เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ – บทที่ 154 วางแผนปีหน้า

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 154 วางแผนปีหน้า

เว่ยฉิงกลับมาถึงบ้าน

ป้าจ้าวต้มน้ำร้อนไว้สองหม้อใหญ่ ถังหลี่กำลังอาบน้ำให้เกี๊ยวน้อยทั้งสองคนคือเอ้อร์เป่าและซานเป่า ส่วนสวี่เจวี๋ยกับต้าเป่าเป็นพี่ที่เริ่มโต พวกเขาเริ่มอายที่จะให้แม่อาบน้ำให้เหมือนน้อง ๆ เด็กทั้งสองขอให้ป้าจ้าวเตรียมน้ำไว้ในห้องนอนของตน ก่อนจะไปอาบ

หลังจากที่อาบน้ำแล้วทุกคนล้วนสวมเสื้อผ้าใหม่

เว่ยฉิงเองก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เช่นเดียวกัน เสื้อผ้าที่ภรรยาซื้อให้รวมทั้งผ้าคาดเอวที่ลูก ๆ พากันรวมเงินซื้อให้เขา ตอนนี้เว่ยฉิงเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุด เขาเดินไปรอบ ๆ บ้านตัวเองสองสามรอบ ก่อนจะเดินไปอวดเพื่อนบ้าน

สุดท้ายแล้วถังหลี่ที่ทนไม่ไหวรีบลากชายหนุ่มกลับบ้านทันที

วันนี้ป้าจ้าวทำอาหารมื้อใหญ่

ถังหลี่เชิญไป๋มู่หยางและฮั่วจีว์มาฉลองปีใหม่ที่บ้านของตน พวกเขาไม่มีครอบครัวอยู่ที่เมืองเหยาสุ่ย ดังนั้นถังหลี่จึงเป็นเสมือนครอบครัวของพวกเขา ฉีหยินนั่งลงบนหลังคา เขามองดูผู้คนที่ด้านล่าง มีเด็ก ๆ สองคนนั่งขนาบข้างนายท่านของเขา ไป๋มู่หยางเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข

หลายปีที่ผ่านมา ในช่วงปีใหม่ล้วนมีแต่ความว่างเปล่าและอ้างว้าง ฉีหยินเห็นแบบนั้นทุกปีเขาพลอยเจ็บปวดไปกับนายท่านด้วย แต่ตอนนี้นายท่านของเขามีครอบครัวแล้ว

ไป๋มู่หยางและฮั่วจีว์เตรียมซองแดงไว้

ระหว่างมื้ออาหาร หากหลาน ๆ คนใดเรียกเขาว่าท่านลุง ชายหนุ่มจะแจกซองแดงให้ หลังจากที่เขาแจกพวกเด็ก ๆ ไปจนครบทุกคนแล้ว ไป๋มู่หยางก็มองถังหลี่

“ถังถัง~” ฮั่วจีว์เรียกถังหลี่ด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ

หญิงสาวรู้สึกประหลาดใจ

“มีอั่งเปาสำหรับข้าด้วยหรือ?”

“ถังถังเป็นน้องสาวของข้า ดังนั้นในสายตาพี่ชายเจ้าย่อมเป็นเด็ก! เอาไป!” ฮั่วจีว์พูดพร้อมส่งซองแดงขนาดใหญ่ให้ถังหลี่

ไป๋มู่หยางเองก็มอบซองแดงให้ถังหลี่เช่นกัน

“ขอบคุณพี่ใหญ่ ขอบคุณพี่รอง” ถังหลี่กล่าวด้วยอ่อนหวาน

“ถังถัง พี่ชายจะออกเดินทางพรุ่งนี้” ฮั่วจีว์กล่าว

“จะกลับเมืองหลวงหรือ?” ถังหลี่ประหลาดใจ

“ใช่…ท่านพ่อข้าป่วย ข้าต้องกลับไปดูเขา” ฮั่วจีว์กล่าว

ในเมืองท่าที่ห่างไกลเช่นนี้ แม้จะไม่เจริญ แต่ก็สะดวกสบาย และยังมีน้องสาวที่น่ารักคนหนึ่ง ฮั่วจีว์ได้มีช่วงเวลาที่ดี แต่ตอนนี้เขาต้องจากพี่น้องทั้งสองของตนเองกลับเมืองหลวงแล้ว บิดาของฮั่วจีว์ป่วย…

