บทที่ 221 หมอซูและฮูหยินตกอยู่ในอันตราย
อีกด้านหนึ่งของหมู่บ้านลี่เจีย ถังหลี่ตามหลี่โหยวไฉ่และชาวบ้านคนอื่นเพื่อไปดูสมุนไพรที่กำลังเติบโต สีหน้าของพวกเขามีความสุข เต็มไปด้วยความหวัง เถ้าแก่จางได้บอกเอาไว้ว่า สมุนไพรเหล่านี้สามารถขายได้เงินจำนวนมาก มันจะทำให้พวกเขาอยู่รอดจนพ้นหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้! ทั้งหมดนี่ต้องขอบคุณถังหลี่ ชาวบ้านทุกคนต่างซาบซึ้งในน้ำใจของนาง
หลังจากที่หญิงสาวไปดูแปลงสมุนไพรแล้ว นางก็กลับไปที่โรงงานผลิตถุงหอมในช่วงเย็น วันนี้ครอบครัวเว่ยจะค้างแรมที่โรงงาน ฮูหยินซูนำผ้าห่มสะอาด ๆ มาให้กับพวกเขา ไม่นานนักซานเป่าก็นอนกรนอยู่บนเตียงเล็ก ๆ
เมื่อคิดถึงเรื่องของกู้อิ๋นแล้วถังหลี่รู้สึกไม่สบายใจ แต่เป็นเพราะความอ่อนเพลียที่สะสมมาทำให้นางผล็อยหลับไปทันทีที่ทิ้งตัวลงบนเตียง ในคืนนั้นถังหลี่ได้ฝันเป็นลางบอกเหตุอีกครั้ง
ในความฝันกู้อิ๋นลักพาตัวฮูหยินซูไป เพื่อบีบบังคับให้ซูไท่หยวนถ่ายทอดวิชาการแพทย์ให้กับนาง หมอซูจำเป็นต้องทำตามที่กู้อิ๋นสั่งเพื่อรักษาชีวิตของฮูหยินซูไว้ กู้อิ๋นให้คำสัญญาว่าหากวันใดที่นางสำเร็จวิชาแพทย์แล้ว จะให้หมอซูกับฮูหยินซูได้พบเจอกันอีกครั้ง เพราะคำสัญญาของนาง ทำให้ซูไท่หยวนอุทิศตนเพื่อสั่งสอนกู้อิ๋น แต่ทว่า…กู้อิ๋นไม่มีวันปล่อยให้คนที่รู้เรื่องของนางหลบหนีไปได้ หลังจากที่นางเล่าเรียนวิชาการแพทย์จนสำเร็จ หญิงสาวก็สั่งฆ่าสองสามีภรรยาทันที
นางผูกใจเจ็บกับการปฏิเสธของหมอซูมาก นางจึงจับฮูหยินซูมาทรมานและฆ่าทิ้งต่อหน้าซูไท่หยวน
เลวทรามหยาบช้าที่สุด!
คู่รักที่ควรจะครองรักกันไปจนแก่เฒ่า ต้องพากันจูงมือไปดื่มน้ำแกงยายเมิ่ง! ถังหลี่เห็นเช่นนั้นจึงตกตะลึงมาก กู้อิ๋นเป็นสตรีที่มีจิตใจเหี้ยมโหดมากเกินไป!
บนโลกนี้มีสตรีที่เลวทรามถึงเพียงนี้ได้อย่างไร? ทั้งเห็นแก่ตัวและสารเลวมาก!
เพื่อสิ่งที่นางใฝ่ฝัน นางทำทุกวิธีทางโดยไม่คำนึงถึงมนุษยธรรมใดๆ! เมื่อถังหลี่นึกถึงเสียงร้องไห้ที่แสนเจ็บปวดของหมอซูในความฝัน นางรู้สึกปวดหัวใจเป็นอย่างมาก!
ถังหลี่ตื่นขึ้นมาตอนเช้า พบว่าเว่ยฉิงตื่นนอนแล้วเช่นกัน ชายหนุ่มรวบหญิงสาวเข้าไปในอ้อมกอดปลอบประโลมนางอย่างอ่อนโยน เมื่ออารมณ์ของถังหลี่สงบลงนางเงยหน้าขึ้นสบตาสามีของตัวเองทันที
“สามี ข้าฝันอีกแล้ว”
เมื่อเห็นท่าทีของถังหลี่แล้ว เว่ยฉิงก็รู้ได้ในทันทีว่าภรรยาฝันบอกเหตุอีกแล้ว
“ฝันว่าอะไรหรือ?”
“ข้าฝัน…”
ถังหลี่เล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในความฝันของนางให้อีกฝ่ายฟัง คิ้วดกดำของเขาขมวดพันกันยุ่ง ความเกลียดชังปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเขาโดยไม่รู้ตัว
“ฮูหยิน ข้าว่าเราควรลงมือ ปลิดชีวิตผู้หญิงคนนั้นก่อน!” เว่ยฉิงพูดรอดไรฟัน
ถังหลี่รีบส่ายศีรษะทันที ไม่ต้องพูดถึงยอดฝีมือนับสิบที่คุ้มกันกู้อิ๋นเลย เพียงแค่รัศมีความเป็นนางเอกของเรื่องนี้ หากสามีของนางไปฆ่าหญิงสาวจริง ๆ เขาอาจจะตายทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนฆ่าเขา นางให้สามีไปเสี่ยงแบบนั้นไม่ได้ ถังหลี่เอนตัวลงพิงกับหน้าอกของสามี
“สามี… ขอข้าคิดวิธีก่อนนะ”
ถังหลี่กำลังขบคิดว่าตัวเองควรแก้ปัญหาในครั้งนี้อย่างไร หมอซูและฮุหยินซูเปรียบเสมือนพี่ชายและพี่สาวของถังหลี่ นางไม่มีวันปล่อยให้พวกเขาต้องตกอยู่ในชะตากรรมเหมือนในความฝันอย่างแน่นอน จิตใจของนางปั่นป่วน ไม่นานนักความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในหัว แต่ทว่าต้องใช้ความร่วมมือจากคนทั้งคู่ นี่ไม่ใช่เวลาที่ต้องมาคิดมากอีกแล้ว !
ถังหลี่ลุกจากเตียงทันที หญิงสาวเดินออกไปจากห้องพร้อมกับสามีอย่างเงียบ ๆ นางเคาะประตูห้องนอนของหมอซูที่อยู่ห้องข้าง ๆ หมอซูได้ยินเสียงก็รีบลุกทันที เพราะบางครั้งคนในหมู่บ้านเจ็บป่วยกลางดึก ทำให้ซูไท่หยวนไม่ได้หลับสนิทนักในแต่ละคืน
ภายในห้องนอน หมอซูและฮูหยินซูตื่นขึ้นมาก่อนจะแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วถึงได้มาเปิดประตู ตอนนี้ถังหลี่และเว่ยฉิงไม่มีอะไรที่ต้องปิดบังทั้งคู่อีกต่อไป เมื่อเห็นท่าทีของถังหลี่ หมอซูก็รู้ว่ากำลังจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น
“เสี่ยวถัง เกิดอะไรขึ้นหรือ?” ฮูหยินซูถาม
“ฮูหยินซู.. หญิงสาวที่มาในตอนกลางวันมีนามว่ากู้อิ๋น ความจริงแล้ว ข้ารู้จักนาง เดิมทีนางอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านเดียวกับข้า ต่อมานางพบกับครอบครัวจึงย้ายไปเมืองหลวง แต่…ไม่ว่าสถานะตัวตนของนางจะเปลี่ยนไปเช่นไร แต่จิตใจที่ชั่วร้ายและคับแคบของนางยังคงอยู่เช่นเดิม หมอซูปฏิเสธนางเช่นนี้… ข้าคิดว่านางคงไม่ปล่อยท่านไป”
ถังหลี่พูดช้า ๆ อธิบายให้คู่สามีภรรยาฟัง นางไม่ได้กล่าวถึงเรื่องที่กู้อิ๋นขโมยสถานะของนางไป ไม่ใช่ว่าหญิงสาวไม่ไว้ใจคนทั้งคู่ หากแต่เรื่องนี้ยิ่งมีคนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งเป็นการดีเท่านั้น
พวกเขาจะได้ไม่ต้องมาเดือดร้อนกับเรื่องนี้ไปด้วย
“วันนี้เว่ยฉิงแอบตามนางไป พบว่ากู้อิ๋นมีคนติดตามมากกว่าสิบคน เขาไม่สามารถต่อกรได้เลย หมอซู…พวกท่านกำลังตกอยู่ในอันตราย”
สองสามีภรรยาเชื่อในคำพูดของถังหลี่อย่างหมดใจ เพราะหญิงสาวผู้นี้เคยมอบชีวิตใหม่ให้แก่ภรรยาเขา ครั้งที่สองก็ตอนที่ช่วยชีวิตคนทั้งหมู่บ้านจากโจรภูเขา ดังนั้นพวกเขาไม่รู้สึกเลยว่าสิ่งที่นางพูดขึ้นมาจะเป็นเรื่องโกหก
หมอซูอดไม่ได้ที่จะกุมมือของภรรยาเอาไว้ หลังจากที่คนทั้งคู่ได้ต่อสู้ด้วยกันมานาน ซูไท่หยวนหวงแหนวันเวลาที่เขาจะได้อยู่กับภรรยา เขาไม่อยากให้สิ่งเลวร้ายที่ถังหลี่พูดมานั้นเกิดขึ้นเลย
“เสี่ยวถัง… ไท่หยวนกับข้าควรออกจากหมู่บ้านนี้ก่อน” ฮูหยินซูตัดสินใจ พวกเขาจะต้องหนีไปในที่ที่กู้อิ๋นหาไม่เจอ
“แต่โรงงานผลิตถุงหอม…”
ซูฟู่ฉิงกับซูไท่หยวนคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านลี่เจีย แต่ว่าเมื่อคำนึงถึงความปลอดภัย พวกเขาจะต้องรีบออกไปจากหมู่บ้านแห่งนี้ นั่นคือสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทั้งสองครองรักกันไปจนแก่เฒ่าได้
ทว่าโรงงานผลิตถุงหอมคือความพยายามอุตสาหะของนาง หลังจากที่ซูฟู่ฉิงจากไปชาวบ้านที่ทำงานในโรงงานจะเป็นอย่างไร?
ถังหลี่พยักหน้าเบา ๆ ด้วยความเข้าใจ อันที่จริงแล้วนางเองก็คิดเหมือนกันฮูหยินซู
“ฮูหยินไม่ต้องกังวล หมอซูเองก็สอนเรื่องการจัดยากับจูเฉิง อีกอย่าง…ฮูหยิน ท่านคิดว่าหลันฮวาเป็นอย่างไรบ้าง?”
ถังหลี่ถามความเห็น
ดวงตาของฮูหยินซูเป็นประกายวาว ใช่แล้ว หลันฮวา!
นางลืมเด็กสาวไปได้อย่างไร!
แม้หลันฮวาจะพูดไม่ได้ แต่นางมีความละเอียดรอบคอบมาก สามารถจัดการเรื่องต่าง ๆ ในโรงงานได้ แต่ทว่า…หลันฮวาเป็นคนอ่อนโยน ขี้กลัว ฮูหยินซูจึงพูดในสิ่งที่นางมีความคิดเห็นต่อหลันฮวา
“ไม่ใช่ปัญหา ข้าจะหาคนที่ไว้ใจได้มาช่วยดูแลเอง ฮูหยินซูตอนนี้ใกล้เช้าแล้ว กู้อิ๋นคงยังไม่ลงมือทำอะไร แต่ว่าในคืนพรุ่งนี้… ข้าคิดว่าพวกท่านควรรีบไปอย่าให้คนอื่นเห็นพวกท่านจะดีที่สุด” สองสามีภรรยาต่างพยักหน้ารับ ตอนนี้ท้องฟ้าใกล้สว่างแล้วแต่ยังไม่มีชาวบ้านลุกจากที่นอน อีกไม่นานโรงงานจะมีคนมาทำงานกัน
ดูเหมือนว่าคราวนี้ถังหลี่มาช่วยคลี่คลายปัญหาต่าง ๆ อีกครั้ง ฮูหยินซูเก็บข้าวของ ทั้งของจำเป็นและสิ่งของสำหรับทำงานท่ามกลางความเงียบ ในขณะที่หมอซูจัดซองยาและส่งให้กับถังหลี่ หลันฮวานั่งเคียงข้างฮูหยินซู
“หลันฮวาเอ๋อร์ ข้าจะสอนงานเพิ่มให้เจ้าอีกครั้ง ดูให้ดีล่ะ ข้าสอนเจ้าได้ครั้งเดียวเท่านั้น ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าจะจำมันได้มากเพียงใด”
ฮูหยินซูพูดขึ้น เด็กสาวพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง ปลายนิ้วของฮูหยินซูขยับอย่างว่องไวรวดเร็ว ราวกับว่านางกำลังเพลิดเพลินไปกับจังหวะของฝีเข็มและเส้นด้าย
หลันฮวาจ้องมองอย่างไม่กะพริบตา ฮูหยินซูสอนวิธีปักผ้า นางมองเด็กสาวตรงหน้า เมื่อก่อนนี้หลันฮวาเป็นเพียงเด็กสาวตัวเล็ก ๆ ผอม ๆ ท่าทางขี้อาย แต่ตอนนี้ผิวพรรณผุดผ่อง เติบใหญ่เป็นสาวสะพรั่งเสียแล้ว
หลันฮวาเป็นเสมือนลูกศิษย์ของนาง เด็กสาวกำลังท้องแก่อีกไม่นานก็ใกล้จะคลอดแล้ว ฮูหยินซูถอนหายใจเบาๆ
“หลันฮวาเอ๋อร์…เจ้าจงใช้ชีวิตกับจูเฉิงให้มีความสุข เจ้าเป็นเด็กดีอย่าได้ดูถูกตัวเอง” ฮูหยินซูกำชับอีกครั้ง หลันฮวาพยักหน้าเงียบ ๆ
“โรงงานถุงหอมแห่งนี้เป็นความภาคภูมิใจของข้า หากเกิดอะไรขึ้นกับข้า ข้าอยากจะให้เจ้ารักษามันไว้”
ด้วยเหตุผลบางอย่าง หลันฮวารู้สึกว่าคำพูดของฮูหยินซูเป็นเหมือนดั่งคำบอกลา หลันฮวารู้สึกไม่สบายใจ นางคว้าชายเสื้อของฮูหยินซูเอาไว้