บทที่ 99 เว่ยฉิงหวาดกลัว
ทั้งครอบครัวหยุดพัก
หลังจากที่คนงานขนวัสดุก่อสร้างผ่านไป เขาก็ขึ้นรถม้าและเดินทางต่อ ในเวลาเที่ยงวันครอบครัวเว่ยก็เดินทางถึงเมืองเหอตง
ที่ด้านหน้าของเมืองจะมีที่จอดเกวียน เขานำรถม้าไปฝากไว้ในราคาสิบอีแปะซึ่งจะมีคนดูแลม้าให้ หลังจากนั้นก็ไปเที่ยวเล่นในเมืองได้อย่างไม่ต้องเป็นห่วง
ในเมืองนี้มีขนาดใหญ่กว่าเมืองเหย่าสุ่ยมากนัก เมืองเหยาสุ่ยนั้นมีตลาดริมถนนเพียงแห่งเดียว ในขณะที่เมืองเหอตงมีถนนอยู่สี่สายรูปร่างเหมือนไม้กางเขน
“ภรรยา เราไปทานข้าวกันก่อนไหม?” เว่ยฉิงถาม
แม้ว่าถังหลี่จะนำหมั่นโถวและอาหารมาให้เด็กทั้งสองคนกินระหว่างทาง แต่เว่ยฉิงนั้นเป็นคนกินจุมากและต้องการกินเนื้อให้อิ่ม ดังนั้นตอนนี้ชายหนุ่มรู้สึกหิวโหยมาก พวกเขาเจอร้านอาหาร จึงพากันเข้าไปนั่ง
“นายท่านอยากรับอะไรดีขอรับ” เสี่ยวเอ้อร์รีบเข้ามาถาม
“เจ้ามีอะไรจะแนะนำบ้าง” ถังหลี่ถาม
เสี่ยวเอ้อร์แนะนำอาหารจานต่าง ๆ หลากหลาย เสี่ยวเอ้อร์ผู้นี้พูดจาลื่นไหลมาก ลิ้นไม่พันกันเลยสักนิดเหมือนฟังพ่อครัวรายงานจานอาหาร เหมือนในชีวิตก่อนของถังหลี่ ดูน่าสนใจมาก..
เว่ยฉิงสนใจเมื่อได้ยินรายการอาหารต่าง ๆ
“เอาเนื้อมาสามชั่ง” ถังหลี่กล่าว
สามชั่ง?
ต่อให้เป็นผู้ชายตัวใหญ่เพียงใดก็กินไม่เกินสองชั่ง แต่ทว่าเมื่อเห็นรูปร่างของเว่ยฉิง เขาก็เข้าใจได้ทันที
“ได้ขอรับ ท่านต้องการอะไรอีกหรือ?”
“เจ้าแนะนำข้าอีกครั้งทีเถิด”
เสี่ยวเอ้อร์แจ้งรายการอาหารแนะนำอีกครั้ง
“เจ้าพูดเก่ง ไปเป็นนักเล่านิทานได้เลย” ถังหลี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นายหญิงข้าไม่รู้จักตัวหนังสือเลยแม้แต่สักตัวเดียว จะไปเล่านิทานได้อย่างไร โอ้ ! คุยกับท่านมากจนข้าคอแห้งเลย”
“เอานี่ไปซื้อชาจิบเสียหน่อย” ถังหลี่ให้เงินเขาสามอีแปะ
“ขอบคุณขอรับนายหญิง” เสี่ยวเอ้อร์ดีใจมาก
ถังหลี่สั่งอาหารเพิ่มอีกสองสามจาน ตามความชอบของแต่ละคนในครอบครัว
อาหารมาเร็วมาก
เนื้อต้มจิ้มกับเกลือ
เว่ยฉิงกินเข้าไปคำโตอย่างเอร็ดอร่อย
เพียงแต่…ถ้านำเนื้อไปหมักก่อนแล้วนำจิ้มซีอิ๊วจะอร่อยมาก…เสียดายไม่มีซีอิ้วในยุคนี้
ซีอิ๊ว…..
ถังหลี่ครุ่นคิด ทันใดนั้น เกี๊ยวก็ถูกป้อนเข้ามาในปากของนาง หญิงสาวอ้าปากกลืนมันลงไป
“เจ้าเหม่ออะไร? ได้เวลากินแล้ว”
“ท่านพ่อ! ท่านแม่อยากให้ท่านป้อนไง”
“ใช่ เพราะอาหารที่ท่านป้อนมันอร่อยกว่า”
เด็กทั้งสองขยิบตาให้แก่กัน
ใบหน้าของถังหลี่เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ นางรู้สึกเขินอายที่ลูก ๆ พากันหยอกเย้านาง หญิงสาวยื่นมือไปบีบพวงแก้มอวบอิ่มของซานเป่า
“เอาใหญ่แล้ว”
..
“เกิดอะไรขึ้นที่ศาลาว่าการหรือ?”
“นายอำเภอคนใหม่เข้ารับตำแหน่งแล้ว เพราะคนเก่านิสัยไม่ดีและโลภมาก เขาทำร้ายชาวบ้านเป็นจำนวนมาก จนราชสำนักต้องส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ”
“ข้าเห็นใจคนที่ฆ่านายอำเภอที่ทำร้ายประชาชน”
“เจ้าพูดถูก แต่การลอบสังหารเจ้าหน้าที่ก็เป็นคดีร้ายแรงเช่นกัน”
ถังหลี่กินช้าลงและตั้งใจฟังในสิ่งที่โต๊ะถัดไปกำลังพูด
ตู้เย่….
นางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น?
ถังหลี่ฟังอยู่ครู่หนึ่งก็โล่งใจที่ได้ยินคนเหล่านั้นพูดว่ายังจับฆาตกรที่ฆ่านายอำเภอไม่ได้ แม้ทั้งสองจะพบกันโดยบังเอิญแต่ถังหลี่ก็หวังว่าเขาจะปลอดภัย หลังจากที่ครอบครัวกินอาหารเสร็จ พวกเขาก็ออกจากร้านอาหารและไปทำธุระของเว่ยฉิง
ในเมืองนี้มีสหายเก่าของนายท่านเซี่ย และธุระในการเดินทางครั้งนี้คือนำของขวัญมามอบให้กับสหายผู้นั้น
เว่ยฉิงไปมอบของขวัญ ภารกิจของเขาก็เสร็จสิ้นลง
ต่อไปก็จะสามารถเที่ยวเล่นในตลาดได้ ร้านค้าที่นี่แตกต่างจากเมืองที่พวกเขาอยู่มาก ถนนหนทางมีขนาดใหญ่โต สองข้างทางขนาบไปด้วยร้านรวงที่ดูสะอาดสะอ้าน
“ข้างหน้ามีคนมุงอะไรอยู่” ถังหลี่กล่าว
“ไปดูกันเถิด” เว่ยฉิงกล่าว
ทั้งสองเดินไปข้างหน้าพร้อมลูกทั้งสองคน เมื่อเข้าไปใกล้ก็พบว่าพวกเขากำลังจะโยนดอกซิ่วฉิว[1]เพื่อเลือกเจ้าบ่าว
ด้านบนนั้นมีสาวน้อยใบหน้ากลมจิ้มลิ้ม
ผู้ชายด้านล่างกระตือรือร้นที่จะรอรับมัน
“คุณหนูฉิน เอามาให้ข้า!”
“โยนมาให้ข้า!”
“นี่! ดูสิ!”
หญิงสาวเหลือบมองไปทั่วบริเวณและหยุดลงเมื่อถังหลี่เดินผ่านมา อึดใจต่อมาดอกซิ่วฉิวก็ตกลงไปที่เว่ยฉิง แต่เมื่อดอกไม้หล่นใส่ ชายหนุ่มกระโดดหลบทันที ทำให้ชายคนหนึ่งหยิบดอกซิ่วฉิวไว้แทน
เขามีความสุขมาก!
“ข้าได้ดอกซิ่วฉิวแล้ว!”
เขาพูดพลางรีบเดินเข้าไปในอาคารพร้อมดอกซิ่วฉิวที่อยู่ในมือทันที
“เด็กคนนั้นโชคดีอะไรเช่นจริง ! จะได้แต่งงานกับคุณหนูสกุลฉินด้วย!”
“เขาเป็นบัณฑิตด้วยใช่หรือไม่? ฉินหยวนเว่ยชอบพวกบัณฑิตไม่ใช่หรือ?”
“จบแล้ว ไปกันเถิด”
ถังหลี่และเว่ยฉินได้ชมความตื่นเต้นมามากพอแล้ว ในขณะที่เขากำลังเดินจากไป บ่าวรับใช้กลุ่มหนึ่งขวางทางพวกเขาเอาไว้
“เจ้า! นายท่านของข้าต้องการพบเจ้า”
“ข้า?” เว่ยฉิงขมวดคิ้ว
“ใช่” เจียติงยักไหล่ บุรุษผู้นี้ท่าทางดุร้าย รอบตัวมีแต่รังสีอำมหิต
“มีอะไรหรือ?”
“เจ้าเข้าไปข้างในก่อน นายท่านของข้าจะบอกเจ้าด้วยตัวเอง”
“ข้าไม่ว่าง”
“พี่ชาย นายท่านของเราคือนายท่านฉิน” เสียงของเจียติงมีความเย่อหยิ่งเล็กน้อย
“นายท่านฉิน? ข้าไม่รุ้จัก”
มุมปากของเจียติงกระตุก
“ไอ้หนุ่มคนนี้ มันดีสำหรับคนอื่นและตัวเจ้าเอง นายข้าไม่มีเจตนาแอบแฝงอะไร ใช้เวลาไม่นาน”
เว่ยฉิงขมวดคิ้วและมองไปที่ถังหลี่ ก่อนจะเห็นนางพยักหน้า
“ก็ได้”
เว่ยฉิงจับมือถังหลี่และเดินขึ้นไปชั้นบน เจียติงเหลือบมองหญิงสาวเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่กล่าวอะไรออกไป
ชายหนุ่มและถังหลี่ขึ้นไปที่ชั้นสองของอาคารด้วยกัน ด้านบนมีบ่าวรับใช้และสาวใช้ ตรงกลางมีชายวัยกลางคนและสตรีนางหนึ่ง รวมถึงบุรุษที่ได้ดอกซิ่วฉินไปเมื่อครู่
หญิงสาวผู้นี้คือคุณหนูฉินที่เพิ่งโยนดอกซิ่วฉิน ส่วนชายวัยกลางคนผู้นี้คงจะเป็นนายท่านฉิน พวกเขาทั้งสามคนมีบรรยากาศที่แปลกประหลาด
“ท่านพ่อ ข้าไม่อยากแต่งงานกับเขา จมูกบี้ตาก็ตี่! เขาน่าเกลียดมากไม่คู่ควรกับข้าสักนิด! ข้าไม่ต้องการเขา!”
ชายหนุ่มที่เพิ่งได้รับดอกซิ่วฉินรู้สึกอับอายอย่างมาก
“ท่านพ่อ คนแรกที่ดอกซิ่วฉินลอยไปหาคือเขา… ข้าอยากแต่งงานกับเขา” คุณหนูฉินชี้ไปที่เว่ยฉิง ชายหนุ่มตกตะลึงเขารีบโอบกอดภรรยาไว้
“ข้ามีภรรยาแล้ว”
“เช่นนั้นเจ้าก็หย่ากับนางเสีย !” คุณหนูฉินมีท่าทีเอาแต่ใจ “ข้าเป็นบุตรสาวคนเดียวของท่านพ่อ หากเจ้าแต่งงานกับข้าจะมีกินมีใช้ไปตลอดชีวิต!”
เว่ยฉิงกลอกตา จะให้เขาหย่ากับภรรยาที่ดีเพื่อไปหาถุงเงินอย่างสตตรีผู้นี้นะหรือ? สมองเพี้ยนไปแล้ว!
เว่ยฉิงจับมือถังหลี่พานางเดินจากไป
“หยุดเขาซะ!” คุณหนูฉินตะโกน บ่าวรับใช้กรูเข้าไปขวางที่บันไดทันที
เว่ยฉิงมองไปยังพวกอันธพาลตรงหน้าด้วยความหงุดหงิด หากเขาอยู่คนเดียวคนพวกนี้ต้องโดนเขาล้มภายในหมัดเดียว แต่ตอนนี้ถังหลี่อยู่กับเว่ยฉิงด้วย หากภรรยาและบุตรของเขาต้องโดนลูกหลง เขาคงทุกข์ใจเป็นแน่!
เว่ยฉิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันกลับมาด้วยสีหน้าเย็นชา เขามองไปที่คุณหนูฉินและพูดใส่นางด้วยน้ำเสียงดุดัน
“เจ้าขี้เหร่ ไม่คู่ควรกับข้า!”
——————
[1] ดอกไฮเดรนเยีย