ดังนั้นฮั่วจีว์วางแผนจะรีบออกเดินทางไปในพรุ่งนี้เช้า

“พี่รอง เดินทางระมัดระวังนะ” ถังหลี่พูดกับเขาอย่างจริงจัง ฮั่วจีว์พยักหน้ารับ

“ข้าไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เจอเจ้าอีกเมื่อใด ถังถัง หากในภายหน้ามีโอกาสไปเมืองหลวง พี่จะพาเจ้าเที่ยวทั่วเมืองเอง!”

“ได้สิ!” หญิงสาวรีบพยักหน้า

“สัญญา!”

“สัญญา!”

ทั้งสองคนเอาจอกเหล้ามาชนกันแทนคำสาบาน

หลังจากมื้ออาหาร ไป๋มู่หยางออกไปพร้อมกับฮั่วจีว์ที่มีสภาพเมามาย ถังหลี่ได้เริ่มนำซองแดงมาแจกให้ลูก ๆ ทั้งสี่คน รวมถึงป้าจ้าวและฉางลู่ด้วย

พอได้รับซองแดงแล้วทุกคนหน้าตาชื่นบาน

ถังหลี่มีความสุขมาก ตอนนี้นางกำลังจิบสุราจนใบหน้าขึ้นสีระเรื่อ ดวงตาฉ่ำเยิ้ม ดูมีเสน่ห์ดึงดูดมาก เว่ยฉิงก็จับจ้องภรรยาของตัวเองไม่ลดละ แววตาของเขาดำมืด ลูกกระเดือกกลิ่งไปมา

เด็ก ๆ ล้วนมีไหวพริบดี พวกเขาแสร้งทำเป็นยุ่งวุ่นวายกับเรื่องของตัวเอง ทำเป็นไม่สนใจบิดาและมารดา ปล่อยให้พวกเขาได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน

“ภรรยา เราไปเดินเล่นกันดีหรือไม่?” เว่ยฉิงกล่าว

ตอนนี้ยังเร็วเกินกว่าที่จะเข้านอน เขาจึงตัดสินใจชวนนางออกไปเดินเล่น

หญิงสาวพยักหน้าตกลง

เว่ยฉิงประคองมือเล็ก ๆ ของภรรยา ก่อนจะพานางเดินออกไปข้างนอก ลัดเลาะไปตามถนนเดินผ่านตลาดที่ยามปกติ มักจะมีผู้คนพลุกพล่านอยู่เสมอ แต่ครั้งนี้กลับเงียบเชียบเนื่องจากร้านรวงต่างพากันปิดในช่วงเทศกาล หนุ่มสาวพากันเดินไปเรื่อย ๆ บนถนนที่ร้างผู้คนนี้

“ฮูหยิน เจ้าจำครั้งแรกที่เราเจอกันได้หรือไม่?”จู่ ๆ เว่ยฉิงก็ถามขึ้นมา

“ข้าจำได้ว่าลืมตาอยู่บนเตียง ก็เห็นผู้ชายดุร้ายคนหนึ่ง ข้ากลัวแทบตาย”

เว่ยฉิงเกาหัวตัวเอง เผยรอยยิ้มไร้เดียงสาออกมา

ดุร้าย ป่าเถื่อน เว่ยฉิงเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เขาเป็นคนไม่ยอมลงให้ใครไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย

“เจ้าว่าข้ารูปร่างไม่ดีแล้วก็ดูถูกข้าด้วย” ถังหลี่บ่นต่อ

เหอเหอ…ยิ่งถังหลี่พูดเว่ยฉิงยิ่งรู้สึกละอาย

ถ้าคนเราสามารถย้อนอดีตได้ ข้าอยากจะไปตบหัวตัวเองตอนนั้นจริง ๆ

ข้าเป็นพวกตามืดบอดหรืออย่างไร? ถึงได้กล้าดูถูกนาง!

ตอนนี้เว่ยฉิงสามารถยอมตายแทนถังหลี่ได้

“ฮูหยิน อาจจะเพราะดวงตาของข้าฝ้าฟาง จึงไม่เห็นความงดงามที่แท้จริงของเจ้า” เว่ยฉิงหัวเราะ

หญิงสาวพ่นลมหายใจเบา ๆ พร้อมกับทำหน้ามุ่ย ท่าทางของนางดูได้ใจเป็นอย่างมาก

เว่ยฉิงหันไปมองภรรยาตัวน้อยของตนเอง ตอนนี้เขารู้สึกว่านางน่ารักมากจนเขาอยากจะเอานางแอบซ่อนไว้ไม่ให้ผู้ใดเห็น ชายหนุ่มขยับตัวก่อนจะโอบกอดภรรยาไว้ พานางเข้าไปที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมถนน ดวงตาดุดันราวพยัคฆ์มองไปรอบๆ เมื่อไม่เห็นว่ามีผู้คน เขาโน้มตัวจูบนางทันที หลังจากขโมยจูบไป ชายหนุ่มก็ยังรู้สึกไม่อิ่มเอม เว่ยฉิงโน้มตัวลงกระซิบข้างใบหูของนาง

“ฮูหยิน ครั้งที่แล้วข้าเข้าไปในเมืองซื้อลูกโป่งมาเยอะเลย!”

ภรรยาของเขาเรียกสิ่งนั้นว่า ลูกโป่ง เว่ยฉิงจึงเรียกตาม

“คืนนี้เรามาใช้มันดีไหม?” เว่ยฉิงถามอย่างกระตือรือร้น

“มีกี่อันหรือ?” ถังหลี่กระพริบตา

ชายหนุ่มลูบมือตัวเองไปมาด้วยท่าทีเขินอาย “แค่ยี่สิบหรือสามสิบเท่านั้นเอง”

ถังหลี่ : …..

เว่ยฉิงช่างมีพลังเหลือล้นจริง ๆ

หญิงสาวรู้สึกว่านางแทบจะหมดแรง ร่างกายอ่อนราวกับของเหลว คืนนั้นเว่ยฉืงใช้ลูกโป่งไปถึงสี่อันเลยทีเดียว ….

วันต่อมา

เช้าวันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่ ใบหน้าของเว่ยฉิงเต็มไปด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ ในขณะที่ถังหลี่ยังนอนเอ้อระเหยอยู่บนเตียง ไม่ยอมลุกขึ้นง่าย ๆ

ตอนนี้ลูก ๆ ของเขาทั้งสี่คนโตขึ้นแล้ว สวี่เจวี๋ยและต้าเป่าอายุเก้าขวบ เอ้อร์เป่าเจ็ดขวบ และซานเป่าสี่ขวบ …การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องที่น่ามหัศจรรย์

เดิมทีเว่ยฉิงเคยคิดว่าเวลาก็ไม่ได้เดินผ่านไปเร็วนัก แต่เมื่อเห็นลูก ๆ ได้เติบโตขึ้น เขาจึงได้รู้ว่าเวลานั้นเดินเร็วเพียงใด

ในอีกสองหรือสามปีสวี่เจวี๋ยและต้าเป่าจะเข้าสู่วัยหนุ่ม เขาจะกลายเป็นหนุ่มน้อยที่หล่อเหล่า ไม่มีใครคิดเลยว่าภายหน้าสองคนนี้จะทำให้หญิงสาวถึงกับคลั่งไคล้หลงใหลไปกี่คน

ในสมัยนี้ บุรุษผู้หนึ่งสามารถแต่งภรรยาได้เมื่ออายุย่างเข้าสิบสี่หรือสิบห้าปี พอถึงตอนนั้นก็เป็นเวลาที่สวี่เจวี๋ยกับต้าเป่าจะได้ออกเรือน พวกเขามิกลายเขาปู่คนย่าคนไปแล้วหรือ?

เมื่อคิดว่าตัวเองจะกลายเป็นปู่ เว่ยฉิงก็ยอมรับแทบไม่ได้

ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเพียงใดก็ยิ่งสลัดออกจากหัวไม่ได้เลยทีเดียว

เขาเพิ่งอายุยี่สิบปีเท่านั้น!

ในยุคปัจจุบันที่ถังหลี่จากมา วันเกิดอายุครบยี่สิบปีนั้นเป็นวันสำคัญมาก วันเกิดของเว่ยฉิงในปีนี้ถังหลี่ได้เตรียมมอบสิ่งของให้เว่ยฉิงมากมายอยู่แล้ว

ถังหลี่กำลังวางแผนการใหม่ ๆ ในปีนี้

ตอนนี้กิจการของเป่าชิงเก๋อสามารถมอบหมายให้เจิ้งติ่งดูแลได้แล้ว แม้ว่าเขาจะจะอายุเพียงสิบสามปีเท่านั้น แต่เป่าชิงเก๋อไม่ใช่กิจการใหญ่โตมากนัก ดังนั้นจึงถือเป็นการฝึกฝีมือบริหารจัดการร้านเล็ก ๆ ของเจิ้งติ่ง เป่าชิงเก๋อ โรงงานถุงหอม และ สุ่ยเยวเสวี่ยน ล้วนมีรายได้แน่นอน ถังหลี่จึงไม่ได้กังวลถึงเรื่องนี้

ตอนนี้ถังหลี่สามารถละมือเพื่อไปทำอย่างอื่นได้

เอ้อร์เป่าเองก็อายุเจ็ดขวบแล้ว ควรเข้าไปที่สำนักศึกษา

ส่วนต้าเป่าและสวี่เจวี๋ยคงต้องหาอาจารย์ที่ดีให้พวกเขาเพิ่ม

ถังหลี่ไล่คิดแผนการสำหรับคนในครอบครัวทีละคน ทีละคน และนั่นคือสิ่งที่นางวางแผนเอาไว้ในหัว

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

Status: Ongoing
เธอทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คน ซึ่งเป็นตัวร้ายสุดชั่วช้า จุดจบคือประหารอย่างน่าสังเวช เธอจะทำยังไงให้อนาคตของพวกเขาเปลี่ยนไป‘ถังหลี่’ ทะลุมิติไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คนแต่หนุ่มชาวป่าผู้นี้นั้น คือตัวร้ายหลักของนิยายเรื่องดังกล่าว เป็นตัวร้ายที่จิตใจอำมหิต สุดแสนจะชั่วช้าสามานย์ แถมลูกเลี้ยงทั้ง 3 ก็เป็นเหล่าวายร้าย เป็นตัวร้ายในเรื่องที่โฉดชั่วไม่ต่างกับบิดา จุดจบของพวกเขาคือถูกสั่งประหารอย่างน่าสังเวช แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ เด็กน้อยทั้ง 3 ยังคงเป็นเจ้าก้อนน่ารักนุบนิบ คอยเรียกนางอย่างแสนหวานว่า “ท่านแม่” เพียงแค่คำนี้ที่ออกมาจากปากของพวกเขา นางก็ใจอ่อนยวบ ตั้งใจว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางจะต้องเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเหล่าลูกเลี้ยงให้ได้!ภารกิจถัดมาคืออะไรน่ะหรือ ก็คือทำนา ทำการค้า ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินทองมาเลี้ยงเด็กน้อยทั้ง 3 ให้มีชีวิตที่สุขสบาย กล่อมเกลาพวกเขาให้มีชีวิตดีๆต่อมา…เหล่าวายร้ายทั้ง 3 ได้เติบโตขึ้น คนหนึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ในใต้หล้า คนหนึ่งเป็นพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ ร่ำรวยยิ่งกว่าฮ่องเต้ คนหนึ่งเป็นแม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม…ทั้ง 3 ทั้งรักทั้งหวงถังหลี่เป็นอย่างมากผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ : บังอาจรังแกท่านแม่ของข้างั้นหรือ จับมันไปขังเดี๋ยวนี้!แม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม : พี่ใหญ่ ฆ่ามันทิ้งเสียเลยง่ายกว่า!พ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ : น้องสาม ข้าจะยื่นดาบให้เจ้าเอง!พระปิตุลาผู้ทรงอำนาจคว้าตัวภรรยาของตนเข้าไปกอด : ภรรยาที่รักของข้า ข้าจะปกป้องเอง เจ้าพวกตัวเปี๊ยกน่ารำคาญ ถอยไปซะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท