“เรื่องก็เป็นอย่างที่ว่ามาแหละ…..”
ในห้องนั่งเล่น วู่หยาน ฮินางิคุ มิโคโตะ มิซากิ แอสเทรีย อิคารอส คินุฮาตะ เฟรนด้า และ ทาคิสึโบะ หนึ่งชายแปดหญิงได้มารวมพลกัน โดยที่วู่หยานเป็นคนยืนอยู่ตรงหน้าพวกเธอ
สังเกตสายตาหลากหลายของสาวๆ วู่หยานก็ยกมือยอมแพ้ไม่งั้นเขาคงโดนลงโทษเป็นหนที่สองอีกแน่……
ฮินางิคุหรี่ตามองวู่หยาน ทำเขาสะดุ้ง จากนั้นเธอก็ทำเสียงเชอะแล้วหันหน้าไปทางอื่น…..
“ฉันไม่ขัดข้อง!”
มิโคโตะมองไปรอบๆกับจำนวนหญิงสาวที่เพิ่มขึ้น ‘เปรี๊ยะ!’ บนหน้าผากเธอก็มีไฟฟ้าแล่บออกมา แสดงให้เห็นว่าเจ้าตัวอยู่ในอารมณ์ไหน
นัยน์ตาสีกาแฟจ้องไปที่หน้าวู่หยาน มิโคโตะกัดฟันกรอด จากนั้นยืนขึ้นแล้วเดินไปดึงหูวู่หยาน แน่นอนว่าเขาก็กรีดร้องออกมาแต่เธอไม่สน มิโคโตะตะโกนกรอกหูเขาด้วยเสียงที่ดังมากๆ
“ถ้ายังมีครั้งหน้าอีก! นายตาย!!!”
คำพูดประกาศิตของเธอโจมตีเยื่อแก้วหูวู่หยานราวกับช็อคเวฟ ทำเขาตาเหลือกและปากเริ่มมีฟองโฟมขึ้น เสียงเธอแทบทำอวัยวะภายในเขาบาดเจ็บ เมื่อได้สติวู่หยานก็ร้องกลับไปว่า
“รู้แล้ว! รู้แล้ว! ครั้งหน้าจะไม่มีแบบนี้อีกแล้ว!!!”
ได้ยิน มิโคโตะก็ปล่อยหูเขาอย่างไม่เต็มใจ เธอเดินกระทืบเท้ากลับไปด้วยความไม่พอใจ ส่วนวู่หยานก็ลูบหูตัวเองป่อยๆแล้วถอนหายใจ
ตูจะไปโทษใครได้?! ในเมื่อนี่เป็นผลลัพท์ของการมีฮาเร็ม!
ในเวลาเดียวกัน วู่หยานก็แอบหัวเราะคิกคักในใจ เยสๆ ครั้งหน้าจะไม่มีแบบนี้อีกแล้ว อย่างน้อยก็จะไม่ใช่ที่เดียวเยอะแบบนี้อ่ะนะ…….
ฮินางิคุเอ่ย มิโคโตะเอ่ย พวกเธอทั้งสองคนไร้เดียวสาไปแล้ว……
ขณะที่แอบหัวเราะในใจ วู่หยานก็สังเกตเห็นสายตาของมิซากิที่มองด้วยรอยยิ้มมุมปาก เธอยิ้มกว้างขึ้นเมื่อเห็นเขามองมา วู่หยานรีบโยนความคิดในหัวทิ้งทันที แล้วเผยรอยยิ้มขมขื่น
ติดสินจากสายตาควีนซามะมองมา มันมีโอกาสสูงมากที่เธอจะรู้ทันแผนของเขาแล้ว วู่หยานสามารถหลอกคนอื่นได้แต่มันไม่ใช่กับควีนซามะ
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขามีบาเรียสนามแม่เหล็กไฟฟ้า วู่หยานคงจะคิดว่าเธอใช้พลังมาอ่านใจเขา…..
ในบางเวลา ควีนซามะก็ดูจะเป็นคนที่น่ากลัวที่สุด…….
ขณะที่วู่หยานกำลังพยายามซ่อนความคิดของตัวเองสุดความสามารถจากสายแหลมคมจอวมิซากิที่กำลังมองมา มิโคโตะก็นั่งลงบนเก้าอี้ตัวเองแล้วขบคิดบางอย่าง ไม่นานเธอก็เปิดปาก
“พวกน้องสาวก็ช่วยแล้ว แถมตอนเราจากไปโลกนี้ก็จะถูกหยุดเวลาไปด้วย งั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องห่วงครอบครัว ฉันเองก็ไม่ขัดข้องที่จะไป!”
ได้ยิน แอสเทรียก็ชูมืขึ้นทันที “ค่า!ค่า! ค่า! แอสเทรียก็ไม่ขัดข้อง!”
อิคารอสมองดูวู่หยานโดยไม่พูดอะไร คนอื่นก็ไม่ถามเธอเช่นกัน แม้แต่คนมาใหม่อย่างมิซากิก็ยังดูออกว่าอิคารอสนั่นยึดมั่นในตัววู่หยานมากแค่ไหนมันไม่ถือว่าเกินไปเลยถ้าจะบอกว่าเขาคือโลกทั้งใบของเธอ ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขามันมากกว่าใครในห้องนี้ทั้งหมด เขาเป็นทุกอย่างของเธอ……..
มิซากิวางมือบนแก้มตัวเองแล้วหัวเราะเบาๆ จากนั้นพูดคำพูดที่ทำให้วู่หยานปวดหัว
“ฉันเองก็อยากจะเห็นไอ้เวทีที่คุณมิโคโตะจะไปแสดงเหมือนกัน…….”
พูดเสร็จ มิซากิก็เหลือบสายตาไปมองมิโคโตะ ซึ่งพอดีกับมิโคโตะที่กำลังหันมามองพอดี นัยน์ตาดวงดาวกับนัยน์ตาสีกาแฟได้จดจ้องกัน คนอื่นๆราวกับเห็นประกายไฟฟ้สพุ่งออกมาจากตาทั้งสองมาปะทะกันกลางอากาศ!
มุมปากวู่หยานบิดเบี้ยว ในใจรู้สึกเศร้าหน่อยๆ ดูเหมือนว่าการผจญภัยหลังจากนี้จะไม่สงบแล้ว……. (@กัดกันตลอดทางคู่นี้555)
ความคิดนี้ไม่ได้โผล่ขึ้นมาในหัววู่หยานเพียงคนเดียว ฮินางิคุก็ด้วยพอเห็นภาพนี้เธอก็ปวดหัวจี๊ดยกมือขึ้นมากุมหน้าผากทันใด ถอนหายใจพรูดจากนั้นหันไปถลึงตามองวู่หยาน ทั้งหมดเป็นเพราะไอ้บ้านี่คนเดียว!!!
ดังนั้นภายใต้สายตาทิ่มแทงองท่านประธาน มุมปากวู่หยานก็บิดเบี้ยวกว่าเดิม…….
ในใจยิ่งเชื่อมั่นว่า การผจญภัยหลังจากนี้มันจะต้องไม่สงบแน่ๆ……..
จากนั้นพวกเธอก็หันไปมอง คินุฮาตะ เฟรนด้า และ ทาคิสึโบะ ทำสามสาวใจแกว่งอย่างกังวล
วู่หยานมองสามสาวด้วยสีหน้าจริงจังแล้วถามว่า “เอาล่ะ มันถึงเวลาที่ต้องเลือกแล้ว ไอจัง(คินุฮาตะ) เฟรนด้า ริจัง(ทาคิสึโบะ) พวกเธอจะเลือกทางไหน?”
ได้ยินชื่อย่อที่ยังกับสัตว์เลี้ยง คินุฮาะกับทาคิสึโบะก็รู้สึกกระอักกระอ่วน ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนเรียกแบบนี้ แต่ครั้งก่อนๆมันมาในอารมณ์เล่นตลก แต่ครั้งเขาถามด้วยเสียงจริงจังมาก ทำทั้งสองสาวปรับตัวไม่ทัน
ส่วนเฟรนด้า….เธอไม่พอใจ ทำไมถึงมีแค่เธอที่เป็นชื่อเดิม?……
ภายใต้สายของทุกคน ทาคิสึโบะก็ก้มหัวลงแล้วเอานิ้วชี้ทั้งสองมาจิ้มกันด้วยความเขินอาย แล้วพูดเสียงเบาหวิวว่า “ฉะ…ฉันไม…ขัดข้อง….”
ในเมืองแห่งการศึกษา สามารถพูดได้เลยว่าทาคิสึโบะนั่นไม่มีเพื่อนหรือครอบครัวเลย ไม่สิต้องบอกว่าทั้งเมืองแห่งการศึกษาเธอรู้จักอยู่แค่ มุกิโนะ คินุฮาตะ และ เฟรนด้า
ตอนนี้คินุฮาตะกับเฟรนด้าก็อยู่ที่นี่ สำหรับมุกิโนะเธอไม่สนจริงๆออกจะกลัวมากกว่า ไม่เหมือนทั้งสองโลลิ ดังนั้นเธอตึงไม่มีความรู้สึกโหยหาอะไรให้เมืองนี้……..
คินุฮาตะกับเฟรนด้าก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกับทาคิสึโบะ แต่ทั้งสองข้องใจกับคนที่พวกเธอต้องติดตามไปมาก!
ทั้งลักพาตัว แบล็คเมล์ จับกดโดยไม่สนใจความคิดพวกเธอ กับตัววู่หยานแล้วจริงๆมันก็ไม่ถึงกับเกลียด ถึงจะโดนเขาเอาเปรียบสารพัด แต่ทั้งสองก็ไม่ได้เกลียดจะมีก็แค่ความโกรธ!
ด้วยความรู้สึกเช่นนี้ ทั้งสองอยากปฏิเสธไปมากๆ แต่ทาคิสึโบะก็เล่นยอมรับไปแล้ว สองโลลิดิ้นรนต่อสู้ในใจอย่างหนัก
เฟรนด้าหันไปมองทาคิสึโบะด้วยอารมณ์ที่อยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา ถอนหายใจเธอไม่อยากแยกกับทาคิสึโบะ ดังนั้นคำตอบคือ……
“สุดท้าย ฉันเองก็ไม่ขัดข้อง……..”
ราวกับเชือกฟางเส้นสุดท้ายได้ขาด คินุฮาตะได้เหลือตัวคนเดียว ดังนันในใจเธอจึงไม่ลังเลอีกต่ไป ในเมื่อเธอไม่ได้อาลัยอาวลเมืองแห่งการศึกษา โอเค ไปก็ไป……
“ฉันโครตไปด้วย!”
เมื่อทั้งสี่สาว มิซากิ คินุฮาตะ เฟรนด้า และ ทาคิสึโบะ ตกลงไปจากโลกนี้ เสเยงไร้อารมณ์ของระบบก็ดังขึ้น…….
………….
โลกดันเจี้ยน: อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม
ดันเจี้ยนเควส: ช่วยเหลือ!
เควส1: ช่วยน้องสาวของมิซากะ มิโคโตะ ทั้ง20,000คน จงชุบชีวิตน้องสาวของมิซากะคนที่ตายขึ้นมาให้หมด จงรักษาน้องสาวของมิซากะที่ยังไม่ตายให้หมด จงรวบรวมให้ครบทั้ง20,000คน แล้วเก็บไว้ใน ‘อุปกรณ์มิติแห่งชีวิต’ (สำเร็จ!)
รางวัลเควส: แต้มอุปกรณ์ แต้มไอเท็ม แต้มอบิลิตี้ แต้มอัญเชิญ อย่างล่ะ100,000แต้ม
เควส2: จงเอาชนะ ผู้มีพลังจิตที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองแห่งการศึกษา แอคเซราเรเตอร์ (สำเร็จ!)
รางวัลเควส:ทำการสุ่มอัญเชิญหนึ่งครั้ง
เควส3: จับกดคาแรคเตอร์ในโลกนี้อย่างน้อยสามคน และทำให้พวกเขาหรือพวกเธอเต็มใจที่จะจากโลกนี้ไปกับยูสเซอร์(สำเร็จ!)
รางวัลเควส:ฟรีอัญเชิญสำหรับคาแรคเตอร์ที่ตรงกับเงื่อนไขของเควสสาม
…………….
ได้ยินเสียงระบบวู่หยานก็ทั้งรู้สึกดีใจและเสียใจ……
ดีใจคือในที่สุดก็ทำเควสหมดสักที ส่วนที่เสียใจคือเควสสามมันไม่ได้กำหนดเพดานคนที่สามารถจับกดได้ เขาพาไปเกินแค่หนึ่งคนเอง มันดูเสียของไม่คุ้มยังไงไม่รู้…….
ทันใดนั้นเอง มิโคโตะก็ถามวู่หยาน “ใช่แล้ว หยาน เราไปแบบนี้แล้วซิสเตอร์ล่ะ?”
วู่หยานเก็ยความเสียใจลงไปแล้วถอนหายใจ “พวกซิสเตอร์สามารถพูดได้ว่าเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นต้องอัญเชิญมาทีล่ะคน เมื่อฉันจ่ายค่าอัญเชิญไปหนึ่งแสนแต้ม ซิสเตอร์ทั้งหมดก็จะถูกเรียกออกมาพร้อมกัน ไม่ต้องห่วง”
ได้ยิน สาวๆคนอื่นก็พยักหน้า…….