บทที่ 66 อาบน้ำเย็น
“จะซื้อจะขายก็ไม่ใช่สักแต่จะเอ่ยวาจา เจ้าต้องเอาเงินมาวางให้เห็นด้วย ”
เถ้าแก่โจวและหลู่หยวนไม่คิดว่าหญิงสาวจะมีเงินมากมายตามที่กล่าวอ้าง นางอาจจะมาก่อกวนก็เป็นได้
“แม่นางหลู่ แค่เจ้าพยักหน้าข้าจะกลับไปนำเงินมา” ถังหลี่มองไปที่หลู่ชิงที่ยังดูสับสนอยู่
“นายหญิง…”
“ข้าพูดจริง เชื่อข้าสิ” ถังหลี่พูดด้วยใบหน้าจริงจัง
“เนื่องจากราคาที่แม่นางผู้นี้เสนอให้สูงกว่าราคาที่ข้าต้องการจะซื้อ เจ้าก็ขายให้นางเถอะ!” เถ้าแก่โจวกล่าวอย่างใจกว้าง
“เถ้าแก่โจว! คุณหนูอย่าเสียเวลากับคนอื่นเลย รีบทำสัญญาซื้อขายกับเถ้าแก่โจวโดยเร็วเถิด!” หลู่หยวนกล่าวอย่างจริงจัง
หลู่ชิงมองไปที่ถังหลี่อีกครั้ง
“นายหญิง..ท่านจะเก็บชื่อเป่าชิงเก๋อไว้จริงๆ ใช่หรือไม่?”
“ข้าสัญญา” ถังหลี่กล่าวด้วยความจริงใจ
“ตกลง ข้าจะขายให้ท่าน” หลู่ชิงกล่าวตกลงอย่างหนักแน่น
เถ้าแก่โจวเดินออกจากร้านไปทันทีที่ได้ฟัง เขามีความมั่นใจมาก ว่าท้ายสุดแล้วหลู่ชิงย่อมมากอดขาอ้อนวอนเขาอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นเขาจะกดราคาให้ต่ำกว่าเดิมอีก!
“คุณหนู ท่านคิดอะไรของท่านกันแน่? … ข้าไม่อยากสนใจท่านอีกแล้ว!” หลู่หยวนตบมือฉาดอย่างมีโทสะ ก่อนจะเดินออกจากร้านไป
“แม่นางหลู่ เจ้าพักผ่อนรออยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะกลับไปเอาเงินสักครู่”
หลังจากที่ถังหลี่พูดจบ นางก็พาเด็กทั้งสองคนกลับไปที่บ้าน ประมาณครึ่งชั่วยามผ่านไปหญิงสาวกลับมาอีกครั้งพร้อมกับเงินสดห้าร้อยตำลึง ทั้งสองคนทำหนังสือสัญญาเพื่อรับประกันอีกด้วยว่า หากไม่ได้รับอนุญาตจากหลู่ชิง จะไม่มีคนงานคนใดถูกเลิกจ้างเด็ดขาด และพวกนางจะรักษาชื่อเป่าชิงเก๋อไว้ดังเดิม
คำเสนอที่ถังหลี่ขอร้องคือต้องการให้หลู่ชิงช่วยนางบริหารจัดการเป่าชิงเก๋อ หลู่ชิงตอบตกลง ทั้งสองเดินทางไปหานายอำเภอเพื่อยื่นคำร้องเปลี่ยนเจ้าของผู้ถือครองเป่าชิงเก๋อด้วยกัน และหลู่ชิงได้รับเงินห้าร้อยตำลึงจากถังหลี่ หลู่ชิงถือเงินเอาไว้ในมือ นางรู้สึกราวกับฝันไป
ลูกค้าที่นางเคยช่วยเอาไว้ครั้งหนึ่ง..ในตอนนี้กลับมาช่วยนางซื้อกิจการเอาไว้ นี่เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายจริงๆ
“แม่นางหลู่ เจ้ากลับไปดูแลมารดาเถิด พรุ่งนี้ค่อยไปพบข้าที่เป่าชิงเก๋อ ”
หลู่ชวนพยักหน้ารับคำ
“นายหญิง ท่านไม่ต้องสุภาพกับข้ามากหรอก เรียกข้าว่าอาชิงเถิด”
“ได้สิอาชิง เจ้าเรียกชื่อข้าก็ได้ ”
“ข้าจะเรียกท่านว่าถังถังก็แล้วกัน” หลู่ชิงรู้สึกว่าชื่อนี้ช่างเหมาะสมกับหญิงสาวผู้นี้ยิ่งนัก ทั้งอ่อนหวานและอ่อนโยน ทั้งสองคนช่วยกันปิดประตูร้านเป่าชิงเก๋อก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน
……
ถังหลี่พาเด็กทั้งสองคนกลับมาที่บ้าน นางพบว่าประตูบ้านได้ถูกเปิดทิ้งเอาไว้อยู่แล้ว หญิงสาวรีบเข้าไปในบ้านทันที นางเห็นแผ่นหลังกว้างที่คุ้นเคยกำลังทำงานง่วนอยู่ในลานบ้าน
“ท่านพ่อ!” ดวงตาของเด็กทั้งสองเปล่งประกาย พวกเขารีบพุ่งเข้าไปหาผู้เป็นบิดาทันที เว่ยฉิงอุ้มเด็กทั้งสองขึ้นมา สายตาจับจ้องไปที่ภรรยาของตน
“ภรรยาข้ามาแล้ว พรุ่งนี้ข้ามีวันหยุดหนึ่งวัน”
ชายหนุ่มไม่ได้พบถังหลี่มาหลายวันแล้ว เขาคิดถึงนาง ชายหนุ่มจับจ้องนางอย่างไม่วางตา เขาทำอาหารเตรียมไว้เรียบร้อย เห็นได้ชัดว่าฝีมือการทำอาหารของเขาดีขึ้นมาก ดูก็รู้ว่าเขาตั้งใจทำเพียงใด ..
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เด็ก ๆ ไปอาบน้ำและเข้านอนอย่างเชื่อฟัง แน่นอนว่าพวกเขาตั้งใจจะไม่รบกวนเวลาส่วนตัวของบิดามารดา!
เมื่อลูกทั้งสองคนไม่อยู่แล้ว เว่ยฉิงรีบปิดประตูห้อง แล้วเดินตรงเข้าไปหาถังหลี่ เขาโอบกอดนางเอาไว้ในอ้อมแขน ฝังใบหน้าไว้ที่ซอกคอสูดกลิ่นหอมจากกายของหญิงสาว หากในสายตาของถังหลี่ เขาช่างเหมือนกับสุนัขตัวโตที่พยายามจะถูไถซอกคอของนาง
สองมือซุกซนคู่นั้นลูบคลำไปตามส่วนนุ่มนิ่มของหญิงสาว แต่ถูกถังหลี่หยิกเข้าให้ หญิงสาวพูดอย่างเคืองๆ
“เจ้าจะทำอะไร? ”
เว่ยฉิงหน้าร้อนเห่อรีบก็ชักมือกลับ ชายหนุ่มหันไปมองภรรยา ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววขุ่นเคือง ราวกับสุนัขตัวใหญ่ที่กำลังงอนเจ้าของ
“ภรรยา ..ข้าแค่คิดถึงเจ้า ”
เว่ยฉิงไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ตัวของเขานั้นไม่เคยสนใจชายตามองสตรีหน้าไหน เขาคิดเสมอว่าพวกนางเหล่านั้นช่างน่ารำคาญ แต่เมื่อเขาได้พบกับถังหลี่ ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะอยากทำเรื่องใกล้ชิดสนิทสนมกับนาง ชวนนางทำเรื่องเหลวไหลแบบนั้น!
“ภรรยา… ข้าทำอาหารไม่อร่อยหรือ? เจ้าถึงไม่มีรางวัลให้ข้า”
ถังหลี่มองสุนัขตัวใหญ่ตรงหน้าด้วยดวงตาที่อบอุ่น นางจุมพิตเบา ๆ ที่มุมปากบาง ๆ ของเขา ริมฝีปากของเว่ยฉิงมีเสน่ห์ ผิวของเขาเป็นกลายสีน้ำผึ้งจากแดดที่แผดเผา ดวงตาที่ลุ่มลึกสะท้อนอารมณ์ปรารถนา
เว่ยฉิงหันไปคว้าภรรยาเข้ามากอดแล้วจุมพิตนางอย่างล้ำลึก เขาเคล้าคลอเคลียนางไม่ห่างจนร่างกายชุ่มไปด้วยเหงื่อ ไอร้อนจากผิวกายของเขากระทบผิวนวลของหญิงสาวยามที่เขาโอบนางกระชับขึ้น
“เหม็น! เหม็นเหงื่อ เจ้าไปอาบน้ำก่อนเถิด” ถังหลี่ผลักเขาออก
“ภรรยา… เจ้าจะอาบกับข้าหรือไม่?” เว่ยชิงชักชวนอย่างมีเล่ห์ เพียงแค่นึกถึงภาพเหล่านั้น ก็ให้รู้สึกร้อนรุ่มราวกับเลือดจะไหลออกจากโพรงจมูก
“อ่างอาบน้ำบ้านเราคงไม่พอกับตัวเจ้าหรอก เจ้าไปยืนอาบน้ำเย็นที่ลานบ้านจะดีกว่าไหม?”
ถังหลี่กลอกตาก่อนตอบ เมื่อชายหนุ่มนึกภาพตาม อารมณ์คุกรุ่นของเขาก็หายวับไปกับตา
เว่ยฉิงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่า เขาจะต้องหาช่างไม้มาสร้างอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่พอที่จะจุคนได้สองคน ให้มีพื้นที่มากพอ! เว่ยฉิงถอดใจ เขาลุกไปอาบน้ำเย็นที่ข้างนอก เมื่อจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว เขาก็มุดเข้าไปในผ้าห่มก่อนจะคว้าตัวภรรยาที่แสนจะนุ่มนิ่มเข้ามาในอ้อมกอดของเขา
ถังหลี่รู้สึกว่าหมาป่าตรงหน้าเตรียมพร้อมที่จะขย้ำคอแล้วคว้านางมากินได้ตลอดเวลา
“สามี ข้าขอคุยอะไรกับเจ้าหน่อยได้หรือไม่?”
เสียงของถังหลี่นุ่มนวลอ่อนหวานราวกับน้ำผึ้ง ทำให้เว่ยฉิงรู้สึกอ่อนยวบ
“เจ้าว่ามา”
“เรายังไม่เข้าหอกันได้หรือไม่?”
“เพราะเหตุใดเล่าภรรยา? ข้าสัญญาว่าจะอ่อนโยนกับเจ้า ไม่ต้องกลัวนะ” เว่ยฉิงขมวดคิ้ว
“นั่น…นั่นเพราะว่าข้ายังเด็กอยู่” ถังหลี่กล่าว
อันที่จริงแล้วหญิงสาวยังหวาดกลัวอยู่เล็กน้อย ยิ่งตอนนี้ทั้งคู่นอนแอบแนบชิดกัน ถังหลี่สัมผัสได้ถึงน้ำหนักของสามีนาง ราวกับสุนัขพันธุ์ทิเบตัน[1]ยามโตเต็มวัย!
“หลังจากเข้าหอ พวกเราอาจจะมีลูกด้วยกัน…ข้ายังไม่พร้อมที่จะมีลูกตอนนี้” ถังหลี่หน้าแดงด้วยความขวยเขิน ตามจริงแล้วในวัยของนางตอนนี้ยังเป็นเพียงนักเรียนมัธยมปลาย และเว่ยฉิงถึงเขาจะดูเป็นชายฉกรรจ์แต่เขาก็อายุแค่ยี่สิบปีเท่านั้น ในยุคที่หญิงสาวจากมาพวกเขายังเป็นเพียงเด็กวัยรุ่นอยู่เลย ถังหลี่รับไม่ได้จริง ๆ ที่จะยอมรับว่าพวกเขายังเด็กและกำลังจะมีลูกด้วยกัน ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้นางมีบุตรบุญธรรมถึงสี่คน นางไม่มีกำลังพอจะเลี้ยงเด็กทารก อย่างน้อยก็ต้องรอจนกว่าเด็กทั้งสี่คนจะเติบใหญ่ขึ้น
เว่ยฉิงก้มศีรษะลงไปมองถังหลี่ที่แสนอ่อนโยนในอ้อมแขนของเขา ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะมีความต้องการมากแค่ไหน แต่…
เขาต้องเชื่อฟังภรรยา!
หากนางไม่เต็มใจเขาก็ไม่คิดจะฝืนใจนาง!
เว่ยฉิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ระงับเพื่ออารมณ์ปรารถนา
“ตกลง…ภรรยาเจ้าต้องรีบโตนะ”
น้ำเสียงของเขาอ่อยลงราวกับหมาป่าที่ไม่ได้กินเนื้อ ฟังดูน่าเวทนา!
“ภรรยา ขอข้าจูบเจ้าอีกทีได้หรือไม่?” ผ่านไปครู่หนึ่งเว่ยฉิงถามหญิงสาวอีกครั้ง
คราวนี้เป็นถังหลี่ที่เริ่มจูบเขาก่อน พวกเขาผลัดกันจูบไปมาไม่หยุด จนสุดท้ายเว่ยฉิงตัดสินใจออกไปอาบน้ำเย็นที่ลานบ้านอีกครั้ง
…………….
[1] ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ เป็นสุนัขสายพันธุ์โบราณ มีถิ่นอาศัยอยู่ทิเบต หรือบริเวณเอเชียกลางไปถึงประเทศอินเดีย