จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 401-405

ตอนที่ 401-405

บทที่ 401 : บรรพบุรุษของเผ่าอสรพิษ (2)
  ถ้อยคำสุดท้ายของชิงหลวนยังไม่ทันจะจบดาบเล่มยาวของไป๋หยานก็ตัดฉับลงมา เพียงครู่เนื้อแข็ง ๆ ของชิงหลวนก็ถูกหั่นออกมาชิ้นใหญ่ เผยให้เห็นเนื้อที่เต็มไปด้วยเลือด
  ”ฟ่อ!” นางขู่คำรามด้วยความเจ็บปวด
  เป็นไปได้อย่างไร?
  แม้ว่าความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรจะถูกผนึกทันทีที่ก้าวเข้าสู่โลกมนุษย์ ทว่านางก็เป็นถึงธิดาคนโตของเผ่าอสรพิษ ลักษณะทางกายภาพของนางนั้นแข็งแกร่งมาก นางจะถูกอาวุธของมนุษย์ทำให้บาดเจ็บได้อย่างไร ?
  นางไม่เชื่อทั้งยังโกรธจัด นางกระโจนเข้าหาไป๋หยาน ดวงตาเขียว ๆ กระพริบแสงแห่งความขุ่นเคือง แววตาของนางเต็มไปด้วยความโหดร้ายและดุดัน
  ไป๋หยานมองชิงหลวนพุ่งร่างเข้าหานางกระโดดตัวลอยขึ้นกลางอากาศ จากนั้นก็ขึ้นไปยืนอยู่บนหลังของชิงหลวน
  นิ้วมือของไป๋หยานจิกแน่นติดกับเกล็ดงูเรียบๆ นางกระชากเกล็ดงูออกอย่างแรง ครั้นเกล็ดสีเขียวถูกกระชากออก เลือดก็พวยพุ่งย้อมร่างของชิงหลวนจนกลายเป็นสีแดงฉาน
  ”อ๊า!”
  ความเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้ชิงหลวนตัวสั่นระริกนางพยายามสะบัดร่างด้วยความโกรธ นางหวังที่จะสลัดสตรีที่ขี่หลังให้ตกลงมา
  แคว่ก!
  สีหน้าของไป๋หยานไร้ความรู้สึกนางกระชากเกล็ดงูอย่างเย็นชา เล็บของนางคม ทั้งยังแกร่งกว่ามีด เพียงไม่ช้า เมื่อไป๋หยานกระชากเกล็ดงูอีกครั้งร่างแข็งแกร่งของชิงหลวนก็ท่วมไปด้วยเลือด
  ”ไม่! หยุดได้แล้ว เจ้าลงมาจากตัวข้าเดี๋ยวนี้ หากเจ้ากล้าทำร้ายข้าอีก บิดาของข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไปแน่ อ่า !!!”
  หากสัตว์อสูรต้องการที่จะแปลงร่างเป็นมนุษย์จำต้องใช้พลังภายในช่วยสนับสนุนอย่างแข็งแกร่ง บัดนี้ทั่วทั้งร่างของนางเต็มไปด้วยบาดแผล และรอยฟกช้ำ นางไร้ซึ่งพลังที่จะแปลงร่างเป็นมนุษย์ นางทำได้เพียงฟาดร่างไปมา โดนพื้นบ้าง โดนต้นไม้ใกล้หน้าผาบ้าง
  *****
  หวังเสี่ยวผางมองไป๋หยานเลาะเกล็ดงูยักษ์ด้วยมือเปล่าเขาก็รู้สึกตัว พร้อมกับเบ้ปาก
  ”ข้านับถืองูตัวนี้จริงๆ ไม่มีความสามารถใดเลย หากแต่แสร้งทำเป็นเก่ง ! ข้าอุตส่าห์หลงคิดว่านางเก่งกาจ ที่ไหนได้ กลับท่าดีทีเหลว”
  ไป๋เสี่ยวเฉินเชิดหน้าเล็กๆ ของเขาขึ้นอย่างภาคภูมิ “แม่ก็คือแม่ พอเจอแม่ข้า นางก็หนีไม่รอด”
  ชั่วเวลานี้ความแข็งแกร่งของชิงหลวนก็ค่อยๆ ลดทอนลงกระทั่งใกล้หมดสิ้นแล้ว นางล้มลงบนพื้นอย่างอ่อนแรง เลือดไหลซึมลงสู่พื้นดิน ย้อมพื้นดินจนเป็นสีแดงฉาน
  ”ไป๋หยานพวกเราเผ่าอสรพิษจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป !”
  แม้ใกล้จะตายชิงหลวนก็ยังไม่ขอความเมตตา ดวงตาที่ชั่วร้ายของนางจ้องมองไป๋หยานอย่างเย็นชา น้ำเสียงที่อ่อนแอของนางก็ยังคงเย็นชา
  ทันทีที่นางตายเผ่าอสรพิษก็จะรู้เรื่อง และเมื่อถึงเวลานั้นหากไป๋หยานยังกล้าก้าวเข้าสู่แดนอสูร แน่นอนว่าเผ่าอสรพิษย่อมจะไม่ยอมปล่อยไป๋หยานไว้แน่ !
  ครั้นถ้อยคำดังกล่าวของชิงหลวนหลุดออกมาเสียงหัวเราะเยาะหยันพลันดังเข้าหูอย่างชัดเจน ส่งผลให้ร่างของชิงหลวนแข็งทื่อ
  “ก็เป็นแค่เผ่าอสรพิษเผ่าเล็กๆ เป็นเพียงข้ารับใช้ของเสด็จพี่ข้า ด้วยฐานะบ่าวรับใช้เยี่ยงเจ้ากล้าเผยอเทียบชั้นเจ้านายเลยกระนั้นหรือ ?”
  หลังจากที่ได้ยินเสียงนี้หัวใจของชิงหลวนก็เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก นางเงยหน้าขึ้นมองเด็กสาวในอาภรณ์สีชมพูผู้ซึ่งเดินมาจากระยะไกล ๆ
  ใบหน้าของหญิงสาวงดงามราวดอกท้อนัยน์ตาสุกใสของนางเต็มไปด้วยอาการหยามเหยียด ขณะจ้องมองมาที่ชิงหลวน
  นางกล้าทำเรื่องนี้เป็นเพราะเห็นตี้คังไม่อยู่ ทั้งตี้เสี่ยวอวิ๋นก็ไม่ได้ติดตามไป๋เสี่ยวเฉินเฉกเช่นแต่ก่อน ไม่คิดว่าตี้เสี่ยวอวิ๋นจะมาพบเร็วเช่นนี้ ?
  ไป๋หยานหดมือกลับพลางหันมามองตี้เสี่ยวอวิ๋น”เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร ?”
  ”ข้าจะมาช่วยพี่แต่ … ”
  ตี้เสี่ยวอวิ๋นกวาดตามองชิงหลวนผู้ซึ่งยามนี้ถูกไป๋หยานเลาะเกล็ดพลันความเห็นอกเห็นใจก็ฉายวาบขึ้นในดวงตาที่งดงามของนาง
  ชิงหลวนเอ๋ยเจ้าผิดไปแล้วรู้หรือไม่ ? คิดจะยั่วอารมณ์พี่สะใภ้ของข้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้าหาเรื่องเฉินเอ๋อบุตรชายสุดที่รักของพี่สะใภ้ข้า ทั้งยังเป็นบุตรชายของเสด็จพี่ข้าด้วย เช่นนี้ไม่เท่ากับเจ้ากำลังรนหาที่ตายหรอกหรือ ?
  ***จบบทบรรพบุรุษของเผ่าอสรพิษ (2)***

บทที่ 402 : บรรพบุรุษของเผ่าอสรพิษ (3)
  ”องค์… องค์หญิง” เสียงของชิงหลวนสั่นระริก นางก้มหัวลงไม่กล้ามองตี้เสี่ยวอวิ๋นตรง ๆ “บิดาของข้าเป็นผู้นำเผ่าอสรพิษ ได้โปรดช่วยข้าด้วย … ”
  “โอหังนัก!” ใบหน้าของตี้เสี่ยวอวิ๋นเคร่งขรึม “ไป๋หยานเป็นพี่สะใภ้ของข้า เจ้ายังต้องการจะให้ข้าช่วยเจ้าอีกกระนั้นหรือ ? หากเสด็จพี่รู้เรื่องนี้ จุดจบของเจ้ามีเพียงถูกถลกหนัง จากนั้นก็หั่นเป็นชิ้น ๆ”
  ”ไม่…ไม่ข้าไม่ได้ทำร้ายองค์ชายน้อย ข้าเพียงอยากจัดการกับไป๋หยาน องค์ราชาคงจะไม่สังหารข้าเพื่อมนุษย์สตรีนี่หรอก”
  ชิงหลวนอาจจะกล้ายั่วยุไป๋หยานแต่ครั้นอยู่ต่อหน้าตี้เสี่ยวอวิ๋น หรือตี้คัง นางก็ไม่กล้าแสดงออกมากนัก นั่นก็เป็นเพราะนางหวาดกลัวคนทั้งสองเป็นอย่างมาก
  นางไม่เคยทราบมุมมองที่ตี้คังและตี้เสี่ยวอวิ๋นมีต่อไป๋หยาน นางเชื่อว่าที่ตี้คังยอมรับไป๋หยานก็เพียงเพราะไป๋เสี่ยวเฉิน
  นอกจากนี้…
  บุรุษที่โหดเหี้ยมและใจร้ายเช่นนั้นจะจริงจังกับสตรีได้เยี่ยงไร? ตลกสิ้นดี !
  หญิงผู้นี้มีความสำคัญมากกว่าเผ่าอสรพิษกระนั้นหรือ?
  ”องค์หญิง”ชิงหลวนกล่าวขึ้นเบา ๆ เมื่อเห็นตี้เสี่ยวอวิ๋นเงียบเสียงไป “ข่าวลือเรื่องคำทำนายของแดนอสูรไร้ความน่าเชื่อถือ บางทีอาจเป็นแผนการของท่านราชครูก็เป็นได้ เขาต้องการแสวงหาอำนาจ เช่นนั้นเขาจึงปลอมแปลงคำทำนาย และจงใจสร้างข่าวลือนั่นขึ้น องค์หญิงต้องไม่เชื่อเขานะเพคะ”
  นัยน์ตาของตี้เสี่ยวอวิ๋นเบิกกว้าง
  งูเขียวน่ารังเกียจนี่กล้าใส่ร้ายท่านราชครูต่อหน้านางได้เยี่ยงไร?
  ตี้เสี่ยวอวิ๋นกัดฟันกล่าวอย่างดุเดือดใบหน้าที่น่ารักของนางเต็มด้วยความโกรธ “พี่สะใภ้มอบนังงูตัวนี้ให้ข้าจัดการเถิด นางกล้าตำหนิราชครูของข้า !”
  ครั้นนางกล่าวจบนางก็ยกเท้าขึ้นเตะร่างของชิงหลวนทันที
  บัดนี้ร่างของชิงหลวนถูกไป๋หยานเลาะเกล็ดออกแทบหมดเพียงสัมผัสเบา ๆ ก็เจ็บไปถึงขั้วหัวใจ ไม่ต้องพูดถึงว่าจะถูกตี้เสี่ยวอวิ๋นเตะ ?
  ตี้เสี่ยวอวิ๋นกำลังโกรธนางคว้าดาบจากมือของไป๋หยานจ้วงแทงชิงหลวนอย่างดุเดือด
  “เจ้าจับหลานชายของข้ากลั่นแกล้งพี่สะใภ้ของข้า ทั้งยังด่าว่าท่านราชครูของข้า ! เจ้าไม่รู้หรือไรว่า ? มีเพียงข้าคนเดียวเท่านั้นที่สามารถด่าท่านราชครูได้ เจ้าเป็นใคร ถือสิทธิ์ใดมาด่าเขา ?
  ”กะแค่เผ่าอสรพิษเล็กๆ ยิ่งใหญ่อะไรนักหนา ? หากพี่ชายของข้ากลับมา ข้าจะให้เขาสังหารหมู่เผ่าอสรพิษของเจ้าให้สิ้น !”
  ไป๋เสี่ยวเฉินที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่งก็ยังพยายามเติมเชื้อไฟไม่หยุด
  ”ท่านอาหญิงป้างูตัวนี้ให้เฉินเอ๋อกินยาพิษ เพื่อบังคับให้เฉินเอ๋อปฏิเสธความสัมพันธ์ระหว่างเฉินเอ๋อกับหม่ามี้ นอกจากนี้ยังสั่งให้เฉินเอ๋อยอมรับไป๋รั่วเป็นแม่ หากเฉินเอ๋อไม่ยอม นางก็จะฆ่าเฉินเอ๋อ”
  ชิงหลวนเกือบจะกระอักเลือด
  เป็นเรื่องจริงที่นางให้เขากินยาพิษแต่นางจะฆ่าเขาเมื่อไหร่กัน ? ไยนางถึงไม่รู้ตัวเลย ?
  ”นังสารเลวเป็นแค่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเสด็จพี่ข้า เจ้ากล้ากระทำความผิดใหญ่หลวงเช่นนี้ คิดฆ่าองค์ชายแห่งแดนอสูรกระนั้นหรือ ? ทั้งยังจะให้ผู้อื่นขึ้นแทนที่ตำแหน่งสะใภ้ข้าอีกใช่หรือไม่ ? นี่คิดว่าเสด็จพี่ของข้าโง่เง่ามากล่ะสิ ? ”
  ตี้เสี่ยวอวิ๋นฟันไปอีกสองฉับจากนั้นชิงหลวนก็หมดพลกำลัง ไร้แม้เสียงจะร้องตะโกนแสดงความเจ็บปวด
  ลมหายใจของชิงหลวนอ่อนแรงราวกับผ้าไหม ทั้งนัยน์ตาของมันก็ไม่อยากบ่นอีกต่อไป
  ทันใดนั้นเองนางก็เริ่มหัวเราะเสียงหัวเราะน่าขนลุกสะท้อนก้องไปทั่วหน้าผา
  “ฮ่าฮ่า”
  ”ข้าชิงหลวน… ” เสียงของนางเบามาก ทว่าก็สามารถได้ยินอย่างชัดเจนทั่วหน้าผาที่เงียบสงบ “ขอมอบวิญญาณข้า เพื่ออัญเชิญบรรพบุรุษแห่งเผ่าอสรพิษ”
  ในเมื่อพวกเจ้าทำให้ข้าต้องตายข้าก็จะไม่ยอมให้พวกเจ้าได้ดีไปกว่าข้า !
  ”พี่สะใภ้”สีหน้าของตี้เสี่ยวอวิ๋นเปลี่ยนทันที “นี่เป็นความลับของแดนอสูรเรา ชิงหลวน นังโง่ กำลังเรียกบรรพบุรุษของเผ่าอสรพิษออกมา !”
  ทักษะอัญเชิญบรรพบุรุษนี้เป็นทักษะลับซึ่งไม่ใช่จะรับมือได้ง่ายๆ แต่หากคิดจะใช้มัน ก็ต้องรับผลที่ตามมาให้ได้ เพราะผู้ใช้จะต้องจ่ายด้วยราคาที่สูงยากเกินประมาณ
  ***จบบทบรรพบุรุษของเผ่าอสรพิษ (3)***

บทที่ 403 : บรรพบุรุษของเผ่าอสรพิษ (4)
  ราคาของมันก็คือวิญญาณของผู้ใช้คาถานี้ !
  และ…
  เมื่อมีการสวดคาถาอัญเชิญนี้แล้วผู้ใดก็ไม่สามารถขัดจังหวะได้
  ”บรรพบุรุษของเผ่าอสรพิษรึ?” ไป๋หยานกล่าวเสียงหนัก “เสี่ยวมี่ เจ้าพาเฉินเอ๋อกับเสี่ยวผางไปก่อน”
  “หม่ามี้”ไป๋เสี่ยวเฉินกล่าวพร้อมดึงแขนเสื้อของไป๋หยานอย่างน่าสงสาร
  “เฉินเอ๋อไม่ไป”
  ”ต้องไป!”
  แววตาไป๋หยานเข้มขึ้นเล็กน้อย
  เสี่ยวมี่มองไป๋เสี่ยวเฉินจากนั้นก็หันกลับไปมองไป๋หยาน”นายหญิง น่าจะเป็นการดีกว่า หากนายน้อยจะอยู่ที่นี่ด้วย เลือดของนายน้อยแข็งแกร่งมาก ไม่มีสัตว์อสูรใดในโลกที่กล้าสู้กับนายน้อย”
  ”ไม่”ตี้เสี่ยวอวิ๋นส่ายศีรษะ “เลือดของเฉินเอ๋ออาจจะยอดเยี่ยมกว่าสัตว์อสูรทั่วไป หากแต่ก็เฉพาะสัตว์อสูรที่มีกายเนื้อเท่านั้น สิ่งที่ชิงหลวนเรียกมานี้เป็นพลังงาน เช่นนั้นมันจึงไม่สนใจแม้แต่ผนึกระหว่างแดนอสูรและแผ่นดินใหญ่นี้”
  เนื่องจากพลังที่เฉินเอ๋อได้มานั้นเกิดแต่เลือดจึงจำต้องมีเลือดเนื้อ พลังของเฉินเอ๋อถึงจะกำราบได้ หากไม่มีกายเนื้อ ไม่มีเลือด จะปราบมันได้เยี่ยงไร ?
  ”แต่”ตี้เสี่ยวอวิ๋นกล่าวพร้อมกับเชิดหน้าที่สวยงามของนางขึ้น “ข้าคือองค์หญิงแห่งแดนอสูร มิใช่คนที่เผ่าอสรพิษจะกล้าต่อกรด้วยได้”
  ครั้นถ้อยคำดังกล่าวหลุดออกมาร่างที่เลือนลางก็ค่อย ๆ เผยปรากฏท่ามกลางอากาศว่างเปล่า
  ”ผู้ใดกล้าต่อสู้กับคนเผ่าอสรพิษของข้า?” น้ำเสียงนั้นฟังดูแก่ ทั้งยังให้ความรู้สึกสูงส่ง ทันใดนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นตี้เสี่ยวอวิ๋น ผู้ซึ่งยืนอยู่เบื้องหน้าเขา เขากล่าวว่า “องค์หญิง”
  ”บรรพบุรุษ!” ชิงหลวนเปล่งเสียงออกมาอย่างอ่อนแรง “สังหารพวกนางซะ หากพวกนางรอดไปได้ เผ่าอสรพิษของเราก็จะถูกทำลายล้าง”
  สีหน้าของบรรพบุรุษเผ่าอสรพิษนั้นตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
  การที่องค์หญิงทำร้ายชิงหลวนถึงเพียงนี้เขาย่อมรับไม่ได้แต่จะให้เขาปลงพระชนม์องค์หญิง… นี่ก็ …
  ”บรรพบุรุษ!” ชิงหลวนสูดลมหายใจสุดท้ายเอ่ยอีกว่า “เมื่อครู่นี้ องค์หญิงลั่นวาจาไว้ว่า นางจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อสรพิษของพวกเรา หากท่านสังหารพวกนางเสียแต่ตอนนี้ ราชาอสูรย่อมจะไม่รู้เรื่องนี้ หาไม่แล้วหากองค์หญิงกลับไปยังแดนอสูรได้ เผ่าอสรพิษของเราย่อมจะถูกทำลายล้าง”
  ตี้เสี่ยวอวิ๋นกราดตามองชิงหลวนอย่างดุดันก่อนจะหันไปมองบรรพบุรุษเผ่าอสรพิษ
  ”ข้าเป็นถึงองค์หญิงส่วนสองคนนี้ก็คือพี่สะใภ้ และหลานชายของข้า เจ้าคิดว่าหากเจ้าลงมือกับพวกเรา พี่ชายของข้าจะไม่รู้เลยงั้นรึ ?”
  บรรพบุรุษเผ่าอสรพิษเงียบเขาพูดไม่ออก ความกดดันที่แผ่จากร่างของเขาทำให้หวังเสี่ยวผางตัวสั่น กระทั่งต้องเอนกายเข้าหาเสี่ยวมี่เพื่อความปลอดภัย
  ”ไม่จริงบรรพบุรุษ ท่านต้องสังหารพวกนางเสีย แม้องค์ราชาจะสอบสวน ก็ไม่มีผู้ใดสามารถบอกเขาได้ เขาจะไม่สามารถสืบหาหลักฐานใดได้ และเมื่อนั้นเผ่าอสรพิษของเราถึงจะรอดปลอดภัย ในทางตรงกันข้าม หากปล่อยพวกนางไป เผ่าอสรพิษจะต้องสิ้นชื่อ ไม่มีผู้ใดสามารถรอดพ้นไปได้”
  ชิงหลวนเร่งเร้าแววตาของชิงหลวนเปล่งประกายสีแดง นางซบศีรษะลงบนพื้นอย่างอ่อนล้า ราวกับว่าลมหายใจของนางจะหยุดลงเมื่อใดก็ได้
  ”องค์หญิงที่ชิงหลวนกล่าวมาเป็นความจริงหรือไม่ ?” บรรพบุรุษของเผ่าอสรพิษเงยหน้ามองตี้เสี่ยวอวิ๋น แววตาของเขาน่ากลัว ขณะเอ่ยถามว่า “พระองค์จะฆ่าล้างเผ่าอสรพิษของเราทั้งหมดจริงหรือไม่ ?”
  นัยน์ตาของตี้เสี่ยวอวิ๋นสว่างไสว”ชิงหลวนลักพาหลานชายของข้า ทั้งยังรังแกพี่สะใภ้ของข้า ข้าก็ควรลงโทษเผ่าอสรพิษทั้งหมด ทว่าบัดนี้ชิงหลวนก็ได้ชดใช้แล้ว ข้าจะละเว้นเผ่าอสรพิษเสียก็ได้ ท่านวางใจเถอะ”
  อภัยให้เผ่าอสรพิษงั้นหรือ? ไม่มีทาง เพราะหากไม่มีคนให้การช่วยเหลือ ชิงหลวนก็คงไม่สามารถแอบตามนางมาถึงแผ่นดินใหญ่นี้ได้หรอก
  ไว้ค่อยคิดบัญชีนี้ภายหลังจากที่นางกลับสู่แดนอสูรทว่าตอนนี้จำเป็นที่จะต้องปกป้องชีวิตตนเองไว้ก่อน
  ”องค์หญิงข้าไม่สามารถแตะต้องพระองค์ได้ ทว่าหญิงพาลผู้นี้ต้องตาย !” บรรพบุรุษเผ่าอสรพิษหันไปมองไป๋หยานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเจตนาสังหารจากก้นบึ้งของหัวใจ
  ตี้เสี่ยวอวิ๋นโกรธ”นางเป็นพี่สะใภ้ของข้า เจ้าต้องการมีปัญหากับข้ากระนั้นหรือ ?”
  ***จบบทบรรพบุรุษของเผ่าอสรพิษ (4)***

บทที่ 404 : ตี้คังอยู่ที่นี่แล้ว (1)
  ”หากนางเป็นราชินีข้ายังต้องคิดยับยั้งใจอยู่บ้าง ทว่าโชคไม่ดีที่ตอนนี้นางยังไม่ได้รับการยอมรับจากเผ่าอสูร ถึงแม้ว่าข้าจะสังหารนางจะนับเป็นความผิดได้แต่ที่ใด”
  ใบหน้าของบรรพบุรุษเผ่าอสรพิษเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร
  ชิงหลวนไม่เคยโป้ปดหากหญิงผู้นี้ยังมีชีวิตอยู่ ย่อมจะนำพาหายนะมาให้เผ่าอสรพิษ เช่นนั้นเขาจึงต้องปลิดชีพนาง !
  ”โอหัง!” ครั้นตี้เสี่ยวอวิ๋นเห็นบรรพบุรุษเผ่าอสรพิษไม่ไว้หน้านางเช่นนี้ ใบหน้าที่งดงามของนางพลันปรากฏความโกรธเกรี้ยว “แม้เสด็จพี่ของข้าจะยังไม่ได้แต่งตั้งนาง ! ทว่าตำแหน่งราชินีของเขา เขาก็ยอมรับเพียงนางเท่านั้น ก็แล้วเหตุใดนางถึงจะไม่ได้รับการยอมรับจากเผ่าอสูรเล่า ? ”
  “นอกจากนี้พี่สะใภ้เองก็ถูกชะตากำหนดแล้วว่าจะต้องเป็นคู่ครองของเสด็จพี่ ! นี่คือคำทำนายที่ถูกส่งต่อกันมาในเผ่าอสูรของเรานานนับหลายพันปี หากเจ้ากล้าต่อต้านเสด็จพี่ของข้า จะไม่เท่ากับเจ้ากำลังกระทำความผิดกระนั้นหรือ ?”
  ไอ้งูเฒ่าน่ารังเกียจนี่กล้าปฏิเสธคำสั่งนาง! คอยดูเถอะ หากกลับสู่แดนอสูรเมื่อไหร่ จะได้เห็นดีกันแน่ !
  เห็นได้ชัดว่าบรรพบุรุษเผ่าอสรพิษไม่ยอมฟังคำของตี้เสี่ยวอวิ๋น ร่างของเขานิ่งงันเพียงครู่ ทว่าไม่นานเขาก็ใช้พลังงานก่อสายลมกรรโชกแรง กระทั่งส่งผลให้อากาศทั่วทั้งท้องฟ้าขมุกขมัวลงอย่างรวดเร็ว
  “พี่สะใภ้”ตี้เสี่ยวอวิ๋นกล่าวพร้อมรอยยิ้มเจื่อน ๆ “ดูเหมือนว่างูเฒ่านี่จะไม่เกรงใจข้าเลย ข้าเกรงว่าด้วยฐานะองค์หญิงแห่งแดนอสูรจะไม่อาจยับยั้งเขาได้”
  ไป๋หยานขมวดคิ้วอย่างเย็นชาพลางกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “เฉินเอ๋อกลับไปพร้อมกับเสี่ยวมี่ แม่จะตามเจ้ากลับไปในภายหลัง”
  ไป๋เสี่ยวเฉินจับแขนของไป๋หยานอย่างดื้อดึง พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองนาง นัยน์ตาของเขาสุกใสราวกับดวงดารา
  ”เฉินเอ๋อเป็นลูกผู้ชายเฉินเอ๋อต้องปกป้องหม่ามี้”
  ใบหน้าสีชมพูของเขาแลดูเด็ดเดี่ยวร่างเล็ก ๆ ของเขายืนอย่างมั่นคงท่ามกลางกระแสลม น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความไร้เดียงสา ทว่าก็สร้างความอุ่นใจไม่ต่างกับชายชาตรี
  ชั่วขณะนั้นหัวใจของไป๋หยานพลันอบอุ่นนางมีลูกที่ดีเช่นนี้ ชีวิตนี้นางยังจะต้องการสิ่งใดอีก ?
  ”ฮ่าฮ่าฮ่า”บรรพบุรุษของเผ่าอสรพิษกล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำ ๆ ฟังดูเลือดเย็น “วันนี้ ไม่ว่าผู้ใดก็หยุดข้าไม่ได้ หญิงมนุษย์ผู้นี้ต้องตาย !”
  หากเป็นกาลก่อนเขาอาจกลัวองค์ชายแห่งแดนอสูร ทว่ายามนี้กายเนื้อของเขายังคงอยู่ในแดนอสูร นั่นทำให้ร่างของเขาไม่รับรู้ถึงแรงกดดันที่เกิดจากกระแสเลือด เขาเลยไม่รู้สึกหวั่นเกรงใด ๆ
  เช่นนั้น…
  ภายหลังจากที่เขากวาดตาจากไป๋เสี่ยวเฉินไปมองไป๋หยาน
  แรงผลักดันอย่างท่วมท้นต่อไป๋หยานพลันปกคลุมไปทั่วกระทั่งท้องฟ้ามืดครึ้ม เมฆดำทะมึนปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้า แสดงให้เห็นถึงเจตนาสังหารที่น่าเกรงขาม
  ”ไป๋หยาน… พี่ไป๋หยาน … ”
  ใบหน้าของหวังเสี่ยวผางซีดเผือดด้วยความหวาดกลัวขาของเขาสั่นเทา “ทำไมป๊ะป๋าของไป๋เสี่ยวเฉินถึงยังไม่มา ทำไมเขาถึงไม่มาช่วยพวกเรา ในเมื่อเขาแข็งแกร่งมาก”
  แม้หวังเสี่ยวผางจะแสร้งทำเป็นเข้มแข็งอยู่เสมอทว่าแท้จริงแล้ว จิตวิญญาณของเขากำลังจะแตกสลาย กว่าเขาจะรอดชีวิตจากการถูกคุกคามของชิงหลวนมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แล้วตอนนี้ยังมาเจอสัตว์อสูรที่เป็นถึงบรรพบุรุษเผ่าอสรพิษนี่อีก
  นัยน์ตาของสัตว์อสูรเฒ่านี่ทำให้เขารู้สึกราวกับมีเข็มแหลมๆ นับพันเล่มทิ่มแทงลงมา หากมิใช่เป็นเพราะมีเสี่ยวมี่อยู่เคียงข้างเขาคอยประคับประคองเขาไว้ บางทีเขาอาจจะตกใจตายแล้วก็เป็นได้
  ตอนนี้เขาทำได้เพียงภาวนาให้บิดาของไป๋เสี่ยวเฉินรับรู้ว่าพวกเขากำลังตกอยู่ในอันตราย แล้วก็รีบเข้ามาให้การช่วยเหลือได้ทัน หาไม่แล้วคราวนี้เขากลัวว่า พวกเขาจะต้องตายแน่ ๆ
  ”ไม่ต้องกังวลแม่จะไม่ยอมให้เขาทำอะไรแม่ได้หรอก”
  นัยน์ตาของไป๋หยานสว่างไสวขึ้นนางปล่อยมือไป๋เสี่ยวเฉิน จากนั้นก็ก้าวอย่างแช่มช้า ไปทางบรรพบุรุษเผ่าอสรพิษ
  ทุกย่างก้าวของนางท่วมท้นด้วยแรงกดดันอันรุนแรงอย่างน่าตกใจดูราวกับว่าร่างของนางแข็งแกร่งไม่ต่างกับเหล็ก นางก้าวย่างอย่างมั่นคงไร้อาการสั่นไหว
  ”ไป๋หยาน!”
  ชิงหลวนยกส่วนหัวที่นองไปด้วยเลือดของนางขึ้นจ้องมองไป๋หยานทันใดนั้นเองนางก็หัวเราะ เสียงหัวเราะของนางแหลมเล็กไม่ต่างกับหนามพุ่งเข้าเสียดแทงหัวใจ
  ***จบบทตี้คังอยู่ที่นี่แล้ว (1)***

บทที่ 405 : ตี้คังอยู่ที่นี่แล้ว (2)
  ”เจ้าอย่าได้หวังว่าองค์ราชาจะมาช่วยชีวิตเจ้าสำหรับเขาแล้ว เจ้าก็เป็นแค่เพียงทางผ่าน ! มีหญิงสาวอีกมากมายในแดนอสูรที่เต็มใจจะให้กำเนิดโอรสแก่เขา !”
  ”เจ้าคิดจริงๆ หรือว่า เขาหลงรักเจ้า ? เขาอยู่กับเจ้าก็เพียงเพราะลูกชายของเจ้าหรอก ! เชื่อหรือไม่ต่อให้บรรพบุรุษเผ่าอสรพิษของเราสังหารเจ้า เขาก็จะไม่แม้ถามไถ่ถึงสาเหตุสักคำ !”
  ไป๋หยานหยุดนิ่งนางพริ้มตาลง
  สายลมพัดแผ่วเบาเสื้อผ้าบาง ๆ พลิ้วไหว
  ภาพทรงจำในอดีตไหลผ่านห้วงคิดของนาง
  สีหน้าที่สิ้นหวังของมารดายามที่บิดาไม่ยื่นมือช่วยเหลือ เขาไม่ช่วยนางแม้ว่าไป๋หยานจะเสียใจมากเพียงไรก็ตาม
  ไป๋หยานยังจดจำคำที่บิดาของนางกระซิบข้างหูได้ดี
  ”หยานเอ๋อพ่อรู้ว่าเจ้าต้องโทษพ่อ แต่พ่อไม่อาจช่วยได้จริง ๆ ไม่ว่าความสัมพันธ์ของพ่อกับแม่ของเจ้าจะลึกซึ้งเพียงใด ? ทว่าเราต้องให้ความสำคัญกับตระกูลเหนือสิ่งอื่นใด ในตระกูลของเราผู้หญิงคือคนแรกที่ต้องถูกทอดทิ้ง จากนี้ไป อย่าได้เชื่อใจผู้ชายเพราะไม่มีผู้ใดจะรักเจ้ามากไปกว่าตัวเจ้าเอง … ”
  บิดาของนางเคยบอกนางว่าสตรีมักจะถูกทอดทิ้งก่อนเสมอแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นภรรยาที่ให้กำเนิดลูกของเขาก็ตามที !
  เพียงเพราะนางไม่เชื่อถ้อยคำที่ชั่วร้ายนี่นางจึงพยายามอย่างหนัก เพื่อที่ว่าสักวันหนึ่ง นางจะทำให้บุรุษเหล่านั้นได้เห็นว่า แม้นางเป็นเพียงอิสตรี นางก็สามารถอยู่เหนือเหล่าบุรุษได้ !
  น่าเศร้า… ยังมิทันที่นางจะก้าวขึ้นไปถึงหมอปรุงยาระดับเก้า ทั้งยังไม่อาจทำให้บิดาของนางต้องรู้สึกเสียใจในสิ่งที่เขากระทำวันนั้นได้ ! นางกลับถูกสายฟ้าฟาดกระทั่งสิ้นใจ และมาเกิดในโลกใหม่ใบนี้
  ไป๋หยานลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ริมฝีปากของนางยกโค้ง รอยยิ้มของนางสว่างไสวงดงาม
  ”ผู้ใดบอกเจ้ากันว่าข้า…ไป๋หยานจะต้องพึ่งพาบุรุษ ข้าพึ่งตัวเองมาโดยตลอด ! วันนี้ข้าก็จะต่อสู้กับเจ้า และจะไม่มีวันยอมแพ้ !”
  นาง…ไป๋หยานไม่จำเป็นต้องพึ่งพาบุรุษ นางช่วยเหลือตนเองมาโดยตลอด ทั้งยังสามารถดูแลเฉินเอ๋อผู้เป็นบุตรชายมาได้ด้วยตนเอง !
  วูบ!
  สายลมพัดกระโชก
  แรงกดดันของนางแข็งแกร่งทั้งเจตนาสังหารของนางก็แผ่ออกโดยรอบ
  ครั้นไป๋เสี่ยวเฉินรับรู้ได้ถึงแรงกดดันที่รุนแรงขึ้นอย่างฉับพลันของไป๋หยานเขาก็จ้องมองบรรพบุรุษเผ่าอสรพิษ พร้อมทั้งกำหมัดแน่น น้ำตาของเขาไหลพรากราวกับแม่น้ำ
  แววตาของเขาหม่นหมองไม่สดใสเฉกเช่นเคยนัยน์ตาของเขาที่ปกคลุมไปด้วยหมอกมัวพลันถูกย้อมด้วยประกายกระหายเลือด
  “เสี่ยวมี่ไหนเจ้าบอกทีสิว่า ไอ้คนเลวพวกนี้มันกำลังรังแกหม่ามี้ใช่มั้ย ? ไอ้เผ่าอสรพิษทั้งเผ่าสมควรตายใช่มั้ย ?”
  ”นายน้อย”
  เสี่ยวมี่เป็นคนแรกที่ค้นพบความผิดปกติของไป๋เสี่ยวเฉินเขาหันหน้าไปมองด้วยความประหลาดใจ ชั่วขณะนั้นใบหน้าเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นพลันปรากฏต่อสายตาของเขา
  เด็กน้อยไม่ต่างกับภูเขาไฟที่ทรงพลังพร้อมที่จะกลืนกินผู้คนทั่วหล้าได้ในชั่วพริบตา
  ครั้นเห็นไป๋เสี่ยวเฉินเป็นเช่นนี้หัวใจของเสี่ยวมี่พลันหวาดกลัวอย่างไม่มีเหตุผล ความรู้สึกหวาดกลัวนี้ไม่ได้น้อยไปกว่า เมื่อคราที่มันต้องเผชิญหน้ากับตี้คังเป็นครั้งแรก
  ทันใดนั้นเองเสียงอันทรงพลังของอสูรร้ายพลันดังก้องออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่า ความเย่อหยิ่งยโสนั่น ทำให้หัวใจที่เคยสงบนิ่งของไป๋หยานสั่นไหวในทันที
  ”หยานเอ๋อผู้ใดบอกเจ้าว่า เจ้าไม่อาจพึ่งพาข้าได้ ตราบใดที่เจ้าต้องการ ข้าก็จะเป็นที่พึ่งของเจ้าเสมอ !”
  ภายใต้เมฆสีเทาอันเวิ้งว่างประกายแสงสดใสสว่างจ้าสาดส่องลงมาจากท้องฟ้าผ่านเข้าสู่หัวใจแข็งเป็นศิลาของนาง ทำให้หัวใจของนางสว่างไสว
  นางเคยคิดเสมอว่าหัวใจของนางหนักแน่นแข็งแกร่งไม่ต่างกับหินผา นางไม่เคยคิดเลยว่าจะมีใครบางคนสามารถทำให้หัวใจของนางพองโตขึ้นได้
  ”เสด็จพี่!”
  ตี้เสี่ยวอวิ๋นรู้สึกประหลาดใจนางไม่เคยรอคอยการปรากฏกายของตี้คังเช่นนี้มาก่อนเลย
  ตราบใดที่เสด็จพี่ปรากฏกายไม่ว่าคนเหล่านี้จะมีความสามารถมากเพียงใด พวกเขาก็ไม่อาจทำอะไรพี่สะใภ้ได้ !
  ”องค์ราชาเหตุใด เหตุใด … ”
  เมื่อเทียบกับความสุขของตี้เสี่ยวอวิ๋นแล้วหัวใจของชิงหลวนกลับแหลกสลายไม่ต่างกับขี้เถ้า แววตาของนางฉาบด้วยประกายสิ้นหวัง ขณะมองใบหน้าของสัตว์อสูรที่แสนงาม
  ราชาอสูรไปป่าอสูรมิใช่หรือ? ไยเขาจึงกลับมาเร็วถึงเพียงนี้ ?
  ***จบบทตี้คังอยู่ที่นี่แล้ว (2)***

จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์

จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์

นางกลับชาติมาเกิดเป็นทายาทในตระกูลขุนนางจีนที่ทรงเกียรติ ทว่าในเวลานั้นนางไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากต้องคว้าตัวชายสักคนมาปลดปล่อยความทรมานที่กำลังพุ่งถึงจุดที่ไม่สามารถอดทนได้

ไม่คาดคิดไม่เพียงแต่นางต้องถูกพร่าพรหมจรรย์อย่างไม่ตั้งใจคาเตียง นางยังต้องอุ้มท้องทั้งที่ไม่ได้แต่งงานอีกด้วย

มิหนำซ้ำ…ลูกที่นางอุ้มท้องมาถึงสิบเดือนกลับกลายเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวเล็ก ๆ ที่ร้องเรียกนางว่า “หม่ามี้” ตั้งแต่เกิด โชคดีที่ลูกของนางเลี้ยงง่าย และหวงแม่มาก

ในโลกนี้ย่อมมีทั้งคนดี และคนชั่วมากมายให้ผจญ หม่ามี้กับบุตรชายคู่นี้จึงต้องร่วมมือกันทำลายล้างศัตรู ไหนจะพวกญาติ ๆ ที่ชอบสบประมาทดูหมิ่นพวกเขาอีกล่ะ คนพวกนี้จะต้องได้รับผลกรรมให้สาสมกับสิ่งที่พวกมันกระทำกับพวกเขาสองแม่ลูก

แต่ทว่า จุ๊ ๆ วันหนึ่งป๊ะป๋าจิ้งจอกก็ปรากฏตัวขึ้น ไม่เพียงแต่คิดจะลักพาตัวจิ้งจอกน้อยเท่านั้น ทว่าเขายังคิดจะชิงหม่ามี้ของเจ้าจิ้งจอกน้อยอีกด้วย ชะช้า ป๊ะป๋าผู้โง่เขลากล้าดียังไง ? จะทำอะไรไม่ถามไม่ไถ่ความเห็นของจิ้งจอกน้อยสักคำ…

จิ้งจอกน้อยเท้าสะเอวพลางกล่าวว่า “ท่านอยากเป็นป๊ะป๋าของข้ากระนั้นรึ ? เช่นนั้นก็ต้องจ่ายค่าลงทะเบียนมา แล้วก็เดินไปต่อแถวหลัง ๆ โน่น เอ่อ หม่ามี้… ท่านลุงหวังที่อยู่บ้านถัดไปนั่นมีฐานะมั่งคั่งมาก ข้าว่าท่านควรไปเป็นลูกสะใภ้เขาจะดีกว่านะ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท