บทที่ 160 ใช้พิษสู้พิษ
เว่ยฉิงรับค่าจ้างก้อนสุดท้ายก่อนจะออกจากจวนสกุลเซี่ยไปยังเป่าชิงเก๋อเพื่อช่วยงานที่นั่น เขาเป็นชายร่างสูงใหญ่ดูพึ่งพาได้ ไม่ใช่เพียงแต่ถังหลี่เท่านั้น แต่ทุกคนในเป่าชิงเก๋อรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อมีเว่ยฉิงอยู่ด้วย
ฉางลู่และเจิ้งติ่งชอบเขามาก แม้ว่าเว่ยฉิงจะมีศักดิ์เป็นสามีของเถ้าแก่เนี้ย แต่เขาก็ไม่ได้ถือตัวแต่อย่างใด
ทว่าเมื่อเว่ยฉิงมาช่วยงานที่เป่าชิงเก๋อ ความน่ากลัวของข่าวลือพวกนั้นก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น มีบ่อยครั้งที่ชาวบ้านจะชี้มาทางเป่าชิงเก๋อ และพูดจาน่ารังเกียจ แม้ว่าเจิ้งติ่งและฉางลู่จะเสแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน แต่ก็รู้ดีว่ามีสาเหตุมาจากอะไร
เว่ยฉิงแทบอยากจะปล่อยหมัดออกไปเพื่อหยุดข่าวลือเหล่านั้น แต่ทำได้เพียงอดทนไว้
หากเป็นเช่นนั้น คงจะเป็นปัญหาที่แย่กว่าเดิม
วันถัดมา
เว่ยฉิงขนของออกจากบ้านสกุลเซี่ย และข่าวลือก็ยิ่งกระพือโหมความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
“เจ้าได้ยินหรือไม่? เว่ยฉิงลาออกจากจวนตระกูลเซี่ยแล้ว ว่ากันว่าเพราะคุณหนูเซี่ยต้องการแต่งงานกับเขา เขาจึงหลบหนีนาง”
“ช่างไร้ความรับผิดชอบเหลือเกิน เขาทำแบบนั้นกับหญิงสาวที่ยังไม่ออกเรือนได้อย่างไร สร้างมลทินให้นางและเดินปัดก้นออกมาแบบนี้”
“ใช่แล้ว หลอกนางทั้งกายและใจ ขาดความรับผิดชอบ แบบนี้แล้วคนสกุลเซี่ยจะมีหน้าอยู่ในเมืองนี้ต่อได้อย่างไร ดูเหมือนว่าคุณหนูเซี่ยจะโทษว่าเป็นความผิดของนางเอง”
“หรือที่จริงแล้วไม่ใช่เพราะเว่ยฉิงไม่ต้องการแต่ง อาจจะเป็นเถ้าแก่เนี้ยถังเองที่ปฏิเสธการแต่งงานนี้ ขึ้นชื่อว่าบุรุษ การมีภรรยาหลายคนนับเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ?”
“อย่าดูถูกความใจดีของแม่นางถังในยามปกติเชียว หากนางโกรธขึ้นมาล่ะก็น่ากลัวมาก นางเอาไม้กวาดทุบตีคนได้เลยนะ!”
“แต่เถ้าแก่เนี้ยถังทำเช่นนี้ไม่ได้นะ มันเป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายจะมีสามเมียสี่อนุ ยิ่งนางหึงหวงก็เหมือนทำผิดกฎเจ็ดประการ ไม่แคล้วจะโดนหย่า!”
“ใช่แล้ว ครั้งนี้นางบีบบังคับสามีของนางได้ แต่ครั้งหน้าอาจจะทำไม่ได้แล้ว”
“เป็นสตรีควรมีจิตใจกว้างขวาง หากนางเป็นเช่นนี้ มิเท่ากับบีบบังคับให้แม่นางเซี่ยตายทั้งเป็นเลยหรือ?”
“พวกเจ้าบอกว่าเว่ยฉิงและเถ้าแก่เนี้ยถังเป็นคนดี แต่ข้าว่าพวกเขาใจร้ายมาก ข้าจะไม่ซื้อชาดจากเป่าชิงเก๋อแล้ว!”
“ข้าก็ด้วย พี่สะใภ้ข้าเป็นลูกค้าของที่นี่ ข้าต้องกลับไปบอกนางให้เลิกซื้อ”
เมื่อเห็นว่าข่าวลือที่เกิดขึ้นเริ่มส่งผลกระทบต่อกิจการของเป่าชิงเก๋อ เว่ยฉิงรู้สึกกังวลเล็กน้อย เขาหันไปมองภรรยาที่นั่งอยู่หลังโต๊ะ ตรวจสอบบัญชีของร้านด้วยท่าทีสงบ เขาเดินเข้าไปและชะโงกไปมองบัญชีตรงหน้า
เมื่อมีเงาคนเข้ามาใกล้ถังหลี่จึงเงยหน้าขึ้นมอง จึงได้เห็นว่าเป็นสามีของตนเอง
“เจ้าเบื่อหรือ? อยากลองอ่านบัญชีพวกนี้หรือไม่?” ถังหลี่เลิกคิ้วขึ้นถาม
พอเว่ยฉิงได้ยินเขาก็ทำตาโต ไม่มีทาง!
ให้เขานั่งอ่านสมุดบัญชี เขายอมแบกของสองสามร้อยชั่งดีกว่า!
ชายหนุ่มรีบส่ายหัวไปมา
“ฮูหยิน ข้าว่าข่าวลือพวกนี้ควรจะหยุดแพร่กระจายได้แล้ว…ข้าจะจัดการให้ชัดเจนไปเลยดีกว่า”
“เจ้าจะทำอย่างไร?” ถังหลี่ถาม
“ข้าจะไปหาลูกน้องที่ออกตามหาเซี่ยฟางเฟยกับข้าในวันนั้น ให้ช่วยมาเป็นพยาน” เว่ยฉิงกล่าว
“จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีคนบอกว่าเจ้ากุเรื่องขึ้นเพื่อปัดความรับผิดชอบ ถ้าแบบนั้นเจ้าและลูกน้องเจ้าจะเสียหายไปกันใหญ่”
เว่ยฉิงขยี้ศีรษะตัวเอง การเงียบอยู่แบบนี้มีแต่จะทำให้เขาหงุดหงิดมากขึ้นทุกที
โครม! มีเสียงดังเกิดขึ้นที่หน้าร้าน
เว่ยฉิงรีบกระเด้งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาวิ่งไปที่ประตูมองออกไปก็เห็นคน ๆ ผู้หนึ่งกำลังหลบหนีกลมกลืนหายไปในฝูงชน พอมองไปที่ต้นตอก็พบกับกองผักเน่ากองใหญ่กระจายอยู่ที่พื้น ยืนยันได้ว่าเป็นของที่คนผู้นั้นโยนใส่มาที่หน้าร้าน นอกจากนี้ยังมีผู้คนที่พากันชี้มือชี้ไม้มาทางร้านเป่าชิงเก๋ออีกด้วย
“คุณหนูเซี่ยน่าสงสารมาก คนพวกนี้ช่างไม่รู้สึกสำนึกผิดชอบชั่วดีเอาเสียเลย!”
“เถ้าแก่เนี้ยนิสัยเลวร้ายเช่นนี้ ไม่มีทางขายของออกแน่นอน!”
“ไอ้พวกไร้ยางอาย สมควรแล้วที่จะโดนปาผักเน่าใส่!”
เว่ยฉิงจ้องไปที่กลุ่มคนเหล่านั้น แววตาที่ดุร้ายของเขาทำให้ชาวบ้านหวั่นกลัวจนพาเงียบปากเดินหนีไป
“นายท่านเว่ย ข้าจะทำความสะอาดเองขอรับ ไม่ต้องห่วง” ฉางลู่รีบเข้าไปทำความสะอาดของผักเน่าด้วยไม้กวาด
เว่ยฉิงหันกลับไปยืนที่ด้านข้างของถังหลี่ ชายหนุ่มเบ่งกล้ามทำตัวพองราวกับกบ เมื่อเห็นดังนั้นนางก็รู้สึกขบขัน ก่อนจะยกมือไปลูบหัวเว่ยฉิงเบา ๆ
“ฮูหยิน เจ้าคิดวิธีแก้ออกไหม?” เว่ยฉิงมองภรรยา และฉุกคิดขึ้นมาได้
หญิงสาวส่งเสียงหัวเราะมากยิ่งขึ้น ทำให้ชายหนุ่มด้วยตาเป็นประกาย
นางต้องมีแผนอยู่ในใจแล้วเป็นแน่!
เว่ยฉิงนั่งลงข้าง ๆ ถังหลี่ ตอนนี้เขาโมโหจนหายใจไม่ออก หากฝืนทนไว้อีกนิดคงได้อกแตกตายเป็นแน่
“ฮูหยินรีบบอกข้ามาเร็ว ๆ”
ภรรยาของเขาฉลาดมาก นางต้องมีความคิดดี ๆ อย่างแน่นอน หากเป็นเรื่องนี้เขาจำต้องพึ่งพานาง
“ต้องใช้พิษสู้พิษ”
“อะไรนะ?”
“เซี่ยฟางเฟยกระจายข่าวลือและใส่ร้ายเจ้า ดังนั้นเราก็สามารถกระจายข่าวลือของนางได้เช่นกัน” ถังหลี่กล่าว
ดวงตาของเว่ยฉิงเป็นประกายวาว…ใช่แล้ว! เหตุใดเขาคิดไม่ออกนะ!
เมื่อหญิงสาวโน้มตัวเข้ามากระซิบให้อีกฝ่ายฟังอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าและดวงตาก็เขาก็สว่างวาบยิ่งกว่าเดิม
ฉลาดยิ่ง! เป็นวิธีที่ดี!
“ภรรยา ให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง” เว่ยฉิงกล่าว หญิงสาวพยักหน้ารับทันที
“แต่ระวังล่ะอย่าให้ใครเห็น” ถังหลี่อธิบาย
“เจ้าไม่ต้องห่วง”
เขาเป็นคนซื่อ ๆ เรียบง่ายก็จริง แต่เรื่องแบบนี้ย่อมพัฒนาได้ ตอนนี้เว่ยฉิงจะทำทุกอย่างเท่าที่แขนขาของเขาจะทำได้
เมื่อฟ้าเริ่มมืด
ถนนในฝั่งตะวันตกของเมืองเหยาสุ่ยที่เรียกได้ว่าเป็นสลัมของเมือง ที่นี่ทั้งสกปรกยากจน เป็นแหล่งรวมตัวของขอทานจำนวนมาก
ในตรอกแห่งหนึ่งมีขอทานสกปรกมากกว่าสิบคนนอนรวมกันอยู่ในนั้น ท่ามกลางความมืดมิดจู่ ๆ ก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในตรอก
“อยากได้เงินหรือไม่?”
เมื่อสิ้นเสียงของเขา เหล่าขอทานนับสิบต่างเข้ามารุมล้อมชายหนุ่มทันที
วันถัดมา
ข่าวลือใหม่เริ่มแพร่กระจาย ความจริงแล้วประเด็นของเซี่ยฟางเฟยและเว่ยฉิงแทบจะเป็นเรื่องที่ผู้คนพากันพูดคุยหลังมื้ออาหารเย็น พอมีใครจุดชนวนใหม่ก็พร้อมที่จะจุดติดโหมกระพือขึ้นมาอีกทันที
“ญาติของข้าเป็นคนผู้คุ้มกันจวนตระกูลเซี่ย เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่ไปช่วยคุณหนูเซี่ยในครั้งนั้น เขาเล่าให้ข้าฟังว่า…เรื่องนี้มีเบื้องลึกเบื้องหลังไม่น้อยเลยเชียวแหละ เจ้าลองเดาสิว่าเรื่องมันเป็นอย่างไร?”
“รีบบอกข้ามาได้แล้ว เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
“ความจริงแล้วคนที่อยู่กับคุณหนูเซี่ยทั้งคืนนั้นไม่ใช่เว่ยฉิง แต่เป็นโจร! เว่ยฉิงไปถึงที่นั่นพร้อมกับผู้คุ้มกันอีกสองคน พวกเขาเห็นว่าเสื้อผ้าของนางนั้นไม่เรียบร้อย และตามร่างกายก็มีรอยช้ำทั่วตัว”
“โอ้ สวรรค์ …เป็นเช่นนั้นหรอกหรือ?”
“ใช่ พวกเขาพบนางในกระท่อมไม้หลังเล็ก ๆ ประตูถูกลงกลอนเอาไว้ ในตอนที่เว่ยฉิงพังประตูเข้าไปก็มีหลายคนที่เห็นเป็นพยานได้”
คุณหนูเซี่ยกับโจรหรือ นี่มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากกว่าผู้คุ้มกันเสียอีก!
ข่าวลือนี้ก็ได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว เรื่องคุณหนูตระกูลเซี่ยอยู่ร่วมกันกับโจรทั้งคืนแพร่ไปรวดเร็วยิ่งกว่าเรื่องของคุณหนูและเว่ยฉิงเสียอีก ไม่มีใครบอกได้ว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จได้
แต่เรื่องที่คุณหนูเซี่ยต้องตกเป็นภรรยาของโจรผู้หนึ่งย่อมเป็นที่โลดโผนตื่นเต้นมากกว่า อีกทั้งมีแนวโน้มว่าจะกลบข่าวลือก่อนหน้าเสียอีก
ถังหลี่อาศัยอยู่ในเมืองนี้เป็นเวลานาน นางมีเพื่อนมากมายใน ภายใต้สถานการแบบนี้นางจึงได้เปรียบมากกว่า
“ข้าก็คิดว่าข่าวลือก่อนหน้านี้ค่อนข้างแปลกนะ สามีของเถ้าแก่เนี้ยถังดีกับนางมาก เขาจะกล้าทำผิดต่อนางได้อย่างไร”
“ใช่ เรื่องที่บอกว่าเว่ยฉิงกับคุณหนูเซี่ยอยู่ในห้องเดียวกันมีคนเห็นกับตาบ้างไหม บางทีอาจจะเป็นข่าวลือโดยคนที่อิจฉาเถ้าแก่เนี้ยถังมากกว่า”
“การที่เว่ยฉิงตัดสินใจลาออกจากจวนสกุลเซี่ยเป็นเพราะความเจตนาดีของเขา เพื่อไม่ให้กระทบต่อชื่อเสียงของคุณหนูเซี่ย มากกว่าการไม่มีความรับผิดชอบอย่างแน่นอน”