เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ – บทที่ 193 ถังหลี่มาแล้ว

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 193 ถังหลี่มาแล้ว

ณ.เมืองเหยาสุ่ยที่ไกลออกไป

ตั้งแต่เอ้อร์เป่าจากไป ความอยากอาหารของซานเป่าก็น้อยลงมาก เมื่อก่อนเด็กหญิงตัวเล็กกินข้าวสองหรือสามชามใหญ่ แต่ตอนนี้นางกินเพียงแค่ครึ่งชามเท่านั้น ถังหลี่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุนี้หรือเปล่า เมื่อซานเป่าน้ำหนักลดลง ทำให้ดวงตาของเด็กน้อยนั้นยิ่งดูโตขึ้น

หญิงสาวลำบากใจมาก นางคิดหาวิธีทำของอร่อย ๆ ให้ซานเป่า หวังว่าเด็กหญิงจะกินได้สักคำสองคำ

ซานเป่าดูอิดโรยซึมเซาตลอดทั้งวัน

ทันทีที่ได้ยินเสียงรถม้าแล่นผ่านข้างนอก นางจะรีบดีดตัวขึ้นทันที ก่อนจะวิ่งไปที่ประตูเขย่งเท้าปลดกลอนออกพร้อมกับชะโงกหน้าออกไปดู ปรากฏว่าเป็นเพียงรถม้าของเพื่อนบ้านเท่านั้น เด็กน้อยกลับมาพร้อมกับความผิดหวังบนใบหน้า

“ท่านแม่ ข้าคิดถึงพี่รอง พี่รองจะกลับมาเมื่อใด?” ซานเป่าปีนขึ้นไปนั่งตักของถังหลี่ เด็กหญิงเงยหน้าถามมารดาอย่างใคร่รู้

“เอ้อร์เป่ากลับไปเยี่ยมญาติ เขาจะกลับมาหลังจากเสร็จธุระแล้ว” ถังหลี่ลูบหัวของนางเบา ๆ

“พี่รองจะไม่กลับมาแล้วหรือ?” ซานเป่าถาม

เด็ก ๆ นั้นอ่อนไหวมาก ถังหลี่เองก็ไม่แน่ใจ ไม่อาจหาคำตอบให้ลูกสาวได้

“ซานเป่าเจ้าผูกพันกับเอ้อร์เป่ามากเช่นนี้ หากวันใดพี่รองของเจ้าแต่งงานมีภรรยาเล่า?” ถังหลี่กล่าว

ซานเป่าจับคางครุ่นคิด

“หากเช่นนั้น ข้า พี่รองกับภรรยาของพี่รองจะอยู่ด้วยกัน!”

“แล้วเวลานอนเล่า?”

“ข้าจะนอนตรงกลางระหว่างพวกเขา!”

ถังหลี่รู้สึกขบขัน เหตุใดลูกสาวนางถึงได้น่าขันเช่นนี้นะ?

“แล้วถ้าซานเป่าของเรามีสามีเล่า? พวกเจ้าสี่คนจะนอนด้วยกันหรือ?”

ซานเป่าขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นนางก็ผละตัวออก ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจว่า

“ให้สามีข้ากับพี่สะใภ้นอนด้วยกัน! ส่วนข้าจะนอนกับพี่รอง!”

“เจ้าเด็กน้อยฉลาดเสียจริง ๆ” ถังหลี่บีบจมูกนางเบา ๆ

ซานเป่าคิดว่ามารดากำลังชื่นชมตัวเองอยู่ นางจึงเชิดคางขึ้นอย่างภูมิใจ

“ท่านแม่ เราไปหาพี่รองกันได้หรือไม่?” ซานเป่าถามอย่างกังวล

ถังหลี่ก็ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ ตอนนี้นางไม่ได้มีงานยุ่งมากมายนัก จึงไม่มีปัญหาหากจะไปเมืองฉินโจว อย่างไรก็ตามนางเคยไปที่นั่นมาแล้ว ถังหลี่ไม่ใช่คนแปลกหน้าของเมืองฉินโจว ยิ่งไปกว่านั้นหากนางยังอยู่บ้านก็ยิ่งไม่สบายใจมากขึ้น นั่นไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีเลย หญิงสาวตัดสินใจอย่างแน่วแน่

“เอาล่ะ พวกเราไปเมืองฉินโจวกันเถอะ!”

ซานเป่ากระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข

ถังหลี่พกเงินก้อนหนึ่งก่อนจะจ้างรถม้าเดินทางไปยังเมืองฉินโจวในวันพรุ่งนี้

วันต่อมาถังหลี่อยู่ในเสื้อผ้าของบุรุษ

มันไม่ได้เหมือนกับในละครที่เพียงแค่สวมชุดผู้ชาย มัดผม แล้วทุกคนจะทำราวกับว่านางเป็นผู้ชาย แม้ถังหลี่จะสวมเสื้อผ้าผู้ชาย แต่ก็ยังบอกได้ว่านางเป็นสตรี แต่หญิงสาวทำเช่นนี้เพื่อความสะดวกของตนเอง

ในสายตาของซานเป่านั้น ท่านแม่ของนางดูดีมากในชุดบุรุษ นางไม่สามารถบรรยายออกมาได้เลย

ถ้านางโตอีกนิดคงจะรู้จักกับคำว่าหล่อเหลา!

ถังหลี่สวมเสื้อผ้าที่ดูเรียบง่าย สองแม่ลูกขึ้นรถม้าออกเดินทางไปยังเมืองฉินโจว

“ฮูหยินเว่ย หากท่านต้องออกเดินทางทุกวันหรือสองวันแบบนี้ควรซื้อรถม้าไว้ใช้ส่วนตัวจะดีกว่า” จางเฉียนกล่าว

ถังหลี่เองก็คิดเช่นนั้น

มันก็เหมือนกับการซื้อรถยนต์ของคนยุคใหม่ รถม้าเป็นสิ่งจำเป็นในการเดินทาง หญิงสาวคิดว่าหลังกลับมาจากเมืองฉินโจว นางจะลองคิดดูอีกครั้ง

“ฮูหยิน ท่านจ้างข้าบังคับรถม้าก็ได้นะ” จางเฉียนแนะนำตัวเอง

เมืองเหยาสุ่ยนั้นมีขนาดเล็กมาก ผังเมืองเป็นแค่พื้นที่วงกลมเท่านั้น ทุกคนต่างรู้ดีว่าถังหลี่นั้นเป็นเจ้านายที่ดี นางปฏิบัติกับบ่าวรับใช้อย่างอ่อนโยน

จางเฉียนได้รับการว่าจ้างจากถังหลี่มาสองสามครั้งแล้ว เขาย่อมรู้ดีว่านางเป็นคนเช่นไร…

บางครั้งเวลามีคนมาเช่ารถม้า พวกเขาต่างพูดพล่ามอีกทั้งมีกิริยาไม่ดี ลูกค้าแบบถังหลี่นั้นหายากมาก จางเฉียนจึงอยากทำงานกับนาง

“ถ้าข้าซื้อรถม้า ข้าจะจ้างเจ้าแน่นอน” ถังหลี่พยักหน้า

“ขอบคุณขอรับฮูหยิน ข้าจะตั้งตารอ” จางเฉียนตอบอย่างมีความสุข

พวกเขาหยุดพักระหว่างทาง

ถังหลี่กับซานเป่ากินมื้อเที่ยงก่อนจะออกเดินทางต่อ การนั่งรถม้าเป็นเวลานานนั้นเป็นเรื่องที่ลำบากมาก แต่ถังหลี่มีร่างกายที่แข็งแรง นางจึงแทบจะไม่รู้สึกอะไร ส่วนซานเป่านั้นนางยังเป็นแค่เด็ก เมื่อง่วงก็นอน นางนอนหลับนิ่ง ๆ ข้างกายมารดา หลังจากเร่งเดินทางอีกครึ่งวันในที่สุดพวกเขาก็มาถึงเมืองฉินโจวก่อนฟ้าจะมืด ซานเป่าตื่นขึ้นมานางมองออกไปนอกหน้าต่างรถม้า

ที่นี่คึกคักมาก!

ช่างมีชีวิตชีวามากกว่าเมืองเหยาสุ่ย!

นางไม่รู้ว่าต้องไปหาพี่รองที่ไหน

ตอนนี้ก็เข้าเวลาพลบค่ำแล้ว ถังหลี่ไม่รีบร้อนออกตามหาเว่ยฉิง นางไปยังโรงเตี๊ยมที่คุ้นเคยแทน หญิงสาวเหนื่อยล้ามาก คงไม่สามารถไปหาสามีด้วยท่าทางเช่นนี้ได้

ถังหลี่มุ่งหน้าไปที่โรงเตี๊ยมของฮวาเหนียงจื่อ

“แม่นางถัง! ท่านมาอีกแล้ว!”

“ใช่แล้ว! เถ้าแก่เนี้ยของเจ้าอยู่ไหนหรือ?”

ในสายตาของเสี่ยวเอ้อร์นั้นมีเรื่องมากมายที่อยากเล่าให้ถังหลี่ฟัง เขาเหลือบไปที่ประตูห้องของเถ้าแก่เนี้ยฮวา

“อยู่ในห้องขอรับ”

ถังหลี่ไม่ได้สังเกตท่าทีผิดปกติของเขา นางจึงตะโกนออกไป “พี่ฮวา!”

หลังจากนั้นไม่นาน ประตูห้องก็เปิดออก เถ้าแก่เนี้ยฮวารีบออกมาจากด้านในก่อนจะรีบปิดประตูราวกับว่ากำลังซุกซ่อนผู้ใดอยู่หลังประตูบานนั้น

เวลาฮวาเหนียงจื่อเดินนั้น พริ้วไหวนุ่มนวล น่าหลงใหลมาก

“ถังถัง!” เถ้าแก่เนี้ยฮวารู้สึกประหลาดใจมาก

“ข้าคิดว่าข้าเห็นภาพหลอนเสียอีก ไม่คิดว่าจะเป็นเจ้า”

พอนางเหลือบไปเห็นซานเป่า ดวงตาของนางแวววาวเป็นประกายทันที

“เอ๋…เด็กน้อยคนนี้คือบุตรสาวที่เจ้าพูดถึงบ่อย ๆ หรือ? ช่างน่ารักเสียจริง”

เถ้าแก่เนี้ยฮวาไม่เกรงใจ นางคว้าซานเป่าไปกอดในอ้อมแขนแล้วลูบหัวเบา ๆ จู่ ๆ สายตาของถังหลี่ก็กวาดไปเห็นที่ลำคอของหญิงสาว เป็นรอยจาง ๆ เมื่อนางรู้สึกได้ถึงสายตาของถังหลี่ เถ้าแก่เนี้ยฮวาจึงพูดขึ้นว่า

“หมามันกัดน่ะ”

“หมาป่าน้อยกัดหรือ?” ถังหลี่พูดอย่างมีความนัยแฝง

เถ้าแก่เนี้ยฮวาไม่รู้จะพูดตอบอย่างไร ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อขึ้นมา

“ถังถัง เจ้ามาทำอะไรที่เมืองฉินโจวในเวลานี้หรือ?” เถ้าแก่เนี้ยฮวารีบเปลี่ยนเรื่องทันที

ถังหลี่อธิบายเหตุผลที่นางมายังเมืองฉินโจว

สกุลฟางนั้นเป็นครอบครัวที่มีชื่อเสียงในเมืองฉินโจว แม้แต่ฮวาเหนียงจื่อยังรู้จัก หญิงสาวจึงบอกกับถังหลี่ว่าจวนสกุลฟางอยู่ที่ไหน หลังจากถังหลี่คุยกับฮวาเหนียงจื่ออยู่ครู่หนึ่งนางก็เข้าไปอาบน้ำ เพราะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง เนื้อตัวมีแต่ฝุ่น

ถังหลี่อาบน้ำให้ซานเป่าก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ให้กับเด็กหญิง หลังจากนั้นก็อาบน้ำแต่งตัวให้ตัวเอง ตอนนี้ถังหลี่กลับมาสวมชุดสตรีแล้ว เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยดี ถังหลี่ก็พาซานเป่าออกมาจากห้อง

เด็กหญิงนั้นไม่เคยมาเมืองฉินโจว ถังหลี่จึงพานางเดินชมไปรอบ ๆ ตอนนี้บนถนนนั้นมีผู้คนมากมาย ทั้งขายเสื้อผ้า ตั้งร้านแผงลอย เป็นตลาดยามค่ำคืน ในนั้นมีสิ่งแปลกใหม่มากมาย ดวงตาของซานเป่าเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ถังหลี่พาซานเป่าเดินเล่นไปสักพัก จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียง—-

โจร โจร! ช่วยจับโจรที!

