บทที่ 78 เจอคนทรยศ
ในอีกไม่กี่วันถัดมา โรงงานต่างเร่งมือทำงานกันอย่างเร่งด่วน โดยที่ถังหลี่รับปากว่าหากเสร็จสิ้นคำสั่งซื้อนี้แล้วล่ะก็ทุกคนจะได้รับเงินพิเศษเพิ่ม
ใครเล่าจะไม่ต้องการเงินที่เพิ่มมากขึ้น?
ดังนั้นคนงานทุกคนจึงมีแรงจูงใจอย่างมากในการเร่งมือทำงาน
ถังหลี่และหลู่ชิงนอนหลับพักผ่อนในห้องทำงาน ทั้งสองลงมือควบคุมกระบวนการผลิตและคุณภาพด้วยตัวเอง ก่อนจะเข้านอนพร้อมกันที่ร้านในตอนกลางคืน เมื่อทั้งคู่คิดถึงเงินจำนวนมากที่กำลังจะได้รับ ทำให้หญิงสาวทั้งสองมีพลังล้นเหลือ พวกเขายังเป็นคนหนุ่มสาวที่เปี่ยมไปด้วยพลังอย่างล้นเหลือแม้แต่ตอนกลางคืนพวกนางก็ยังไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย
ถังหลี่และหลู่ชิงนอนคุยกันเล็กน้อย
“ถังถัง เจ้ารู้จักกับสามีได้อย่างไรหรือ? ” หลู่ชิงถาม
“เขาช่วยข้าไว้น่ะ” ถังหลี่กล่าว
“เจ้าชอบอะไรในตัวของเขามากที่สุดหรือ? ” หลู่ชิงถามต่อ หญิงสาวอยากถามถังหลี่เรื่องนี้มานานแล้ว
ถังถังคนที่แสนบอบบางน่าทะนุถนอม สามารถแต่งงานกับผู้ชายที่ดูหยาบกระด้างได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้นหลู่ชิงรู้สึกว่าถังถังนั้นดีมาก นางสมควรได้แต่งงานกับชายหนุ่มรูปงาม นางเป็นคนที่ฉลาดมาก ดังนั้นหญิงสาวต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง เช่นนั้นแล้วชายหนุ่มผู้นี้อาจจะมีอะไรที่พิเศษก็เป็นได้
เว่ยฉิงมีอะไรดีนะ?
ถังหลี่คิดถึงชายหนุ่ม
“เขาหรือ? หยาบคาย อำมหิต ใจร้อน ไม่มีความอดทน…” หลังจากดูสิ่งที่พูดแล้ว ดูเหมือนว่าจะเกณฑ์การเลือกคู่ครองของนางนั้นไม่ค่อยจะดีนัก
อย่างไรก็ตามถังหลี่ก็ยังชอบเว่ยฉิง
อย่างที่มีคนเคยกล่าวว่า เมื่อได้เจอคนที่ใช่ กฎเกณฑ์ทั้งหมดที่ตั้งไว้จะกลายเป็นเขาผู้นั้นนั่นเอง
ถังหลี่ยิ้มเล็กน้อยด้วยความเขินอาย
“ข้าบอกไม่ได้หรอกว่าตรงไหน…ตราบใดที่ยังเป็นเขา ข้าก็ชอบ”
หลู่ชิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนที่จะได้ยินเรื่องนี้ นางรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ไม่คู่ควรกับถังถังเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นในประโยคสุดท้ายนางจึงลอบกลอกสายตา
“ถังถัง ข้าไม่อยากรู้แล้วล่ะ”
……
ในชั่วพริบตาก็เข้าสู่วันที่สามของการผลิตชาดแดงซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย นั่นคือการกรองผงชาด และหลังจากขั้นตอนนี้เสร็จสิ้น ก็สามารถนำไปบรรจุใส่กล่องแล้วตากในที่ร่ม!
คนงานยุ่งตลอดจนถึงกลางเดือน ตอนนี้พวกเขาหยุดมือและเตรียมตัวจะกลับบ้าน ทุกคนเดินไปที่ประตูกลุ่มละสามหรือห้าคน
“เหล่าซู เป็นอะไรหรือ? ”
“ข้าปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ พวกเจ้ากลับไปก่อนเถิด”
เหล่าซูวิ่งเข้าห้องน้ำโดยเอามือกุมท้องไปด้วย
“ตกลงงั้นพวกข้ากลับก่อนนะ”
เหล่าซูกุมท้องของตนวิ่งเข้าไปในห้องน้ำและปิดประตู ก่อนจะเปิดประตูออกมาเมื่อไม่ได้ยินเสียงผู้คนภายนอกแล้ว แต่เหล่าซูไม่ได้กลับบ้าน เขาแอบเข้าไปในโรงงานอีกครั้ง
กฎการทำงานในโรงงานของเป่าชิงเก๋อนั้นเข้มงวดมาก ทุกคนจะมีหน้าที่ตายตัว เหล่าซูเข้าไปในห้องกรองเงียบ ๆ มองไปรอบ ๆ และเมื่อไม่เห็นใครเขาก็ผลักประตูเข้าไปแล้วปิดประตู ชายชราเดินไปยังถังขนาดใหญ่ที่บรรจุชาด ก่อนจะหยิบห่อบางอย่างออกมาจากอ้อมแขน ถึงจะเป็นเพียงห่อเล็ก ๆ แต่ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะหากเติมมันลงไป ชาดในถังนี้จะกลายเป็นของไร้คุณภาพทันที
เขากำลังรอโอกาสนี้
หากเขาทำตามคำสั่ง เหล่าซูก็จะได้รับเงินถึงสิบสองตำลึง
ความโลภวาบผ่านดวงตาของเขา
ในขณะที่เหล่าซูกำลังจะหย่อนผงในห่อลงไป มือของเขาก็บิดเบี้ยวก่อนที่เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจะตามมา!
“โอ๊ย!!!!”
ร่างของเหล่าซูถูกเตะจนกระเด็น เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นคนสองคนกำลังยืนอยู่เบื้องหน้า นั่นคือถังหลี่และหลู่ชิงนั่นเอง ใบหน้าของพวกนางบิดเบี้ยวไปด้วยความโกรธ ถังหลี่คว้าคอของเหล่าซูก่อนจะลากเขาออกไป ชายร่างใหญ่กลับถูกถังหลี่ลากไปราวกับไก่ตัวหนึ่งเท่านั้นเอง
“ซูโหย่วเถียน! เป็นเจ้านั้นเอง เป่าชิงเก๋อดูแลเจ้าอย่างดีเหตุใดจึงกล้าทำเช่นนี้!” หลู่ชิงตวาดถาม
ในขณะที่นางกำลังจะกลับห้องของตัวเองเพื่อพักผ่อน จู่ ๆ ก็ถูกถังหลี่ลากเข้าไปในห้องกรอง โดยบอกให้นางเฝ้ารอดูการแสดงดี ๆ
เป็นการแสดงที่ดีมากจริงด้วย!
ซูโหย่วเถียนทำงานในโรงงานมามากกว่าสิบปี เขาเป็นถึงผู้อาวุโสในโรงงาน ก่อนหน้านี้หลู่ชิงก็เย็นชากับพวกที่คิดไม่ซื่อกับเป่าชิงเก๋อ อยู่แล้ว แต่ในกรณีของเหล่าซูผู้นี้นางกลับเย็นชามากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
หากชาดแดงชุดนี้ได้รับความเสียหาย มันก็สายเกินกว่าที่จะเริ่มผลิตใหม่อีกครั้ง เมื่อถึงเวลานั้นก็จะเป็นการผิดสัญญาซื้อขาย ราคาของชาดแดงชุดนี้มีมูลค่าถึงหนึ่งพันตำลึง นั่นหมายถึงเป่าชิงเก๋อจะต้องจ่ายค่าชดเชยถึงสามพันตำลึง! หากเป็นเช่นนี้พวกนางจะหาเงินจากไหนไปเสียค่าปรับให้เฉินเย่!!
เพียงแค่คิดถึงเรื่องนี้หลู่ชิงก็เย็นวาบที่แผ่นหลัง
ยิ่งมองไปที่ซูโหย่วเถียน หลู่ชิงก็ยิ่งโกรธจนอยากเข้าไปกระโดดเตะซ้ำอีกครั้ง พวกหมาป่าตาขาว! เนรคุณ!
ซูโหย่วเถียนตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาคุกเข่าลงและอ้อนวอน
“นายหญิง! คุณหนู! ข้าหลงผิดไปชั่วครู่เท่านั้น ข้าไม่กล้าแล้วขอรับ!”
“หลงผิดหรือ? ข้าคิดว่าเจ้ากำลังฆ่าพวกข้ามากกว่า!”
หลู่ชิงไม่สามารถทนได้อีกต่อไป นางเตะไปที่ชายชราอีกครั้งจนซูโหย่วเถียนร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
“ถังถัง เราไม่สามารถเก็บพวกหมาป่าตาขาวไว้ในโรงงานได้!” หลู่ชิงกล่าว
“นายหญิง อย่าไล่ข้าออกเลย! ข้าไม่กล้าแล้วขอรับ!” ซูโหย่วเถียนอ้อนวอนขอความเมตตา ถังหลี่ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า
“ไม่เพียงแต่ถูกไล่ออกเท่านั้น เจ้าสมควรถูกส่งตัวไปให้เจ้าหน้าที่!”
ส่งเจ้าหน้าที่!?
คราวนี้ซูโหย่วเถียนเกือบจะหมดสติจากความหวาดกลัว ชายชราคุกเข่าลงต่อหน้าพวกนาง
“นายหญิงข้าผิดไปแล้วขอรับ ข้าไม่ได้ตั้งใจ มีคนบังคับข้า! ใช่แล้ว มีคนบังคับข้าขอรับ!”
“โอ้งั้นหรือ? …ใครบังคับเจ้าหรือ? ” ถังหลี่ถาม
“ใช่ขอรับ..หลู่ ..หลู่หยวน! เขาบังคับข้าขอรับ!” ซูโหย่วเถียนได้โอกาสรีบสารภาพทันที
“หลู่หยวน!? ” เมื่อหลู่ชิงได้ยินชื่อ ใบหน้าของนางก็ยิ่งดูน่ากลัวมากขึ้น มือของหญิงสาวกำเป็นหมัดแน่น หลู่หยวนเป็นบุตรชายบุญธรรมของบิดานาง เป็นเสมือนพี่ชายของหลู่ชิง เขาไม่เพียงแต่หายตัวไปในยามที่ลำบากเท่านั้น ตอนนี้ชายหนุ่มยังกลับมาแว้งกัดเป่าชิงเก๋ออีก!
ในยามที่ลำบากย่อมเห็นธาตุแท้ของผู้คนได้ดีที่สุด
“ถังถัง ส่งซูโหย่วเถียนกับหลู่หยวนไปหาเจ้าหน้าที่เถอะ” หลู่ชิงไร้ความปรานี
ซูโหย่วเถียนตกใจมาก เขารีบหันหลังกลับเตรียมจะวิ่งหนี แต่ก่อนที่เขาจะได้ก้าวเท้าต่อ ชายชราก็ถูกเตะจนทรุดตัวลงกับพื้นอีกครั้ง ตอนนี้เขาทำได้แต่เพียงคุกเข่าร้องขอความเมตตาเท่านั้น เหล่าซูโขกหัวกับพื้นจนหน้าผากเลือดไหล เมื่อถังหลี่เห็นเช่นนั้น นางจึงลูบคางตัวเองแล้วพูดว่า
“ซูโหย่วเถียน ในเมื่อเจ้าเสียใจจริง ๆ ข้าจะยังไม่ส่งเจ้าให้ทางการ” เมื่อหลู่ชิงได้ยินนางถึงกับตกตะลึงไป ปกติแล้วถังหลี่เป็นคนที่เด็ดขาดมากกว่านาง แต่เหตุใดนางถึงได้เลือกที่จะปล่อยซูโหย่วเถียนไป?
แต่ถังหลี่ย่อมมีเหตุผลที่ตัดสินใจเช่นนี้แน่นอน!
ซูโหย่วเถียนเหมือนเห็นทางสว่าง
“ขอบคุณนายหญิง ขอบคุณ! ขอบคุณมากขอรับนายหญิง!”
“ข้าจะยังไม่ส่งเจ้าให้ทางการในตอนนี้ แต่เจ้าต้องบอกหลู่หยวนว่าเจ้าได้ทำตามที่เขาสั่งเรียบร้อยแล้ว” ถังหลี่กล่าว
“นี่มัน…”
“หากไม่ทำล่ะก็ เจ้าก็ไปหาทางการกับข้าตอนนี้เลย!”
“นายหญิง ข้าฟังท่าน ข้าจะทำทุกอย่าง ได้โปรด ..อย่าส่งข้าให้ทางการเลยขอรับ!” ซูโหย่วเถียนรีบกล่าว
“ข้าให้โอกาสเจ้าครั้งเดียวเท่านั้น หากเจ้าเล่นกลละก็..”
“ข้าน้อยไม่กล้าแล้วขอรับ!”
หลังจากจัดการกับซูโหย่วเถียนแล้ว ถังหลี่และหลู่ชิงก็กลับไปที่ห้องของตน
“ถังถังเหตุใดเจ้าถึงยังเก็บซูโหย่วเถียนไว้? ” หลู่ชิงถาม
“ข้ารู้มาตลอดว่าหลู่หยวนอยู่เบื้องหลังความวุ่นวาย แต่เราจะไม่จับหุ่น เราจะจับคนที่กำลังเชิดเขาอยู่”
จากความฝันของถังหลี่นางจึงรู้ว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลัง ตอนนี้วิธีที่ดีที่สุดคือการรอคอยอย่างสงบนิ่ง
“ยิ่งไปกว่านั้น การที่เราให้พวกเขาเข้าใจว่าแผนการสำเร็จแล้ว ชาดของเราจะยังปลอดภัย ไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจจะทำลายมันด้วยวิธีอื่นก็เป็นได้”
หลู่ชิงคิดตามและรู้สึกว่าสมเหตุสมผลแล้ว
“ถังถัง ยังคงเป็นเจ้าที่คิดทุกอย่างได้ถี่ถ้วน ข้าแทบอยากจะลงโทษเขาทันทีด้วยความโกรธ…ข้าไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย”
หลู่ชิงได้เรียนรู้จากถังหลี่คือนอกจากจะอ่อนแอไม่ได้แล้ว ก็ยังห้ามหุนหันพลันแล่นอย่างเด็ดขาด ต้องคิดให้รอบคอบและตัดสินใจให้ดีที่สุด
“ไปนอนเถิด ดึกแล้ว” ถังหลี่กล่าว
หลู่ชิงพยักหน้าก่อนที่นางจะถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกแล้วเข้านอน
…
วันถัดไป
หลู่หยวนดักรอซูโหย่วเถียนระหว่างทางไปโรงงาน
“เหล่าซู เป็นเช่นไรบ้าง? ” หลู่หยวนถาม
“เรียบร้อยดีขอรับ”
“ไม่มีใครเห็นใช่หรือไม่? ”
“ไม่มีขอรับ”
หลู่หยวนได้ยินคำตอบที่น่าพอใจก็รีบเดินจากไปโดยไม่ทันที่จะสังเกตุเห็นความรู้สึกผิดที่ปรากฏบนใบหน้าของซูโหย่วเถียน
…………………..