บทที่ 100 ข้าจะเป็นภรรยาของเจ้า
ดวงตาของคุณหนูฉินแทบจะถลนออกมาด้วยความโกรธ
“อะไรนะ! เจ้าบอกข้าขี้เหร่หรือ!”
“ใช่ เจ้าไม่เคยส่องกระจกหรือ?
“เจ้า…เจ้า ไม่เคยมีใครว่าข้าขี้เหร่มาก่อน!”
“นั่นเพราะเจ้าเป็นเจ้านายของพวกเขาไง เขาเอาแต่ประจบประแจงเจ้าเท่านั้น”
โลกของคุณหนูฉินพังทลายลงมา นางมองไปที่นายท่านฉิน
“ท่านพ่อ ข้าขี้เหร่หรือ?..”
“ไม่เลยลูกรัก ลูกสาวของพ่อเป็นสตรีที่งดงามที่สุด” นายท่านฉินปลอบนางอย่างรวดเร็ว
นายท่านฉินรู้สึกปวดหัว
นางเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของเขา เมื่อหญิงสาวขอร้องว่าอยากจัดงานโยนดอกซิ่วฉินเพื่อเลือกเจ้าบ่าว เขาจึงทำได้เพียงตกปากรับคำไป ในคราวแรกก็กลัวว่านางจะได้ผู้ชายไม่ได้เรื่อง หรือได้ลูกเขยที่อายุมากกว่าตัวเอง แต่เมื่อเห็นว่าคนที่คว้าได้ เป็นบัณฑิตคนหนึ่งเขาก็โล่งใจ
แต่ลูกสาวของเขากลับไม่ชอบ นางตกหลุมรักผู้ชายที่ดูดุร้ายเช่นนี้จริง ๆ หรือ ?
ท่าทางน่ากลัวเช่นนี้ อาจทำร้ายผู้คนได้..
เขามีภรรยาและบุตรแล้ว เมียยังพอหย่าร้างได้ หากแต่บุตรนั้นย่อมทิ้งไม่ได้ ลูกสาวของเขาจะยอมเป็นแม่เลี้ยงเด็กๆหรือ?
“ลูกเอ๋ย ในเมื่อเจ้ากับเขาไม่มีด้ายแดงผูกกันก็ลืมเขาไปเสียเถิด”
“ไม่! ข้าจะแต่งงานกับเขา ท่านพ่อจับเขาไว้ คืนนี้ข้าจะแต่งงานกับเขา!” คุณหนูฉินท้วง
“ลูกเอ๋ย นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะบังคับได้”
“ท่านพ่อ ท่านอยากให้ลูกสาวท่านไม่มีความสุขหรือ?”
คุณหนูฉินมองบิดาอย่างน่าสงสาร ชายวัยกลางคนรู้สึกหวั่นไหว เขามองไปที่เว่ยฉิง
“ข้ากำลังหงุดหงิด ถ้าเจ้าจะให้ข้าแต่งงานล่ะก็ ข้าจะฟาดพวกเจ้าซะ”
คนในตระกูลฉินมองไปที่กำปั้นใหญ่โตของเว่ยฉิงแล้วอ้าปากค้าง
“ลูกสาวลืมเขาไปเถิด…”
“ไม่! หากท่านไม่บังคับเขามาให้ข้า ข้าจะกระโดดหอตรงนี้ไปตายเสีย!”
“อย่า ๆ ลูกพ่อ พ่อจะตามใจลูก” นายท่านฉินรีบคว้าตัวลูกสาวไว้
ช่างเป็นเรื่องตลก
เว่ยฉิงที่ตัวสูงใหญ่ ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาในตอนนี้บึ้งตึง เขามองไปที่ภรรยา นางยิ้มล้อเลียนเขาแล้วเอ่ยว่า
“สามี…เจ้ามีสเน่ห์มากจริง ๆ ”
ภรรยาโกรธเขาหรือ?
เว่ยฉิงปวดหัวยิ่งกว่าเดิม ถ้ารู้เช่นนี้เขาจะไม่เข้ามาดูเรื่องนี้ตั้งแต่แรกหรอก …
“ภรรยา ข้าจะจัดการเองเจ้าดูเอ้อร์เป่ากับซานเป่านะ” เว่ยฉิงกระซิบ
“ไม่จำเป็น” ถังหลี่กล่าว
เว่ยฉิงไม่เข้าใจว่า ‘ไม่จำเป็น’ ของนางหมายถึงอะไร แต่ถ้าหากภรรยาเขาบอกว่า ‘ไม่จำเป็น’ เขาย่อมทำเช่นนั้น
“คุณหนูฉินไม่อยากแต่งกับสามีข้าหรอก แต่เป็นผู้ชายคนอื่นต่างหาก” ถังหลี่กล่าว
ท่ามกลางสถานการณ์วุ่นวายตรงหน้านี้ ถังหลี่คือบุคคลที่ถูกลืมไป ตอนนี้นางอยู่ในฐานะของผู้ชม ทันทีที่นางพูดขึ้น ทุกสายตาก็จับจ้องมาที่หญิงสาว
ดวงตาของคุณหนูฉินเป็นประกาย นางยกคางเชิดขึ้น
“สามีอะไรกัน อีกไม่นานก็ไม่ใช่แล้ว”
“อะไรที่เป็นของข้าย่อมเป็นของข้า จะไม่มีใครสามารถแย่งไปได้ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของก็ตาม” ถังหลี่หัวเราะคิกคัก
โอ้ แม่นางน้อยคนนี้ช่างกล้าหาญเสียจริง
พวกบ่าวและสาวใช้แอบชำเลืองดูด้วยความตื่นเต้น
เว่ยฉิงพยักหน้าเร็ว ๆ
ใช่!
เขาเป็นของนาง!
ไม่มีใครจะแยกพวกเขาออกจากกันได้!
แม้ว่าตอนนี้เว่ยฉิงจะปวดหัว แต่หัวใจของเขาก็พองโตเมื่อได้ยินคำพูดของภรรยา
“ข้าต้องการเขา เจ้าจะทำอะไรได้!”
“ในเมื่อคุณหนูฉินมีคนรักแล้ว เหตุใดต้องมาล้อเล่นกับสามีของข้าด้วย”
“ไร้สาระ! คนรักของข้าคือเขา!”
“แล้วชายคนนี้คือใครหรือ?” ตาของถังหลี่จ้องไปที่บุรุษผู้หนึ่ง
ผู้ชายคนนี้แต่งกายด้วยชุดบ่าวรับใช้ เขายืนอยู่ข้างนายท่านฉินเมื่อหญิงสาวมองมาที่ตน เขาก็อดไม่ได้ที่จะก้มหัวหลบตา
แววตาของคุณหนูฉินสั่นไหว นางไม่พูดอะไรจนนายท่านฉินต้องตอบว่า
“นี่คือบ่าวรับใช้ของบ้านเรา”
“น่าสนใจ ตอนที่คุณหนูฉินบอกอยากแต่งงานกับสามีข้า เหตุใดนางถึงเอาแต่มองบ่าวรับใช้ผู้นี้เล่า?” ถังหลี่พูดอย่างสนใจ และคุณหนูฉินเริ่มแสดงท่าทีมีพิรุธมากยิ่งขึ้น
“และบ่าวรับใช้คนนี้…ทุกครั้งที่คุณหนูฉินพูดว่าจะแต่งงาน ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป มันอึดอัด ราวกับว่า…” ถังหลี่กำลังนึกคำในหัว “เหมือนกำลังสูญเสียสิ่งสำคัญบางอย่างไป”
คุณหนูฉินและนายท่านฉินมองไปที่คนรับใช้ผู้นี้
“ไม่…” เขาปฏิเสธ
“หลิวหยาง ข้าอยากแต่งงาน เจ้าไม่พอใจอะไรหรือเปล่า?” คุณหนูฉินถามด้วยท่าทีนุ่มนวล
“คุณหนู ข้า…”
“หลิวหยางข้าแค่อยากฟังความต้องการของเจ้า พูดออกมาเถิด” คุณหนูฉินกล่าว เขาตัวแข็งทื่อและส่ายหัว
“คุณหนูข้าไม่มีอะไร…ข้าหวังเพียงให้คุณหนูพบสามีที่เหมาะสมเท่านั้น คนที่มีภรรยาและลูกแล้วเช่นเขา ไม่เหมาะกับท่านเลย”
“เหตุใดจะไม่เหมาะ! ข้าจะแต่งงานกับใครก็ได้ไม่ใช่เรื่องของเจ้า!” คุณหนูฉินมีท่าทีหยิ่งยโสอีกครั้ง
“คุณหนูฉิน ข้ากับสามีแต่งงานกันแล้ว ไม่มีเหตุผลเลยที่ข้าต้องหย่ากับเขา หากเจ้าจะบังคับเขาข้าก็สามารถไปแจ้งทางการได้ รวมถึงเรื่องที่เจ้าจะมาอยู่กินกับสามีข้าก็เป็นไปไม่ได้ พวกเราเกิดในตระกูลชาวนาเคยชินกับชีวิตยากจน หากเจ้ายืนยันเช่นนั้น เจ้าต้องไปที่นาทำงานรับใช้ข้าและสามี” ถังหลี่กล่าว
คุณหนูฉินไม่ได้กล่าวอะไร แต่เป็นบ่าวรับใช้ที่พูดขึ้น
“เจ้าดูถูกคุณหนู! ข้าไม่เห็นด้วย!”
ในสายตาของเขา คุณหนูฉินเปรียบเสมือนเทพธิดา จะให้นางลดตัวไปทำไร่ไถนาได้อย่างไร!
“หลิวหยางไม่ใช่เรื่องของเจ้า! ข้าทำได้!”
“ไม่นะขอรับคุณหนู”
“เหตุใดต้องห้ามข้า! เพราะเหตุใด!”
“คุณหนู!” เขากระทืบพื้นด้วยความโกรธจัด
“หลิวหยางหากเจ้าชอบพอข้า ข้าก็ยินดีจะรับฟังเจ้า แต่ถ้าไม่ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูด!”
หลิวหยางมองไปที่เว่ยฉิง คนป่าผู้นี้มีภรรยาและลูกถึงสองคน เขาดุร้ายและชอบทุบตีผู้อื่น ซ้ำยังบอกให้คุณหนูไปทำนา…
“ข้าชอบท่าน! คุณหนูข้าชอบท่าน! อย่าแต่งงานกับเขาเลย!” หลิวหยางกัดฟัน
คุณหนูฉินเลิกทำกิริยาโหดร้าย คิ้วของนางเลิกขึ้นด้วยความยินดี นางจับมือเขาพลางเขินอายเล็กน้อย
“ข้าก็ชอบเจ้าเหมือนกัน”
นั่นคือจุดประสงค์ทั้งหมด
บ่าวรับใช้พวกนั้นไม่ขัดขวางครอบครัวสกุลเว่ยอีกต่อไป และในที่สุดเว่ยฉิงและถังหลี่ก็หนีออกมาได้
“ภรรยาเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย” เว่ยฉิงสับสน
“ข้าคิดว่านางชอบบ่าวรับใช้ แต่ด้วยฐานะของนาง เขาจึงไม่เห็นด้วย ทำให้คุณหนูฉินคิดหาวิธี นางต้องการแค่ยั่วยุบ่าวรับใช้ให้ยอมรับเท่านั้น เลยจัดงานโยนดอกซิ่วฉินหาเจ้าบ่าวขึ้น”
“นี่ข้าเพิ่งกลายเป็นเครื่องมือของนางหรือ?” เว่ยฉิงกล่าว
ถังหลี่บิดริมฝีปากและยิ้ม
สตรีผู้นั้นไม่ได้เลือกเว่ยฉิงเพราะเขาหล่อแต่อย่างใด แต่เพราะว่าเว่ยฉิงนั้นดูโหดร้าย น่ากลัวต่างหาก
เว่ยฉิงไม่ได้เสียหายอะไร แต่เขาเพียงแต่รู้สึกอธิบายไม่ถูกเท่านั้น ตอนแรกเขากลัวมากว่าจะทำให้ถังหลี่โกรธ เพราะตัวเขานั้นมีเสน่ห์ดึงดูดเหล่าแมลงและผีเสื้อ….