บทที่ 31 ฝันร้ายอีกครั้ง
ตอนนี้ขาของเว่ยฉิงอาการดีขึ้นมากแล้ว ชายหนุ่มสามารถเดินเองได้โดนไม่ต้องใช้ไม้ค้ำ แต่ก็ยังไม่หายสนิท เขามักจะมีอาการเจ็บเล็กน้อยและเดินกะเผลกอยู่ เว่ยฉิงรีบเดินไล่ตามถังหลี่
“ภรรยา จริง ๆ แล้วข้าอยากไปกับเจ้าด้วย…อยู่บ้านคนเดียวข้าเหงามากเลย”
“แล้วเจ้ายังจะหงุดหงิดอยู่อีกหรือไม่?”
“ไม่แล้ว ๆ ข้าไม่หงุดหงิด ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอยากลงโทษข้าไหมถังหลี่?”
“ลงโทษอะไร?”
“หรือจะทบต้นทบดอกไปตอนข้าหายสนิทแล้วก็ได้” ใบหน้าหยาบกร้านเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
เป็นการลงโทษที่ได้ผลประโยชน์อะไรขนาดนี้!
ช่างน่าโมโหเสียจริง!
ถังหลี่ไม่ต้องการคุยกับคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาอีกต่อไป หญิงสาวเดินหนี แต่ชายหนุ่มก็ยังคงเดินตามนางราวกับสุนัขตัวโต ๆ อย่างไร้ยางอาย
….
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ครอบครัวเว่ยยืนรออยู่ที่หน้าประตูบ้าน เด็ก ๆ ทั้งสี่คนยืนจับมือกันเรียงตามลำดับความสูง
“เมื่อไปถึงเมืองแล้ว พวกเจ้าต้องจับมือกันแบบนี้ ไม่อย่างนั้นหากมีคนมาลักพาตัวพวกเจ้าไป แม่จะหาพวกเจ้าไม่เจอ”
“ท่านแม่ ข้าจะเกาะท่านพี่แน่น ๆ! ไปกันเถิดข้าอยากเข้าเมืองแล้ว!” ถังหลี่บีบแก้มอวบอ้วนของซานเป่าและอุ้มเด็กหญิงขึ้นมา ทุกคนในครอบครัวขึ้นเกวียนเทียมวัวและมุ่งหน้าไปที่ตัวเมือง
เมื่อพวกเขามาถึงในเมือง เด็ก ๆ หลายคนเวียนหัวตาลายเมื่อเห็นผู้คนขวักไขว่ เขารู้สึกว่าทุกอย่างที่ได้พบเห็นมันช่างแปลกใหม่มาก ดังนั้นพวกเขาจึงพากันจ้องมองอย่างไม่วางตา ใบหน้าเล็ก ๆ ขึ้นสีระเรื่อด้วยความตื่นเต้น
ถังหลี่เป็นเป็นคนใจใหญ่ หญิงสาวซื้อทุกอย่างที่ลูก ๆ ชอบทั้งหมด ในไม่ช้า เด็ก ๆ ทั้งสี่คนก็เต็มไปด้วยข้าวของมากมาย เว่ยฉิงมองดูถังหลี่ที่ซื้อของให้เด็ก ๆ อย่างบ้าคลั่ง ชายหนุ่มรู้ว่ามันไม่ถูกต้อง แต่เขาก็รู้สึกอิจฉาเด็ก ๆ อยู่บ้างเหมือนกัน
เขายังไม่ได้อะไรสักชิ้นเลย ภรรยาลืมเขาไปแล้วหรือ?
ชายร่างกำยำรู้สึกห่อเหี่ยว เขาก้มหัวลงคอตกเหมือนสุนัขแก่ตัวหนึ่ง
“สามี ลองสวมรองเท้าคู่นี้สิ” รองเท้าคู่หนึ่งถูกส่งมาตรงหน้าเขา เว่ยฉิงเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาคมกริบฉายแวววิบวับเป็นประกายอย่างดีใจ ภรรยายังไม่ลืมเขา!
เว่ยฉิงเป็นช่ายหนุ่มร่างสูงใหญ่ อย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่า 1.95 เมตร ขนาดฝ่าเท้าของเขาใหญ่มาก ทำให้การหาซื้อรองเท้าที่พอดีเป็นไปได้ยากจริง ๆ หญิงสาวจึงเลือกรองเท้าที่มีขนาดใหญ่ ดังนั้นเว่ยฉิงจึงสวมมันได้พอดี เมื่อชายหนุ่มเปลี่ยนรองเท้าทั้งสองข้าง ถังหลี่ก็โยนรองเท้าคู่เก่าทิ้งทันที
“คู่นั้นมันพังแล้ว สวมคู่นี้ไปเสีย!” หญิงสาวว่า
เว่ยฉิงยิ้มรับแล้วพยักหน้า ชายหนุ่มเชื่อฟังนาง เห็นได้ชัดว่ารักและใส่ใจภรรยาของเขามากเพียงใด..
ดวงตาของถังหลี่กวาดมองไปที่ภาพลักษณ์ที่ดูโง่งมของเว่ยฉิง นางรู้สึกว่านับวันชายหนุ่มยิ่งดูเหมือนสุนัขเชื่องที่ดูโง่เง่ามากขึ้นเรื่อย ๆ
คนที่ดูซื่อ ๆ ต่อหน้าถังหลี่ผู้นี้น่ะหรือ จะเป็นจอมวายร้ายที่ฉลาดแกมโกง และโหดเหี้ยมอำมหิต? แต่ชื่อก็เหมือนกัน…ไม่น่าผิดฝาผิดตัวไปได้อย่างแน่นอน!
หลังจากที่เดินไปรอบ ๆ ตลาดกับครอบครัว ถังหลี่คิดได้ว่าในเมื่อนางอยู่ในตัวเมืองแล้ว อีกไม่นานก็จะเข้าเทศกาลปีใหม่ นางควรเข้าไปหาไป๋มู่หยางเพื่อทำความเคารพและอวยพรปีใหม่แก่เขา เพราะตอนนี้ไป๋มู่หยางเปรียบเสมือนเทพเจ้าผู้มั่งคั่งของถังหลี่
ถังหลี่ให้เว่ยฉิงและลูก ๆ รออยู่ในร้านอาหาร ซื้อซาลาเปาอร่อย ๆ ไว้ให้พวกเขากิน ก่อนจะเดินทางไปที่จวนสกุลไป๋ ยามนี้ที่จวนไป๋มีโคมคู่แขวนอยู่ด้านหน้า ราวกับรอต้อนรับนาง
ถังหลี่เคยมาเยือนจวนสกุลไป๋แล้วครั้งหนึ่งทำให้บ่าวรับใช้จำหน้านางได้ เขาพาหญิงสาวเข้าไปในห้องรับรอง ไป๋มู่หยางสวมอาภรณ์จิ้งจอกหิมะสีขาวเช่นเดิม ใบหน้าของชายหนุ่มซีดเซียว เขามีอาการไอเล็กน้อย
“นายท่านไป๋” ถังหลี่ทักทายชายหนุ่ม
“ถังถัง เจ้าจะทักทายแต่มู่หยางหรือ ข้าเป็นอากาศธาตุสำหรับเจ้าหรือ?” ชายหนุ่มรูปงามข้างไป๋มู่หยางบ่นพึมพำ
ถังหลี่ไม่อยากจะพูดคุยกับฮั่วจีว์นัก แต่ไป๋มู่หยางอยู่ที่นี่ด้วย และเขาก็เป็นสหายที่สนิทของชายหนุ่ม
“สวัสดีเจ้าค่ะ” นางเอ่ยทักทายเขา
ฮั่วจีว์ยิ้มรับและกล่าวว่า
“ถังถัง ตอนนี้อากาศหนาวเย็น อีกทั้งลมหนาวก็พัดแรงยิ่ง หากคราวหน้าเจ้าจะเดินทางเข้ามาในเมือง ข้าจะให้รถม้าไปรับเจ้านะ”
“ไม่จำเป็นหรอก ข้าชอบอากาศหนาว” ถังหลี่กล่าว แต่ก่อนที่ฮั่วจีว์จะพูดอะไรต่อ หญิงสาวหันศีรษะไปหาไป๋มู่หยางและกล่าวกับเขาว่า
“นายท่านไป๋ วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่า และคนในครอบครัวของข้ามีไม่มาก ข้าเลยนำผลผลิตจากบนเขามาให้ท่านลองชิมดู”
ถังหลี่หยิบห่อผ้าสองใบส่งให้ไป๋มู่หยาง ชายหนุ่มรับห่อผ้าไปและกล่าวว่า
“ขอบคุณแม่นางถัง ความคืบหน้าของถุงหอมเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
ถังหลี่บอกกล่าวกับไป๋มู่หยางเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันและสิ่งที่นางตั้งใจจะทำในอนาคต ไป๋มู่หยางพบว่าสตรีผู้นี้มีความคิดที่ชาญฉลาด และนางก็สามารถทำมันได้จริง นั่นทำให้เขาประหลาดใจในตัวถังหลี่ครั้งแล้วครั้งเล่า
“แม่นางถัง หากโรงงานผลิตถุงหอมของแม่นางสร้างเสร็จ ข้าขอไปดูได้หรือไม่?”
คำว่า ‘โรงงานผลิตถุงหอม’ เป็นคำใหม่ที่ชายหนุ่มเรียนรู้มากจากถังหลี่
“แน่นอน ไว้เป็นช่วงที่อากาศอบอุ่นกว่านี้จะดีกว่า”
“ตกลง”
ทั้งสองคุยกับสักพักและถังหลี่ตัดสินใจจะขอตัวลากลับ..
“นายท่านไป๋ ข้าขอถามคำถามส่วนตัวของท่านได้หรือไม่?”
“เชิญแม่นาง” ไป๋มู่หยางยิ้มและกล่าวอนุญาต
“ท่านมีความเกี่ยวของกับไป๋ซู่หยางหรือไม่?”
ในนวนิยายเรื่อง “เส้นทางสู่ฮองเฮา” ไป๋ซู่หยางถือได้ว่าเป็นหนึ่งในบทบาทสมทบฝ่ายชายที่สำคัญคนหนึ่ง เขาเป็นผู้นำของตระกูลไป๋ เป็นพ่อค้าที่ทำการค้ากับราชวงศ์ และร่ำรวยที่สุดในต้าโจว รวมถึง เป็นสุนัขรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของกู้อิ๋น
ไป๋ซู่หยางกดขี่ประชาชนและเก็บส่วยอย่างบ้าคลั่ง ถังหลี่ไม่แน่ใจว่ามีผู้คนที่ต้องตกระกำลำบากจากสิ่งที่เขาทำไปกี่ร้อยหลังคาเรือน… แต่ถึงอย่างนั้นไป๋ซู่หยางก็มีความจริงใจอย่างสุดซึ้งกับกู้อิ๋น หลังจากที่นางได้แต่งงานกับองค์ชายสาม เขาก็ยังเต็มใจจะอยู่เคียงข้างนาง เป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ เขาทุ่มเททรัพย์สมบัติทั้งหมดของตนเองให้กับกู้อิ๋นเพื่อผลักดันให้หญิงสาวขึ้นเป็นฮองเฮา ถือได้ว่าเขาเป็นบุคคลที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของกู้อิ๋นเลยทีเดียว
ไป๋ซู่หยาง และ ไป๋มู่หยาง ทั้งสองคนนี้ชื่อคล้ายกันมาก จนถังหลี่อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าพวกเขามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร หญิงสาวจึงได้ตัดสินใจที่จะถามออกไป
เมื่อชายหนุ่มได้ยินคำว่า ‘ไป๋ซู่หยาง’แววตาของเขาถึงกับมีร่องรอยของความเย็นเยียบพาดผ่าน ชายหนุ่มคลี่ยิ้มและตอบถังหลี่ไปว่า
“ไป๋ซู่หยางหรือ? เขาเป็นน้องชายของข้า”
ถังหลี่ : ???
หลังจากที่ได้พบสองเหตุการณ์ของเด็กน้อยที่จะเติบใหญ่เป็นถึงเสนาบดีช่วยงานในราชสำนัก และหมอในหมู่บ้านที่กลายเป็นหมออัจฉริยะที่จะมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วแคว้น ถังหลี่ดีใจมากที่ตอนนี้นางได้มีโอกาสทำการค้ากับพี่ชายของเศรษฐีที่มั่งคั่งที่สุด
ช่างน่าแปลกที่ไป๋มู่หยางในฐานะพี่ชายของเศรษฐีในอนาคต แต่ทำไมในนวนิยายต้นฉบับถึงไม่เอ่ยชื่อเขาเลย?
ถังหลี่เดินออกจากจวนตระกูลไป๋ด้วยความสงสัย
……..
จวนสกุลไป๋
ไป๋มู่หยางเอามือป้องปากและไอเบา ๆ
“มู่หยาง ข้ารู้สึกว่าถังถังไม่ชอบข้า”
“เจ้ารู้ตัวด้วยหรือ ?” ไป่มู่หยางเหลือบมองเขา
“นี่เจ้า…ยังเป็นเพื่อนข้าอยู่หรือไม่ ? ช่างโหดร้ายกับข้านัก” ฮั่วจีว์พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
“เหตุใดกันนะ? ปกติสตรีทุกคนล้วนชื่นชอบข้านี่!”
“เหตุใดนางต้องชอบเจ้าด้วยเล่า ? เจ้าอาจจะไม่มีสิ่งที่นางชอบก็เป็นได้”
ฮั่วจีว์ :….
วันนี้ข้ายังไม่ได้พูดจากับนางสักคำเลย…
……
ครอบครัวเว่ยกลับมาที่บ้านด้วยข้าวของเต็มไม้เต็มมือ ถังหลี่ซื้อทุกอย่างที่นางอยากได้ นางไม่สนใจเรื่องมูลค่าของมันเลย ตอนนี้หญิงสาวรู้จักกับเส้นสายของคนที่ร่ำรวยที่สุด และเมื่อโรงงานผลิตถุงหอมเปิดในปีหน้า ถุงหอมจะถูกผลิตขึ้นมาอย่างมากมาย และนั่นคือเงินสด ๆ ที่จะหมุนเวียนเข้ามาหานางนับกันไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียว!
ถังหลี่ตั้งหน้าตั้งตาคอยวันนั้น ..
แต่แล้วในค่ำคืนนี้หญิงสาวได้ฝันถึงบางอย่าง
หญิงสาวฝันว่านายท่านไป๋มู่หยางกำลังนั่งรถม้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง และทันใดนั้นเองก็ถูกกลุ่มโจรรายล้อม มีดในมือของโจรแทงเข้าที่ร่างกายของไป๋มู่หยาง ชายหนุ่มนอนจมกองเลือด ดวงตาเบิกโพล่งและสิ้นลมไป ด้วยความคับแค้น…
—————————————