SGS บทที่ 325 – พลังของผู้ครองบันลังค์สิบอันดับแรกล่ะ!
“นาย….จะรับคำท้าประลองของฉันมั้ย?”
เพียงแค่ประโยคเดียวก็ทำให้ผู้คนต่างส่งเสียงโห่ร้องกึกก้องออกมาด้วยความตื่นเต้น
“ท่านพี่!” บิงเมียนร้องเรียกทำท่าอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ไป่หลิงก็ยกมือห้ามไว้โดยที่สายตายังจดจ้องไปยังวู่หยาน บ่งบอกว่าคำพูดเมื่อกี้เขาเอาจริง!
ทางวู่หยานเมื่อได้ยินก็พึงพอใจทันที เพราะเขาจะได้ระบายความหงุดหงิดนี้กับมันซะ
ทันใดนั่นเองเฟยเฟยก็เข้ามากระซิบหูบอกบางอย่างกับเขา
“นายต้องระวังตัวนะ ไป่หลิงอยู่คนละระดับบิงเมียน ถึงแม้ทั้งสองจะเป็นแรงค์7เหมือนกัน แต่ไป่หลิงกลับสามารถไต่เต้ามาถึงบันลังค์อันดับที่9ได้!”
ได้ยินวู่หยานก็ไม่มีท่าทากังวลเลย กลับกันเขารู้สึกยินดีมาก อันดับ9สินะ? เลขสวยดีนี่ ตูขอล่ะนะ…….
ตอนนี้เอง มิโคโตะก็เอื้อมมือมากระตุกเสื้อวู่หยานด้วยสีหน้าตื่นเต้น “หยาน ตานี้ฉันขอลงนะ…..”
วู่หยานสะดุ้งก่อนจะรีบส่ายหัวปฏิเสธทันที ล้อกันเล่นแล้ว ให้พี่สาวเรลกันลงไปสู่เนี่ยนะ? ขืนปล่อยไปคนดูคงจะต้องหันมาวิ่งหลบกระแสไฟฟ้ากันจ้าละหวั่นแทนที่จะได้ดูดีๆแหงๆ บางทีอาจจะมีคนซวยโดนช๊อตสลบคาที่ด้วยก็ได้ เขาไม่อยากเห็นภาพพวกนั้นเลยจริงๆ
แน่นอนว่าการปฏิเสธนี่ย่อมทำให้สาวผู้บ้าคลั่งเกโคตะไม่พอใจ
“ทำไมอ่ะ? เถอะน่านะ…..”
“เอาน่า พอแล้วมิโคโตะ!” ฮินางิคุรีบดึงมิโคโตะเดินลงไปด้านล่างเวที “คนพวกนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ เพราะงั้นอย่าลงไปเลย……”
มิโคโตะดิ้นอยู่สองสามทีก่อนจะยอมโดนฮินางิคุลากไปด้วยหน้ามุ่ยแบบไม่พอใจสุดๆ ทำให้วู่หยานที่เห็นปากบิดเบี้ยวตาม พวกการต่อสู้การดวลกันอะไรเนี่ยเป็นของชอบของพี่สาวเรลกันรองจากเกโคตะเลยสินะ…….
สายตาของไป่หลิงมองตามหลังสาวๆไปจนกระทั่งพวกเธอเดินลงไปข้างล่าง จากนั้นเขาก็หันมาถามคำถามเดิมกับวู่หยาน
“นายจะรับคำท้าประลองของฉันมั้ย?”
วู่หยานยิ้มมุมปากพร้อมพยักหน้า และตามมาด้วยเสียงตะโกนดังสนั่นองผู้คนด้านล่าง
ผู้ครองบันลังค์อันดับเก้าจะเก่งกว่า? หรือเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามาได้สองวันจะเก่งกว่า? ความคิดนี้ทำให้ผู้คนหัวเราะลั่นด้วยความเมามันและตื่นเต้น!
บิงเมียนเดินกลับไปยืนด้านหน้าคนกลุ่มตนด้วยสีหน้าดำคล้ำ ดูเหมือนว่าการแพ้ให้กับวู่หยานจะทำให้เขาช็อคพอสมควร……
มองดูวู่หยานที่เป็นจุดศูนย์กลางความสนใจของทุกคน บิงเมียนก็กำหมัดแน่นพร้อมพูดพึมพำด้วยเสียงที่มีแค่เขาคนเดียวที่ได้ยิน “รอจนสิ่งนั้นในตัวแกทำงานก่อนเถอะ แกจะได้ไปขื่นชมชื่อเสียงโด่งดังนี้ในนรก!!”
อนิจจัง บิงเมียนไม่ได้รู้ตัวเลยว่าไอ้สิ่งนั้นตอนนี้มันได้เข้ามาอยู่ในข้างในตัวเองแล้ว……..
กรรมการมองผู้ท้าชิงทั้งสองก่อนจะชูมือขึ้นแล้วประกาศว่า
“เริ่มได้!”
พริบตานั้นบรรยากาศก็กลายเป็นตึงเครียดทันที! เสียงของกรรมการดุจเป็นชนวนจุดระเบิด!
“ตู้ม!”
คนที่เป็นฝ่ายเปิดก่อนเป็นไป่หลิง!
รอบตัวเขาได้แผ่ออร่าสีน้ำเงินที่แฝงไว้ไอเย็นออกมาพร้อมกับกระทืบเท้าพุ่งมาหาวู่หยานดุจดาวหางสีน้ำเงิน!
การตัดสินใจบุกก่อนและยังความเร็วนี้อีกทำให้วู่หยานแปลกใจ และยังทำให้เขาตื่นตัวขึ้นด้วย! เอาแค่ความเร็วเพียงเดียวบิงเมียนก็เทียบไม่ติดแล้ว!
ระยะห่างสิบเมตร เพียงลมหายใจเดียวก็ถูกย่นระยะเข้ามาใกล้แล้ว! เห็นแบบนี้พวกเฟยเฟยก็เริ่มกังวล
ทว่าเมื่อไป่หลิงเข้ามาในระยะสามเมตรก่อนถึงตัว วู่หยานก็ได้เคลื่อนไหว!
กระแสไฟฟ้าระเบิดออกบริเวณเท้าของวู่หยาน จากนั้นเขาก็ขยับเท้าวูบแล้วไปโผล่ด้านหลังห่างออกไปหลายเมตรราวกับเทเลพอต สร้างระยะห่างกับไป่หลิง
เห็นภาพนี้ใครหลายคนก็ได้ผุดลุกขึ้นยืนอย่างไม่รู้ตัวด้วยความช็อค
“เวทมนตร์ธาตุสายฟ้า!”
ทุกตะโกนเสียงดังด้วยความไม่อยากเชื่อ ต้องรู้ก่อนว่าในโลกซิลวาเรียเวทมนตร์กับปราณไม่สามารถอยู่ในร่างคนๆเดียวได้ นี่ถือว่าเป็นความรู้พื้นฐานที่สุดของโลกใบนี้ เรื่องนี้แม้แต่คนธรรมดาที่ไม่พลังอะไรเลยก็ยังรู้แล้วนับประสาอะไรกับเหล่าอัจฉริยะพวกนี้
ทั้งที่ก่อนหน้านี้วู่หนานสู้ระยะประชิดมาตลอด ทำให้ผู้คนคิดว่าเขาเป็นนักรบ แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้มีไฟฟ้าออกมาจากตัวเขาได้?!
อย่าบอกนะว่าไอ้เด็กใหม่คนนี้…..มันจะแหกกฎแหกคอกมันเอาทุกอย่างจริงๆ?
ในตอนนี้เองกรรมการแรงค์8ก็พูดออกมาด้วยสีหน้าลังเล “นี่…..น่าจะไม่ใช่เวทย์ธาตุสายฟ้า ยังไงพลังเวทย์และปราณก็ไม่มีทางอยู่ร่วมกันได้เด็ดขาด!”
ได้ยินแบบนี้ เฟยเฟยก็พูดขึ้นว่า “ถ้างั้นคุณจะอธิบายไฟฟ้าพวกนี้ยังไง?”
กรรมการตอบ “บางที่เด็กคนนี้อาจจะมีปราณพิเศษเหมือนของตระกูลไซโตะที่เป็นปราณน้ำแข็งก็ได้ ฮึ้มช่างซ่อนได้แนบเนียนเสียจริงนะ!”
ได้ยินคำอธิบาย หลายคนกูดูจะคล้ายตาม ในเวลานี้ไม่มีใครเลยว่าฮินางิคุกับมิโคโตะกำลังหน้าแดงก่ำตัวสั่นกึกๆพยายามห้ามตัวเองไม่ให้หัวเราะสุดชีวิต……..
คำอธิบายของกรรมการแน่นอนว่าสองพี่น้องไซโตะย่อมได้ยิน ไป่หลิงเพิ่มตื่นตัวขึ้นเป็นเท่าตัวทันที ส่วนบิงเมียนก็รู้สึกไม่ยินยอมอยู่เต็มอก…..
เพราะนี้มันบ่งบอกว่าก่อนหน้านี้วู่หยานไม่ได้เอาจริงเลย……
เห็นวู่หยานสามารถเคลื่อนย้ายออกไปได้อย่างง่ายๆ ไป่หลิงก็กลายเป็นระแวดระวัง ในฐานะที่เป็นอันดับสิบอันดับแรก เขาย่อมไม่ประมาทคู่ต่อสู้เหมือนน้องชายตนเอง!
ตอนนี้เองบนมือทั้งสองข้างก็ไป่หลิงก็มีมีดสั้นคู่ปรากฏออกมาเหมือนของบิงเมียน!
เห็นแบบนี้แววตาวู่หยานก็กลายเป็นเย็นชา บนมือปรากฏ นิเอโทโนะ โนะ ชานะ ขึ้นมา กับไป่หลิงเขาไม่กล้าประมาททำตัวเหมือนตอนบิงเมียน……
เมื่อทั้งสองฝ่ายหยิบอาวุธออกมา บรรยากาศก็หนักอึ้งขึ้นไปอีก หล่าคนดูต่างกลั้นลมหายใจตามองไม่กระพริบด้วยความกลัวว่าจะพลาดฉากต่อสู้เอาเร้าใจไป!
ทันใดนั้นไป่หลิงก็โผนตัวขึ้นข้างบนแล้วดิ่งตัวลงมาโดยที่เล็งมีดใส่วู่หยาน!
“เคร้ง!”
วินาทีต่อมามีดสั้นก็ปะทะกับนิเอโทโนะ โนะ ชานะ จนเกิดสะเก็ดไฟขึ้น! ไม่นานนักดาบ นิเอโทโนะ โนะ ชานะ ก็ถูกแรงกดจากทั้งมีดคู่ดันเข้าหาตัววู่หยาน!
เห็นแบบนี้ไป่หลิงก็ยิ้มเย็น ใช้แรงของวู่หยานที่กำลังต้านมีดตนเป็นแรงส่งดันตัวเองขึ้นไปบนอากาศอีกครั้ง จากนั้นพลิกตัวเตะใส่อากาศด้านหลังเป็นที่เหยียบส่งให้ตัวเองพุ่งเข้าไปหาวู่หยานอีกครั้ง! โดยที่ครั้งนี้เขาเล็งฟันไปที่คอ!
มีดแหลมคนที่ให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกใกล้เข้ามาทำให้วู่หยานขนลุกซู่
เผชิญหน้ากับการโจมตีไม่คาดคิด วู่หยานขมวดคิ้วแล้วปล่อยไฟฟ้าออกจากเท้าพร้อมถอยไปด้านหลังในเวลาเดียวกันก็เหวี่ยง นิเอโทโนะ โนะ ชานะ จากล่างขึ้นบนไปต้านมีดไป่หลิง!
จากจุดนี้จะเห็นได้ว่า วิถียุธอมตะ สมควรกับคำว่า ‘ไร้เทียมทาน’ อย่างแท้จริง!
ไป่หลิงแปลกใจไม่น้อยที่อีกฝ่ายตอบสนองรวดเร็วขนาดนี้ เขาบิดตัวหลบรอดไปด้านหลังวู่หยานดุจปลา
วู่หยานชักดาบกลับมาแล้วหันหลังกลับไปมองไป่หลิงที่ร่อนลงจอดห่างออกไปไม่ไกล
มองดูไป่หลิง วู่หยานหัวใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย!
นี่น่ะเหรอผู้ครองบันลังค์สิบอันดับแรกของ Silvaria World Academy ?
ในที่สุด…..ก็มีคนที่คู่ควรให้เราเอาจริงโผล่ขึ้นออกมาสักที……..
//ติดตามอ่านตอนล่วงหน้าได้ที่เพจเฟสบุ๊ค – ห้องสมุดคนรักนิยายแปล
ปัจจุบันมีทั้งหมด 1612 ตอน จุกๆ