บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ! – ตอนที่ 311 เรื่องราวภายในโรงเรียน! และขุมอำนาจต่างๆที่เริ่มเผยตัวออกมาล่ะ!

บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ!

SGS บทที่ 311 – เรื่องราวภายในโรงเรียน! และขุมอำนาจต่างๆที่เริ่มเผยตัวออกมาล่ะ!

ตอนที่ได้ยินเสียงคนผู้นี้ แต่ล่ะคนก็มีสีหน้าแตกต่างกันออกไป บิงเมียนหน้ามืดครึ้ม ลูลู่และเฟยเฟยโล่งอก ส่วนวู่หยานั่นแยกเขี้ยวยิ้มหัวเราะ

เหตุผลก็คือเจ้าของเสียงเป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาเขานั้นเอง………

‘ฮิวจ์’ คนที่ไม่ได้พบกันเสียนาน อีกฝ่ายสวมชุดสีขาวน้ำเงินของนักเรียนหัวกะทิกำลังเดินนำกลุ่มคนที่มีจำนวนไม่น้อยไปกว่าด้านบิงเมียนเลย ในหมู่คนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนหัวกะทิและมีสิบคนที่เป็นนักเรียนพิเศษ!

มองภาพนี้วู่หยานก็หัวเราะเสียงหึๆอีกครั้งด้วยความตั้งใจยั่วยวน! ทั้งที่มัน ฮิวจ์ เป็นแค่นักเรียนหัวกะทิแต่กลับเดินนำแรงค์7สิบคน จากจุดนี้ก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นพวกชอบหยิบยืมอาศัยพวกพ้องที่แข็งแกร่งมารังแกคนอ่อนแอ!

และความจริงมันก็ไม่ได้หนีไปไกลจากการคาดเดาของวู่หยานเลย เมื่อนักเรียนพิเศษทั้งสิบเห็นลูลู่กับเฟยเฟยต่างก็ทอดทิ้งฮิวจ์ไปทันที จากนั้นวิ่งมายืนเรียงแถวอยู่ด้านหลังสองสาวราวกับเป็นองครักษ์ผู้ภักดี!

เฟยเฟยหันไปพยักหน้าให้กับพวกเขา ดูเหมือนว่าผู้นำที่แท้จริงของ ป่าแห่งความตาย จะเป็นลูลู่ไม่ใช่ฮิวจ์!

“แก!”

เห็นวู่หยาน สีหน้าฮิวจ์ก็ดำคล้ำขึ้นทันทีในแววตาปรากฏความเคียดแค้นอย่างหนาแน่น ต่อให้อีกฝ่ายตายไปเหลือแต่ขี้เถ้าเขาก็จะไม่มีวันลืมใบหน้านี้(วู่หยาน)เด็ดขาด…..

เมื่อสังเกตเห็นวู่หยานยืนเคียงข้างกับเฟยเฟยและลูลู่ หน้าฮิวจ์ก็ยิ่งดำขึ้นไปอีกหลายส่วนมือกำเป็นหมัดแน่น ในใจคิดอยากจะพุ่งเข้าไปฆ่าวู่หยาน!

ทว่าน่าสงสาร เมื่อความคิดนี้โผล่ขึ้นความทรงจำตอนที่วู่หยานกับเฟยเฟยสู้กันอย่างดุเดือดก็ได้ฉายขึ้นในใจเขาอย่างรวดเร็วราวกับโดนน้ำเย็นสาดเข้าหน้า ความคิดเข่นฆ่าเมื่อกี้ได้โดนโยนทิ้งไปทันใด……

บิงเมียนได้ยินฮิวจ์เรียกวู่หยาน ในใจเขาก็ร่ำร้องว่า ‘แย่แล้ว’ ขึ้นตอนนี้เขาแทบจะมั่นใจเต็มสิบส่วนแล้วว่าหน้าใหม่พวกนี้เห็นทีจะเป็นคนรู้จักของเฟยเฟยจริงๆ

ถ้างั้น….อีกฝ่ายก็ไม่มีทางเข้าร่วมกับตนแน่!

วู่หยานยิ้มอ่อน ตอนที่เขาคิดจะเปิดปากพูดอะไรนั้นเขาก็เห็นอิคารอสกำลังมองมาที่ตนด้วยนัยน์ตาเรืองแสงเล็กๆ

“โอ้? ไม่คิดเลยนะว่า ป่าแห่งความตาย กับ ธารเหมันต์ จะเคลื่อนไหวเร็วขนาดนี้ นี่พวกฉันคงไม่ได้มาสายไปหรอกนะ? ฮ่า!ฮ่า!”

หนุ่มหล่ออายุราวยี่สิบห้าในเครื่องแบบขาวทองเดินนำกลุ่มคนมา เขาฉีกยิ้มมองเฟยเฟยกับบิงเมียน จากนั้นหันไปมองวู่หยาน

บิวท์ เล่อร์ดีน : เลเวล66

ไม่รู้ว่าวันนี้เฟยเฟยขมวดคิ้วไปกี่ครั้งแล้ว ถอนหายใจ เธอพูดอย่างเหนื่อยๆ “ไม่คิดเลยว่าแม้กระทั้ง…นายยังมา….”

“ตระกูลสูงศักดิ์อันดับสามของจักวรรดิไอย์ลู่ ตระกูลเล่อร์ดีน ว่าที่ผู้รับสืดทอดต่ำแหน่งผู้นำตระกูลและผู้นำของขุมกำลัง ปฐพีสีชาด บิวท์ เล่อร์ดีน!!”

ได้ยินวู่หยานก็ยกมือขึ้นมากุมคาง เรื่องมันชักจะน่าสนุกขึ้นเรื่อยๆแล้ว ตระกูลชั้นสูงสามอันดับแรกได้มาประจักหน้ากันแล้ว!

บิวท์ ยิ้ม เมื่อเห็น ฮินางิคุ มิโคโตะ และ อิคารอส สีหน้าแรกเขาคิดตกใจ ในแววตาเกิดละลอกคลื่นขึ้น แต่สุดท้ายเขาก็ทำแค่พยักหน้าด้วยความชื่นชม

“ได้ยินมาเหมือนกันว่านักเรียนพิเศษคราวนี้มีสาวงามอยู่ คราแรก บิวท์ ผู้นี้ก็ไม่คิดเชื่อทว่าตอนนี้ได้เห็นกับตาก็ต้องเชื่อแล้ว! เป็นสาวงามหมดจดจริงๆ!”

ได้ยิน ฮินางิคุกับมิโคโตะก็เบิกตากว้างขึ้นทันที จากนั้นพยักหน้าให้บิวท์อย่างกระอักกระอ่วนโบกมือให้ไปทีสองที พอเสร็จสองสาวก็รีบหันหน้าไปทางอื่น กับโดนชมอย่างตรงๆแบบนี้ทั้งสองที่มีใบหน้าบางย่อมรู้สึกปรับตัวไม่ทันวางตัวไม่ถูก เห็นภาพนี้วู่หยานก็รู้สึกขบขัน

บิวท์ยิ้ม เขาไม่ใส่ใจท่าทางของสองสาว หันมองไปเฟยเฟยกับบิงเมียน เขายกมือขึ้นกอดแล้วพูดยิ้มๆ “ทั้งสองมาก่อนไม่ทราบว่ามีใครได้เชิญเด็กใหม่ไปบ้างหรือยัง? ถ้ายัง ปฐพีสีชาด ของเราก็ขอหน้าด้านหน่อยล่ะนะ…….”

ถึงตรงนี้ บิงเมียนก็หัวเราะ “บิวท์เอ่ยบิวท์ ฉันว่าครั้งนี้นายคงต้องผิดหวังแล้ว คนอื่นเป็นเพื่อนของเฟยเฟย แล้วจะมาเข้ากับพวกเราได้อย่างไง…….”

“เพื่อน?” บิวท์ตกใจ จากนั้นขมวดคิ้วแล้วแบมืออย่างอับจนหนทาง “ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้ามาก ช้าเกินไปจริงๆ………”

บิวท์หันไปมองวู่หยาน “ไม่ทราบว่านายชื่อ?”

วู่หยานไม่พูด ทำเพียงแต่ใช้นัยน์ตาสีแดงคู่นี้กวาดตามองผ่านบิวท์ไปยังอีกทางที่มีคนกลุ่มใหม่เดินเข้ามา……

ไม่! ไม่ใช่แค่นั้น! มีกลุ่มจำนวนมากเดินมาจากทุกทิศทาง พวกเขาคือขุมอำนาจใน Silvaria World Academy!

เยอะมาก! มาแบบมืดฟ้ามัวดิน! ดูราวกับเป็นคลื่นทะเลฝูงชนเลย!

พวกวู่หยานและคนอื่นๆต่างโดนล้อมสนิท! ไม่ว่ามองไปทางไหนก็เห็นแต่หัวคน!

ทว่าด้านหน้าสุดของคนพวกนี้เป็น….นักเรียนพิเศษ! นักเรียนพิเศษที่เดิมนั่นหายากสุดๆมาตอนนี้เกือบทั้งหมดได้มารวมตัวที่นี่แล้ว! พวกเขายืนเรียงกันราวกับเป็นกำแพงมนุษย์!

และผู้นำของกลุ่มคนมาใหม่พวกนี้ก็คือสี่ชายสองหญิงที่ยืนอยู่ด้านหน้า!

มองดูทั้งหกคน เฟยเฟยมีสีหน้าตื่นตัวเธอกำดาบภูตราตรีแน่น……..

“….มากันแล้ว…..”  รอยยิ้มบนใบหน้าบิงเมียนได้หายไป แทนที่ด้วยความกังวลเล็กๆต่อบุคคลทั้งหก

สีหน้าของ บิวท์ ค่อยๆดิ่งลง แล้วพูดด้วยความไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “แหม่ ขาดแค่คนของราชวงศ์ก็ถือว่ามาครบแล้วนะเนี่ย……”

เฟยเฟยพยักหน้าเห็นด้วย ทั้งจักวรรดิไอย์ลู่ ตระกูลโลลินั่นอยู่ต่ำกว่าตระกูลของราชวงศ์เท่านั้น นอกเสียจากคนของราชวงศ์ทั้งสามจักวรรดิ์ ตอนนี้ตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งเก้าจากสามจักวรรดิได้มารวมตัวกันแล้ว!

ชำเลืองมองวู่หยาน พอเห็นสีหน้าไม่ทุกข์ร้อนของเขา เฟยเยฟก็อึ้งในใจปรากฏความสงสัย เธอไม่คิดเลยว่าต่อหน้าขุมอำนาจมากมายขนาดนี้ เขายังจะยืนนิ่งทำเป็นเท่ได้อีก…….

กวาดมองสำรวจรอบๆ ถึงสีหน้าวู่หยานจะเรียบเฉยแต่ในใจเขากำลังสั่นน้อยๆ ไม่ใช่เพราะเห็นขุมอำนาจพวกนี้ แต่เป็นเพราะคนมันเยอะเกินไปต่างหาก!

ทั้งหมดนี่เป็นคนของเก้าตระกูลนั่นหมดเลย?…บัดซบ…มันไม่เยอะเกินไปหน่อยเหรอว่ะ? ถ้าเอาหมดนี้มานอนทับกันมันสร้าง๓เขาลูกย่อมๆได้เลยน้า……..

ตอนนี้ ฟรานได้ขมวดคิ้วแล้ว ถึงแม้พลังจะถูกผนึกแต่ฟรานก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงจิตชั่วร้ายจากผู้คนเหล่านี้ มันบ่งบอกว่าไอ้พวกนี้มันคิดไม่ซื่อ!

ฟรานดึงเสื้อวู่หยานแล้วพูดเสียงใสแจ่วว่า “โอนี่จัง ฟรานไม่ชอบคนพวกนี้เลยอ่ะ ฟรานขอพังให้หมดเลยได้มั้ยคะ?” (@ความชิฟหายมาเยือนฮ่าๆ)

ได้ยินวู่หยานก็หัวเราะแล้วยกมือวางบนหัวฟราน “ฟรานจังดูอยู่เฉยๆก็พอแล้วล่ะ คนพวกนี้มันยังไม่คู่ควรมาเป็นของเล่นให้ฟราน!!!”

ฟรานหันไปทางอื่นอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่ เธอมองดูเงียบๆอย่างเชื่อฟังคำพูดวู่หยาน ทันใดนั้นฮินางิคุก็เดินมาข้างกายแล้วยื่นมือมาทางฟราน

“ฟรานจังมาหาพี่สาวนะ อีกเดียวพี่ชายก็ต้องลงไปจัดการกับพวกนั้นยุ่งมากๆเลยนะ”

ฟรานหันไปมองวู่หยานที จากนั้นพยักหน้าอย่างว่าง่าย นี่ทำให้วู่หยานทั้งยินดีและแปลกใจ ดูเหมือนว่าจิตใจฟรานจะเริ่มทรงตัวแล้ว!

เฟยเฟยเดินมาตรงหน้าวู่หยาน เธอลังเลชั่วครู่แล้วพูดว่า “หยานนายรู้แล้วใช่มั้ยว่าพวกเขามาหานาย? แล้ว….นายคิดจะทำยังไงต่อ?”

นัยน์ตากลมโตอันงดงามจดจ้องวู่หยาน เฟยเฟยพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ถ้านายไม่มีทางแก้ปัญหา งั้นมาเข้าร่วม ป่าแห่งความตาย เป็นไง?”

ฟังเสียงจริงจังของเฟยเฟย วู่หยานก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงใช้น้ำเสียงนี้พูด? ดูเหมือนเฟยเฟยจะกลัวเขาคิดว่าเธอมาที่นี่เพื่อดึงตัวเขาเหมือนคนอื่น……

โง่จริงๆเลยน้า……..

แต่ความคิดเธอก็ใช่ว่าจะไม่ดี ถ้าพวกเขาเข้ากลุ่มเฟยเฟยงั้นทุกอย่างก็จบ แก้ไขปัญหาได้ง่ายๆ……….

หันไปมองฮิวจ์ที่กำลังถลึงตามองมาด้วยความเกลียดชัง วู่หยานก็หัวเราะ “พี่สาวเฟยเฟยไม่ต้องเป็นห่วงหรอก อีกอย่างฉันไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยกพวกมารุมทันทีเมื่อได้ยินว่าฉัน….ไม่เข้าร่วมกับใครน่ะ…..”

เฟยเฟยยิ้มขมขื่น “ฉันก็ไม่ได้กลัวเรื่องนี้หรอก ที่กลัวคืออีกฝ่ายจะมาชักใยอยู่เบื้องหลังบีบบังคับนายน่ะ เช่นมาบังคับนายให้ลงสนามประลองในหอคอย ถ้าถึงตอนนั้นล่ะก็…….”

“ถ้าถึงตอนนั้น!” วู่หยานพูดแทรกเสียงเข้ม

“ถ้าถึงตอนนั้น ฉันก็ไม่ได้ใจแคบให้กับความมีน้ำใจของอีกฝ่ายที่มาส่งแต้มให้ถึงที่หรอกนะ แล้วฉันก็ไม่ได้ใจแคบที่จะตบหน้าพวกมันสักหลายๆที่เป็นของขวัญด้วย!!!”

@ ฮิวจ์ อยู่ตอน124 ปัจจุบันแปลไป1400ตอน ถึงโลกสวนกล่อง เพจ ห้องสมุดคนรักนิยายแปล

บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ!

บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ!

Status: Ongoing
นี่คือเรื่องราวของ โอตาคุติดบ้านแสนธรรมดา ที่วันหนึ่งพอลืมตาตื่นขึ้นมา เขาพบว่าตัวเองได้มาอยู่กลางป่าในต่างโลก พร้อมระบบร้านค้าแสนจะกวนประสาท ที่ชอบข่มขู่ให้เขาต้องทำตามมัน หลังจากผจญภัยเสี่ยงชีวิตมามากมาย เขาก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะแข็งแกร่งขึ้น เพื่อที่จะปกป้องครอบครัวที่เขารัก แล้วใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ที่สดใสในต่างโลกให้ได้เลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท