บทที่ 80 แก้แค้น
เฉินเย่แทบไม่อยากจะเชื่อสายตา เถ้าแก่โจวเปลี่ยนสีเร็วเกินไปแล้ว!
ในที่สุดเขาก็ได้เห็นธาตุแท้ของเถ้าแก่โจวว่าเป็นคนเช่นไร? เป็นเพราะเขาหมกมุ่นราวกับผีบังตา โลภจนหน้ามืด ตาบอดหลงไปร่วมมือกับคนผู้นี้ได้!!
“เถ้าแก่โจว ท่านลืมไปแล้วหรือ ท่านเป็นคนขอให้ข้าซื้อชาดจากเป่าชิงเก๋อ!”
“ไร้สาระ! ข้าไปพูดเช่นนั้นเมื่อใด ไหนหนังสือสัญญา เจ้ามีหลักฐานหรือไม่? ”
“เจ้า…เจ้า..!”
“ไม่มีใช่ไหม ถ้าเช่นนั้นก็ควรรีบจ่ายเงินให้นางเสียเถอะ!”
เฉินเย่โกรธมากจนเกือบจะเป็นลม
“เถ้าแก่โจว เจ้ารังแกเถ้าแก่เฉินเช่นนี้ได้อย่างไร เห็นได้ชัดว่ามันคือความคิดของเจ้า แต่เจ้ากลับโยนมันให้เถ้าแก่เฉินเพียงคนเดียว โธ่…เถ้าแก่เฉินผู้น่าสงสาร!”
เมื่อเฉินเย่ได้ยินใครบางคนพูดขึ้นเขาก็แทบจะน้ำตาไหลเป็นสาย แต่เมื่อมองไปที่คนที่พูดแทนเขา สีหน้าก็เขาก็นิ่งงัน เพราะคนผู้นั้นคือถังหลี่!
“แม่นางเจ้าอย่ากล่าวหาข้านะ!” เถ้าแก่โจวชี้นิ้วไปที่ถังหลี่พูดอย่างโกรธจัด
“หากไม่มีหลักฐานข้าหรือจะกล้าพูด แน่นอนว่าเจ้าย่อมไม่อยากให้ผู้อื่นรู้ แต่สุดท้ายเจ้าก็พลาดทิ้งร่องรอยไว้เสมอ!”
การแสดงออกของถังหลี่เต็มไปด้วยความเย็นชา และดูเหมือนว่าเถ้าแก่โจวจะรู้สึกถึงความผิดปกติเล็กน้อย
หลักฐาน?
ร่องรอย?
หรืออาจจะเป็น…
ทันทีที่เถ้าแก่โจวหันศีรษะไป เขาก็เห็นกลุ่มคนหนุ่มที่เดินมาพร้อมกับคนผู้หนึ่ง เป็นหลู่หยวนนั่นเอง!
คนที่กำลังจับกุมหลู่หยวนก็คือฮั่วจีว์และสหาย
หลู่หยวนถูกนำตัวมาต่อหน้าบังคับให้นั่งคุกเข่า ถังหลี่มองหาซูโหย่วเถียน ชายชราลุกเดินออกมาทันที
“เมื่อห้าวันก่อนหลู่หยวนมาพบข้าก่อนจะนำห่อสีแดงมาให้และบอกให้ข้าใส่ลงไปในถังชาดของเป่าชิงเก๋อ! โดยนัดพบข้าที่ต้นไม้ทางทิศตะวันออกของเมือง!” ซูโหย่วเถียนชี้ไปที่หลู่หยวน
เมื่อเห็นว่าเรื่องถูกเปิดโปงแล้ว หลู่หยวนจึงรีบเอาตัวรอดโดยชี้ไปที่เถ้าแก่โจว
“เถ้าแก่โจวเป็นคนสั่งข้า เขาต้องการร้านเป่าชิงเก๋อ แต่ไม่อยากจ่ายเงิน! เขาจึงจ้องทำลายกิจการของเป่าชิงเก๋อซะ!”
ถังหลี่ลูบคางของตัวเองช้า ๆ
“เรื่องก็ชัดเจนถึงเพียงนี้ คนที่ชักใยเบื้องหลังคือเจ้าสินะเถ้าแก่โจว! เจ้าวางแผนให้เถ้าแก่เฉินมาสั่งชาดในราคาหนึ่งพันตำลึงกับร้านเป่าชิงเก๋อ แล้วเจ้าก็ให้หลู่หยวนหาทางทำลายมัน เมื่อสินค้ามีตำหนิก็ไม่อาจส่งตรงเวลาได้ พวกข้าต้องจ่ายค่าผิดสัญญาถึงสามพันตำลึง!”
ถังหลี่พูดได้ถูกจุดและตรงประเด็นจนยากที่เถ้าแก่โจวจะแก้ตัวได้
“เถ้าแก่โจวใจอำมหิตมาก! เขาต้องการเงินสามพันตำลึงที่แม้แต่สกุลมู่หรือสกุลไป๋ก็ไม่สามารถนำเงินสามพันตำลึงออกมาได้ชั่วพริบตาหรอก ”
“วิธีการทำลายเป่าชิงเก๋อเยี่ยงนี้ราวกับว่ากินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกด้วยซ้ำ! เลวบัดซบจริงๆ ”
“ว่ากันว่าพวกพ่อค้านั้นเจ้าเล่ห์เพทุบาย แต่เถ้าแก่โจวไม่เพียงแต่เจ้าเล่ห์เท่านั้น เขายังเป็นบุคคลที่เลวทรามมากอีกด้วย!”
“ก่อนหน้านี้มีคนกล่าวหาเป่าชิงเก๋อ ก็เป็นฝีมือของเถ้าแก่โจวหรือ?!”
“ย่อมเป็นได้ เขารังแกเด็กสาวทั้งสองคนจริง ๆ!”
ผู้คนเริ่มเข้ามามุงจนแน่นขนัด ทุกคนต่างชี้ไปที่เถ้าแก่โจวและกระซิบกระซาบกัน บางคนก็อยากจะถ่มน้ำลายใส่เขาเสียด้วยซ้ำ เขาตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์อย่างเซ็งแซ่
“เถ้าแก่โจว เถ้าแก่เฉิน พวกท่านสามารถพูดคุยเพื่อที่จะหาข้อตกลงในการชำระหนี้หนึ่งพันตำลึงได้” ถังหลี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม เถ้าแก่โจวหันหลังกลับตั้งใจจะเดินหนีไปแต่ถูกฮั่วจีว์ดึงลากกลับมาราวกับไก่
“เจ้าไม่ได้ยินที่น้องสาวข้าบอกหรือ? จ่ายเงินมาซะ!” เขาต่อยไปที่ท้องของเถ้าแก่โจวสองที จนเถ้าแก่โจวหน้าบิดเบี้ยวด้วยความจุก เขารีบร้องขอความเมตตา
“ตกลง ข้าจะจ่าย ข้าจะจ่าย!”
“เสี่ยวเฉินเจ้าเป็นคนเซ็นสัญญานะ จะปล่อยให้ข้าจ่ายคนเดียวหรือ!”
มาถึงตอนนี้เถ้าแก่โจวก็ยังลังเลที่จะจ่ายเงินถึงหนึ่งพันตำลึง คิดว่าคงจะดีกว่าหากเสียให้น้อยลงสักหน่อย!
ทั้งสองคนโต้เถียงกันไปมาจนเกือบจะทะเลาะกัน ในที่สุดเฉินเย่ก็ตัดสินใจว่าตนจะจ่ายเพียงสามร้อยตำลึงเท่านั้น! และเถ้าแก่โจวจ่ายเจ็ดร้อยตำลึง!
ซูโหย่วเถียนเป็นคนเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมด ทำให้ถังหลี่ตัดสินใจที่จะไม่ส่งเขาไปหาทางการ แต่ไล่เขาออก และนางส่งหลู่หยวนไปให้เจ้าหน้าที่ลงโทษ ชายหนุ่มตกใจจนน้ำตาไหลปนกับน้ำมูก เขาคุกเข่าอ้อนวอนต่อหน้าหลู่ชิง
“อาชิง เจ้าอย่าส่งข้าไปหาเจ้าหน้าที่เลย! ข้าเป็นพี่ชายเจ้านะ เราเป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้าอภัยให้ข้าได้ไหมขอแค่ครั้งเดียว!”
“ครอบครัว? เจ้าปฏิบัติต่อข้าอย่างไร ปฏิบัติต่อท่านพ่ออย่างไร? เป่าชิงเก๋อคือน้ำพักน้ำแรงของท่านพ่อ แต่เจ้าไปร่วมมือผู้อื่นเพื่อทำลายเป่าชิงเก๋อ! เสียแรงที่ท่านพ่อรักและเอ็นดูเจ้าราวกับลูกในไส้!”
หลู่ชิงกล่าวด้วยความโกรธ ไม่ว่าพี่บุญธรรมของนางจะอ้อนวอนอย่างไร หญิงสาวก็ไม่ได้แยแสเลยแม้แต่น้อย หลู่หยวนเปลี่ยนท่าทีจากความน่าสงสารมาเป็นโกรธแค้นแทน แววตาของเขาระอุไปด้วยโทสะที่ปะทุออกมา
“พวกเจ้าบอกว่าข้าคือคนในครอบครัว! แต่จะส่งข้าให้เจ้าหน้าที่ ไม่สนใจว่าข้าจะเป็นตายเช่นไร! เจ้าบอกว่านายท่านหลู่รักข้าเหมือนบุตรชาย แต่เขากลับมองดูข้าถูกทุบตีจนเกือบตาย! ไอ้พวกหน้าซื่อใจคด!”
“หลู่หยวน นั่นเป็นเพราะเจ้าเล่นการพนัน! ท่านพ่อจ่ายหนี้พนันแทนเจ้าไปเท่าไหร่แล้ว แต่เจ้าก็ยังคงหมกมุ่นอยู่กับมันไม่เลิก ท่านพ่อแค่อยากให้คนพวกนั้นเรียกสติเจ้า!”
“หลู่ซุ่นรวยมาก! เพียงแค่เงินไม่กี่ตำลึงเท่านั้น! สุดท้ายข้าก็เป็นเพียงแค่หมาตัวหนึ่งในสายตาของเขา! โยนเพียงเศษเงินเล็กน้อยมาเลี้ยงดูข้าสนองศีลธรรมอันสูงส่งของพวกหน้าซื่อใจคดเช่นพวกเจ้า!”
“เจ้า!! เจ้ากล้าพูดแบบนี้กับท่านพ่อได้อย่างไร!!” หลู่ชิงตัวสั่นด้วยความโกรธ!
บิดาของหลู่ชิงปฏิบัติต่อเขาดีมาตลอด เลี้ยงดูเขาอย่างดีราวกับบุตรชายแท้ ๆ แต่เขากลับหาว่าท่านพ่อเป็นพวกหน้าซื่อใจคด? บ้านข้าเลี้ยงหมาป่าตาขาวแบบนี้ได้อย่างไร!
ต้องสั่งสอน! เพียะ ๆ!
ถังหลี่ตบไปที่ใบหน้าของหลู่หยวนอย่างแรง!
“อาชิง พวกเนรคุณคนก็มีความคิดเช่นนี้แหละ เจ้าไม่จำเป็นต้องไปพูดคุยให้มากความ ตบสั่งสอนเป็นวิธีที่ดีที่สุด! ”
ถังหลี่ตบใบหน้าของหลู่หยวนไปอีกสองสามครั้ง จนเขามึนงงไปหมด
“เจ้าช่วยผู้อื่นจัดฉาก สร้างความลำบากให้เป่าชิงเก๋อของข้า นี่เป็นสิ่งที่เจ้าสมควรได้รับ”
ฮั่วจีว์เห็นมือบอบบางของน้องสาวเป็นสีแดง เขารีบก้าวออกมายืนข้างหน้านาง
“น้องเล็ก…ให้พี่จัดการแทนเจ้าเถอะ!”
ฝ่ามือของฮั่วจีว์หนักกว่าของถังหลี่มาก เพียงแค่ตบปากไม่กี่ครั้งหลู่หยวนก็ถึงกับกระอักเลือดหลังจากนั้นเขาก็หวาดกลัวมาก จนไม่กล้าเอ่ยปากขอความเมตตาอีกต่อไป
หลังจากนั้นฮั่วจีว์และสหายสองสามคนก็ลากเขาไปขังไว้ในบ้านร้างแห่งหนึ่ง
“พรุ่งนี้ส่งเขาไปหาเจ้าหน้าที่ซะ”
ฮั่วจีว์กับสหายของเขาพากันกอดคอไปดื่มฉลอง
…
กลางดึกคืนนั้น หลู่หยวนหาทางสะเดาะกลอนประตูออกมาจนได้ เขาเดินออกไปจากลานบ้านอย่างเงียบเชียบ แสงจันทร์ที่ส่องมากระทบ แลเห็นใบหน้าและจมูกของหลู่หยวนปูดบวมช้ำ แววตาของเขาเป็นประกายคั่งแค้น
” อยากส่งข้าไปให้ทางการหรือ? ดี! หลู่ชิง! เป่าชิงเก๋อ เจ้าต้องชดใช้ให้ข้า ในเมื่อตอนนี้ข้าไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ข้าจะจุดไฟเผามันเสีย! เจ้าจะได้ไม่เหลืออะไรเช่นกัน! ”
ในขณะที่หลู่หยวนกำลังจะเดินจากไป ก็มีอันธพาลสองสามคนเข้ามาและทุบตีเขาด้วยไม้
“หลู่หยวน ในเมื่อเจ้าใช้หนี้ให้ข้าไม่ได้ ดังนั้นจงจ่ายด้วยชีวิตของเจ้าแทนซะ!”
ไม่ว่าหลู่หยวนจะอ้อนวอนอย่างไร ไม้ท่อนนั้นก็ทุบลงบนศีรษะของเขาก่อนที่คนพวกนั้นจะเดินจากไปท่ามกลางความมืด
หลู่หยวนถูกทุบตีจนตาย!
ไม่มีใครรู้ได้ว่า ตอนตายเขาได้สำนึกเสียใจหรือไม่? …
…..
เช้าวันรุ่งขึ้นหลู่ชิงทราบข่าวว่าหลู่หยวนถูกคนจากบ่อนพนันทำร้ายจนเสียชีวิต นางไม่มีความเห็นอกเห็นใจเขาแม้แต่น้อย นี่คือชะตากรรมของพวกผีพนัน แต่สุดท้ายแล้วนางก็ยังอดไม่ได้ที่จะควักเงินซื้อโลงศพให้เขา
หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนี้หลู่ชิงได้ไล่คนงานที่มีใจคดโกงและเกียจคร้านไม่รักในการทำงานออกไป ก่อนที่จะคัดคนงานเข้ามาใหม่ หลังจากการนองเลือดในครั้งนี้บรรยากาศของโรงงานก็เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น…
*******