บทที่ 162 ตัดขาดความเป็นพี่เป็นน้อง
หลังจากวันนั้นไม่ว่าเซี่ยฟางเฟยจะทำอะไร นางก็จะเรียกเหลยเป้ามาคอยช่วยอยู่เสมอ ทำให้คนทั้งคู่ได้พูดคุยกันมากขึ้น คุณหนูเซี่ยมักจะเล่าเรื่องของนางกับเว่ยฉิงให้อีกฝ่ายฟัง ในตอนแรกเหลยเป้าไม่ได้เชื่อนางมากนัก แต่พอนานเข้าเขาก็เริ่มคล้อยตามนาง
สิ่งที่คุณหนูเซี่ยพูดมากนั้นมีมูลความจริงอยู่ ไม่น่าจะเป็นเรื่องโกหกกันได้
หญิงสาวยังไม่ออกเรือนจะได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องโกหกแบบนี้?
โดยเฉพาะความจริงใจที่คุณหนูเซี่ยมีต่อเว่ยฉิงนั้นดูไม่เหมือนเสแสร้งแกล้งทำเลย อีกอย่างนางเป็นหญิงสาวที่อ่อนต่อโลก นางไม่เคยมีคนรัก ทำให้เซี่ยฟางเฟยผูกพันธ์กับเว่ยฉิงมาก ตอนนี้นางรักเขาอย่างสุดหัวใจ เมื่อเป็นแบบนั้นเหลยเป้าเลือกที่จะเชื่อเซี่ยฟางเฟย เขาไปพูดเรื่องของเว่ยฉิงกับพี่ชายของเขา
“พี่ หัวหน้าเว่ยทำกับคุณหนูเซี่ยเช่นนี้ได้อย่างไร เขาไร้มารยาทมากไปหน่อยแล้ว!” เหลยเป้าอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
เหลยหมิงชะงัก เขากวาดสายตาคมเฉียบไปทางน้องชายทันที
“คุณหนูเซี่ยพูดอะไรกับเจ้า?”
เหลยหมิงรู้สึกว่าน้องชายของตนเปลี่ยนไป เขาหลงใหลในตัวคุณหนูเซี่ยมาก
“ไม่ๆ ข้าแค่พูดในสิ่งที่นางคิดเท่านั้น ข้ากลัวว่านางจะคิดสั้น”
จู่ ๆ เหลยเป้าพูดขึ้นว่า “พี่ชาย ผมข้าดูยุ่งเหยิงไปหรือไม่?”
“ไม่” เหลยหมิงส่ายหัว
เหลยเป้าหันหลังกลับ เดินผ่านลานไปยังเรือนรับรองของเซี่ยฟางเฟย ทันทีที่ไปถึงชายหนุ่มได้ยินเสียงร้องมาจากด้านใน หัวใจของเหลยเป้าว้าวุ่น เขารีบเคาะประตูแล้วเปิดเข้าไป
“พี่เป้า ทำไมพี่เว่ยถึงทำกับข้าเช่นนี้ ในเมื่อเขาไม่มีใจให้ข้า เหตุใดเขาถึงยังทำดีกับข้า พูดจาหวานหูหลอกล่อข้าแบบนั้น! ”
“เขาหว่านล้อมข้า ขโมยหัวใจของข้าไป หากเป็นเช่นนี้ ข้าก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม! ตายเสียดีกว่า!”
เซี่ยฟางเฟยร้องไห้โฮออกมา
เหลยเป้าโมโหมาก เว่ยฉิงเป็นคนที่จริงจังเสมอ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าชายหนุ่มจะทำแบบนี้ เล่นกับหัวใจของหญิงสาว!
“คุณหนู ข้าจะไปหาเว่ยฉิง ทวงความยุติธรรมให้ท่าน!” เหล่ยเป้ากำหมัดแน่น
“พี่เป้าอย่าเลย พวกท่านเป็นพี่น้องกัน ข้าไม่อยากให้พวกท่านแตกคอกันเพราะข้า” เซี่ยฟางเฟยรีบพูดขึ้นมา
“ข้าไม่นับคนที่หลอกลวงผู้หญิงแบบนั้นเป็นพี่!” เหลยเป้าพูดจบก็รีบวิ่งออกไป
เซี่ยฟางเฟยที่ร้องไห้เศร้าสร้อยในตอนแรก นางปาดน้ำตาของตนออก ก่อนที่รอยยิ้มจะปรากฏขึ้นที่มุมปาก หญิงสาวไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าตนเองจะมีพรสวรรค์ด้านการแสดงขนาดนี้ ทันทีที่เริ่มแสดง นางก็ปั่นหัวชายโง่งมผู้นี้ได้แล้ว แค่เพียงสองวันเท่านั้้นเขาก็ตกหลุมพรางของนาง ช่างเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ
“เหลยเป้า เจ้าจะไปไหน พวกเรากำลังทำงานอยู่นะ เจ้าจะวิ่งไปไหน!” เหลยหมิงมองเหลยเป้าที่พุ่งตัวออกมาจากห้อง ก็รีบไปขวางไว้อย่างรวดเร็ว
“เว่ยฉิงต้องอธิบายเรื่องนี้ให้ข้า” หลังจากพูดจบเขารีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
เหลยหมิงวิ่งตามน้องชายไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุด ตอนนี้พวกเขาสองคนอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ หนึ่งในนั้นหนีออกไปแล้ว หากเขาตามไปอีกคนก็จะไม่มีใครคุ้มกันที่แห่งนี้ หากเกิดอะไรขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายให้นายท่านเซี่ยฟังได้อย่างไร
…..
เหลยเป้าวิ่งไปที่เป่าชิงเก๋อด้วยความโกรธ
“เว่ยฉิง ออกมาเดี๋ยวนี้!” ชายหนุ่มตะโกนเสียงดัง
เว่ยฉิงออกมาทันทีที่ได้ยินเสียง เมื่อเห็นเป็นเหลยเป้าเขาก็ยิ้มกว้างทันที
“อาเป้า เจ้ามาทำไมหรือ?” เขาพูดก่อนพยายามจะโอบไหล่อีกฝ่าย แต่เหลยเป้าเบี่ยงตัวหลบทันทีทำให้ชายหนุ่มสังเกตได้ว่าตอนนี้อารมณ์ของเหลยเป้าไม่ค่อยจะดีนัก
“เจ้าเป็นอะไร?” เว่ยฉิงถาม
“เจ้าตามข้าไปพบคุณหนูเซี่ยซะ” เหลยเป้ากล่าว
“เหตุใดข้าต้องไปพบนาง?” เว่ยฉิงงงงวย
เมื่อเห็นเช่นนั้น เหลยเป้าก็ยิ่งโกรธจัด
ชายคนนี้เป็นคนที่หยอดคำหวานให้กับคุณหนูเซี่ย จนสุดท้ายนางเลือกที่จะแสวงหาความตาย หมดความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ ทว่าคนต้นเรื่องยังอยู่ดีมีสุข ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
เป็นเขาเองที่เคยตามืดบอดเห็นว่าเว่ยฉิงคือคนที่ควรค่าแก่การคบเป็นสหาย ยิ่งเหลยเป้าคิดเรื่องนี้มากเพียงใด เขายิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น ชายหนุ่มเหวี่ยงหมัดเข้าใส่เว่ยฉิงทันที!
“คุณหนูเซี่ยกำลังจะฆ่าตัวตายเพื่อเจ้า! แต่เจ้าทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่แม้แต่จะสำนึกผิดสักนิด!”
เว่ยฉิงไม่ใช่คนที่จะยืนเฉย ๆ ให้ใครต่อย เขาหลบหลีกหมัดของอีกฝ่ายทันที
“เหลยเป้า เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ! เซี่ยฟางเฟยจะทำอะไร มันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย!” เว่ยฉิงตะโกน
เหลยเป้าได้ยินแบบนั้นก็สาดหมัดเข้าใส่เว่ยฉิงอีกครั้ง
“หากเจ้าไม่ล่อลวงนางด้วยคำพูดหวาน ๆ ของเจ้า นางจะกลายเป็นเช่นนี้หรือ!”
เว่ยฉิงโดนหมัดของเหลยเป้าเข้า
“ใครบอกเจ้า ข้าไม่ได้ทำ!”
“จนถึงตอนนี้ยังไม่ยอมรับอีกหรือ!”
“เจ้ากับข้าเป็นเพื่อนพี่น้องกัน เหตุใดเจ้าไม่เชื่อข้า!”
“ข้าเคยตาบอดเชื่อเจ้าเว่ยฉิง เจ้ามันไอ้สัตว์ร้าย!”
เว่ยฉิงชกอีกฝ่ายกลับทันทีด้วยความโกรธ ทั้งสองผลัดกันประเคนหมัด เหลยเป้านั้นเป็นคนตัวใหญ่มีพลัง ทว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเว่ยฉิงเลยแม้แต่น้อย หลังจากชกต่อยกันไปสักพัก เขาก็ถูกล้มโดยเว่ยฉิง เนื้อตัวฟกช้ำไปหมด
แน่นอนว่าเว่ยฉิงยั้งแรงไว้ ทำให้เขาโดนเหลยเป้าโจมดีสองสามครั้งจนเป็นแผลบนใบหน้า ทั้งสองสู้กันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนกระทั่งถังหลี่วิ่งออกมาขวางพวกเขาไว้ หญิงสาวกางแขนต่อหน้าเว่ยฉิง ในขณะที่เหลยเป้ามีอาการเหนื่อยหอบ
“เหลยเป้า นี่อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด เข้าไปคุยกันข้างในก่อนเถิด” ถังหลี่พูดเบาๆ
ครั้งที่แล้วตอนที่เว่ยฉิงโดนใส่ร้ายว่าสมคบคิดกับโจรภูเขา ก็ต้องขอบคุณความช่วยเหลือของเหลยหมิงและเหลยเป้า ถังหลี่จดจำบุญคุณในครั้งนั้นได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหญิงสาวไม่ต้องการให้คนทั้งสองมาทะเลาะกันด้วยเรื่องแบบนี้
“ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับเขา” เหลยเป้ากระอักเลือดออกมา เขาจ้องเว่ยฉิงอย่างดุเดือด
“เว่ยฉิง! ข้าเหลยเป้า! นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเจ้ากับข้าไม่ใช่พี่น้องกันอีกแล้ว ข้าไม่มีน้องชายแบบเจ้า!” หลังจากที่พูดจบ เขาก็เดินหันหลังจากไปทันที
ใบหน้าของเว่ยฉิงมืดครึ้มลงทันที ดวงตาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธและเกลียดชัง
เหลยเป้าเป็นคนที่ซื่อสัตย์และภักดี เขากับเว่ยฉิงเข้ากันได้ดี ชายหนุ่มสนิทกับสองพี่น้องเป็นอย่างมาก เขาไม่รู้สึกเบื่อเวลาที่ได้อยู่กับพี่น้องสกุลเหลยเลย พวกเขามักพากันไปร่ำสุราหลังเลิกงานเป็นประจำ รู้จักกันมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว แม้จะออกจากงานแล้วพวกเขาก็ยังเป็นพี่น้องที่ดีมาโดยตลอด
ทว่าอยู่ดี ๆ เหตุใดพี่ชายที่แสนดีจึงมาทุบตีและตัดความเป็นพี่น้องกับเขา….
ถังหลี่รู้ว่าสามีไม่ค่อยสบายใจ นางจึงจับมือเว่ยฉิงพาเดินเข้าไปด้านในร้าน จากนั้นจึงหยิบผ้าเช็ดหน้ามาค่อย ๆ เช็ดเลือดออกจากบาดแผลของเขา
“อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด ถ้าปัญหาคลี่คลายมันจะดีขึ้น” ถังหลี่เอ่ยปลอบ “อย่าเครียดไปเลย ยิ้มหน่อยนะ”
เว่ยฉิงมองภรรยาที่กำลังปลอบประโลมตนเอง ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกดีขึ้นบ้าง เขาฝืนยิ้มออกมา
“เจ็บหรือไม่?”
“เจ็บ” เว่ยฉิงพูด
“เจ็บตรงไหน? เจ็บถึงกระดูกไหม?” ถังหลี่ถามอย่างกังวล
“ฮูหยินข้าเจ็บมาก จูบข้าหน่อยสิ จะได้หายเจ็บ” เว่ยฉิงชี้ไปที่แก้มของเขา
ถังหลี่เค้นหัวเราะอย่างโมโห นางกดมือลงบนบาดแผลของเว่ยฉิงจนอีกฝ่ายร้องลั่นด้วยความเจ็บ
ความว้าวุ่นในหัวใจของเว่ยฉิงถึงได้ลดน้อยลง
…
ชาวบ้านหลายคนที่ได้เห็นเหตุการณ์ชกต่อยกันของเว่ยฉิงและเหลยเป้า ในตอนแรกนั้นข่าวลือมีสองทางคือเรื่องของคุณหนูเซี่ยกับเว่ยฉิง กับเรื่องที่นางเสียความบริสุทธิ์ให้กับโจร ตอนแรกเรื่องทั้งสองเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ไม่มีใครสามารถบอกได้ สุดท้ายแล้วชาวเมืองก็คิดกันว่าทั้งสองข่าวเป็นเรื่องหลอกลวง
แต่ทว่าในครั้งนี้เมื่อเห็นเว่ยฉิงและผู้คุ้มกันของจวนสกุลเซี่ยทะเลาะกันที่ถนน ทั้ง ๆ ที่ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและผู้คุ้มกันคนอื่นนั้นเหนียวแน่น วันนี้กลับถึงขั้นตัดพี่น้องกัน!
เมื่อมองจากมุมนี้ข่าวลือที่ว่าคุณหนูเซี่ยมีความสัมพันธ์กับเว่ยฉิงนั้นน่าจะเป็นเรื่องจริง!
ข่าวลือที่กำลังจะซาก็ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง!