เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ – บทที่ 111 กลับหมู่บ้านลี่เจีย

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 111 กลับหมู่บ้านลี่เจีย

หลังจากที่ถังหลี่จัดการกับงานที่ร้านเรียบร้อยดีแล้ว นางจึงเข้าไปที่ตลาดอีกครั้ง พยายามหาบ้านที่เหมาะกับเว่ยเสี่ยวเถา แต่หลังจากเดินไปได้สักพักก็ยังไม่เจอบ้านที่ถูกใจ นางจึงตรงกลับบ้าน ที่หน้าบ้านมีผู้คนมายืนคอยนางอยู่ที่ประตูคนแรกคือหมอซู อีกคนคือหลี่โหยวไฉ่ ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้างานตอนที่สร้างถนน

“หมอซู พี่หลี่ มาที่นี่มีธุระอันใด? หรือมีเรื่องใดเกิดขึ้นที่หมู่บ้าน?” ถังหลี่ถามอย่างตรงไปตรงมา

“ฮูหยินเว่ย ข้ามีเรื่องอยากจะปรึกษากับเจ้า” หลี่โหยวไฉ่พูดขึ้น

“มีอะไรหรือพี่หลี่ ท่านพูดมาเถิด”

“ตอนนี้ข้าเป็นหัวหน้าหมู่บ้านลี่เจียแล้วนะ” หลี่โหยวไฉ่พูดขึ้นมา

ถังหลี่รู้สึกประหลาดใจกับเรื่องที่ได้ยิน หัวหน้าหมู่บ้านลี่เจียคนเดิมคือหลี่ฟู่กุ้ย เขาไม่น่าจะเป็นคนที่ลาออกจากตำแหน่งเอง

“ฮูหยินเว่ยเจ้าจำตอนที่เราสร้างถนนก่อนหน้านี้ได้หรือไม่? ที่โจวเหล่าเอ้อร์พาคนหมู่บ้านเฉาเจียมาสร้างปัญหาให้เรา”

“ข้าจำได้” ถังหลี่พยักหน้า

“แท้จริงแล้วเป็นหลี่ฟู่กุ้ยที่เอาเรื่องไปบอกโจวเหล่าเอ้อร์ คนในหมู่บ้านโกรธมากเมื่อรู้เรื่องนี้ พวกเขาจึงรวมตัวไปหานายอำเภอ บอกเรื่องที่ต้องการเปลี่ยนหัวหน้าหมู่บ้าน แล้วพวกเขาก็เลือกข้า” หลี่โหยวไฉ่กล่าว

ในคราวนั้นหลี่โหยวไฉ่เป็นคนเดียวที่กระตือรือร้นเรื่องการสร้างถนน เขาเป็นผู้นำที่ดี เป็นคนทำงานจริงจัง ซึ่งดีกว่าหลี่ฟู่กุ้ยที่ชอบรังแกคนดี ๆ แล้วเข้าข้างคนชั่ว

“ฮูหยินเว่ย ปีนี้เกิดภัยแล้งรุนแรงมาก การเก็บเกี่ยวของหมู่บ้านไม่ดีเท่าที่ควร ในหน้าหนาวนี้ชาวบ้านคงกินได้แค่ข้าวต้มกับมันเทศเท่านั้น ผู้คนล้วนน่าสงสาร ข้าเลยคิดหาทางช่วยพวกเขา แต่ทุ่งนาของหมู่บ้านเรานั้นอยู่บนเขา ทำให้ต้องพึ่งภูเขาและแม่น้ำ ถ้าหากแล้งเช่นนี้ทุกปีจะทำเช่นไร เมื่อข้าพูดคุยกับหมอซู ท่านหมอก็แนะนำว่าพวกเราสามารถปลูกสมุนไพรบางส่วนได้” หลี่โหยวไฉ่กล่าว

“ใช่ เราสามารถปลูกสมุนไพรได้” หมอซูพยักหน้าเสริม

หมอซูอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านลี่เจีย แต่เขาเป็นแค่คนนอกเท่านั้น ในยามที่เขากับภรรยาเดินทางมาที่นี่ ผู้คนในหมู่บ้านต่างมอบมันหวานให้แก่เขา ในยามนี้เมื่อชาวบ้านเดือดร้อนไม่มีแม้แต่อาหาร หมอซูรู้สึกเศร้าใจ เมื่อหลี่โหยวไฉ่มาปรึกษาทำให้หมอซูตัดสินใจได้

“พวกท่านอยากให้ข้าช่วยอะไรหรือ?”

“ฮูหยินเว่ย… เจ้าสามารถนำสมุนไพรที่พวกเราปลูกไปใช้ในการทำถุงหอมได้หรือไม่?” หลี่โหยวไฉ่ถาม

สมุนไพรรักษาโรคพวกนี้ปลูกให้เติบโตได้ยากมาก

หากขายไม่ออกก็จะโดนพ่อค้ากดราคาลงไปอีก

เมื่อหญิงสาวเงยหน้าขึ้นนางก็พบกับสายตาที่คาดหวังจากหลี่โหยวไฉ่

เขาอยากให้คนในหมู่บ้านลี่เจียได้กินอิ่มท้องจริง ๆ

ถังหลี่ได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านลี่เจียระยะหนึ่ง ถึงแม้ว่าที่นั่นจะมีคนอย่างสกุลเฉินหรือตู้เสี่ยวเหอ รวมถึงภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้าน แต่ก็ยังมีคนดี ๆ อย่างเช่นป้าเกาและอีกหลายคน หากนางสามารถช่วยเหลือได้ นางก็เต็มใจจะช่วย

“ได้สิ ข้าจะรับซื้อไว้เอง” ถังหลี่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

หลี่โหยวไฉ่รู้สึกมีความสุขมากเขาขอบคุณหญิงสาวซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ขอบคุณฮูหยินเว่ย ขอบคุณเจ้ามาก! เจ้าคือดาวนำโชคของหมู่บ้านลี่เจียจริง ๆ!”

ถังหลี่ชวนทั้งสองคนอยู่ทานมื้อเย็นกันก่อน แต่พวกเขาก็ปฏิเสธและเดินทางกลับกันก่อน

ถังหลี่รู้สึกว่าตัวนางไม่ได้กลับไปที่หมู่บ้านลี่เจียมาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นในเช้าวันถัดมานางจึงได้พาบุตรทั้งสองคนกลับไปยังหมู่บ้านลี่เจียด้วยเกวียนวัว ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในหมู่บ้าน ทุกคนต่างให้ความสนใจทันที

“ฮูหยินเว่ยกลับมาหมู่บ้านหรือ?”

“พี่สะใภ้เว่ยเจ้าสวยขึ้นอีกแล้ว”

“ไอหย๋า เจ้าตุ๊กตาน้อยสองตัวนี้โตขึ้นเยอะเลย!”

ผู้คนบนท้องถนนพากันทักทายแม่ลูกสามคน

ถังหลี่สวมเสื้อคลุมกันหนาวสีชมพู เด็กน้อยทั้งสองคนก็สวมเสื้อคลุมที่คล้ายกันแต่เป็นขนาดเล็ก รวมถึงหยกที่ห้อยประดับตกแต่ง ทำให้ดูราวกับเป็นคุณหนูคุณชายแตกต่างจากเด็กที่มอมแมมในหมู่บ้านอย่างสิ้นเชิง

“ภรรยาเว่ยฉิงเปิดร้านขายชาดในเมืองนะ ดูท่าจะทำเงินได้เยอะมาก”

“มีทั้งโรงงานทำถุงหอมทั้งร้านขายชาดเลยหรือ? ฮูหยินเว่ยนี่เก่งกาจขนาดนี้ได้อย่างไรนะ?”

“เจ้าดูเด็กสองคนนั่นสิ แต่ก่อนเนื้อตัวมอมแมมเต็มไปด้วยโคลน ตอนนี้ดูราวกับคุณหนูคุณชายจากครอบครัวร่ำรวยเลยนะ”

“เว่ยฉิงมีภรรยาดีเช่นนี้ ราวกับมีสมบัติล้ำค่าไว้ครอบครองเลยนะ”

ชาวบ้านต่างกระซิบกระซาบกัน

ถังหลี่พาเด็กทั้งสองไปที่โรงงานถุงหอม ตอนนี้ที่โรงงานมีคนอยู่มากกว่ายี่สิบคน ทำให้ลานบ้านที่เคยว่างนั้นแน่นขนัดขึ้นมา

“อ้า อ้า!” หลันฮวาเอ๋อร์ส่งเสียงอย่างประหลาดใจเมื่อนางเห็นถังหลี่

หญิงสาวหันไปมองที่หลันฮวาอย่างอ่อนโยนแล้วทำท่าทางทักทายนาง

หลันฮวาเข้าไปกอดถังหลี่ไม่ยอมปล่อย ตอนนั้นฮูหยินซูเดินออกมาพอดี

“เสี่ยวถัง!”

ตอนนี้ร่างกายของฮูหยินซูฟื้นตัวดีขึ้นมาก นางดูเหมือนผู้หญิงที่มีสุขภาพดีทั่ว ๆ ไปผู้หนึ่ง ถังหลี่และนางทักทายพูดคุยกัน

“หมอซูอยู่ไหนหรือ?”

“ไปคุยกับหัวหน้าหมู่บ้านน่ะ”

“พูดคุยเรื่องการปลูกสมุนไพรใช่หรือไม่?”

“ใช่แล้ว การปลูกสมุนไพรมันไม่ง่ายเลยนะตาแก่คนนี้ชอบสร้างปัญหาเสียจริง”

“พี่สาว ท่านก็ชอบที่หมอซูเป็นคนแบบนี้ไม่ใช่หรือ?”

ฮูหยินซูหน้าแดงขึ้นเล็กน้อย

“ข้าก็บ่นไปตามเรื่องนั่นแหละ”

“ข้าจะคอยดู” ถังหลี่หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์

“เอาเถอะ ตอนนี้ข้ายังไม่ว่าง ให้หลันฮวาพาเจ้าไปนะ”

หลันฮวาพาถังหลี่เดินไปที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน บ้านของหลี่โหยวไฉ่อยู่กลางหมู่บ้าน ตอนนี้มีคนรวมตัวอยู่แน่นขนัด บางคนก็ยืน บางคนก็นั่งลงกับพื้น

“ปลูกสมุนไพรก็ดี ลุงข้าปลูกสมุนไพรก็ขายได้นะ”

“ใช่ เราจะได้มีรายได้จากการปลูกสมุนไพรด้วย”

“เป็นหัวหน้าหมู่บ้านที่มีความคิดดี ๆ เช่นเคย”

มีคนเห็นด้วยกับหลี่โหยวไฉ่

“แล้วถ้าปลูกไม่ได้จะทำเช่นไร?”

“ใช่ ๆ ลุงจ้าวน่ะมีคนมารับซื้อ แต่ข้าได้ข่าวมาว่าพวกพ่อค้าสมุนไพรชอบกดราคามากเลยล่ะ ค่าตอบแทนมันต่ำมาก”

หลังจากมีคนเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ชาวบ้านหลายคนก็เริ่มลังเลกัน

“ข้าได้คนที่จะรับซื้อสมุนไพรของพวกเราแล้ว นั่นคือฮูหยินเว่ย” หลี่โหยวไฉ่พูดด้วยรอยยิ้ม และในขณะนั้นถังหลี่ก็เดินมาถึงพอดี

“พี่เว่ย!”

“ฮูหยินเว่ยกลับมาแล้วหรือ?”

เมื่อชาวบ้านตรงนั้นเห็นถังหลี่ ทุกคนรีบทักทายกัน

“ใช่แล้ว เมื่อวานนี้ข้าได้คุยกับหัวหน้าหมู่บ้านแล้ว ข้าจะรับซื้อสมุนไพรที่ปลูกเอง” ถังหลี่กล่าว

“ฮูหยินเว่ยช่างเป็นคนดีจริง ๆ นางยังไม่ลืมพวกเรา ต่อไปนางจะต้องได้ดีอย่างแน่นอน”

“ใช่ ทั้งเรื่องสร้างถนนและรับซื้อสมุนไพร จริงอย่างที่หัวหน้าหมู่บ้านชอบพูด ฮูหยินเว่ยคือดาวนำโชคของหมู่บ้านเรา”

“หากฮูหยินเว่ยเป็นคนรับซื้อ ข้าจะปลูกสมุนไพรเอง”

ชาวบ้านทุกคนรู้สึกมีความสุข

“มีน้ำใจอะไรกันล่ะ ข้าคิดว่านางจะมาเอาเปรียบพวกเรามากกว่า! พวกเราจะอดตายกันแล้ว ต่อให้ฟ้าผ่าลงมาข้าก็ไม่เชื่อหรอก!” ตู้เสี่ยวเหอกล่าว

หลี่โหยวไฉ่ก้มหน้าลงและมองไปที่คนพูด

“ตู้เสี่ยวเหอ! หากเจ้าไม่รู้ข้อเท็จจริงเจ้าไม่ควรกล่าวเช่นนี้! เป็นข้าเองที่ไปขอความช่วยเหลือจากนาง นางจึงยื่นมือมาช่วยเหลือพวกเรา! เจ้ากำลังกล่าวหาคนดีเพราะความโง่เขลาเบาปัญญาของเจ้า!”

“ใครจะรู้นางอาจจะโลภก็เป็นได้!”

“นั่นคือข้อเสนอที่ข้ายื่นให้ การปลูกสมุนไพรเป็นความสมัครใจ หากเจ้าไม่ต้องการปลูกก็ไม่ต้องปลูก ออกจากบ้านข้าไปเสีย!” หลี่โหยวไฉ่พูดเสียงดังชัดเจน

ตู้เสี่ยวเหอไม่อยากกลับไป นางอยากรู้เรื่องต่อ หากผู้อื่นสามารถปลูกสมุนไพรได้ นางมิอดตายแต่ผู้เดียวหรือ?

————————————

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

Status: Ongoing
เธอทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คน ซึ่งเป็นตัวร้ายสุดชั่วช้า จุดจบคือประหารอย่างน่าสังเวช เธอจะทำยังไงให้อนาคตของพวกเขาเปลี่ยนไป‘ถังหลี่’ ทะลุมิติไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คนแต่หนุ่มชาวป่าผู้นี้นั้น คือตัวร้ายหลักของนิยายเรื่องดังกล่าว เป็นตัวร้ายที่จิตใจอำมหิต สุดแสนจะชั่วช้าสามานย์ แถมลูกเลี้ยงทั้ง 3 ก็เป็นเหล่าวายร้าย เป็นตัวร้ายในเรื่องที่โฉดชั่วไม่ต่างกับบิดา จุดจบของพวกเขาคือถูกสั่งประหารอย่างน่าสังเวช แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ เด็กน้อยทั้ง 3 ยังคงเป็นเจ้าก้อนน่ารักนุบนิบ คอยเรียกนางอย่างแสนหวานว่า “ท่านแม่” เพียงแค่คำนี้ที่ออกมาจากปากของพวกเขา นางก็ใจอ่อนยวบ ตั้งใจว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางจะต้องเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเหล่าลูกเลี้ยงให้ได้!ภารกิจถัดมาคืออะไรน่ะหรือ ก็คือทำนา ทำการค้า ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินทองมาเลี้ยงเด็กน้อยทั้ง 3 ให้มีชีวิตที่สุขสบาย กล่อมเกลาพวกเขาให้มีชีวิตดีๆต่อมา…เหล่าวายร้ายทั้ง 3 ได้เติบโตขึ้น คนหนึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ในใต้หล้า คนหนึ่งเป็นพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ ร่ำรวยยิ่งกว่าฮ่องเต้ คนหนึ่งเป็นแม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม…ทั้ง 3 ทั้งรักทั้งหวงถังหลี่เป็นอย่างมากผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ : บังอาจรังแกท่านแม่ของข้างั้นหรือ จับมันไปขังเดี๋ยวนี้!แม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม : พี่ใหญ่ ฆ่ามันทิ้งเสียเลยง่ายกว่า!พ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ : น้องสาม ข้าจะยื่นดาบให้เจ้าเอง!พระปิตุลาผู้ทรงอำนาจคว้าตัวภรรยาของตนเข้าไปกอด : ภรรยาที่รักของข้า ข้าจะปกป้องเอง เจ้าพวกตัวเปี๊ยกน่ารำคาญ ถอยไปซะ!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท