SGS บทที่ 309 – ศัตรู? ปัญหามาเยือนแล้ว!!
“งื้ออ เจ็บอ่า…..”
ลูลู่ค่อยๆพยุงตัวยืนขึ้นโดยที่มือก็กำลังจับหน้าอกปากส่งเสียงน่ารักออกมา ราวกับกลัวว่าก้อนเนื้อนี่จะหล่นหายไปยังไงยังงั้น
เดิมวู่หยานก็มีสีหน้ากระอักกระอ่วนอยู่แล้วพอมาตอนนี้ยิ่งมากกว่าเดิม ส่วนเฟยเฟยนั่นพูดไม่ออก เธอแม้กระทั่งเกิดความคิดอยากหันหลังเดินหนีไป…..ก็เพราะเธอรู้สึกขายหน้า………
มุมปากบิดเบี้ยว ในที่สุดวู่หยานก็ล้มเลิกความคิดที่จะเดินไปช่วยลูลู่แล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง
ฮินางิคุกับมิโคโตะกำลังพร้อมใจกันจ้องมองลูลู่ ถ้าจะให้เจาะจงกว่านี้ก็ต้องบอกว่าเป็นหน้าอกอวบอิ่มคู่นั้น มองดูลูลู่นวดหน้าอกไปมาปากก็บ่นเจ็บๆ ทันใดนั้นในแววตาของสองสาวก็เป็นประกายอิจฉาขึ้นมา ราวกับคิดอยากจะมี ‘เบาะ’ รองรับตอนตัวเองหกล้มบ้าง……
“………..”
วู่หยานที่หันหน้าหนีเพราะทนมองไม่ไหวก็ได้บังเอิญประสานสายตากับเฟยเฟยที่หันหน้าหนีเหมือนกัน จากนั้นทั้งสองก็หัวเราะแบบฝืนๆ
เฟยเฟย โลลิ : เลเวล69
วู่หยานที่ยังไม่ได้ปิดฟังก์ชั่นตรวจสอบของระบบก็เลยเห็นข้อมูลของเฟยเฟย เมื่อเห็นเขาก็ตกใจก่อนที่จะเปิดปากถามเธอด้วยความสงสัย “พี่สาวเฟยเฟยเลเวลอัพแล้วเหรอ?”
“เลเวลอัพ?”เฟยเฟยส่งสายตาสงสัยกลับมาให้วู่หยาน แล้วหันมามองตัวเองปากก็พูดว่า “อะไรคือเลเวลอัพ?”
ได้ยินวู่หยานก็รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป เขารีบโบกมือไปมา “ไม่ใช่ๆ คือ….ฉันหมายถึงพลังของพี่สาวน่ะ…….”
ได้ยินเฟยเฟยก็ยิ้มนุ่มนวลออกมา มือยกดาบภูติราตรีขึ้น “มองออกด้วยเหรอ?”
วู่หยานพยักหน้าตอบ เห็นแบบนี้เฟยเฟยก็ยิ้มแบบปลงๆออกมา “ครั้งก่อนที่ได้สู้กับนาย ฉันก็ได้รู้แจ้งบ้างอย่างน่ะ พลังเลยเพิ่มขึ้น…..ตอนแรกฉันก็กะว่าจะซ่อนไม่ให้นายรู้นะ……”
วู่หยานยกมือลูบหัวอย่างอึดอัด เขามีฟังก์ชั่นตรวจสอบของระบบเลยสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของเฟยเฟยได้
“แต่…..” เฟยเฟยมองสำรวจตัววู่หยานขึ้นๆลงๆอย่างใคร่รู้ จากนั้นก็หันมาจ้องลึกเข้าไปในนัยน์ตาสีแดงฉานของเขา “…..ดูเหมือนว่านายจะเปลี่ยนไปมากเลยนะ……”
วู่หยานหัวเราะแหะๆแล้วหลบสายตาเธอ เนื่องจากไม่รู้จะอธิบายยังไง เพราะเขาไม่รู้ว่าในโลกซิลวาเลียมีแวมไพร์รึเปล่า
ถ้าเขาเธอว่าเพราะตนเปลี่ยนเผ่าเป็นแวมไพร์ตาเลยเป็นสีแดง เฟยเฟยคงได้งุนงงตาแตกแน่……..
“เฮ้ๆ! อย่าลืมฉันสิ!!”
ลูลู่ ร้องออกมา เธอที่คลานขึ้นมาจากพื้นได้แล้วก็พูดด้วยความไม่พอใจ “คนอื่นเค้าหกล้มนอนกองกับพื้นแท้ๆ แต่พวกนายกลับมาคุยกันออกรสแบบนี้ ฮึ้ม! แล้งน้ำใจจริงๆ!”
วู่หยานกับเฟยเฟยมองหน้ากันจากนั้นพร้อมใจกันแบมือ นี่ทำให้ลูลู่แค่นเสียงออกมาด้วยความไม่พอใจ จากนั้นวิ่งไปหาฮินางิคุกับมิโคโตะ
“มิโคโตะ! ฮินางิคุ! ไม่เจอกันตั้งนานแน่ะทั้งสองคน!!”
“ลูลู่ ไม่เจอกันนานเลยนะ……..”
ฮินางิคุกับมิโคโตะพูดทักทายเสียงอ่อน ราวกับว่าฉากเมื่อกี้ยังทำให้สองสาวอึ้งอยู่ ลูลู่ที่ไม่ได้ตระหนักเลยก็หันไปกวาดสายตามองรอบๆ
“เอ๊ะ? ไม่ใช่ว่ามีนักเรียนพิเศษสิบคนเหรอ? ทำไมไม่เห็นเลยล่ะเนี่ย?”
ได้ยินคำพูดลูลู่ เฟยเฟยก็จำเหตุผลที่ตนเองมานี่ได้ เธอหันไปพูดกับวู่หยานด้วยสีหน้าตื่นตัว
“หยาน ฉันมีเรื่อง……”
“อ๊ายยยย!!!!!!”
จู่ๆเสียงร้องของลูลู่ก็ดังขัดคำพูดเฟยเฟยทำสีหน้าตื่นตัวของเธอพังทลาย บนหน้าผากมีเส้นเลือดปูดออกมาบ่งบอกว่าเฟยเฟยโกรธแล้ว!
เมื่อหันไปมองตามเสียงสีหน้าโกรธๆของเธอก็ถูกแท่นที่ด้วยความช็อค!
ที่เธอเห็นก็คือ เด็กหญิงตัวน้อย ฟราน ที่วิ่งออกมาจากข้างในคฤหาสน์!
นัยน์ตาของลูลู่เปร่งประกายวิบวับทันทีจมันเป็นประกายเสียจนแทบจะกลายเป็นรูปหัวใจแล้ว! หลังจากห้องโถงเงียบไปครู่หนึ่ง ลูลู่ก็กรีดร้องออกมาอีกครั้ง
“น่าร๊ากกกก!!!!”
สิ้นเสียง ลูลู่ก็ทะยานตัววิ่งปรู๊ดดไปตรงหน้าฟราน จากนั้นอุ้มขึ้นมากอดอย่างเมามัน!
“อื้อ อื้อ! อื้อ!”
ใบหน้าถูกกดจมลงบนหน้าอกใหญ่ ฟรานทำได้แค่สะบัดแขนขาไปมาอย่างสุดแรงปากก็ส่งเสียงอึดอัดทรมาน เห็นภาพนี้วู่หยานก็ยกมือขึ้นปิดตา
มันต้องเทพขนาดไหนถึงทำให้ แวมไพร์ที่ไม่แก่ไม่ตาย ส่งเสียงแบบนี้ได้?……
“ลูลู่! ปล่อยฟรานเร็วเข้า!”
ฮินางิคุกับมิโคโตะรีบวิ่งไปหาลูลู่จากนั้นพากันช่วยฟรานออกมาจากช่องแคบปีศาจ พอออกมาได้ฟรานก็ตัวสั่นหงึกๆดูท่าจะได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตพอสมควร ถ้าสองสาวไปช้ากว่านี้บางทีฟรานอาจจะได้ขึ้นสวรรค์จริงๆก็ได้………ง
“โถ่ อย่าขี้ตืดนักสิ ขอกอดหน่อยนะ ขอกอดๆ………” ลูลู่มองฟรานด้วยแววตาร้อนแรง
ฟรานรีบสับขาเล็กๆของเธอวิ่งไปหาวู่หยานเมื่อถึงตัวเขาเธอก็กระโดดเข้าอกเขา จากนั้นฟรานก็ฝังหน้าลงบนอกวู่หยานแน่นแล้วพูดออกมาขณะที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นไปด้วย
“โอนี่จัง…ผู้หญิงคนนั้น…นะ…น่ากลัว…แงงงง”
วู่หยานหัวเราะแห้งๆ ในใจอดตบมุขไม่ได้ สามารถทำให้ฟรานจังหวาดกลัวได้ขนาดนี้ ลูลู่เธอนี่มันบอสลับชัดๆ……..
ส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจ วู่หยานหันไปมองเฟยเฟยที่กำลังทำหน้าเสียดาย
“เน่ พี่เฟยเฟย อย่าบอกนะว่าคิดจะ ‘กอด’ ด้วยน่ะ?”
เฟยเฟยสะดุ้ง เมื่อได้สติเธอก็รีบถอนสายตาออกจากตัวฟรานแล้วหันหน้าไปมองทางอื่นอย่างกระอักกระอ่วน ทำให้ใกล้กัน ลูลู่ ฮินางิคุ และมิโคโตะ แอบขำ
เฟยเฟยหัวเราะแห้งๆ จากนั้นปั้นสีหน้าจริงจังมองวู่หยานอีกครั้ง……..
“หยาน ฉันมีเรื่องจะ……”
บางทีวันนี้อาจจะเป็นวันซวยของเฟยเฟยก็ได้เป็นได้ ครั้งที่สองเธอก็โดนขัดอีก ทว่าครั้งนี้ไม่ใช่ลูลู่ แต่เป็นอิคารอสที่ยืนอยู่ด้านหลังวู่หยานด้วยความห่างไม่ถึงครึ่งเมตร!
ในชั่วพริบตานัยน์ตาสีน้ำทะเลก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นสีแดง แม้ว่าพริบตาต่อมาจะเปลี่ยนกลับมาเป็นสีเดิม ทว่าเส้นแสงสีข้อมูลก็ยังคงปรากฏอยู่ในดวงตาอิคารอส
“มาสเตอร์คะ!”อิคารอสเงยหน้าใบหน้าไร้อารมณ์ขึ้นมองไปที่วู่หยาน แล้วพูดเสียงนุ่มว่า “….มีศัตรู……..”
“ศัตรู?”
วู่หยาน ฮินางิคุ และมิโคโตะ พูดออกมาพร้อมกันราวกับยังตามเรื่องราวไม่ทัน มีเพียง เฟยเฟย ที่สีหน้าจมดิ่งลง ก่อนจะพูดอย่างจนปัญญาว่า
“ดูเหมือนว่าจะ…ไม่ทันสินะ…..”
ได้ยินวู่หยานก็ขมวดคิ้ว แล้วหันไปถาม “พี่สาวเฟยเฟย อย่าบอกนะว่าพี่รู้ว่าไอ้ ‘ศัตรู’นี่เป็นใครน่ะ?”
เฟยเฟยพยักหน้าก่อนจะส่ายหน้าต่อ นี่ทำให้บนหัวของ วู่หยาน ฮินางิคุ และมิโคโตะ เกิดเครื่องหมายคำถามลอยขึ้นหลายอัน
“เอ่อ…ตกลงรู้หรือไม่รู้กันแน่?” ฮินางิคุรู้สึกพูดไม่ออก
“พี่เฟยเฟย อย่าบอกนะว่าเป็น……” ลูลู่จับมือเฟยเฟยด้วยสีหน้ากังวล แม้แต่ยัยทึ่มลูลู่ก็ดูเหมือนจะรู้ว่าศัตรูเป็นใคร
คิ้วที่ขมวดอยู่แล้วได้ขมวดแน่นกว่าเดิม วู่หยานจ้องไปที่เฟยเฟยกับลูลู่ “ตกลงมันยังไงกันแน่ พี่สาวเฟยเฟย……..”
เฟยเฟยลังเล “จริงๆฉันก็ไม่รู้ว่าใครมา แต่ที่รู้แน่ๆก็คืออีกฝ่ายไม่ได้มาดี!”
ได้ยินวู่หยานนิ่งไปไม่กี่วิก่อนจะยักไหล่ “ก็นะถึงจะคิดไว้อยู่แล้วว่า Silvaria World Academyมันไม่ได้สงบสุข แต่ที่คิดไม่ถึงคือจะมาเร็วขนาดนี้ ตั้งแต่ตอนเลือกคฤหาสน์จนถึงตอนนี้มันเพิ่งผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยมั้ง?…….”
เฟยเฟยฝืนยิ้ม “ครึ่งชั่วโมงก็ถือว่ามาช้าแล้วนะ นายยังไม่ได้ตระหนักถึงสถานการณ์ใน Silvaria World Academyไม่งั้นนายจะไม่แปลกใจแบบนี้”
จากนั้นเฟยเฟยก็พูดใส่วู่หยานด้วยจริงจัง “นายจะทำยังไง? หยาน…….”
ได้ยิน มุมปากวู่หยานก็โค้งขึ้น
“ในเมื่อถูกอิคารอสตัดสินว่าเป็นศัตรู งั้นไอ้แขกคนนี้มันก็ไม่ได้มาเพื่อทักทายแน่ล่ะ ถ้างั้นเรามา….เล่นมันกัน!!”