บทที่ 142 เรื่องร้อน
ถังหลี่มองตามหญิงสาวไปอย่างครุ่นคิด
นางข้ามภพมาเช่นกันหรือ?
ในโลกนวนิยายเรื่องนี้มันคงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าใด ที่มีคนทะลุมิติมาในนิยายของกู้อิ๋นได้เหมือนนาง แต่หญิงสาวผู้นี้เป็นพวกที่เข้ามาเพื่อทำให้ตนเองรู้สึกว่าข้าเหนือกว่าผู้อื่น
นางไม่สนใจที่จะละเล่นกับหญิงข้ามภพเรื่อง ‘ความคิดแปลกใหม่ที่ทำให้คนโบราณตกใจ’
ถังหลี่เลิกสนใจเซี่ยฟางเฟย นางเริ่มยุ่งอยู่กับงานของตัวเอง
……..
วันถัดมา
วันนี้เป็นวันฝนตก ท้องฟ้าครึ้มไปด้วยเมฆดำมืดที่ชวนให้หงุดหงิดน่ารำคาญใจ ถังหลี่หวนคิดถึงฝันเมื่อคืนนี้ของตนหลังจากครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว นางก็จำเรื่องราวที่ฝันไม่ได้เลย เพียงแต่รู้สึกได้ถึงความไม่สบายใจ หญิงสาวมีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น
อารมณ์กระวนกระวายใจของนางเป็นไปตลอดทั้งวัน จากนั้นก็มีเสียง ‘ปัง ปัง ปัง’ ดังขึ้นที่ประตูบ้านของถังหลี่ หญิงสาวเดินไปถึงประตูเร็วกว่าป้าจ้าวที่กำลังถือร่มวิ่งตามมา เมื่อหญิงสาวเปิดประตูบ้านก็พบคนสองคนที่สวมเสื้อคลุมฟางอยู่ด้านนอก ทั้งตัวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน รองเท้าของพวกเขาก็เปรอะเปื้อนไปด้วยโคลน
“หัวหน้าหลี่ ลุงหลี่ เข้ามาก่อนเร็ว!”
ถังหลี่รีบเรียกทั้งสองคนให้เข้ามาอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เข้าไปในห้องโถงใหญ่ของบ้าน หลี่โหยวไฉ่และลุงหลี่ถอดเสื้อคลุมของตัวเองออก ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งลุงหลี่ เขาไม่สามารถควบคุมสีหน้าหวั่นวิตกของตนเองเอาไว้ได้
“เกิดอะไรขึ้นกับหลันฮวาหรือ?” ถังหลี่ถามอย่างรวดเร็ว
เมื่อทั้งสองพร้อมใจกันมาหานางกลางดึกเช่นนี้ ย่อมมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่!
“ไม่ใช่ เป็นจูเฉิง…จูเฉิงถูกทางการเกณฑ์ไปเป็นทหารในกองทัพ!”
หลี่โหยวไฉ่รีบกล่าวอย่างร้อนรน
“พี่หลี่ใจเย็น ๆ พูดช้า ๆ ชัด ๆ” ถังหลี่กล่าว
ชายหนุ่มเริ่มพูดช้า ๆ อีกครั้ง
จูเฉิงและไฉ่ไหม่ไปที่ร้านค้าในฉินโจวด้วยกัน แต่เมื่อไปถึงฉินโจวก็พบกับเจ้าหน้าที่มาเกณฑ์คนเข้ากองทัพ เด็กหนุ่มทั้งหมดถูกจับไป แต่ไฉ่ไหม่แก่แล้วทำให้เขารอดจากการเกณฑ์ทหารมาได้ หลังจากที่ถูกปล่อยตัว เขารีบกลับมาและบอกเรื่องนี้กับเถ้าแก่จาง เถ้าแก่จางตกใจ เขารีบเดินทางไปหมู่บ้านลี่เจียเพื่อบอกเรื่องนี้แก่ครอบครัวของชายหนุ่ม
“หลันฮวาเอ๋อร์กำลังท้อง ข้าตกใจมากตอนได้ยินข่าว ตอนนี้ป้าเกากำลังอยู่กับหลานที่บ้าน ข้า…ข้าไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรแล้ว ข้าคิดถึงเจ้าขึ้นมาเสี่ยวถัง..” ใบหน้าของลุงหลี่ยับย่น ชายชราเเทบจะเสียสติ
ไม่รู้ว่าเขาไปทำกรรมอะไรมา ลูกชายก็ถูกเกณฑ์เข้ากองทัพไม่มีข่าวคราวมาเป็นสิบปี ตอนนี้หลานเขยก็ถูกเกณฑ์ทหารอีก…
ชายชราผู้ที่เข้มแข็งและสุขุมอยู่เสมอตอนนี้กำลังร้องไห้ออกมา ใบหน้าของถังหลี่ย่ำแย่มากขึ้น จูเฉิงชายหนุ่มที่มีความสุขเมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะเป็นพ่อคนในวันนั้น หลันฮวากำลังตั้งท้องแต่สามีนั้นไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร
เถ้าแก่จางอยู่บ้านหลังข้าง ๆ ถังหลี่ขอให้ป้าจ้าวไปตามเขามา เมื่อเถ้าแก่จางมาเขารู้สึกผิดเมื่อได้เห็นลุงหลี่ แม้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องเป็นเช่นนี้ แต่สาเหตุก็เป็นเพราะจูเฉิงไปทำงานให้เขา
เถ้าแก่จางเป็นเพียงเจ้าของกิจการเล็ก ๆ เท่านั้น จะไปมีอำนาจเหนือกรมทหารของราชสำนักได้อย่างไร? เขาคงทำได้แค่มอบเงินชดเชยให้แก่ครอบครัวของจูเฉิงเท่านั้น
“การเกณฑ์ทหารคือการจับชายหนุ่มแข็งแรงไปขึ้นทะเบียนกับกองทัพ หากเขาหนีก็จะมีโทษ เขาจะมีความผิด” เถ้าแก่จางกล่าว
“ข้าทำได้เพียงหวังให้เขามีชีวิตที่ดี ได้มีผลงานความดีความชอบ กลับบ้านได้อย่างปลอดภัยเท่านั้น”
ใบหน้าของลุงหลี่ซีดเซียวเมื่อคิดถึงประโยคหลังของเถ้าแก่จาง บิดาของหลันฮวาก็หายไปในกองทัพ เด็กคนนี้ชีวิตยากลำบากตั้งแต่น้อย ยามแต่งงานสามีก็มาโดนเกณฑ์ทหารอีก จูเฉิงไม่ใช่คนแข็งแรงบึกบึนเขาจะมีชีวิตรอดกลับมาได้หรือ?….
ลุงหลี่อดคิดในแง่ร้ายไม่ได้
“หลันฮวาของข้าโชคร้ายอะไรเช่นนี้ เหตุใดไม่ใช่ข้า! ตัวข้านั้นเห็นโลกมาจนพอแล้ว!”
ลุงหลี่คร่ำครวญ
“ตอนนี้ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ค่อยหาทางคิดแก้ปัญหากัน หัวหน้าหลี่ ลุงหลี่ พวกท่านสองคนไปอาบน้ำแล้วนอนพักผ่อนเถิด”
เมื่อต้มน้ำร้อนไว้แล้ว ถังหลี่จึงหยิบเสื้อผ้าของเว่ยฉิงมาให้ทั้งสองคนใส่ คืนนี้ไม่มีใครข่มตาหลับลงได้เลย
แม้แต่ถังหลี่ก็ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ทั้งคืน
ฉินโจวเป็นอาณาเขตของมณฑลฉินโจว ไม่ได้อยู่ในขอบเขตของมณฑลชิงเหอ หากเดินทางก็ต้องใช้เวลาถึงหนึ่งวันเลยทีเดียว
ในเมื่อไม่รู้สถานที่และรู้จักผู้คนที่นั่น จะทำเช่นไรดี….
ถังหลี่คิดถึงไป๋มู่หยาง พี่ชายคนโตของนางเคยทำการค้ากับเมืองฉินโจวดังนั้นเขาย่อมคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี
ในเช้าวันรุ่งขึ้น
ถังหลี่เดินทางไปที่จวนสกุลไป๋เพื่อพบกับไป๋มู่หยาง ชายหนุ่มแต่งกายด้วยเสื้อคลุมขนจิ้งจอกขาว ทำให้บรรยากาศรอบตัวเขาเป็นดั่งคุณชายสูงศักดิ์ เมื่อชายหนุ่มได้ฟังที่ถังหลี่เล่า เขาบอกนางอย่างอบอุ่นว่า
“ข้าพอรู้จักคนในเมืองฉินโจวที่น่าจะช่วยเหลือเจ้าได้”
ดวงตาของถังหลี่เป็นประกาย นางรู้สึกเขินอายเล็กน้อยแต่ก็ยังดึงชายแขนเสื้อของพี่ชายกล่าวว่า
“ท่านพี่ ท่านช่วยเขียนจดหมายให้ข้าได้หรือไม่?”
“ข้ามีธุระที่นั่นพอดี ข้าจะไปเมืองฉินโจวกับเจ้า”
ถังหลี่พยักหน้า หากพี่ชายตัดสินใจไปด้วยน่าจะเรื่องดี
“ไปเก็บของเถิด การเดินทางครั้งนี้อาจจะใช้เวลาอย่างน้อยสองหรือสามวัน เจ้ากลับไปเก็บของนำเสื้อผ้าหนา ๆมาด้วย ที่ฉินโจวอากาศหนาวกว่านี้มาก ข้าจะเตรียมรถม้าไว้ให้”
ถังหลี่พยักหน้ารับรีบวิ่งกลับไปบ้านทันที
เมื่อหญิงสาวจากไปแล้ว ฉีหยินที่ยืนอยู่ข้างไป๋มู่หยางพูดขึ้นขึ้นท่ามกลางความเงียบ
“นายท่าน ท่านมีธุระที่เมืองฉินโจวหรือ? เหตุใดข้าถึงไม่รู้”
ไป๋มู่หยางเหลือบมองฉีหยินด้วยแววตาเรียบเฉย ฉีหยินดูเหมือนจะเข้าใจอะไรขึ้นมา เขารีบหุบปากลง
ถังหลี่กลับไปถึงบ้านนางบอกป้าจ้าวถึงการเดินทาง คราวนี้อาจจะใช้เวลาถึงสามหรือสี่วัน
“เหตุใดถึงได้ไปหลายวันนัก?” ป้าจ้าวตกใจ
“พี่ชายของข้าไปกับข้าด้วยป้าจ้าวไม่ต้องเป็นห่วง”
เมื่อได้ยินว่านายท่านไป๋มู่หยางได้ร่วมเดินทางไปด้วย ป้าจ้าวถึงกับถอนหายใจทันที นางเคยพบกับนายท่านไป๋แล้วสองสามครั้ง รู้ว่าชายหนุ่มเป็นคนมีความรู้และเชื่อถือได้
“ป้าจ้าวช่วยดูแลเด็ก ๆ ทั้งสองคนที่บ้านด้วย หากมีเรื่องด่วนขึ้นมาก็ให้ไปหาเว่ยฉิงที่จวนสกุลเซี่ยทันทีนะ”
“เจ้าค่ะนายหญิง ไม่ต้องห่วง” ป้าจ้าวรับคำอย่างแข็งขัน
ถังหลี่พูดคุยกับเด็กทั้งสองอีกเพียงไม่กี่คำ พวกเขาตอบรับนางอย่างเชื่อฟัง
ลุงหลี่และหลี่โหยวไฉ่ยืนอยู่ที่ลานบ้าน คนทั้งคู่หลับไม่สนิทนักหน้าตาดูเหนื่อยล้ามาก
“ลุงหลี่ ข้าจะเดินทางไปฉินโจวเพื่อดูลาดเลาว่าจะหาทางช่วยจูเฉิงได้หรือไม่? ท่านกลับไปดูแลหลันฮวาเถิด นางกำลังตั้งครรภ์ ควรปลอบโยนให้นางผ่อนคลาย หากคิดมากจะส่งผลเสียต่อเด็กในครรภ์”
แม่นางถังจะเดินทางไปฉินโจวด้วยตนเอง!
ดวงตาของลุงหลี่แดงก่ำ เขาทรุดตัวคุกเข่าต่อหน้าถังหลี่ เมื่อคืนที่เขามาหานาง เขารู้สึกสิ้นหวังจริง ๆ ยามมองไปที่หลานสาวก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูก เขาตัดสินใจมาขอความช่วยเหลือจากถังหลี่เพราะคิดว่านางน่าจะแก้ปัญหาได้ หลันฮวาเองก็ตั้งความหวังไว้เช่นกัน
แต่ลุงหลี่ไม่ได้คิดเลยว่า ถังหลี่จะลงทุนเดินทางไปฉินโจวด้วยตัวเอง
แม้ไม่ได้เป็นญาติร่วมสายเลือด ก็พยายามช่วยเหลือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
คนดีเช่นนี้มีอยู่บนโลกด้วยหรือ?
นับเป็นพรจากสวรรค์ที่ทำให้พวกเขาได้รู้จักกับถังหลี่
ในชาตินี้พวกเขาคงไม่สามารถตอบแทนนางได้ ดังนั้นในชาติหน้าเขาจะขอเป็นวัวเป็นม้าเพื่อตอบแทนนาง
———————–