หญิงสาวหันหลังกลับไปมอง นางเห็นว่าชายร่างเล็กกำลังวิ่งมาทางตนเอง ในมือของเขาถือถุงเงินไว้ ในขณะที่เขากำลังจะวิ่งผ่านนางไป ถังหลี่ก็ยื่นเท้าออกไปขัดขาจนชายคนนั้นสะดุดลงกับพื้น

หลังจากที่ล้มลงเขาพยายามรีบลุกขึ้นทันที แต่อึดใจต่อมาขาของเขาก็ถูกเตะอย่างแรง ตอนนี้ขาทั้งปวดทั้งชาเป็นอย่างมาก

ถังหลี่คุกเข่าลงก่อนจะหยิบถุงเงินออกมาจากมือของชายผู้นั้น หญิงสาวหน้าตาดีผู้หนึ่งวิ่งจนเหนื่อยหอบก่อนจะเตะไปที่ชายคนนั้นอย่างแรงทันที

“กล้าขโมยเงินของข้าหรือ! เจ้าตายแน่!” นางคำรามอย่างดุร้าย ก่อนจะมองไปที่ถังหลี่และแย้มยิ้มอย่างรวดเร็ว “ขอบคุณมากแม่นาง”

“ไม่เป็นไร” ถังหลี่ยื่นถุงเงินคืนให้นาง

หญิงสาวกำลังงุนงง นางรับถุงเงินมาและเตะโจรไปอีกสองสามครั้ง ต่อเมื่อเงยหน้าขึ้นก็มาพบว่าหญิงสาวที่ช่วยตนไว้เมื่อครู่นั้นหายไปแล้ว

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

Status: Ongoing
เธอทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คน ซึ่งเป็นตัวร้ายสุดชั่วช้า จุดจบคือประหารอย่างน่าสังเวช เธอจะทำยังไงให้อนาคตของพวกเขาเปลี่ยนไป‘ถังหลี่’ ทะลุมิติไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คนแต่หนุ่มชาวป่าผู้นี้นั้น คือตัวร้ายหลักของนิยายเรื่องดังกล่าว เป็นตัวร้ายที่จิตใจอำมหิต สุดแสนจะชั่วช้าสามานย์ แถมลูกเลี้ยงทั้ง 3 ก็เป็นเหล่าวายร้าย เป็นตัวร้ายในเรื่องที่โฉดชั่วไม่ต่างกับบิดา จุดจบของพวกเขาคือถูกสั่งประหารอย่างน่าสังเวช แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ เด็กน้อยทั้ง 3 ยังคงเป็นเจ้าก้อนน่ารักนุบนิบ คอยเรียกนางอย่างแสนหวานว่า “ท่านแม่” เพียงแค่คำนี้ที่ออกมาจากปากของพวกเขา นางก็ใจอ่อนยวบ ตั้งใจว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางจะต้องเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเหล่าลูกเลี้ยงให้ได้!ภารกิจถัดมาคืออะไรน่ะหรือ ก็คือทำนา ทำการค้า ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินทองมาเลี้ยงเด็กน้อยทั้ง 3 ให้มีชีวิตที่สุขสบาย กล่อมเกลาพวกเขาให้มีชีวิตดีๆต่อมา…เหล่าวายร้ายทั้ง 3 ได้เติบโตขึ้น คนหนึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ในใต้หล้า คนหนึ่งเป็นพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ ร่ำรวยยิ่งกว่าฮ่องเต้ คนหนึ่งเป็นแม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม…ทั้ง 3 ทั้งรักทั้งหวงถังหลี่เป็นอย่างมากผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ : บังอาจรังแกท่านแม่ของข้างั้นหรือ จับมันไปขังเดี๋ยวนี้!แม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม : พี่ใหญ่ ฆ่ามันทิ้งเสียเลยง่ายกว่า!พ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ : น้องสาม ข้าจะยื่นดาบให้เจ้าเอง!พระปิตุลาผู้ทรงอำนาจคว้าตัวภรรยาของตนเข้าไปกอด : ภรรยาที่รักของข้า ข้าจะปกป้องเอง เจ้าพวกตัวเปี๊ยกน่ารำคาญ ถอยไปซะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท