บทที่ 5 ถังหลี่แสดงพลัง
เด็กอ้วนอายุประมาณสิบเอ็ดหรือสิบสองปียืนเท้าเอวขวางทางต้าเป่าไว้ เจ้าหมูน้อยคนนี้มีนามว่า เจ้าอ้วน เขาเป็นพี่ใหญ่ของเด็ก ๆ ในหมู่บ้านและชอบรังแกเด็กที่อายุน้อยกว่า ต้าเป่ามีสีหน้ามืดครึ้มลง เขาไม่อยากข้องแวะกับเจ้าอ้วนผู้นี้เลย เด็กชายเดินอ้อมไปอีกทาง แต่เจ้าอ้วนกลับยื่นมือออกมาขวางไว้ คว้าตะกร้าที่หลังของต้าเป่าแล้วกระชากจนเขาเกือบล้มคะมำ
“คื่นฉ่ายป่า?” ดวงตาของเจ้าอ้วนเป็นประกายเขาพูดอย่างเอาแต่ใจ
“ข้าชอบคื่นฉ่ายป่าที่สุด! พวกมันต้องเป็นของข้า!”
“ของข้า! เอามานี่นะ!!” ต้าเป่าปฏิเสธเสียงแข็ง
“ข้าชอบ! มันต้องเป็นของข้า เจ้าไม่ยอมก็เรื่องของเจ้า!” เจ้าอ้วนคว้าตะกร้าของเขาแล้วกระชากออกมาอย่างแรง ต้าเป่าพยายามอย่างหนัก เขาเหวี่ยงหมัดเล็ก ๆ ใส่เจ้าอ้วน แต่เจ้าอ้วนทั้งตัวใหญ่และตัวโตกว่าต้าเป่ามากนัก เขาคว้าคอหิ้วเด็กน้อยขึ้น ต้าเป่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพยายามจะกระชากตะกร้าของเขาไป ต้าเป่าจึงจับข้อมือของเจ้าอ้วนแล้วกัดลงไปอย่างแรง ตอนนี้เด็กชายดูราวกับหมาป่าตัวเล็ก ๆ ที่ขย้ำกัดเจ้าอ้วนเหมือนชิ้นเนื้อโอชะ!
“โอ๊ย!!” เจ้าอ้วนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและปล่อยมือออกจากตะกร้า ต้าเป่ารีบคว้าตะกร้าผักไว้แล้ววิ่งกลับบ้านอย่างเร็วรี่ เจ้าอ้วนเห็นดังนั้นจึงวิ่งกวดไล่ตาม แต่ด้วยร่างกายที่มีไขมันพอกจนอวบอ้วนไปทั้งตัวทำให้วิ่งตามอีกฝ่ายไม่ทัน
ต้าเป่าวิ่งหนีอย่างสุดแรง ระยะทางจากป่าถึงบ้านนั้นไกลพอดู กว่าจะเห็นรั้วบ้านอยู่ในสายตา เด็กน้อยถึงกับหอบ หายใจแทบไม่ทัน ใบหน้าแดงก่ำ เพราะการยุดยื้อตะกร้าของเจ้าอ้วนทำให้ผักคื่นฉ่ายส่วนใหญ่หล่นร่วงไป เหลืออยู่เพียงไม่กี่หยิบมือ สภาพของเขาดูสกปรกมอมแมมไปทั้งตัว น่าขายหน้ามาก… เด็กน้อยจึงแอบเดินไปที่บ่อน้ำเล็ก ๆ ในสวน
“ต้าเป่า” เสียงอ่อนโยนดังขึ้น ร่างเล็ก ๆ แข็งทื่อทันที เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น จึงเห็นมารดายืนอยู่ที่หน้าประตูบ้าน ต้าเป่าขบเม้มริมฝีปากก้มศีรษะหลบหน้าอีกฝ่าย หากมารดาเห็นเขาในสภาพนี้คงจะดูแคลนว่าเขาเป็นลูกคนป่าเถื่อนไร้การอบรม และคงไม่รักต้าเป่าแล้ว…?
“ ต้าเป่า เจ้าเก็บคื่นฉ่ายป่าพวกนี้มาหรือ? เจ้าเก่งมากจริง ๆ” เสียงพูดอย่างนุ่มนวลอ่อนโยนดังขึ้นมา เด็กน้อยนิ่งขึง
ท่านแม่ไม่ได้ดูแคลนเขาหรือ?
ถังหลี่ช่วยยกตะกร้าออกมาจากแผ่นหลังเล็ก ๆ จากนั้นก็จูงต้าเป่าไปที่บ่อน้ำแล้วล้างฝ่ามือและใบหน้าให้ เด็กน้อยร้องครวญด้วยความเจ็บทันทีที่น้ำโดนบาดแผล เมื่อถังหลี่เห็นแผลพุพองที่ฝ่ามือ นางจึงเป่าเบา ๆ
“ฟู่วว…ไม่เจ็บแล้วนะ” ต้าเป่าน้อยกลับไปเป็นก้อนแป้งขาวนุ่ม ๆ เด็กชายรับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนของผู้เป็นมารดา เขาสูดกลิ่นกายหอม ๆ ของถังหลี่แล้วคลี่ยิ้ม
ท่านแม่ใจดี…
หลังจากถังหลี่ดูแลลูกชายเสร็จสรรพดีแล้ว นางจึงเดินตรงกลับไปที่ห้องนอนและล้มตัวลงนอนอีกครั้ง ตอนนี้ร่างกายของเจ้าของร่างเดิมอ่อนแอมากเกินไป ต้องใช้เวลาพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้มากขึ้น แต่เวลาผ่านไปได้แค่ครู่เดียวเท่านั้น ถังหลี่ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกของผู้หญิงดังขึ้นหน้าบ้าน
“พวกเจ้า! ออกมาเลยนะ ข้าจะมาทวงความยุติธรรมให้เจ้าอ้วนลูกข้า ดูซิว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าอ้วนของข้า!!” เสียงตะโกนดังมากจนผู้คนในบริเวณนั้นให้ความสนใจ
“เกิดอะไรขึ้น? ฉินกุ้ยฮวา เจ้าอ้วนเป็นอะไรหรือ?”
“ดูแขนเจ้าอ้วนสิ ลูกชายบ้านเว่ยกัดลูกข้า!”
“ โอ้ย! รุนแรงเกินไปไหม? กัดจนเนื้อแทบจะหลุดออกมาแล้ว .. เจ้าเด็กนี่มันโหดเหี้ยมนัก! ”
“พวกเด็กที่ไม่มีแม่คอยสั่งสอนมันก็จะชั่วร้ายเช่นนี้แหละ!”
พวกเขานินทาว่าร้ายกันอย่างสนุกปาก ถังหลี่หงุดหงิดกับเสียงนกเสียงกาเหล่านั้น หล่อนกระแทกประตูออกอย่างแรง การสนทนาหยุดลงและทุกสายตาหันไปจับจ้องที่ถังหลี่
นางเป็นใครกัน?
พวกชาวบ้านได้ยินจากจางซิ่วเหนียงว่า เว่ยฉิงซ่อนภรรยาไว้ในบ้าน …หรือนี่จะเป็นภรรยาของเขา? สายตาห้าหกคู่จ้องมองไปที่ถังหลี่ แทบจะปกปิดความอยากรู้อยากเห็นไม่มิดเลยทีเดียว รูปลักษณ์ของถังหลี่ดูนุ่มนวล บอบบาง อีกทั้งยังดูอ่อนแออยู่มาก
ฉินกุ้ยฮวาเป็นหญิงหยาบกระด้าง เมื่อนางเห็นถังหลี่ก็รู้สึกว่าตัวเองได้เปรียบ ยิ่งทำให้ฉินกุ้ยฮวาผยองพองขนมากยิ่งขึ้น
“ถ้าเว่ยต้าเป่าบุตรชายเจ้าไม่ได้ทุบตีเจ้าอ้วนแล้วข้าจะมาที่นี่ด้วยเหตุใด?! เจ้าเป็นเมียของเว่ยฉิงใช่หรือไม่? ข้าเป็นมารดาของเจ้าอ้วน หากวันนี้ข้าไม่ได้รับคำอธิบายที่ดี ๆ แล้วละก็ ข้ากับเจ้าอ้วนก็จะไม่ไปไหน จะนั่งกินนอนกินอยู่หน้าบ้านเจ้านี่แหละ!!”
เป็นเพราะเสียงดังโวยวายของมารดาเจ้าอ้วน ทำให้เด็ก ๆ ทั้งสามออกมานอกบ้านเช่นกัน ต้าเป่ายืนกัดริมฝีปากใบหน้าของเด็กชายเริ่มซีดเผือดลง
แย่แล้ว..
ต้าเป่ามองไปที่แขนเปื้อนเลือดของเจ้าอ้วน ท่านแม่จะคิดว่าเขาเป็นเด็กไม่ดีและไม่ชอบเขา…หรือเปล่านะ?
มือน้อย ๆ ทั้งสองข้างกำแน่นและร่างกายของเด็กชายเริ่มสั่นเทิ้ม ถังหลี่มองไปที่ต้าเป่า
“ต้าเป่า ลูกได้กัดเขาหรือไม่?”
ต้าเป่าพยักหน้าอย่างยากเย็น
“เห็นไหม? เขายอมรับแล้ว มากัดลูกข้าแบบนี้ได้อย่างไร! มานี่ข้าจะตีเจ้าให้ตาย!!”
ฉินกุ้ยฮวาว่าก่อนจะถลาเข้าไปจะตีต้าเป่า เด็กชายยืนนิ่งไม่ไหวติง เขากำลังสับสน ถังหลี่ดึงต้าเป่าออกมาแล้วให้เด็กชายหลบอยู่ด้านหลังของตนเพื่อหลีกเลี่ยงการทำร้ายจากฉินกุ้ยฮวา
“ถึงลูกของเจ้าจะโดนต้าเป่ากัด แต่มันก็ต้องมีสาเหตุไม่ใช่หรือ? ถ้าลูกชายข้าเป็นคนเริ่มก่อน บ้านเว่ยก็ยินดีรับผิดชอบมีค่าปลอบขวัญให้และจะยอมก้มหัวขอโทษ แต่ถ้าหากเป็นเจ้าอ้วนมารังแกลูกชายข้าก่อน จนต้าเป่าต้องกัดเขาก็ถือได้ว่าเป็นการป้องกันตัว เจ้าเด็กอ้วนต้องขอโทษลูกข้า!!”
ฉินกุ้ยฮวาไม่คาดคิดว่าถังหลี่ที่มีรูปลักษณ์ดูอ่อนแอ จะสามารถต่อกรกับนางได้ นางเริ่มรู้สึกมึนงงเป็นอย่างมาก ต้าเป่าเป็นคนแรกที่เริ่มตอบโต้ออกมา
“ท่านแม่ข้าไม่ได้เริ่มก่อน เจ้าอ้วนขโมยผักที่ข้าเก็บมา! เขากระชากจนแขนข้าช้ำไปหมด”
ต้าเป่าพับแขนเสื้อขึ้น ท่อนแขนขาวกลายเป็นจ้ำ ๆ เขียวช้ำ เด็กชายน้ำตาคลอเบ้า เขาต่างหากที่เป็นฝ่ายถูกรังแกก่อน!
“แบบนี้ต้องเป็นลูกชายของเจ้าที่ต้องขอโทษลูกข้า!” ถังหลี่รุกคืบ
“ขอโทษเรื่องอะไร? ในเมื่อลูกชายข้าโดนกัดจนเลือดไหล ทำไมข้าต้องขอโทษ!” ฉินกุ้ยฮวาตะลึงเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเถียงข้าง ๆ คู ๆ
“ถ้าอย่างนั้น ข้าไปปล้นบ้านเจ้า เจ้าตีข้าจนบาดเจ็บ เจ้าต้องจ่ายเงินให้ข้างั้นสิ?”
“จ่ายบ้าอะไร!! ก็เห็น ๆ อยู่ว่าเจ้าเป็นขโมย โดนตีก็สมควรแล้ว!!”
“ใช่! มันก็เหมือนกันนั่นแหละ สมควรแล้วที่ลูกเจ้าจะถูกกัด!” ถังหลี่กล่าวทำให้ฉินกุ้ยฮวาตระหนักได้ว่าเมื่อสักครู่นี้นางหลุดปากพูดอะไรออกไป
“ภรรยาเว่ยฉิงพูดถูก ฉินกุ้ยฮวา เจ้าอ้วนไปขโมยของต้าเป่าก่อนไม่ใช่หรือ?”
“ใช่ เจ้าอ้วนมันเริ่มก่อน เจ้ายังจะไปหาเรื่องเด็กบ้านเว่ยอีกหรือ?”
ใบหน้าของฉินกุ้ยฮวาบูดบึ้ง เดิมทีนั้นนางเป็นคนดุร้ายอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้ใบหน้าของนางยิ่งดูน่ากลัวมากขึ้นกว่าเดิม อันที่จริงวันนี้นางตั้งใจจะมาเรียกร้องค่าเสียหาย ไม่คิดเลยว่าจะถูกตอกกลับมาแบบนี้ นางจ้องไปที่บุตรชายอย่างคาดโทษ เจ้าอ้วนหลบตามารดาด้วยความหวาดกลัว ถ้ากลับถึงบ้านจะตีเสียให้เข็ด!
กลุ่มแม่บ้านที่มุงออกันอยู่หน้าบ้านเว่ยก็แยกย้ายกันกลับไปจนหมด ถังหลี่รู้สึกถึงแรงกระตุกเบา ๆ ที่ชายเสื้อ เมื่อก้มมองลงไปนางเห็นต้าเป่ายืนอยู่ เด็กน้อยกำชายเสื้อถังหลี่ไว้แน่น ดวงตากลมโตของเขาจ้องมาที่นาง
“ขอบคุณขอรับท่านแม่” ต้าเป่าพูดด้วยน้ำเสียงแหบเครือ
ขอบคุณที่ปกป้องข้าและขอบคุณที่ท่านเชื่อมั่นในตัวข้า..
“ข้าเป็นมารดาเจ้า มันเป็นหน้าที่ที่ข้าต้องปกป้องเจ้า” ถังหลี่นั่งยอง ๆ ต่อหน้าบุตรชาย และลูบหัวเขาอย่างแผ่วเบา
หลังจากที่ได้อยู่ร่วมกันมาแค่สองสามวันเท่านั้น ถังหลี่ก็รู้นิสัยของเด็ก ๆ เหล่านี้อย่างลึกซึ้ง แม้ว่าต่อไปในภายภาคหน้าพวกเขาจะกลายเป็นวายร้ายยิ่งใหญ่ที่โหดเหี้ยม แต่ในเวลานี้พวกเขายังคงเป็นเพียงเด็กน้อยที่น่ารักและเชื่อฟังเท่านั้น
น้ำตาของต้าเป่าเอ่อคลอเต็มดวงตา เขาเคยอิจฉาเด็กคนอื่นที่มีแม่คอยดูแลและปกป้อง แต่ตอนนี้เขาก็เป็นเด็กที่มีแม่ด้วยเหมือนกัน
ข้าไม่อิจฉาพวกเจ้าอีกต่อไปแล้ว!