่ได้ง่ายถึงขนาดจนเลื่อนขึ้นเร็วแบบนี้แน่…….
วู่หยานที่พัฒนาจากไม่มีอะไรจนมาถึงแรงค์7ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งปี ยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชมพรสวรรค์ของเธอ เพราะลูลู่ไม่เหมือนเขาที่มีระบบ ต่อให้เธอมีตระกูลโลลิสนับสนุนทรัพยากรมากขนาดไหน ยังไงก็ไม่มีทางเทียบกับวู่หยานอย่าวได้แน่นอน………
การปะทะกันของแท่งน้ำแข็งกับใบมีดสายลมทำให้ผู้ชมที่อยู่รอบๆตกใจ สาเหตุไม่เพียงเพราะการที่ทั้งสองอยู่ๆก็ปล่อยเวทย์มนตร์ แต่ยังเป็นเพราะตกใจกับพรสวรรค์ของทั้งคู่ด้วย
เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนยังอายุน้อยอยู่เลย อย่างน้อยๆก็ยังไม่ถึง20 แต่ถึงยังงั้นทั้งคู่ก็ยังสามารถท่องคาถาภายในเวลาอันสั้นโดยที่พวกเขาไม่ทันสังเกตได้
แน่นอนว่ายังอยู่แค่ในระดับประหลาดใจ เพียงไม่นานพวกเขาก็กลับมาสงบเหมือนเดิม เพราะยังไงซะเมื่อไม่กี่วันก่อนก็ยังมีชายหนุ่มแรงค์7ด้วยอายุแค่22ปีโผล่ออกมา ดังนั้นเพียงแค่นี้ยังไม่นับว่าน่าประหลาดใจเท่าใดนัก
กลับมาสู่ปัจจุบัน ฮิวจ์ตกตะลึงที่ลูลู่ได้ยื่นมือเข้ามาขวางตน ส่วนทางด้านลุลู่ก็กำลังมีสีหน้าโกรธสุดๆ
“ฮิวจ์! ไม่คิดเลยว่านายจะกล้าลงมือกับเพื่อนของฉัน!” ลูลู่กระทืบเท้าลงพื้นอย่างไม่พอใจ
ก่อนหน้านี้ที่เมืองท่า คนของเธอเองก็ได้ลงไม้ลงมือกับวู่หยาน ถึงแม้สุดท้ายแล้วเขาจะไม่เป็นอะไร แต่ถึงยังงั้นลูลู่ก็ยังคงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก
วู่หยานเป็นเพื่อนของเธอ แล้วคนของเธอกลับโจมตีเพื่อนเธอ ทำให้ลูลู่ที่มีนิสัยใจดีและใสซื่อบริสุทธิ์ลงความผิดทั้งหมดมาไว้ที่ตนเอง
โชคดีที่วู่หยานไม่เป็นอะไร ไม่งั้นลูลู่คงรู้สึกผิดไปชั่วชีวิต
ได้เจอกันอีกครั้ง ในใจลูลู่อดที่จะปั่นป่วนด้วยความกลัวไม่ได้ ไม่รู้ว่าเพื่อนที่เธอได้รับมาอย่างยากลำบาก เป็นเพราะเรื่องนี้จะทอดทิ้งเธอไปไหม…….
แต่ทว่าโชคดี วู่หยานไม่ได้สนใจเรื่องคราวก่อนเลย ถึงตอนแรกจะยังรู้สึกแปลกๆ แต่แป๊ปเดียวความรู้สึกเมื่อตอนยังอยู่เมืองท่าก็กลับมา
ในที่สุดเธอก็ได้ปล่อยวางเรื่องคราวก่อนได้ซักที แต่ตอนนั้นเองคนของเธอก็ได้ลงมืออีกครั้ง!
ลูลู่เก่งในด้านการมองอารมณ์ของคนอื่น เพราะเธอต้องเจอพวกคนโลภมาตั้งแต่เด็ก แล้วเธอจะไม่รู้ได้ยังไงว่าสาเหตที่ฮิวจ์โจมตีวู่หยานก็เป็นเพราะเธอ!
ดังนั้น ลูลู่จึงโกรธมากๆ!
ตลอดชีวิตของเธอ นี่เป็นคนแรกและอาจจะเป็นเพื่อนผู้ชายคนสุดท้ายของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่าจะโดนคนของตัวเองโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ลูลู่จึงรู้สึกผิดในเวลาเดียวกันเธอก็โกรธสุดๆด้วย!
พูดได้เลยว่าครั้งนี้ ฮิวจ์ได้ไปแตะต้องส่วนอ่อนไหวของเธอเข้าเต็มๆ!
“หยาน ฉันขอโทษ ฉะ….ฉัน….” หันหน้ากลับไปมองวู่หยาน ลูลู่อยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่กลับไม่รู้จริงๆว่าควรจะพูดอะไรออกไปดี ท้ายที่สุด เธอก็เริ่มน้ำตาซึม
วู่หยานอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เมื่อมองเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดของเธอ
“ลูลู่น้อย เธอคงไม่ใช่กำลังคิดว่าฉันจะโกรธเธอเพียงเพราะ คนที่ฉันเพิ่งเจอกันวันนี้แถมยังเขม่นกันตั้งแต่แรกหรอกนะใช่มั้ย?”
“แล้วไม่ใช่…เหรอ?” ลูลู่เอียงหัวเล็กน้อย แล้วพูดออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ
วู่หยานถอนหายใจ “แน่นอนว่าไม่ใช่แน่ เรื่องนี้นะไม่ว่าจะมองจากมุมไหน บนล่างซ้ายขวามันก็ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอเลย”
“แต่ว่า…..”
“ไม่มีตงมีแต่อะไรทั้งนั้น!” วู่หยานยกมือวางบนหัวลูลู่อีกครั้ง แล้วลูบพวกมันจนกระทั่งผมเธอยุ่งยังกับรังนก เขาถึงหยุดแล้วพยักหน้าด้วยความพอใจ
“เธอรู้ไว้แค่ว่านี้มันไม่ใช้ความผิดของตัวเอง แค่นั้นก็เพียงพอแล้วล่ะ!”
ลูลู่หยักหน้าด้วยความงุนงง เมื่อเห็นใบหน้าวู่หยานเธอก็ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา จากนั้นไม่นานนักเธอก็ตระหนักได้ถึงทรงผมของตัวเอง เธอจีงรีบจัดพวกมันใหม่ด้วยความไม่พอใจ
“บัดซบ! แกไอ้เศษสวะ!” การฝึกฝนตลอดชีวิตที่ผ่านมาของฮิวจ์ได้หายไปในวันนี้เอง ไม่ว่าจะเป็นการลูบหัวที่ดูสนิทสนมนั้น แล้วยัง ‘ลูลู่น้อย’ นี้อีกทำให้หัวใจของฮิวจ์เริ่มตกลงสู่ความืด
“คุณหนูครับ มันก็เป็นแค่ไอ้ขยะคนหนึ่ง มันไม่คู่ควรเลยที่คุณหนูจะลงตัวไปสนทนากับคนพรรณ์นี้ ถ้าท่านผู้นำตระกูลรู้ ท่านเองก็ต้องไม่เห็นด้วยเหมือนกันแน่!” มือกำคทาแน่นจนมันเปลี่ยนเป็นสีเขียว ทว่าฮิวจ์ไม่ได้สนใจ สายตายังคงมองวู่หยาน ในใจคิดอยากจะฉีกมันให้เป็นพันๆชิ้น
“ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีเรื่องเมื่อกี้กับนายเลยนะ แล้วนี่ยังกล้ามาว่าฉันอีกเหรอ!” ลูลู่สงบอารมณ์ตัวเองได้อย่างยากลำบากก็ได้อารมรณ์เสียอีกครั้ง
“ไม่ต้องพูดเลยว่าพ่อฉันจะยอมรับหรือไม่ แต่ถึงท่านไม่ยอมรับ เขาก็ไม่มีทางว่าฉันแน่!” ลูลู่พูดด้วยสีหน้ามั่นใจมาก ทำให้ฮิวจ์นึกออกว่าผู้นำตระกูลรักเธอราวกับสมบัติที่มีค่าที่สุด…….
ฮิวจ์กัดฟัน ก่อนจะมองวู่หยานด้วยใบหน้าเย็นชา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแดกดันว่า “ไอ้ชั้นต่ำ! ไม่ว่าแกจะใช้วิธีอะไรหลอกคุณหนู แต่ระดับการบ่มเพาะก็จะเป็นตัวตัดสินทุกอย่าง โดยไม่ต้องพูดฐานะ แกมันไม่มีพลังอะไรเลย แล้วยังกล้าตะตีตนเสมอคุณหนูอีก? แกไม่กลัวโดนคนอื่นหัวเราะเยาะเลยหรือไง!”
หัวเราะ? เออมันก็น่าหัวเราะจริงๆแหละ อายุ22ปี บรรลุแรงค์7 ถ้านี้ไม่มีพลัง แล้วอะไรล่ะ?…….
ถ้าเป็นงั้นจริง แล้วพวกเราจะนับเป็นตัวอะไรล่ะ? แกด้วยฮิวจ์จะนับเป็นตัวอะไรได้………
คำพูดพวกนี้พวกเขาไม่ได้พูดออกไป ตอนนี้ฮิวจ์กำลังเดือดจัด พวกเขาไม่เหมือนวู่หยานที่มีคุณหนูแห่งตระกูลโลลิคอยปกป้อง ถ้าพวกเขาพูดไป จุดจบคงไม่สวยแน่…….
ลูลู่ไม่ตอบ พูดตามตรง ตอนนี้ในหัวใจเธอยิ่งเกลียดฮิวจ์มากขึ้นเรื่อยๆ เกลียดจนเธอไม่อยากแม้แต่จะเปิดปากพูดกับเขา ดังนั้นเธอจึงได้แต่หันมามองวู่หยาน
“หยาน ไม่ต้องไปฟังเขานะ พลังอะไรฉันไม่ได้สนใจเลย!”
“งั้นเหรอ?” โดนด่าแล้วด่าอีก เศษสวะบ้างล่ะขยะบ้างชั้นต่ำบ้างล่ะ เป็นปาฏิหาริย์จริงๆที่วู่หยานกลับไม่โกรธเลย
“ฉันรู้อยู่แล้วลูลู่ว่า เธอไม่สนใจน่ะ…..” ท่ามกลางสายตาของทุกคน วู่หยานก็เดินมาตรงหน้าลูลู่ ก่อนจะมองไปที่ฮิวจ์แล้วพูดว่า
“แต่….ฉันสน!”
“หยาน นี่นาย……” ลูลู่อึ้งมองไปที่วู่หยาน ราวกับไม่อยากเชื่อว่าเขาจะพูดคำพูดพวกนี้ออกมา แม้กระทั่งเฟยเฟยเองก็ตกใจ ก่อนจะหันมามองวู่หยานด้วยความสงสัย
ฮิวจ์กลายเป็นมีความสุขทันที แล้วพูดด้วยน้ำเหยียดหยามว่า “ยังดีที่แกยังรู้ขัดจำกัดของตัวเอง!”
“รู้ขีดจำกัดเหรอ?” วู่หยานแบมือด้วยสีหน้าเบื่อๆ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “โทษทีวะ บังเอิญคนยุคฉันเขาไม่รู้กันหรอกว่า คำว่า ขีดจำกัด มันเขียนว่ายังไงน่ะนะ……”
“แก……”
“เน่ ไอ้หนุ่มหน้าขาว”
“แกเรียกฉันว่าไงนะ?!” ฮิวจ์ยิ้มกว้างออกมาด้วยความโกรธจัด ในตอนนี้เขาก็ได้ตัดสินใจ ไม่ว่าคุณจะว่ายังไงก็ตาม หลังจากนี้เจ้านี้ ต้องตาย!
ไม่ว่าจะเป็นเพราะโดนด่าหรือเพราะเขารู้สึกได้ถึงการคุกคามจากมัน…….
วู่หยานหลับตาลง แล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ท่าทางเขาได้เปลี่ยนไปหมด สีหน้าขี้เล่นเมื่อกี้ได้หายไป แล้วแทนที่ด้วยความจริงจัง
“ก็อย่างที่นายว่ามาล่ะนะ การจะอยู่ข้างๆคนอย่างลูลู่ที่มีทั้งพรสวรรค์และครอบครัวที่ทรงอำนาจ ถ้าคนๆนั้นไม่มีแม้แต่พลังคงโดนคนเขาหัวเราะเยาะจริงๆนั้นแหละ ยางทีแม้แต่ตัวเองก็ยังรู้สึกกดดันเลย!”
“หยาน!” ลูลู่เริ่มรู้สึกกลัว ‘หยานคงไม่คิดจะเลิกเป็นเพื่อนกับเราเพราะเรื่องแบบนี้หรอกนะใช่ไหม?’
“ดังนั้น เพื่อเป็นการกำจัดปัญหาในอนาคตแล้วยังเป็นการทำให้ลูลู่หายกังวลด้วย ฉันจะให้แกได้เห็น ว่าฉัน วู่หยาน คนนี้มีคุณสมบัติพอที่จะอยู่เคียงข้างลูลู่!”
เมินผู้คนที่กำลังอึ้งอยู่ทั้งหมด รวมไปถึงฮินางิคุกับมิโคโตะที่กำลังยืนยิ้มอยู่ วู่หยานมองตรงเข้าไปในนัยน์ตาฮิวจ์ก่อนจะฉีกยิ้มแล้วพูดขึ้นมาว่า
“มาพนันกัน! ตราบใดที่แกทำให้ฉันก้าวถอยหลังได้แม้เพียงครึ่งก้าว ชีวิตของฉันเป็นของแก!”
—————–
@โปร V3-10 ลดกลุ่มละ 20 บาท เขาทีละกลุ่มก็ลดเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องเข้าทีเดียวครับ