เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ – บทที่ 197 ถูกกล่าวหา

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 197 ถูกกล่าวหา

ถังหลี่จัดเสื้อผ้าของตัวเองก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับเว่ยฉิง ซานเป่าและเอ้อร์เป่าก็ตามออกมาเช่นกัน ถังหลี่จับมือลูก ๆ ทั้งสองคนไว้ ส่วนเว่ยฉิงเดินไปเปิดประตู

ที่ด้านนอกห้อง นางถังพาคนรับใช้ห้าถึงหกคนมาด้วย ดูจากท่าทีแล้วเห็นได้ชัดว่าจงใจมาหาเรื่องกัน ใบหน้าของฮูหยินใหญ่แห่งสกุลฟางเต็มไปด้วยรอยยิ้ม นางกล่าวขอโทษขอโพย

“เว่ยฉิง ฮูหยินเว่ย ข้าต้องขอโทษจริง ๆ ที่มารบกวนพวกท่านยามดึกเช่นนี้ ตอนนี้ที่จวนฟางเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น มีของมีค่าหลายชิ้นหายไป คาดว่ามีคนมือเท้าสกปรกอยู่ในจวนแห่งนี้ พวกข้าจึงออกตามหาหัวขโมยผู้นี้อยู่”

“ท่านพ่อท่านแม่ไม่ใช่หัวขโมยนะ!” เอ้อร์เป่าทำหน้ามุ่ย เด็กชายจ้องไปที่นางถังด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร

นางถังเผยสีหน้าเย็นชาออกมาชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นไม่นานนักรอยยิ้มอ่อนโยนก็เผยออกมาพร้อมกับคำเยินยอเล็กน้อย

“เหยียนเอ๋อร์ แม่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเป็นขโมย คนในจวนฟางล้วนต้องสงสัย ตอนนี้ภายในจวนมีคนชั่วร้ายปะปนอยู่ พวกเราก็ไม่สามารถอยู่อย่างสงบได้ ดังนั้น ต้องหาตัวคนชั่วนี้ให้เจอ”

“ใช่แล้ว ไม่มีใครกล่าวหาว่าเขาเป็นขโมยเสียหน่อย ในเมื่อไม่ใช่ จะกลัวเรื่องการค้นตัวด้วยเหตุใดกัน”

“ทุกคนในจวนหลังนี้ย่อมต้องถูกค้นไม่มีข้อยกเว้นเจ้าค่ะ นายน้อยเจ้าคะ คำพูดเมื่อครู่ของนายน้อยทำร้ายจิตใจฮูหยินมากเลยนะเจ้าคะ”

สาวใช้สองสามคนจงใจพูดยกยอนางถัง เกลี้ยกล่อมเอ้อร์เป่าช่วยเจ้านายของตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติ

“พวกเราอาศัยอยู่ในจวนฟาง ดังนั้นต้องปฏิบัติตามกฎของจวนสกุลฟาง หากพวกท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ย่อมไม่กลัวความผิด เช่นนั้นให้พวกข้าตรวจสอบหน่อยเถิด” นางถังยิ้มเล็กน้อย

ไม่กลัวความผิดเล็กน้อยหรือ?

มุมปากของนางถังยกยิ้มเยาะเย้ย

ฮูหยินใหญ่สกุลฟางใช้บ่าวรับใช้ให้รีบเข้าไปรื้อค้นห้องพักของเว่ยฉิงทันที พวกเขาค้นหามันอย่างระมัดระวังและรอบคอบ ไม่ปล่อยให้หลุดพ้นไปแม้แต่ตารางนิ้วเดียว ดังนั้นการค้นหาจึงเป็นไปอย่างล่าช้า

ถังหลี่มองไปที่เอ้อร์เป่าและนางถัง หญิงสาวรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของสองแม่ลูกนั้นค่อนข้างเลวร้ายกว่าตอนที่พวกเขาอยู่เมืองเหยาสุ่ยมาก

ถังหลี่ครุ่นคิดเรื่องนี้อย่างเงียบ ๆ

เอ้อร์เป่าไม่มองนางถังเลย เด็กชายทำเพียงอยู่ใกล้ ๆ ถังหลี่เท่านั้น

หลังจากนั้นไม่นาน เหล่าคนรับใช้ก็รื้อค้นเสร็จ แต่พวกเขากลับออกมามือเปล่า

“ฮูหยินใหญ่ขอรับ พวกข้าค้นทุกที่แล้วขอรับ ไม่มีอะไรเลยขอรับ” บ่าวรับใช้คนนั้นพูดขึ้น

นางถังขมวดคิ้ว… เป็นไปได้อย่างไร?

สามีของนางเป็นคนเข้มงวดมาก ย่อมไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นแน่

“เจ้าหาดีแล้วหรือ?” นางถังถาม

“ขอรับฮูหยินใหญ่ หาดีแล้วขอรับ” บ่าวพูด

“ฮูหยินฟาง ท่านคิดว่ามันแปลกหรือที่ไม่พบอะไรในห้องพวกข้า?” ถังหลี่ถามด้วยรอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา

นางถังหัวใจหล่นไปอยู่ที่เท้า นางมองถังหลี่ที่ทำท่าเหมือนล่วงรู้อะไรบางอย่าง

“ฮูหยินเว่ยเข้าใจผิดแล้ว ข้าแค่ตั้งใจที่จะค้นหาหัวขโมยเท่านั้น ไม่ใช่แค่เฉพาะกับท่าน ข้าทำเช่นนี้กับคนทั้งจวน” นางถังกล่าว

“ฮูหยินทำดีที่สุดแล้วในการดูแลจวนแห่งนี้”

แต่นางถังยังคงไม่เชื่อ นางให้บ่าวรับใช้ค้นหาอีกครั้งแต่ก็ยังไม่พบเจออะไร ฮูหยินใหญ่สกุลฟางทำได้เพียงกัดฟันและกล่าวว่า

“ขออภัยด้วย ได้โปรดอย่าโกรธเคืองกันเลย ไปค้นหาที่อื่นกันต่อเถอะ”

นางถังนำคนกลุ่มนั้นออกไปอย่างโหวกเหวก

ทันทีที่พวกเขาจากไป เด็กชายรู้สึกหดหู่ใจมาก เขากอดเอวถังหลี่ไว้เงียบ ๆ เมื่อหญิงสาวก้มหน้าลงไปดูก็พบว่าดวงตาของบุตรชายนั้นแดงก่ำ

“เอ้อร์เป่า เป็นอะไรลูก” ถังหลี่ถาม

“เป็นผู้ชาย อย่าร้องไห้บ่อย ๆ สิ” เว่ยฉิงพูด

ซานเป่านั้นเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ดังนั้นนางร้องไห้ได้ แต่ต้าเป่าและเอ้อร์เป่าเป็นบุรุษไม่ควรเสียน้ำตาง่าย ๆ

เอ้อร์เป่าสูดจมูกตัวเอง พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ร้องไห้ออกมา

“ท่านแม่ ท่านพ่อ ต้องลำบากเพราะข้า”

เอ้อร์เป่าเป็นเด็กฉลาดมาก ดังนั้นเขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าคนเหล่านี้มีความคิดที่ไม่ดีกับท่านพ่อของเขา

เหตุผลที่ท่านพ่อโกรธ เป็นเพราะเขาอยากดูแลเอ้อร์เป่า

ท่านแม่เดินทางมาไกล เมื่อมาถึงก็ได้รับสายตาเคลือบแคลง ดูหมิ่น

ทั้งหมดนี่เป็นเพราะเอ้อร์เป่า

“เด็กโง่ แม่ไม่ได้ลำบากอะไรเลย” ถังหลี่จับมือเอ้อร์เป่าเข้าไปในห้อ

“วันนี้แม่แค่พูดไม่ออกเพราะความโกรธเท่านั้น”

เอ้อร์เป่ากระพริบตา

“เจ้าเคยเห็นแม่ต้องเสียเปรียบใครหรือ?”

เอ้อร์เป่าก้มหน้าคิดอย่างถี่ถ้วน แล้วเขาส่ายหน้าไปมา

มารดาของเขาเป็นคนเก่งมาก ไม่มีอะไรที่ท่านแม่ทำไม่ได้

“ใครก็ตามที่ล่วงเกินแม่ทำให้แม่โกรธ เขาจะกลายเป็นคนโชคร้ายที่บังอาจทำให้แม่ขุ่นเคือง” ถังหลี่พูด “เอ้อร์เป่า นั่งลงสิ”

เด็กชายนั่งลงตรงข้ามกับถังหลี่

“เอ้อร์เป่าชอบที่นี่หรือไม่?” ถังหลี่ถาม

เด็กชายส่ายหน้าทันที

เขาไม่ชอบที่นี่ ไม่ชอบมันเลย

“แต่นายท่านฟางและนางถังคือพ่อแม่แท้ ๆ ของเจ้านะ” ถังหลี่กล่าว

“ท่านแม่ พวกเขาให้กำเนิดข้าย่อมเป็นความเมตตา ส่วนท่านกับท่านพ่อเป็นคนเลี้ยงข้ามานั่นคือความกรุณา การให้กำเนิดและการเลี้ยงดูล้วนต้องมีความเมตตา ข้าควรเคารพพวกเขา…แต่ท่านแม่ ข้าไม่ชอบพวกเขาเลย ข้าไม่มีความสุขเวลาอยู่กับพวกเขา ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่ ข้าสามารถตอบแทนพระคุณของเขาด้วยวิธีอื่นได้หรือไม่?” เอ้อร์เป่ากล่า

“ถ้าอย่างนั้นแม่ก็จะเห็นแก่ตัว และพาเจ้ากลับบ้าน” ถังหลี่พูด “แม่ไม่เต็มใจที่จะแยกกับเจ้า ในตอนที่เจ้าไม่อยู่ใกล้ ๆแม่ แม่คิดถึงเจ้าทุกวันเลย”

ศีรษะของเอ้อร์เป่าวางอยู่บนตักของถังหลี่ เขารู้สึกได้ถึงความปลอดภัย

“ท่านแม่ พาข้ากลับบ้านที”

“ได้สิ” ถังหลี่กล่าว

สำหรับถังหลี่แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือจิตใจของเอ้อร์เป่า ฟางเจี๋ยและนางถังไม่สามารถหยุดนางได้เอาไว้ได้ แต่ตอนนี้คงต้องรอจนกว่าท่านปู่ของเขาจะดีขึ้น

“เอ้อร์เป่า เจ้าไม่ได้กินอาหารของแม่นานแล้วสินะ”

ดวงตาของเอ้อร์เป่าเป็นประกาย

ที่จวนสกุลฟางแห่งนี้มีอาหารมากมาย ทุกจานทำจากพ่อครัวชื่อดัง คนเหล่านั้นทำเหมือนกับว่าเขาไม่เคยได้กินอาหารเหล่านี้มาก่อน พวกเขาต่างคะยั้นคะยอให้เอ้อร์เป่ากิน อย่างไรก็ตามเขากลับรู้สึกว่ามันไม่อร่อยเท่าอาหารที่มารดาเขาทำ

แม้ว่าเรือนรับรองหลังนี้จะเล็กแต่ก็มีครัวสำหรับทำอาหาร

ที่นี่มีวัตถุดิบที่เว่ยฉิงซื้อหามาเพื่อไว้ทำกินเอง ความจริงแล้ว เว่ยฉิงจงใจเลือกที่จะอยู่เรือนรับรองแห่งนี้เพราะที่นี่มีครัวไว้สำหรับปรุงอาหาร คนในจวนนี้ไม่ได้สนใจเรื่องอาหารการกินของเว่ยฉิง ดังนั้นเขาจึงเข้าครัวและหาผักมาทำอาหารเอง ตอนนี้ถังหลี่ก็ทำอาหารขึ้นโต๊ะด้วยวัตถุดิบเพียงอย่างเดียว

ครอบครัวทั้งสี่คนนั่งลงทานอาหารอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เอ้อร์เป่ากับเว่ยฉิงไม่ได้กินอาหารที่ถังหลี่ทำมาเป็นเวลานานแล้ว แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่กับข้าวธรรมดาพื้น ๆ ทั่วไป หากส่งกลิ่นหอมมาก เอ้อร์เป่ากินไปสองชาม ซานเป่ากินไปสามชาม ส่วนเว่ยฉิงกินไปถึงห้าชาม!

เด็กทั้งสองกินอิ่มจนท้องป่อง

เว่ยฉิงเก็บจานชามไปล้างทันที

หลังจากล้างจานเสร็จ พ่อลูกก็พากันเดินเพื่อย่อยอาหาร หลังจากมื้อเย็นผ่านไปฟางเจี๋ยและนางถังก็กลับมาอีกครั้ง หญิงสาวเห็นจึงเสเเสร้งทำเป็นประหลาดใจ

“ฮูหยินฟางค้นหาทั้งจวนเสร็จแล้วหรือ? เร็วมาก… ท่านพบหัวขโมยหรือไม่?”

นางใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วยามในการทำอาหาร แปลว่านางใช้เวลาครึ่งชั่วยามในการค้นหาของ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เวลาน้อยขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาจงใจพุ่งเป้ามาที่นาง

ถังหลี่เยาะเย้ยนางถัง

นางถังมีสีหน้าที่ผิดไปเล็กน้อย

“ข้าไปทำธุระอย่างอื่นนะ ปล่อยให้คนรับใช้ค้นหาไป”

“ฮูหยินเว่ย ข้าเพิ่งรู้ว่าท่านอยู่ที่นี่ ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วยที่สกุลฟางประมาทเลินเล่อเช่นนี้ หากอยากได้อะไรก็บอกข้าได้เลย” ฟางเจี๋ยกล่าว

ในตอนที่นางถังค้นห้องพักของเว่ยฉิง ฟางเจี๋ยได้เรียกเจ้าหน้าที่จากทางการมารอที่ด้านนอกเมื่อพบของที่ซ่อนเอาไว้ เขาจะพาเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมเว่ยฉิงทันที

แต่รออยู่นานก็ไม่ได้ข่าวอะไร

ฟางเจี๋ยรู้สึกว่ามีมือที่มองไม่เห็นกำลังตบหน้าเขาอยู่ ตอนนี้ชายหนุ่มเต็มไปด้วยความหงุดหงิด เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ชายหนุ่มรู้สึกอยู่เสมอว่าเรื่องนี้เต็มไปด้วยความแปลกประหลาด เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากให้เจ้าหน้าที่กลับไป แต่ฟางเจี๋ยยังรู้สึกไม่สบายใจจึงอยากมาตรวจสอบเอง

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

Status: Ongoing
เธอทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คน ซึ่งเป็นตัวร้ายสุดชั่วช้า จุดจบคือประหารอย่างน่าสังเวช เธอจะทำยังไงให้อนาคตของพวกเขาเปลี่ยนไป‘ถังหลี่’ ทะลุมิติไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คนแต่หนุ่มชาวป่าผู้นี้นั้น คือตัวร้ายหลักของนิยายเรื่องดังกล่าว เป็นตัวร้ายที่จิตใจอำมหิต สุดแสนจะชั่วช้าสามานย์ แถมลูกเลี้ยงทั้ง 3 ก็เป็นเหล่าวายร้าย เป็นตัวร้ายในเรื่องที่โฉดชั่วไม่ต่างกับบิดา จุดจบของพวกเขาคือถูกสั่งประหารอย่างน่าสังเวช แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ เด็กน้อยทั้ง 3 ยังคงเป็นเจ้าก้อนน่ารักนุบนิบ คอยเรียกนางอย่างแสนหวานว่า “ท่านแม่” เพียงแค่คำนี้ที่ออกมาจากปากของพวกเขา นางก็ใจอ่อนยวบ ตั้งใจว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางจะต้องเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเหล่าลูกเลี้ยงให้ได้!ภารกิจถัดมาคืออะไรน่ะหรือ ก็คือทำนา ทำการค้า ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินทองมาเลี้ยงเด็กน้อยทั้ง 3 ให้มีชีวิตที่สุขสบาย กล่อมเกลาพวกเขาให้มีชีวิตดีๆต่อมา…เหล่าวายร้ายทั้ง 3 ได้เติบโตขึ้น คนหนึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ในใต้หล้า คนหนึ่งเป็นพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ ร่ำรวยยิ่งกว่าฮ่องเต้ คนหนึ่งเป็นแม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม…ทั้ง 3 ทั้งรักทั้งหวงถังหลี่เป็นอย่างมากผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ : บังอาจรังแกท่านแม่ของข้างั้นหรือ จับมันไปขังเดี๋ยวนี้!แม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม : พี่ใหญ่ ฆ่ามันทิ้งเสียเลยง่ายกว่า!พ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ : น้องสาม ข้าจะยื่นดาบให้เจ้าเอง!พระปิตุลาผู้ทรงอำนาจคว้าตัวภรรยาของตนเข้าไปกอด : ภรรยาที่รักของข้า ข้าจะปกป้องเอง เจ้าพวกตัวเปี๊ยกน่ารำคาญ ถอยไปซะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท