บทที่ 178 เรื่องราวของเถ้าแก่เนี้ยฮวา
ในห้องขัง
มือและเท้าของเฉาฮัวถูกล่ามไว้ เขาเงยศีรษะไปมองหน้าต่างที่มีอยู่บานเดียวท่ามกลางแสงสลัว
ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังฝัน เขาฝันว่าเขาสามารถลอบสังหารแม่ทัพเฉาได้สำเร็จ
ร่างของแม่ทัพเฉาถูกแขวนไว้ที่ประตูเมือง เมื่อกองทัพสูญเสียผู้บัญชาการทำให้พ่ายแพ้ในสงคราม กองทัพซยงหนูบุกเข้าโจมตีเมืองฉินโจวและสังหารผู้คนอย่างโหดเหี้ยม เหล่าผู้คนที่เขารู้จักคุ้นเคยต่างพากันล้มตายภายใต้คมดาบของพวกซยงหนู
เขารู้สึกว่าได้ทำภารกิจสำเร็จลุล่วง แต่เมื่อยามที่เขามองไปเห็นศพของแม่ทัพเฉาที่แขวนอยู่ตรงประตูเมือง มันทำให้หัวใจของชายหนุ่มสั่นไหว
ชายคนนี้เป็นคนที่พาเขาออกมาจากความหนาวเหน็บ เลี้ยงดูมาเป็นเวลาสิบปีราวกับบิดาแท้ ๆ ของเขา แต่เป็นเฉาฮัวเองที่สังหารเขากับมือ
เขาทำอะไรลงไป
เฉาจี…เฉาหลู…
พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นซากศพที่เย็นชืด ทั้ง ๆ ที่ไม่กี่วันก่อนยังซ้อมรบกันอย่างมีความสุข เฉาฮัวตื่นขึ้นมาจากความฝัน เหงื่อไหลอาบทั่วกาย หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว สิ่งแรกที่เฉาฮัวคิดคือ โชคดี…
โชคดีที่มันเป็นเพียงความฝัน
โชคดีที่เขาไม่ได้สังหารแม่ทัพเฉาจริง ๆ
แม่ทัพเฉา เฉาจี เฉาหลู่…พวกเขาทุกคนยังคงมีชีวิตอยู่ มันเป็นเรื่องที่ดีมาก
“ชาตินี้ข้าเกิดในแคว้นฮัน เป็นคนซยงหนู คงไม่สามารถเป็นลูกชายหรือแม้กระทั่งเป็นพี่น้องกับพวกเจ้าได้ …หวังว่าชาติหน้าข้าจะเกิดมาเป็นครอบครัวเดียวกับพวกเจ้า หากพวกเจ้าไม่รังเกียจข้า…”
เฉาฮัวพึมพำเบา ๆ ทันใดนั้นเองชายหนุ่มก็ยกโซ่ตรวนขึ้น กระแทกใส่หน้าผากตัวเองอย่างแรง
ข่าวที่เฉาฮัวฆ่าตัวตายในคุกก็ไปถึงหูของเฉาเช่า ในเวลานั้นเองแพทย์ทหารที่กำลังเปลี่ยนผ้าพันแผลให้กับแม่ทัพเฉารู้สึกได้ว่า ร่างกายของแม่ทัพแข็งทื่อขึ้นมาทันที
ท่านแม่ทัพคงเศร้าใจ… แพทย์ทหารคิด
เด็กคนนั้นก็คือคนที่แม่ทัพเฉาเลี้ยงดูมากับมือตั้งแต่ยังเล็ก
ท่านแม่ทัพเฉานิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาว่า
“ฝังศพเขาให้ดี”
……
ในช่วงเวลาสองวันที่ผ่านมา ถังหลี่สังเกตเห็นว่าอารมณ์ของเถ้าแก่เนี้ยไม่ค่อยดีนัก
“แม่นางถัง ได้โปรดช่วยพูดกับเถ้าแก่เนี้ยหน่อยเถิดขอรับ” เสี่ยวเอ้อร์กล่าว
เถ้าแก่เนี้ยของพวกเขานาน ๆ ถึงจะเป็นแบบนี้สักครั้ง แต่สำหรับคนเป็นลุกน้องแล้วหากเห็นนางเป็นแบบนี้ก็ได้แต่ไม่สบายใจและอึดอัดใจแทน วันก่อนที่ถังหลี่และเว่ยฉิงถูกเจ้าหน้าที่และทหารนำตัวไปยังค่าย เมื่อพวกเขากลับมาก็พบว่าฮวาเหนียงจื่อยืดศีรษะเฝ้ารอคอยพวกเขาด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล ก่อนจะเปลี่ยนโล่งใจเมื่อเห็นพวกเขากลับมาถึงโรงเตี๊ยมโดยสวัสดิภาพ
นางเป็นห่วงพวกเขาจริง ๆ
ถังหลี่จริงใจกับนาง นางเองก็ให้ความจริงใจกลับมาเช่นเดียวกัน ถังหลี่จึงไม่อยากเห็นนางไม่มีมีความสุข
แต่ตัวของนางเองก็ไม่เชี่ยวชาญในการที่จะจัดการปัญหาอารมณ์ที่ซับซ้อนอ่อนไหวแบบนั้น แต่เมื่อเห็นสายตาคาดหวังของเสี่ยวเอ้อร์ นางจึงได้แต่กัดฟัน
“พี่ฮวา ท่านชอบเด็กคนนั้นมากหรือ?” ถังหลี่ถามนาง
เถ้าแก่เนี้ยฮวากำผ้าเช็ดหน้าในมือตัวเอง
“ที่จริงแล้วข้าเป็นห่วงเขามากกว่า ไม่รู้เลยว่าตอนนี้จะไปอยู่ที่ใด บาดแผลดีขึ้นไหม มีอะไรกินหรือไม่…”
ถังหลี่รู้สึกว่าทัศนคติความรักของสตรีตรงหน้าผิดเพี้ยนไปเล็กน้อย เหมือนนางไม่ได้พูดถึงคนรัก แต่กลับเป็นห่วงเด็กหนุ่มผู้นั้นราวกับเป็นลูกชายของตนเอง …
“เขาอาจจะลำบากแต่ต้องสบายดีแน่ บางทีในวันหน้าเขาอาจจะปรากฏตัวต่อหน้าท่านอีกครั้ง ถึงตอนนั้นก็เป็นชายหนุ่มรูปงามแล้วล่ะ!” ถังหลี่กล่าว
“เจ้าเป็นคนที่ทำให้ข้ามีความสุขได้เสมอถังถัง” เมื่อเถ้าแก่เนี้ยฮวานึกถึงภาพนั้นในหัว นางก็หัวเราะออกมา
หญิงสาวมองถังหลี่ ใบหน้าเล็ก ๆ ของนางมีริ้วรอยของความกังวลอยู่
ทำให้ฮวาเหนียงจื่อรู้สึกว่าถังหลี่น่ารักมาก
“ที่จริงแล้ว…เวลาที่ข้าเห็นเขา ข้านึกถึงน้องชายตัวเอง” เถ้าแก่เนี้ยฮวากล่าว
“น้องชาย?”
“ใช่ ข้ามายังเมืองฉินโจวในฐานะผู้ลี้ภัยสงคราม เมื่อก่อนข้าจะหนีไปเรื่อย ๆ กับน้องชาย แต่ระหว่างทางข้าป่วยขึ้นมา…น้องชายข้าบอกจะไปเอายามาให้ แต่เขาก็ไม่เคยได้กลับมา หากว่าวันนั้นข้ารั้งเขาไว้ไม่ให้ไปก็คงจะดีไม่น้อย ”
นี่คือปมภายในจิตใจของฮวาเหนียงจื่อ
“น้องชายข้า หากเขายังอยู่ ก็คงอายุไล่เลี่ยกับเด็กคนนั้น”
เดิมทีถังหลี่คิดว่าเถ้าแก่เนี้ยฮวาใจดีกับเด็กหนุ่มเช่นนี้ เป็นเพราะว่าเขามีรูปร่างหน้าตาที่ดี ไม่คิดเลยว่ามันจะมีเหตุผลที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น
ถังหลี่ไม่รู้จะพูดอะไร ทำได้แค่ลูบหลังนางเท่านั้น
ใบหน้าของฮวาเหนียงจื่อมีรอยยิ้มที่ฝืดเฝื่อน
“ที่ข้าใจดีกับเขา เป็นเพราะข้าคิดว่าหากวันใดที่น้องชายข้าบาดเจ็บก็ขอให้มีคนช่วยหาหมอพาเขาไปรักษาเหมือนที่ข้าช่วยเหลือเด็กหนุ่มผู้นั้น”
“ย่อมเป็นไปตามที่ท่านปรารถนา”
“ถังถัง เจ้าต้องทะนุถนอมคนที่อยู่เคียงข้างเจ้านะ”
ถังหลี่รู้สึกประทับใจ นางมองไปที่เว่ยฉิงพยักหน้ารับอย่างไม่รู้ตัว
“ถังหลี่ เว่ยฉิง ออกมา!”
ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนมาจากด้านนอก พร้อมกับเสียงย่ำฝีเท้า เถ้าแก่เนี้ยฮวาเดินออกไปที่ประตูอย่างสง่างาม
“ใครมาหาเสี่ยวถังถังของข้า”
แต่ว่าหญิงสาวเดินเร็วเกินไป ทำให้ไปชนกับอีกฝ่ายทันที คนที่มาใหม่นั้นมีรูปร่างใหญ่โตเหมือนหมี เถ้าแก่เนี้ยฮวาเป็นสตรีตัวเล็ก เมื่อถูกชนร่างกายของนางก็แทบจะกระเด็นไป ชายหนุ่มรีบเอาแขนโอบเอวของหญิงสาวไว้ จนร่างกายทั้งคู่สัมผัสแนบชิดกัน
เฉาจีรู้สึกตกใจกับสัมผัสที่นุ่มนิ่มเช่นนี้…
เขาอดไม่ได้ที่จะมองผู้หญิงในอ้อมแขนของเขา นางเป็นคนผิวขาวผุดผ่อง เขารู้สึกได้ถึงความนุ่มนิ่มจากหน้าอกของนาง…
ใบหน้าของเฉาจีแดงก่ำ
บ้าเอ้ย!
“คนบ้ากาม!” เถ้าแก่เนี้ยฮวาตบไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างแรง
เมื่อเฉาจีรู้สึกตัวเขาก็รีบชักมือกลับ อีกทั้งไม่รู้ว่าจะวางไว้ตรงไหนดี ฮวาเหนียงจื่อโมโหนางทั้งตีทั้งเตะเฉาจีไม่หยุด ตอนนี้ชายหนุ่มเหมือนกระสอบทรายที่น่าสงสาร เขาได้แต่ปล่อยให้นางทำร้ายไปเรื่อย ๆ
หารู้ไม่ ชายคนนี้คือนักรบที่กล้าหาญที่สุดในกองทัพ
แข็งแกร่งเหมือนกำลังพลหนึ่งร้อยนาย แต่ตอนนี้เหมือนลูกบอลรองมือรองเท้าหญิงสาว ช่างน่าสมเพช
เว่ยฉิงกับถังหลี่ยืนมอง พวกเขาไม่ได้เข้าไปขัดขวาง รอให้หญิงสาวหมดแรงที่จะทำร้ายเฉาจีไปเอง
“เจ้าเป็นใคร” เถ้าแก่เนี้ยฮวามองไปที่เขา
“ข้านามว่าเฉาจี อายุสิบแปด ไม่มีบิดามารดามีพี่อยู่คนหนึ่ง พื้นเพเป็นคนที่ซ่างจิง”
“ใครถามเจ้าขนาดนั้น” เถ้าแก่เนี้ยฮวากลอกตา
“โอ้..” เฉาจีรีบหุบปาก
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
“ข้ามาหาเว่ยฉิงกับถังหลี่..”
“เหตุใดเจ้าถึงได้มาตะโกนเรียกพวกเขาเสียงดังหยาบคายเช่นนั้น?”
เถ้าแก่เนี้ยฮวามองไปที่อีกฝ่ายอย่างระแวดระวัง ราวกับแม่ไก่แก่ที่กำลังปกป้องลูกวัว
“ข้าใจร้อนไปหน่อย ข้าเพียงแค่จะเชิญพวกเขาไปสังสรรค์ด้วยเท่านั้น” เฉาจีก้มหัวลงอย่างขัดเขิน
เถ้าแก่เนี้ยฮวาละมือจากเขาไป
ถังหลี่กับเว่ยฉิงเห็นทั้งหมด
“แม่นาง ท่านอยากไปด้วยกันหรือไม่?” เฉาจีถามอีกฝ่ายด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ
“ไม่ ข้าต้องเฝ้าโรงเตี๊ยม”
เฉาจีรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อได้ยิน
“พี่ฮวา คนผู้นี้ดูดุร้ายมาก ท่านช่วยไปปกป้องข้าด้วยเถอะ” ถังหลี่พูด
“ก็ได้” เถ้าแก่เนี้ยฮวาตอบรับทันที
ก่อนหน้านี้ ในสายตาของเฉาจีนั้น ถังหลี่ช่างไม่น่ารักเอาเสียเลย เขาคิดว่านางเป็นเด็กโง่ไม่ได้เรื่อง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิดไป
เฉาจีพาพวกเขาไปยังเหลาอาหารใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลนัก
ในขณะนั้นเองเฉาจีก็แอบมองเถ้าแก่เนี้ยฮวาแล้วรีบมองไปทางอื่นทันที ดูเหมือนชายหนุ่มกำลังมีความรักเสียแล้ว
หัวใจของเฉาจีเต้นแรงมาก เขารู้สึกหัวใจพองโตขึ้นยามที่ได้สบตากับอีกฝ่าย
ถังหลี่และเว่ยฉิงไปกินอาหารที่เหลา ทั้งสองกินอย่างเต็มที่ไม่สนใจมารยาทเท่าใดนัก หลังจากมื้ออาหารจบลง เฉาจีก็ไปส่งเถ้าแก่เนี้ยฮวากลับไปยังโรงเตี๊ยม เขาสุภาพกับนางมาก