บทที่ 173 ฝันถึงอีกครั้ง
คืนนั้นถังหลี่ฝันว่ามีคนกลุ่มหนึ่งแอบขึ้นไปที่ประตูเมือง สังหารยามเฝ้าประตูก่อนจะเปิดประตูเมืองออกให้พวกซยงหนูเข้ามาราวกับฝูงสัตว์ป่าหิวกระหาย พวกมันเข่นฆ่าผู้คนในเมืองอย่างอำมหิต เหล่าผู้คนที่ถังหลี่คุ้นหน้าคุ้นตาล้วนเสียชีวิต คู่สามีภรรยาที่ขายอาหารมื้อเช้าร้านโปรดของถังหลี่ พ่อลูกร้านน้ำเต้าหู้ แม่หม้ายที่รับซ่อมเสื้อผ้า และเสี่ยวเอ้อร์ที่โรงเตี๊ยม….
ถังหลี่ไม่รู้ว่าการต่อสู้ตรงหน้าติดต่อกันมาเป็นระยะเวลาเท่าไรแล้ว ตรงลานที่มีซากศพอยู่ทั่ว แม่ทัพเฉายืนอยู่ บนร่างของเขามีลูกศรปักอยู่ ดวงตาเบิกโพลงถลน จากนั้นก็ค่อย ๆ ล้มลงอย่างช้า ๆ…
เมื่อถังหลี่ลืมตาขึ้นก็พบว่าเป็นเวลาเช้าแล้ว
หญิงสาวใบหน้าแดงก่ำ เหนื่อยหอบ เว่ยฉิงที่ตื่นขึ้นมาโอบกอดนางไว้ทันที เขาตบหลังถังหลี่เบา ๆ พูดปลอบประโลมนางด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
ถังหลี่ค่อย ๆ ฟื้นคืนจากห้วงฝันร้าย นางจ้องไปที่เว่ยฉิงด้วยแววตาเป็นประกาย
“ข้าฝันเห็นชัดเจนแล้ว! สาเหตุที่ว่าเป็นเพราะมีคนจากภายในเมืองแอบเปิดประตูเมืองให้พวกซยงหนูเข้ามา!” ถังหลี่กล่าวอย่างตื่นเต้น
นางตั้งใจแน่วแน่ว่านางอยากฝันให้ชัดเจนกว่านี้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้แม่ทัพเฉาแพ้สงคราม!
คิ้วหนาของเว่ยฉิงขมวดยุ่ง ชายหนุ่มไม่พูดอะไรทว่ากลับครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ ถังหลี่รู้ถึงเหตุผลที่เว่ยฉิงเงียบไป
รู้แล้วอย่างไร ? มันเป็นเพียงความฝัน
ไม่ใช่ทุกคนที่จะเชื่อนางหมดใจเหมือนเว่ยฉิง ที่ไม่ว่านางจะพูดจาแปลกประหลาดเพียงใดเขาก็เชื่อนาง หากถังหลี่บอกเฉาเช่าไปว่ามีสายลับอยู่ในเมืองเขาคงไม่เชื่อ และคิดว่านางเสียสติไปแน่นอน
“ฮูหยิน! เจ้าสุดยอดมาก!” เว่ยฉิงพูดทันที
ถังหลี่เงยหน้ามองสามีด้วยสีหน้าอธิบายไม่ถูก
“ฮูหยิน เมื่อเรารู้ว่ามีสายลับอยู่ในเมืองล่ะก็ ทุกอย่างจะง่ายขึ้นมา”
“มีทางแก้ไขหรือไม่?”
“ฮูหยินเจ้าวางใจข้า ข้าจัดการเอง เจ้าไม่ต้องคิดอะไรอยู่ที่โรงเตี๊ยมไปหาของอร่อย ๆ กิน แล้วก็ซื้อของเถอะ” เว่ยฉิงลูบหัวนางเบา ๆ
เมื่อเห็นท่าทีที่มั่นใจของเว่ยฉิงถังหลี่ก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมา
“ฮูหยิน เอาตราของแม่ทัพเฉามาให้ข้า ข้าจะไปพบเขา”
ถังหลี่มอบป้ายให้แก่เว่ยฉิงชายหนุ่มจึงได้เดินทางไปที่ค่ายอีกครั้ง
นี่เป็นเรื่องดีที่สามีของนางอยู่ข้างกาย เขาสามารถดูแลและจัดการทุกอย่างให้แก่ถังหลี่ได้ ตอนนี้นางเพียงแต่รอเขาอยู่ที่โรงเตี๊ยมเท่านั้นก็พอ ถังหลี่ออกมาคุยกับเสี่ยวลิ่วคนงานของโรงเตี๊ยม ดวงตาของนางมองไปยังประตูห้องที่ปิดอยู่ของฮวาเหนียงจื่อ
“เถ้าแก่เนี้ยของเจ้าช่วงนี้ดูมีลับลมคมในนะ” ถังหลี่ถาม
“ไม่รู้สิขอรับ ราวกับว่าในห้องของนางมีสิ่งล้ำค่าที่ใครก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เห็น” เสี่ยวลิ่วส่ายหัว
คนทั้งสองพูดคุยเดี่ยวกับเถ้าแก่เนี้ยฮวา
ถังหลี่ไม่คิดเลยว่าเถ้าแก่เนี้ยฮวาที่อบอุ่นและร่าเริงแบบนางจะมีอดีตที่เลวร้าย เดิมทีแล้วหญิงสาวไม่ใช่คนเมืองฉินโจว แต่เป็นสตรีที่ลอบหนีออกมาจากหยิงโจว หลังจากเข้ามาในเขตฉินโจวแล้วนางทำงานหลายอย่าง ทั้งรับซักผ้าหรือเป็นสาวใช้ หลังจากเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งนางก็นำมาเปิดโรงเตี๊ยมแห่งนี้
“เถ้าแก่เนี้ยของเราเก่งมาก ในครั้งแรกที่เปิดกิจการมันอาจจะเป็นการไปขัดขาใครเข้า มีคนอยากมาถล่มโรงเตี๊ยมตลอด แต่เถ้าแก่เนี้ยยืนถือมีดข่มอยู่ที่หน้าประตู จนผู้คนต่างหวาดกลัว” เสี่ยวลิ่วพูดอวดถึงความเก่งกาจของฮวาเหนียงจื่อ
ทว่าถังหลี่กลับรู้สึกเศร้าใจ
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ฮวาเหนียงจื่อจะสามารถตั้งตัวได้อย่างทุกวันนี้ นางต้องทำงานเป็นสิบปีเพื่อมีโอกาสคว้ามันไว้ ถังหลี่หวังว่านางจะมีชีวิตที่ดีแทนที่จะต้องทิ้งไปอย่างเสียเปล่าในสงครามที่เกิดขึ้น
ถ้าพวกซยงหนูบุกเข้ามาจะต้องมีคนล้มตายด้วยคมดาบอีกกี่คน และอีกกี่คนที่ต้องอพยพออกจากบ้านเกิดของตน
เย็นวันนั้นเว่ยฉิงกลับมาที่โรงเตี๊ยม ตัวของเขามีแต่เหงื่อ ชายหนุ่มสวมเพียงเสื้อผ้าบาง ๆ ที่เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่แข็งแรงสมชายชาตรี เมื่อหญิงสาวเห็นสามีดวงตาของนางก็มีชีวิตชีวาขึ้น
“เว่ยฉิง!”
เว่ยฉิงลูบหัวของนางเบา ๆ ก่อนจะจับมือกันเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยม
“เสี่ยวลิ่ว ขอน้ำร้อนให้ข้าที” ถังหลี่ตะโกน
“เว่ยฉิงเป็นอย่างไรบ้าง?”
“แม่ทัพเฉาเชื่อเรื่องสายลับ และประตูเมืองจะเพิ่มกลยุทธ์การป้องกันมากขึ้น” เว่ยฉิงกล่าว
“จริงหรือ? เจ้าบอกแม่ทัพเฉาไปอย่างไร?” ถังหลี่รู้สึกมีความสุขมาก ตอนนี้นางกำลังอยากรู้อยากเห็น
เว่ยฉิงไม่ได้พูดเรื่องความฝันของถังหลี่ แต่เขาบอกว่าเห็นคนซยงหนูหลายคนแฝงตัวอยู่ในเมือง แม่ทัพเฉานั้นให้ความสำคัญกับเว่ยฉิงในระดับหนึ่ง และเขาก็เชื่อในสิ่งที่ชายหนุ่มพูด
“เซียงกง[1]! เจ้าเก่งมาก!” ถังหลี่จูบที่ริมฝีปากของเขา
ใบหน้าของเขามีความอ่อนโยนปรากฏขึ้น เว่ยฉิงหันศีรษะไปมองใบหน้าขาวเนียนของภรรยาอย่างใจจดใจจ่อ
“ฮูหยิน…ข้าเก่งไหม มีรางวัลหรือไม่?”
“เจ้าอยากได้รางวัลอะไรหรือ?” ดวงตาของถังหลี่สั่นไหว
เว่ยฉิงกระพริบตาก่อนจะกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ฮูหยิน ช่วยข้าอาบน้ำได้หรือไม่?” ถังหลี่ตอบตกลง
ในยามที่ฝ่ามือเล็ก ๆ ของภรรยาลูบไปตามแผ่นหลังของเขา เว่ยฉิงรู้สึกร้อนราวกับไฟที่กำลังเผาไหม้ เขาเอียงศีรษะตัวเอง ในขณะที่ลูกกระเดือกค่อย ๆ ขยับขึ้นลง สายน้ำที่ไหลผ่านช่วงลำคอทำให้ชายหนุ่มมีเสน่ห์ยั่วยวนจนไม่สามารถอธิบายได้
ถังหลี่พยายามมองผ่านไปและตั้งใจอาบน้ำให้แก่สามี ผู้ชายของนางเต็มไปด้วยมัดกล้ามที่แข็งแรงช่างน่ากินเหลือเกิน หลังจากที่อาบน้ำให้เขาเสร็จ นางเหนื่อยจนเหงื่อซึม
“ฮูหยิน มีอีกที่เจ้ายังไม่ได้ถูให้ข้า” เว่ยฉิงพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
ถังหลี่ตกใจ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดนางทำความสะอาดทั่วแล้วจะข้ามไปได้อย่างไร?
เว่ยฉิงจับมือภรรยาลงไปในน้ำเลื่อนให้มือของถังหลี่สัมผัสบางอย่าง
“ตรงนี้”
ใบหน้าที่งดงามของถังหลี่เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
“ฮูหยิน…ช่วยหน่อยสิ”
เสียงที่แหบพร่าของเขาก็มัวเมาให้นางหลงใหล…
…
ในตอนเย็นวันรุ่งขึ้น
ปัญหาที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะได้รับการแก้ไขแล้ว ตอนนี้ถังหลี่และเว่ยฉิงจึงใช้เวลาเพลิดเพลินไปกับการซื้อของ เมืองฉินโจวเป็นเมืองชายแดน สินค้าที่ขายจึงแปลกตาอย่างที่เมืองเหยาสุ่ยเทียบไม่ติด มีของหลายอย่างที่ถังหลี่และเว่ยฉิงไม่เคยเห็นมาก่อนวางขาย เป็นที่ตื่นตาตื่นใจแก่เว่ยฉิงมาก เมื่อเจอสินค้าแปลก ๆ เขาจะรีบเข้าไปดูทันที
“ฮูหยิน สิ่งนี้เป่าเป็นฟองสบู่ได้จริงหรือ?” เว่ยฉิงถามด้วยความสงสัย
มันเป็นวงกลมที่ทำมาจากไม้ไผ่ ยามจุ่มลงไปในน้ำสบู่ก็จะสามารถเป่าให้มันออกมาเป็นฟองได้
“ซื้อเลย” ถังหลี่ยื่นเงินให้
เว่ยฉิงหยิบไม้ไผ่ขึ้นมาลองเป่ามัน ถังหลี่เหมือนเห็นเด็กผู้ชายตัวโต ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา สามีของนางช่างน่ารักเสียจริง ในขณะที่เดินอยู่จู่ ๆ ฝีเท้าของถังหลี่ก็หยุดชะงัก เมื่อนางเห็นคนที่คุ้นเคยเดินเข้าไปในตึกแห่งหนึ่ง หากอ่านป้ายไม่ผิดเหมือนจะเป็นหอนางโลม
“เว่ยฉิง ข้าเห็นรองแม่ทัพเฉาฮัวบุตรบุญธรรมของแม่ทัพเฉาเมื่อครู่” ถังหลี่กล่าว
“เป็นไปไม่ได้” เว่ยฉิงกล่าว
“เหตุใดถึงเป็นไปไม่ได้?
“นั่นคือหอนางโลม”
“บุรุษไม่ชอบเที่ยวหอนางโลมหรือ?”
เว่ยฉิงตกใจจนทำไม้ไผ่ที่เป่าฟองสบู่ตกพื้น เขารีบยกมือเชิงยอมแพ้
“ฮูหยิน ข้าไม่ชอบเที่ยวหอนางโลมนะ!”
ถังหลี่มองท่าทีที่หวาดกลัวของเว่ยฉิงแล้วก็รู้สึกขบขัน
“คนโง่”
“ฮูหยิน ไม่น่าจะเป็นรองแม่ทัพเฉาฮัวไปได้หรอก เมื่อวานที่ข้าไปหาแม่ทัพเฉาได้คุยกันอยู่พักหนึ่ง แม่ทัพเฉาไว้ใจเขามาก บอกว่าบุตรบุญธรรมคนผู้นี้เป็นคนซื่อตรงฉลาดมาก เขาไม่ใช่บุรุษเจ้าชู้ ไม่ดื่มสุรา ว่ากันว่าเป็นเด็กที่มีความประพฤติดีที่สุดในบรรดาเด็กที่เขาเลี้ยงไว้” เว่ยฉิงกล่าว
“เหตุใดแม่ทัพเฉาจึงบอกเรื่องนี้กับเจ้า?” ถังหลี่มองไปยังเว่ยฉิง
“แม่ทัพเฉาบอกว่าถ้าข้าเข้าร่วมกองทัพ ข้าจะแข็งแกร่งได้มากกว่าเฉาฮัว”
สวรรค์เถอะ ตาแก่ผู้นี้ยังเกลี้ยกล่อมให้สามีของนางเข้ากองทัพอีก!
แต่ถังหลี่ยังคงคิดว่าคนที่เข้าไปในนั้นคือเฉาฮัว นางวางเดิมพันกับเว่ยฉิง ตอนนี้ทั้งสองนั่งอยู่ที่โรงน้ำชาที่อยู่ตรงข้ามหอนางโลม หลังจากนั่งดื่มชาไปหนึ่งกา ก็ได้เห็นบุรุษผู้หนึ่งเดินออกมาจากหอนางโหมแห่งนั้น แน่นอนว่าเขาคือเฉาฮัว!
ดวงตาของเว่ยฉิงเบิกกว้างด้วยความตกใจ
[1] เซียงกง เป็นคำจีนแต้จิ๋ว จีนกลางออกว่าเซียนกง คำว่า เซียง แปลว่า เทวดา ซึ่งก็คือเซียนที่คนไทยรู้จักกันดี